ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

แจ้งการส่ง EMS​

พี่วิทัส EU 4954 3166 7 TH

พี่สายเมธี EU 4954 3167 5 TH

พี่ศิระ EU 4954 3168 4 TH

 

ตอบ PM ครบแล้วนะครับ ใครจะฝากคำถามอะไรก็ข้อความ PM ไว้ได้เลย แล้วพรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกันห้ามพลาดนะ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ
มีแจ้งประสบการณ์เข้ามาเรียกว่ามันหยดเลย เดี๋ยวจะนำมาเล่าก็ติดตามพูดคุยกันนะ

 

พ่อพระพรหม
​

มีพี่ท่านนึงได้แจ้งประสบการณ์องครูพรหมธรรมธาดาเข้ามาหลังจากที่ได้บูชาพระสำเร็จองค์ธรรมธาดาเอกัมพรหมมาองค์ปฐมฤกษ์ไป

พี่ท่านนี้เล่าถึงองค์พรหมว่าแรงได้ใจ เพราะท่านเข้าฝันพาเที่ยวชมนรกสวรรค์สองวันติดๆกันเลย ซึ่งส่วนตัวนั้นบอกว่าเคยบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่าวัตถุมงคลมามากมายหลายที่ แต่ก็ไม่เคยเจอหรือฝันอะไรแบบนี้ ยิ่งฝันถึงขนาดที่องค์พระพรหมพาไปเที่ยวนรกสวรรค์เหมือนเป็นไกด์ทัวร์นำเราไปด้วยตัวท่านเองยิ่งไม่เคยเจอ และยังไม่คิดว่าจะมีบุญขนาดให้ท่านนำเราไปเองถึงสองวันติดๆเช่นนี้ได้ ซึ่งส่วนตัวนั้นพี่เค้าว่ามีความฝันอยากรู้อยากเห็นมาตลอดว่าไอนรกกับสวรรค์ที่คนพูดๆกันนี่หน้าตามันเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เคยเห็นหรือมีใครพาไปซักที พี่เค้าว่าตอนนี้ผมสมความปรารถนาแล้ว ไม่ใช่แค่วันเดียว ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อหรือบังเอิญ แต่ท่านให้เราไปถึงสองวันติดเลย

ในฝันนั้นเป็นฝันประหลาด องค์พรหมท่านสว่างมีแสงเรืองๆทั่วตัวเหมือนหลอดแก้วใสตอนท่านพาไปชมนรกทีละชั้นๆ เราก็ได้เห็นสัตว์นรกได้รับทัณทรมานดูน่าวิงเวียน คลื่นไส้ สะอิดสะเอียนจนบอกไม่ถูก เห็นแล้วเกิดเวทนาคิดว่าอย่าให้ได้เจอะได้เจอกับตัวเองเช่นนั้นเลย ซ้ำตลอดเวลาที่อยู่ในนรกนั้นเรารู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่สมควรที่จะมีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่ได้ มันอึดอัดกดดันแบบบอกไม่ถูก ไอ้ตัวความรู้สึกร้อนๆหนาวๆขนลุกขนชันนี่พี่เค้าว่าน้อยไปเลย เทียบไม่ได้กับบรรยากาศกดดันน่าอึดอัดเขาว่าคนละเรื่องกันทีเดียวไม่รู้จะบอกยังไงรู้แต่ว่าตัวเราไม่ควรจะอยู่ตรงนี้

