ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

จองราหูยกดวงครับ

 

พระตรีมูรติ

ก็ตามที่เกริ่นไว้เเต่เมื่อวาน ว่าวันนี้จะนำเสนอเรื่องของพระตรีมูรติ

ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่งเเละเป็นการเข้าใจไปเองเสียด้วย เห็นก็จะมีเเต่ประเทศเรานี่แหละ ที่เริ่มศรัทธาบูชาในส่วนของพระตรีมูรติแบบจริงจัง

อนึ่งก็เพราะว่า เรารู้วาพระผู้เป็นเจ้า ทั้ง 3 ของพราหมณ์นั้น คือตัวเเทนอำนาจของจักรวาล เมื่อคิดกันเช่นนั้นเห็นเทวดา 3 หัว มีทั้งเศียรพระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม รวมอยู่ในองค์เดียวกัน จึงคิดว่านี่แหละคือเทพเจ้าที่มีอำนาจมากที่สุด ไหว้องค์นี้เเล้วครบเลยไม่ต้องไปไหว้เเยกอะไรทำนองนี้

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ความจริงพระตรีมูรติมันก็เป็นชื่อที่บ้านเรานิยมเรียกกัน ฝั่งนั้นเค้าจะรู้จักในชื่อมหามุนีทัตตะเตรยะ

มหามุนีทัตตะเตรยะนี้บ้างก็ว่าเป็นอวตารของพระวิษณุองค์เดียว บ้างก็ว่าเป็นการเเบ่งภาคมารวมกันของพระเป็นเจ้าทั้งสาม

เเต่ถึงกระนั้นมหามุนีทัตตะเตรยะก็ไม่ใช่พระภาคเต็ม เป็นการเเบ่งภาคลงมาเพื่อประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั่นเอง การเเบ่งภาคเหล่านี้ก็ได้แก่ พระราม พระกฤษณะเช่นนั้นเป็นต้น

แม้เเต่คนอินเดียเองก็ไม่นิยมบูชาเป็นเอกเทศน์ ถ้ามีผู้นับถือก็เป็นในส่วนชนกลุ่มน้อยมากๆ เนื่องจากเขาทราบกันดีว่ามหาเทวะนั้นคือใคร
- พระศิวะ
- พระวิษณุ
สองพระองค์นี้จะได้รับการศรัทธามากที่สุด ที่เหลือก็เหมือนเทวะชั้นรองลงไปทั้งสิ้น

ยิ่งมหามุนีทัตตะเตรยะด้วยเเล้วความศรัทธาเเละนิยมบูชายิ่งเเทบจะไม่มีเลยเปรียบเทียบกับพระรามยังไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้มีหน้าที่หรือเป็นเทพอันเป็นตัวเเทนของพลังอำนาจด้านต่างๆเเบบองค์อื่น

กระทู้นี้ก็เเค่จะบอกกล่าวว่า อย่าหลงไปกับกระเเสโหราจารย์ เอาตำนานประวัติมาเเต่งเเต้มหากิน บอกว่าเป็นเทพเเห่งความรักบ้าง ก็ของเค้าก็มีอยู่เเล้วใครอยากได้เนื้อคู่ดีๆเทพเเห่งความรักนอกจากกามเทพ ก็ยังมีพระกฤษณะ ผู้หญิงอยากได้สามีดีๆก็ขอเอากับพระลักษมี ก็จะมีเเต่บ้านเราเท่านั้นที่ไปรับความเชื่อเค้ามา เเถมยังมอบหน้าที่อันเป็นของเทวะองค์อื่นให้กับสิ่งที่ตนเเอบอ้างเสียด้วย