พออีกคืนนึงวันถัดมาก็ฝันว่าองคพรหมท่านพาไปเที่ยวสวรรค์ แต่ไปไม่ถึงพรหมภูมินะ ไปได้แค่ชั้นปรนิมก็กลับลงมา ท่านว่าตัวเราอยู่นานไปกว่านี้ไม่ได้เพราะหมดเวลาแล้วต้องรีบกลับไป พี่เข่าว่ามันคนละเรื่องกับไอนรกเมื่อคืนเลย แต่ละชั้นนี่สวยงามแปลกตาไม่เหมือนกันนะ ไอ้ที่เห็นว่าสวยงามใหญ่โตแล้วพอได้ขึ้นไปสูงอีก ยิ่งสูงขึ้นไปก็ยิ่งอธิบายไม่ถูก บางชั้นถึงสูงแต่ก็ไม่ได้ดูอลังการเหมือนดาวดึงส์ แต่บรรยากาศความเย็นสบายตัวความปลอดโปร่งนี่ก็ต่างกันมากเขาว่าอันนี้เป็นความรู้สึกของเราว่าพวกจาตุหรือดาวดึงส์นี่เทียบไม่ได้เลยความสดชื่นมันต่างกัน เราคิดไปเองว่าความเป็นทิพย์และอานุภาพของเทวดาในแต่ละชั้นต่างกันมาก

พี่เค้าว่าเป็นบุญของเค้าจริงๆที่องค์พ่อพระพรหมท่านเมตตา เพราะตัวเองก็ไม่รู้จะไปตีตั๋วที่ไหนให้ได้ไปทัวร์ในสถานที่แบบนี้ เค้าว่าตื่นมาเหมือนชีวิตเราต้องเปลี่ยน เปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง อย่างน้อยเราก็จะไม่ยอมไปอยู่ในสถานที่เช่นนรกแน่นอน มันมีกำลังใจที่จะทำความดีสร้างบุญบารมีนะ เพราะได้รู้ได้เห็นกับตัวว่านรกมีสวรรค์มีดังนั้นพี่คิดว่าบุญและบาปก็ย่อมจะมีจริง เพราะถ้าไม่มีมันก็ไม่มีนรกสวรรค์เหมือนกัน พี่เค้าว่าอย่างน้อยอานุภาพแห่งพรหมของพระสำเร็จองค์ธรรมธาดานี่ท่านก็แน่นอนตัวเค้าเชื่อสนิทใจจริงๆ

* ความเชื่อความศรัทธาก็เป็นที่มา ที่จะนำพาให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแก่ชีวิต ลองถ้าพบเจอแบบนี้ผมว่าอีกไม่นานชีวิตพี่เค้าน่าจะเปลี่ยนแน่นอน เพราะคุณของพระพรหมผู้ยิ่งใหญ่นั้น ผู้บูชามีแต่จะยิ่งเจริญขึ้นสถานเดียว ใครโชคดีได้บูชาไปก็ขอให้เชื่อและศรัทธากันนะครับจะได้เปลี่ยนชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง

​

 

วันนี้ประสบการณ์พระพรหมธาดามาเต็มมาก มีเล่าเข้ามาอีกคนแล้ว เดี๋ยวไว้เอามาลงพูดคุยกันนะติดตามๆ

 

ที่แจ้งโอนกันไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งของให้นะครับ

 

มีคนฝากคำถามเกี่ยวกับพญามาราธิราชหรือท้าววสวัตตีหรือท้าวมาลัยก็เรียกเข้ามา เป็นคำถามน่าสนใจอยู่มาก อันนี้ติดตามกันดีๆ เชื่อว่าจะได้ความรู้และบางคนอาจจะหายข้องใจกับความคิดที่ติดๆและยังไม่เข้าใจกันอยู่ด้วย ห้ามพลาด

 

วันนี้ผมตอบ PM ครบนะครับ ส่วนคำถามขอยกยอดไว้พูดคุยกันวันพรุ่งนี้แทน ใครอยากได้สาระความรู้แบบปลดล๊อคชีวิตตัวเองได้ ติดตามกันนะ

 

พญามาร​

ก็ฝากมาเราก็ถามให้ อันไหนเห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนอ่านก็จะนำมาลงซ้ำให้อีก ในส่วนของคำถามที่ฝากมาหนนี้ก็จะขออนุญาติไม่กล่าวถึงให้เสียเวลาแต่จะข้ามไปคำตอบเลยแล้วกันนะครับ

บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ ...(พุทธดำรัส)
เกี่ยวกับมารฟ้าหรือพญามารซึ่งมีศักดิ์เป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญนั้น นอกจากพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดกล่าวถึงหรือพอจะอธิบายได้ละเอียด ซ้ำคนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับคำว่ามารว่าเป็นสิ่งน่ากลัวจนลืมระลึกลืมคิดถึงฐานะที่แท้จริงไป จะเห็นได้จากศิลปะในพระอุโบสถในบรรดาภาพวาดต่างๆนั้นมักจะวาดรูปพญามารเหมือนยักษ์ทศกัณฐ์ทีเดียว

ทีนี้คำถามเนื่องจากมีคนสงสัยทำไมเอาเครื่องมงคลประจำกายที่พ่ออาจารย์ทำเป็นพญามารไปบูชาแล้วถึงดีผิดหูผิดตาต่างจากเทพ พรหมที่ตนเองเคยนับถือบูชามาทั้งชีวิต อันนี้ก็อยากจะรื้อมาอธิบายใหม่ว่าพญามารนั้นแท้จริงแล้วเป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่ ซึ่งเมื่อพระอุปคุตทรมานพญามารนั้น พอพระองค์ระลึกถึงความเป็นโพธิสัตว์ระลึกถึงพุทธภูมิของตนแล้ว แม้พระเถระก็ยังต้องรีบมาคลายมาแก้ทัณฑ์ทรมานนั้นออกฉับพลันทันที

จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมาร หรือเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด ย้ำอีกครั้งนะครับ ว่ามารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณ การดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์ทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณทั้งสิ้น

ทีนี้ก็จะมาพูดต่อกันเลย ในบรรดาเทพสวรรค์ที่ลงมาทำงาน หรือช่วยเหลือเกื้อกูลมนุษย์ที่บูชาตน ตามแนวทางบารมีของเทวดานั้นๆ ในตอนที่เราไปร้องขอเทพ เราไปบูชาเทพ แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้เลยหรือพูดให้ถูกคนส่วนใหญ่จะไม่รู้กันเลยด้วยซ้ำว่าเทพในศาลที่ไปบูชานั้น มีจิตเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นมาร หรือเป็นเทพอสูร ดังนั้นการร้องขอต่างๆ ความสนใจ และการตอบสนอง ทุกอย่างย่อมแตกต่างกันด้วยจริตของชาติพันธุ์เทวดานั้นก็ไม่ได้เสมอกัน

บางคนไปคิดว่ามาร ขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้น เค้าก็มีหน้าที่ของเค้า หากให้กล่าวกันจริงๆแล้ว หน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีมีใครนิยมพูดถึงกัน และไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์ จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิด

ตามชื่อชั้นของเทวดานั้น พญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตาม จะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้า ก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์ มีอานุใหญ่ มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

บุคคลบางจำพวกแสวงหาการบูชาช่วยเหลือของเทพพรหม บางคนก็คิดเอาเองว่าพรหมอยู่สูงกว่าเทพ ขอพรพรหมความสำเร็จย่อมใหญ่กว่าเหนือกว่าเทพ ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิธีคิดที่ไม่ผิดและก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้าสิ่งสวยงามสะดวกสบายความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้า นั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมาร บางคนไปขอให้ตัวเองฟลุคถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง บางคนไปขอให้ตัวเองสำเร็จ หากเป็นงานที่ตรงกับหน้าที่และมีวาสนาสัมพันธ์กันเทพพรหมทั้งหลายย่อมเกื้อกูล

แต่ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต่างกับเทวปุตมารที่มันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขาอยู่แล้ว ตรงนี้พอจะเข้าใจกันหรือไม่ แยกแยะให้ออกว่าหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด หน้าที่ที่ทำด้วยความเชี่ยวชาญ หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน กับสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยแล้วมีคนมาขอให้ทำมันต่างกันอย่างไร ท่านว่าก็นั่นแหละเทพ พรหม มาร ก็ต่างกันเพียงนั้น