ได้ถามพ่ออาจารย์ท่านอยู่เหมือนกัน ว่าลักษณะเทวรูปประหลาดที่หล่อขึ้นเป็นพระตรีมูรติ โดยใช้กายของพระนารายณ์ ศรีษะเป็นของพระพรหม มีศรีษะยอดบนสุดเป็นพระศิวะ ที่บ้านเราลงทุนสร้างขึ้นประดิษฐานนั้น เป็นเทพองค์ใด ลักษณะของพระตรีมูรติไม่ใช่เช่นนี้หรือเปล่า ก็ได้ความว่าเป็นความสะเพร่าของมนุษย์อีกเช่นกัน ที่ไปแก้ไขรูปลักษณ์อันเป็นศุภมงคลเเต่เดิมอยู่เเล้ว เเต่การเเก้ไขนี้จะทำให้เด่นให้โก้อย่างไรไม่ทราบ สุดท้ายทำไปทำมาก็กลายเป็นพระศิวะ เป็นพระศิวะสังกรปางปัญจมุข หรือพระศิวะ 5 หน้านั่นเองเราก็เชื่อโหรเรียกพระตรีมูรติไป เพราะเช่นนั้นคนที่แห่ไปกราบพระตรีมูรติองค์ดัง หวังจะไปไหว้ด้วยความหลงผิดเชื่อเเบบผิดๆ สุดท้ายก็คือการไปไหว้พระศิวะมหาเทพเช่นเดิม

ถามมาเยอะมากกว่านี้เเหละ เเต่ก็เหมือนเดิม ลงลึกลงเยอะไม่ได้ เพราะมีวัตถุมงคลออกมาในรูปแบบที่ว่าเเละใช้ชื่อพระตรีมูรตินี้หลายรุ่น เกี่ยวกับการทำมาหากินของนายทุนใหญ่ๆหลายที่ ก็ลงไว้เป็นวิทยาทานให้อ่านให้พิจารณากัน ว่ามีเเต่บ้านเราประเทศเราเท่านั้น ที่พยายามเเสวงหาตัวเเทนของพระผู้เป็นอำนาจสูงสุดคิดว่าเป็นการรวมพระภาคทั้ง 3 เป็นองค์อาตมภูวญาณ เเต่ความจริงเเล้วกลับเป็นเพียงเทวะชั้นรองเท่านั้น

 

คาถาวันละนิด(กอดสาว)

เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ที่ในวันหนึ่งๆนั้นชีวิตคนเราต้องเจอกับอะไรมากมาย

บางทีเราอาจเจอคนที่ชอบ อาจจะเป็นรุ่นน้องต้องไปทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน ได้โอบได้กอดกันก็มี

หรือใครที่มีครอบครัวเเล้ว วันไหนคุณเเฟนงอลๆกันไม่พูดไม่จากันคาถานี้ก็ใช้ได้ ถึงชื่อจะกอดสาว เเต่ผู้หญิงกอดสามีก็ไม่ผิดนะ

พระคาถานี้ก็เป็นคาถาที่ให้คุณเรื่องความรักเช่นกัน จำไว้ คาถาทุกอย่างก่อนใช้ผู้ใช้เองต้องมีสมาธิมีจิตที่ฝึกมาในระดับหนึ่ง

เมื่อเราประสงค์จะกอดสาวให้เขารักเราเเล้ว(เเนะนำอย่าทำกับคนไม่รู้จัก อาจโดนตบได้) ให้เราภาวนาพระคาถาบทนี้ เสกเป่าไปที่ฝ่ามือตนเอง

ก็ถามว่าต้องภาวนากี่จบ ท่านว่าท่องจนใจนิ่งใจสงบมีสมาธิก็พอ เป่าใส่ฝ่ามือใส่เเขนตนเอง เเล้วไปกอดเขาเถอะ เขารักเรานักหนาเเล

พระคาถามีดังนี้
โอม อิตถีโย กะนามะโก สวาหุม

ก็ย้ำอีกครั้งหนึ่ง กอดคนที่รู้จักที่เค้าให้เรากอดจะปลอดภัย ไม่ใช่เดินไปเจอใคร ชอบก็กระโดดใส่เลย แบบนี้คงจะอันตราย

 

*-*
ลืมพระคาถาพระสีวลีที่เพิ่งให้ไปกันหรือยังน้อ อย่าลืมภาวนาไว้นะทุกเช้าหรือก่อนเข้านอน ดีมากๆ ท่องไปเรื่อยๆนั่งรอรถรอเรือรอข้าว ว่างๆก็ท่องไปยิ่งท่องยิ่งดี ด้วยความปรารถนาดี

 