บุคคลใด สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทพ พรหม เทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความเจริญรุ่งเรือง แต่ทว่าความเจริญและการเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมแตกต่างกันมาก เทพพรหมเขาทำให้แค่เสมอตัว ให้ชีวิตไม่มีทุกข์ไม่มีความเดือดร้อน หรือเป็นไปแบบช้าๆ ให้ประกอบบารมีหนุนส่งกันไปด้วย

แต่เทวปุตมารนั้น หากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใด ด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลาย มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ดังนั้นความเกื้อกูลย่อมต่างกันสิ่งที่ได้จากการช่วยเหลือและสงเคราะห์ย่อมไม่เหมือนกับเทพพรหมทั้งหลาย ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวก สบาย ความยิ่งใหญ่ในภพ ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆ อยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็น เกินประโยชน์ใช้สอย เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้ นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมาร พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือความแตกต่างของการช่วยเหลือและอุปถัมภ์ของเทวดาจำพวกต่างๆทั้งหลาย

* วันนี้ก็มาพูดคุยกันคร่าวๆในส่วนเรื่องของหน้าที่พญามารหรือเหล่าเทวปุตตมารทั้งหลายนั้น เดี๋ยวจะมาพูดคุยกันต่อ ซึ่งจากคำถามที่ฝากมา เราก็ได้อธิบายพอให้เข้าใจแล้ว ว่าทำไม เทพ พรหม กับเทวปุตตมาร ความช่วยเหลือผู้บูชาจึงต่างกันลิบลับ ...ติดตามตอนต่อไปนะครับ

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่ฐิตกาญจน์ EU 4955 2899 2 TH

พี่เกษมธิดา EU 4955 2900 9 TH

พี่นฤชา EU 4955 2901 2 TH

พี่ก้องภพ EU 4955 2902 6 TH

 

มีคำถามให้พูดคุยกันเข้ามามาก ก็ตอบไปครบแล้วนะครับ ใครจะฝากอะไรก็ PM ไว้ ในส่วนของใครที่ติดตามเรื่องพญามารก็ห้ามพลาดนะ

 

อรุณสวัสดิ์วันพระใหญ่หรือวันมาฆบูชานะครับ

วันนี้อย่างไรก็อย่าลืมทำบุญกันนะ ได้โอกาสทำบุญตามกาลตามวาระแล้ว

 

วันนี้เดี๋ยวมาติดตามเรื่องพญามารกันต่อนะ

 

พูดคุยกันวันหยุดนะครับ​

เกี่ยวกับเรื่องของท้าวมหาพรหมเช่นเดิม เพราะมีประสบการณ์เข้ามาแต่ยังไม่ได้ยกมาพูดคุย

พี่ท่านนี้บูชาพระสมเด็จองค์พรหมธาดาไป(ผมขอเรียกแบบนี้แล้วกัน) แต่ก็มีความคิด มีเจตนาที่จะอาราธนาครูท่านให้ปกป้องคนทั้งบ้าน เรียกว่าอยากให้ครูพรหมธาดาท่านเปิดทางเปิดชีวิตให้ทุกคน

เขาเลยอาราธนาองค์พระสมเด็จไปใส่ไว้ใต้ฐานพระพรหมองค์ใหญ่ที่ศาลหน้าบ้านตน พี่เค้าเล่าว่าพระพรหมองค์นี้ก็ซื้อมาตอนตั้งศาลก็ประกอบพิธีพราหมณ์ทางปกติ ไม่รู้ว่ามีองค์มั๊ยเพราะไม่เคยเอาไปเสกที่ไหน

พอเอาพระสมเด็จไปใส่ไว้ใต้ฐาน เค้าก็รีบมาจุดธูปกำใหญ่ พี่เค้าว่าคว้ามือไปหยิบพอนับมันได้สามสิบสองดอกพอดี ก็เลยจุดไปเลย แล้วก็อธิษฐานให้พ่อพรหมธาดามาประดิษฐานคุ้มครองทุกคนในบ้านและก็เปิดดวงชะตาให้ทุกคน

พี่เค้าว่าพอปักธูปไปเค้าก็ม่รู้จะอธิบายยังไง เค้าก็บอกว่าไม่รู้จะใช้คำไหนแต่เค้าเรียกของเค้าว่าศาลลั่น มีลมหอบมา มีเสียงดังตึงอยู่ตรงหน้าเรา ตรงศาลพระพรหม เหมือนคนลงน้ำหนักอะไรซักอย่างให้รู้ว่าท่านมาแล้วทั้งๆที่ไม่มีอะไร

ซ้ำเมฆที่ปิดท้องฟ้าสลัวๆมืดๆ ก็จำเพาะเมฆเปิดเป็นรูให้แสงพระอาทิตย์ส่องมาเฉพาะองค์พระพรหมพอดี บริเวณอื่นยังมืดและสลัวเหมือนเดิม พี่เค้าว่าเป็นภาพที่งดงามและจะจำไปจนตาย เพราะเขาว่าเขาทำเอง และท่านตอบรับ ท่านมาให้เห็น มีปรากฏการณ์ด้วยตนเอง

พี่ท่านนี้บอกว่าผมใจชื้นมาก ที่สำคัญองค์ครูพรหมธาดาของพ่ออาจารย์นี้มีองค์มีตัวมีตนบอกกล่าวได้แน่นอน ทั้งลบหอบ ทั้งศาลลั่น ทั้งฟ้าเปิด เหมือนฝนจะตกแต่วันนั้นกลับไม่ตกซักเม็ด และฟ้าเปิดอยู่เฉพาะองค์พรหมเกือบครึ่งชั่วโมง

* ก็เป็นประสบการณ์ที่บอกเล่ากันเข้ามา ใครมีรุ่นพรหมธาดานี่ก้เก็บกันให้ดีนะครับ เพราะครูพรหมของพ่ออาจารย์ท่านค่อนข้างมีประสบการณ์หนาหูกันทุกรุ่น บูชาดีๆ

 

วันนี้สอบถามเรื่องต่างๆของพญามารกันมามาก ก็ขอเอาไว้ลงต่อให้พรุ่งนี้นะครับ วันนี้วันมาฆบูชายังไงก็อย่าลืมทำบุญกัน คนที่ไม่มีเวลาไปเวียนเทียนหรืออย่างน้อยสวดมนต์แผ่เมตตาอยู่กับบ้านก็ได้ กุศลแรงเพราะเป็นบุญ เป็นการระลึกถึงเฉพาะกาลและวาระ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เมื่อวานผมไปส่งของแล้วไปรษณีย์ปิดแต่วันนี้ไปรษณีย์เปิดก็จะได้ส่งของด้วย เสร็จแล้วก็มาติดตามเรื่องของพญามารกันต่อนะ หลายท่านติดตามและสอบถามกันเข้ามามากเพราะมีเรื่องที่ตรงกับความสนใจ ก็รอพูดคุยกันทีเดียวนะครับ

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่สุเมธ EU 4954 7764 1 TH

พี่สรวุฒิ EU 4954 7765 5 TH

พี่กฤตยชญ์ EU 4954 7766 9 TH

พี่ไววิทย์ EU 4954 7767 2 TH

 

ตั้งแต่ยกเรื่องพญามารขึ้นมากล่าวนั้น มีหลายคนอยากได้เครื่องมงคลที่เป็นพญามารแบบเต็มบารมีแล้วก็ถามก็ทักกันเข้ามามาก ซึ่งทุกคนผมจะตอบไปว่ายังไม่มี ไม่สร้าง ไม่ทำ ทั้งนี้เพราะอยากให้มาติดตามกันเองตามดวงและวาสนาของแต่ละคน ใครจะได้หรือไม่ได้ก็เป็นที่ดวงของเขา