มีคนถามว่า ถ้าเปลี่ยนจากอิตถีโยเป็นปุริโสจะเกิดอะไรขึ้น ก็เอาไว้กอดสามี รึใครเป็นเพศที่สามที่สี่ก็ว่ากันไป เอาตามแต่จะสะดวกสบายใจเลย

 

ได้รับตะกรุดท่านท้าว แล้วครับ กลิ่นหอมชื่นใจมากๆๆ

 

ดันๆๆๆๆ

 

แจ้งโอนค่าบูชาราหูยกดวง (กะลาไม่มีตา)ยอด 2,000+100
วันที่ทำรายการ: 03/07/2015 22:44:13, และ 22:44:57
รายละเอียดตามรายการแนบครับ ที่อยู่ทาง PM ครับ

 

มีคนเสนอว่าเพราะคำว่าตับรึเปล่า

ตับในที่นี้ไม่ใช่เพลงกินตับ หากอยู่กับเรื่องทางนี้จะพอเข้าใจนะไม่น่ามาลบกัน ยกตัวอย่างที่พ่ออาจารย์พูดบ่อยเช่น ตับยานี ตับการะนี ตับพระยา ตับสัพพา ตับสน ตับนะโม ตับยอดธรรม ตับวันทิตวา ตับพานยักษ์

ก็เป็นวจนภาษา ไม่ใช่อวจนภาษา ไม่ใช่กินตับเเบบเพลงที่เค้าร้องกัน ตับพญาการเวกก็คือตับพญาการเวกเเบบตับนะโม ตับวันทิตวา ความหมายเเบบนั้น ก็รอให้ชี้เเจงอยู่เพราะปกติก่อนลบจะมีข้อความมาว่าเราใช้ภาษาไม่เหมาะสม เเต่ครั้งนี้ไม่มีข้อความเตือนเลย เเละลองสอบถามไปแล้วว่าคำใดทีมงานก็ยังไม่ตอบกลับมา ที่จริงน่าจะเเจ้งน่าจะให้เราอธิบายว่าคำไหนมันเเรงไปมั๊ยเราจะได้เเก้ให้ดีกว่ามานั่งพิมพ์ใหม่

 

โห ตัวนี้แรงผมจำได้แต่ก่อนขอท่านเช่าท่านไม่ให้ ได้แค่ขอดูขอจับ แค่จับก็รู้สึกเย็นๆมึนๆหัวแล้ว ก่อนจับเป็นปกติทุกอย่างพอจับแล้วรู้สึกมึนๆตาพล่าๆโหวงๆ ขอดอกนึงเลยครับพี่

 

รบกวนขอรหัสEMSอีกทีนึงครับ ผมลองเช็คแล้วรหัสผิดครับ

ขอบคุณครับ

 

ก็ คือว่า มีถามมาน่าสนใจ เคยเลี้ยงกุมารทองกัน เคยเลี้ยงวัวธนูควายธนู งวดนี้เป็นวิหคเจ้าฟ้าพญาการเวก หรือที่เรียกว่าวายุภักษ์ราชปักษา :VO พ่ออาจารย์ก็ตั้งใจให้เลี้ยงดูแบบนั้นเลย จะห้อยคอหรือทำพวงกุญเเจไว้ที่เอวก็ได้ อย่าลืมเลี้ยงด้วยน้ำมะม่วง คั้นให้ท่านด้วยรสมือของเราเองจะดีมาก

หากทำเป็นประจำจะยิ่งดี จะบอกกล่าวจะขออะไรไปไหนพูดคุยเล่นได้เลย บอกพ่อนกแม่นก คาถาในส่วนของบทอาราธนา ก็ให้บริกรรมไว้ เป็นการสื่ออำนาจบารมีพญานกทั้ง2มาที่ตัวเรา ในลักษณะเเฝงจิตวิญญาณ หากภาวนาเป็นประจำ ท่องสั้นๆว่า การะวิโกๆๆๆๆ บริกรรมไปเรื่อยๆจะมีองค์การเวกเกิดขึ้นประจำตัวเรา เป็นการฝึกสมรรถกรรมฐานในแบบหนึ่ง เปิดสื่อเปิดญาณให้สัมผัสกับพญาการเวกได้ เเละเป็นการดึงอำนาจบารมีพญาการเวกมาเเฝงอยู่ในกายเราด้วย

* เป็นเคล็ดให้คนที่บูชาตะกรุดไป การะวิโก ท่องสั้นๆเวลาหยิบตะกรุดมาภาวนา

 

สาธุ

 

:boo::boo:

 

ขอจองตะกรุดมหากามมหาเสพหนึ่งดอก สะดวกโอนวันจันทร์ครับ

 

คาถาวันละนิด (กันปืน)

ปกติชอบสายเมตตา วันนี้ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง ก็เป็นคาถาตันปืน กันปืนของพ่ออาจารย์ ให้ไว้สำหรับคนที่รับราชการเป็นทหารตำรวจไว้ภาวนากัน ปกป้องตนเอง จะได้ไม่เป็นอันตรายเวลาออกปฏิบัติหน้าที่ หรือผู้ใดทำงานเเละคิดว่ามีความเสี่ยงต่อโจรผู้ร้าย ที่ใช้อาวุธปื่น จะจำไปภาวนาให้คล่องปากก็ได้ ท่านว่าภาวนาให้ดีจิตมีสมาธิมันยิงไม่ออกเลย หากจิตไม่นิ่งถึงออกก็ไม่ถูกเรา

พระคาถามีว่า
นะอุด อุดทัง อุดอุดทัง อุดพุทธัง อุดธัมมัง อุดสังฆัง อุดอิติวุธนะ อุดทัง ปติคาตายะ อิอิ อุด ปติเสวามิ

เเต่ก็พึงจำเเละรำลึกไว้เถิดว่าผู้ใดเล่นวิชาทางมหาอุตม์เหล่านี้เเล้ว ส่วนใหญ่จะไม่ร่ำรวยเเละไม่ค่อยพบเจอโชคลาภใดๆ เพราะเชื่อหนักหนาว่า ศาสตร์ทางมหาอุตม์นี้มันปิดทุกอย่าง ก็เป็นเพียงความเชื่อท่านว่าให้สังเกตุเอา ลองเอาไปใช้เเล้วจะรู้ตัวว่าเป็นอย่างไร ที่กล่าวที่เตือนนี่จริงมั๊ย ท่านจึงไม่ลงวิชาทางมหาอุตม์ใส่เครื่องมงคลใดๆ

 

อันนี้ขอชี้เเจงหน้ากระทู้นะ เพราะที่ชี้เเจงเมื่อสักครู่ไม่มีคำหยาบหรือส่อไปทางใดเลยก็ยังลบไปอีก

คือว่าตะกรุดมหากามมหาเสพย์นี่จะมีคาถาเเละวิธีใช้อีกสองเเบบ
- นำชื่อเรากับชื่อเค้าสอดไว้ในตะกรุดเเล้วก็บริกรรมคาถาบทแรก อันนี้เป็นวิธีใช้อย่างนึง
- อีกประการหนึ่งคือใช้ภาวนาเวลาเอาตะกรุดไปจิ้มตัวเขา รึกวนน้ำให้เขากิน

สำหรับผู้ที่บูชาตะกรุดมหากามมหาเสพย์(ตับพญาการเวกปักษาวายุภักษ์) ก็รบกวนPM ขอคาถาเฉพาะทางทั้ง 2 บทนี้ หลังไมค์กันอีกที เพราะทางเวปพิจารณาว่าไม่สามารถเอาขึ้นได้

* รับทราบโดยทั่วกัน

 

รอเลยครับ

 

ที่เคยอ่านจำได้ว่าเป็นลิงดำหางกุด หลวงพ่อโอภาสีนำมาให้ ใช้กับใหญ่ๆ แล้วปกติพ่ออาจารย์จะใช้ไม้ช่อฟ้าหรือไม่ก็วัตถุที่มีสีดำมาทำใช่มั่ยครับ แล้วครั้งนี้ใช้อะไรทำหรอครับ เป็นเนื้อผงหรือเปล่าครับ

 

555+ ขนาดจะอลังการด้วยมั้ยครับเนี่ย