เมื่อกล่าวถึงพญามารแบบเป็นรูปท่านตรง แบบเต็มบารมีที่พ่ออาจารย์สร้างขึ้นมา แน่นอนว่าหากจะทำให้สำเร็จย่อมเป็นสิ่งพิเศษในโลกที่ไม่สามารถสร้างได้โดยง่าย พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างพญามารที่มีบารมีเต็มขั้นเพื่อเอาไปใช้เยาะเย้ยเวรกรรม สร้างเพื่อให้มีมหาอานุภาพอันถึงที่สุดนั้น สิ่งที่ต้องใช้และขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือน้ำตาพญามาร

น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษนี้จะมีอานุภาพอัศจรรย์เพียงใด เกี่ยวข้องกับพญามารอย่างไร ทำไมพ่ออาจารย์ถึงขนาดออกปากกล่าวถึงอานุภาพอันน่าประหลาดว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต "...ทำไมถึงเรียกขานตามประสบการณ์ว่ารุ่นกลับมารวย ......ความพิเศษของน้ำตาพญามารนั้นทำไมถึงมีอานุภาพเพียงนั้นต้องติดตาม

แต่ก่อนอื่นจะพูดถึงคร่าวๆในชื่อรุ่นกลับมารวยพอสังเขป ซึ่งความหมายก็ตรงตามชื่อนั้น คนรวยกับคนเคยรวยนี่ท่านว่าไม่เหมือนกัน เพราะคนรวยคือยังมีบุญยังเสวยบุญอยู่ แต่คนเคยรวยคือบุญหมดถึงวาระกรรมไปแล้ว ดังนั้นการกลับมารวยได้จะต้องอาศัยพื้นฐานอะไร การจะช่วยคนเคยรวยที่หมดบุญสูญสิ้นวาสนาไปแล้วให้กลับมามั่งมีได้ต้องอาศัยอะไร ทำไมชื่อรุ่นนี้ถึงสัมพันธ์กับสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาพญามาร

...วันพรุ่งนี้ห้ามพลาด

 

อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ติดตามกันดีๆนะ

 

ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราอจินไตยกลับมารวยฝังน้ำตาพญามาร(จอมฟ้ากำสรวล)

" บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)
"พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)​

หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำ สิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก

เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญ แต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัว จินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้ว ยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิม นับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า ใน "บรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ " .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมาร หรือเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณ การดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น

เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่า ขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้น เค้าก็มีหน้าที่ของเค้า หากให้กล่าวกันจริงๆแล้ว หน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกัน และไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์ จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิด เพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตาม จะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้า ก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์ มีอานุใหญ่ มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลแทนครูพญามาราธิราชไว้ชุดหนึ่ง หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆ ด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำเครื่องมงคลแทนครูนั้นท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ
- การพนมมือ คือการแสดงคารวะ แสดงความนอบน้อมถ่อมตนเป็นสัญญาณว่าให้และคืนความรู้สึกอันดี รวมทั้งเรื่องดีๆทั้งหลายตลอดจนความอ่อนน้อมส่งกลับแก่ผู้บูชา ด้วยเจตนาที่เท่าเทียมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญหล่อนี้ด้วยศักดิ์ศรีขององค์ท่านย่อมไม่จำเป็นต้องไหว้ใคร แต่การแสดงคารวะนี้เหมือนเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท่านว่าใจเราแน่แค่ไหนย่อมได้ผลคืนกลับไปมากเพียงนั้น
- บัวตูม บัวบาน สัญลักษณ์แห่งความงอกงามของสรรพชีวิต หนึ่งคือบัวตูมดุจดอกบัวใต้น้ำที่ยังไม่ได้รับแสงอาทิตย์ ต้องโดนกุ้งหอยปูปลาตอดมีอันตรายแก่ชีวิตอยู่เนืองๆ สองคือบัวบานที่พ้นน้ำแล้ว เบ่งบานประจักษ์แก่ตาโลกสมศักดิ์ศรีชาติพันธุ์แล้ว ดุจชีวิตที่ผ่านพ้นอุปสรรคและห้วงวัฏสงสาร ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายหรือแผ้วพาลได้นับจากนี้ต่อไป

เมื่อจะกระทำเครื่องมงคลนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพญามาราธิราชท่านเป็นครูใหญ่ของเรา ท่านจึงนำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันเพื่อสร้างเหรียญหล่ออจินไตยที่มีพลังงานเหนือโลกโดยวัตถุประสงค์ขึ้นมา การสร้างเหรียญหล่ออจินไตยนี้คือพลังงานเหนือโลกที่อยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ

การทำเหรียญหล่ออจินไตยพญามาราธิราชนั้น พ่ออาจารย์ว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเครื่องมงคลแทนครูนี้จะมีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลาย ก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลก ด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคน เกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้าง ถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลย ไปบวชเสีย ไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้ว เช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา วิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า สิ่งสวยงามสะดวกสบาย ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้า นั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมาร มันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

เหรียญหล่ออจินไตยนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้มวลสารกายสิทธิ์เชิญบารมีพญามารฝังไว้เฉพาะเจาะจงทุกองค์ สิ่งนั้นท่านเรียกว่าน้ำตาพญามาร อันน้ำตาพญามารนี้เป็นของสำคัญยิ่งยวดซึ่งผูกพันธ์กับพญามารมากนัก
"...เมื่ออดีตกาลนั้นท่านไม่สามารถเอาชนะพระโพธิสัตว์ได้ จนพระบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่อาจดำรงค์พระองค์อยู่ในเทวโลกได้ จึงมานั่งน้อยใจหม่นไหม้อยู่บนพื้นโลก ท่านได้นั่งขีดเขียนแผ่นหินศิลาเทียบวิชาความรู้ระหว่างตนเองกับพระพุทธองค์ ก็รู้ว่าตนกับพระพุทธเจ้านั้นยังห่างไกลกันอยู่ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้มากกว่าตนถึงสิบหกประการ ตั้งแต่บารมีสิบ อินทรียปโรปริยัติญาณ สยานุสยญาณ มหากรุณาสมาบัติ ยมกปาฏิหาริยญาณ อนาวรณญาณ สัพพัญญุตญาณ เมื่อท่านรู้ความแตกต่างท่านก็กำสรวลโศกเศร้าจนน้ำตาแห่งพญามารได้หลั่งลงต้องปฐพี เป็นน้ำตาแห่งความสำนึกและกลับตัวกลับใจพร้อมกับทำพิณประจำพระองค์หล่นไว้ตรงนั้น ซึ่งองค์อมรินทร์ก็ได้มาเชิญพิณนั้นพร้อมกับนำน้ำตาพญามารซึ่งเป็นกายสิทธิ์ธาตุประดิษฐานในพานทองนำกลับไป "
...เมื่อพ่ออาจารย์จะทำเครื่องมงคลแทนครูพญามารนั้น องค์อมรินทร์ท่านว่าถ้าจะให้ควรก็ให้นำน้ำตาพญามารประดิษฐานลงไปด้วย โดยท่านได้นำน้ำตานั้นมามอบให้แข็งค้างไว้แต่เบื้องอากาศ พ่ออาจารย์ท่านต้องทำพิธีอัญเชิญและนำขวดน้ำมันจินดามณีมารองรับ ส่งผลให้น้ำมันจินดามณีเปลี่ยนสีไปใสกระจ่างดุจสีน้ำทะเลเมื่อผสมกลมกลืนเข้ากับน้ำตาพญามาร ท่านจึงเรียกน้ำมันนี้ว่าน้ำตาพญามาร

น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษเทวโลกนี้มีอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ยิ่งดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " เป็นธาตุบารมีของพญามาราธิราชอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้น หากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใด ด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์ มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวก สบาย ความยิ่งใหญ่ในภพ ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆ อยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็น เกินประโยชน์ใช้สอย เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้ นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมารนั่นเอง

ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้น ท่านได้กำหนดรูปแบบของเครื่องสูงแทนตัวท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพิมพ์และแม้แต่ผงที่จะใช้อุดต้องจำเพาะลงไปว่าใช้ได้เพียงผงพุทธนิมิต กับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึง นำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถ ก่อนจะอุดไว้ด้านหลังท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลง ซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิต เนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราชแล้ว ยังฝังตะกรุดสำคัญอีกสองประการ เป็นหัวใจพญามารดอกนึง กับการสร้างสรรค์กามคุณดอกนึง พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้ว การใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้น สิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

เหรียญหล่อสำคัญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ชื่อรุ่นว่ากลับมารวย ซึ่งความหมายก็ตรงตามชื่อนั้น คนรวยกับคนเคยรวยนี่ท่านว่าไม่เหมือนกัน เพราะคนรวยคือยังมีบุญยังเสวยบุญอยู่ แต่คนเคยรวยคือบุญหมดถึงวาระกรรมไปแล้ว ดังนั้นการกลับมารวยได้จะต้องอาศัยพื้นฐานอะไร การจะช่วยคนเคยรวยที่หมดบุญสูญสิ้นวาสนาไปแล้วให้กลับมามั่งมีได้ต้องอาศัยอะไร ตรงนี้ท่านว่ามีคนมาปรึกษาและบูชาเครื่องมงคลของท่านไปแต่เขาก็ไม่กลับมารวยด้วยท่านตรวจชะตาดูจึงรู้ว่าสิ้นบุญสูญวาสนาการเป็นเศรษฐีไปแล้วนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านตอนนั้นจึงได้อาราธนาดวงตราจอมฟ้าพญามารที่ฝังน้ำตาพญามารไว้หรือจะเรียกเหรียญมารฟ้ากำสรวลก็สุดแต่จะเรียกขานให้เขาไปบูชา ท่านว่าสมกับคำที่เรากล่าว " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " แม้คนที่สิ้นบุญสูญวาสนาไม่มีทางกลับมาตั้งตัวจนมั่งมีได้แล้ว ก็ยังฟื้นกลับคืนฐานะเก่าได้ ดังนั้นท่านจึงเรียกมงคลบูชาครูนี้ติดปากว่ารุ่นกลับมารวย

อันวิสัยปุถุชนมนุษยชาตินั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่อย่างเดียว เหรียญหล่อนี้ไม่ว่าจะเอาไปใช้กันด้านไหนอย่างไรก็ตาม ขอแค่อย่าลืมตัว อย่าเป็นวัวลืมตีนได้ดีแล้วก็เสพย์สุขไม่รู้จักขวนขวายในทานและบำรุงรักษาศาสนา อันพญามารในวันนี้ไม่เหมือนพญามารในอดีตกาล ด้วยพระองค์นั้นกลับตัวคอยดูแลพิทักษ์รักษาพระศาสนาทั้งยังเป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่พร้อมช่วยเหลือผู้คน แม้ใครอาราธนาบูชาท่าน เมื่อได้ดีสมความปรารถนาอย่างไรก็อย่าทิ้งแนวทางในการสร้างบารมีนั้นเช่นกัน

คาถาบูชา
นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ

* พ่ออาจารย์ท่านสร้างดวงตราจอมฟ้ากำสรวลไว้ทั้งหมดแปดองค์ คงเหลือให้บูชาห้าองค์รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำพิธีหยดเทียนสะกดเคราะห์ให้ที่ดวงตราอีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมทำบุญสร้างวิหารทานในวัดที่ขาดแคลนจตุปัจจัยเพื่ออุทิศถวายกุศลแก่ท้าวมาลัย

ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราอจินไตยกลับมารวยฝังน้ำตาพญามาร(จอมฟ้ากำสรวล) บูชา 4,000 บาท

​