ลางบอกเหตุ?

เราได้ไปบนกับพ่อขุนทุ่งเรื่องงาน พร้อมจุดธูป 9 ดอก แต่ขณะที่กำลังปักธูปในกระถาง ก็มีธูปตกพื้น 2 ดอก ใครทราบบ้างว่านี่เป็นลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า?
...หรือว่าคำอธิษฐานเราจะไม่เป็นจริง(cry)

 

เป็นลางบอกเหตุแน่นอนครับ เหตุที่ว่าคือ ลมพัด หรือไม่ก็ปักธูป ไม่แน่น
นั้นแหละเหตุ ผลก็คือ ธูปตก ก็เท่านั้น

แค่ธูปตก มันจะมากำหนดชีวิตคนได้อย่างไร เดินหน้าไปสิ แต่ถ้ามัวมานั่งกังวล นี่แหละมันจะเป็นเหตุให้ไม่สำเร็จเพราะ จิตใจมันเอาแต่กังวล มันก็ปิดทางที่จะคิดไปในทางอื่น
เพราะความกังวลปิด

ก็อย่าไปกังวลมัน ทำตามกำลังและความสามารถ พอ

 

ธูป ตก ก็ เก็บ ขึ้นมาสิ

แล้ว วัน หลัง ก็ ถือ ดีๆ

 

ขออนุโมทนาครับ ตอบได้ขวานผ่าซาก (หรือกำปั้นทุบดิน) ตรงและง่ายและถูกต้องดีครับ (||)(||)(||)

ส่วนที่ว่าธูปตกก็เก็บมาแล้วถือให้ดี ๆ นั้นผมว่าถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องอนุรักษ์โลก และไม่กลัวเปลืองแล้ว ถ้าตกก็เอาอันใหม่เถอะครับเพราะของจะถวายพระ ถวายเจ้าน่ะควรเอาของที่ดีไปถวายนะครับ..(evil)

ปล. ถ้าคิดได้แค่เนี้ยก็ตอบแค่เนี้ยต่อไปกันเหอะครับ คนที่ถามคงจะคิดว่าช่วยได้ม๊ากมากเลยครับ อิ อิ ส่วนผมน่ะเป็นคนไม่ฉลาดก็เลยไม่ขอตอบ

 

ขอบคุณค่ะที่ทำให้คิดได้

 

แล้วไปคิดให้ัมันมากทำไมหละ คนเราถ้าคิดน้อยๆ ให้รู้ให้สัมผัสความจริง มากๆ มันก็ดี
คิดไปต่างๆ นาๆ ไม่ดี เพราะมันจะเพ้อไปจนถึงว่า ตัวเป็นคนหัวเป็นช้าง

ถ้าอยากฉลาดนะ ไปเอาหัวให้เป็นคน คิดแบบคนก่อน เอาอะไรง่ายๆ แบบธรรมชาติ นั้นแหละจะได้ฉลาด เอาหัวเป็นช้างมันจะฉลาดได้อย่างไร ช้างมันคิดอะไรเป็นเสียที่ไหน มันก็เอาไว้ลากซุง
เอาไว้ ชนช้าง แต่ก็ต้องเอาคนขึ้นไปบังคับ

เอาไปคิด ซะ

 

ปัญญาต่ำต้อยเสียจริง ช้างไม่ได้โง่ขนาดว่าคิดอะไรไม่เป็นเลย สักแต่ว่าลากซุงเช่นนั้นหรอก แม้แต่จิ้งจกฟังพระธรรมตลอดเวลาถ้าคิดได้ยังเสวยสุขเป็นเทวดาได้เลย คนที่ควรจะไปคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะตอบแบบตื้นเขิน เถียงจนหลังชนฝา ตกลงไปในคู (ข้างคูน่ะมันน้อยไปหน่อย) ก็น่าจะดีกว่าคิดอะไรง่าย ๆ แล้วมาอวดฉลาด
คนที่คิดว่าคนเป็นสัตว์ประเสริฐ คนนั้นก็ไม่ได้ประเสริฐอย่างที่คิดหรอกครับ มีแต่แก่งแย่งชิงดี อวดตัวว่าดี ว่ารวย ว่าฉลาด เหยียดได้แม้แต่สัตว์อื่น หาว่าเป็นเดรัจฉาน จิตใจช่างต่ำต้อยนักครับ ถ้าจิตใจดีแม้สัตว์ที่ไม่ใช่คนก็สำเร็จได้ ดูอย่างพระโพธิสัตว์ก็ยังต้องเกิดไปเป็นสัตว์หลายอย่างก่อนเป็นมนุษย์เลย แถมยังสามารถเข้าถึงส้จจธรรมได้เลย ถ้าว่าช้างต่ำต้อย ม้าก็คงต่ำต้อย ชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้าก็เกิดเป็นม้าและเข้าถึงสัจจธรรมได้ ไปศึกษาซะใหม่เถอะครับแล้วค่อยเอาปัญญาตื้นเขินมาตอบ
คนเราถ้าไม่นับถือเค้าว่าอย่าลบหลู่นะครับ ที่คุณกล่าวนั้นมันเกินเลยไปหน่อยจะว่าพระว่าเจ้านั้นผมไม่เห็นด้วยหรอกครับ ท่านจะมีหน้าตาลักษณะเป็นอย่างไรผมว่าเป็น อจินไตย...

 

ก็ฉลาด แล้วก็พิจารณาสิ ว่า
การเกิดเป็น มนุษย์ ก็ประเสริฐกว่า ด้วยฐานะ
แล้ว ยังจะไปเอาหัวช้างมาใส่ อีก คนคิดมันก็คิดมาตั้งกี่ศตวรรษ แล้วเรามาถึงตอนนี้ยังจะเอาความคิดคนโบราณมาใส่หัวตัวเอง

ฉลาดแล้วก็ต้อง พิจารณาด้วยว่า เราเคยเห็น ที่ไหนบ้างที่หัวเป็นช้างตัวเป็นคน

ผมจะบอกให้ ผมเคยเห็นครั้งหนึ่ง ไม่ได้มีแค่ หัวเป็นช้างตัวเป็นคนนะ หัวเป็นหมูตัวเป็นคน หัวเป็นวัวตัวเป็นคนก็มี
สรุป ทำไมรุ้ไหม พวกนั้นเป็นเปรต มาขอส่วนบุญผม มันขวางหน้าเอาไว้ทั้งนั้น

แล้ว ลองพิจารณาดูว่า คนที่เขาเห็นคนแรก เขาก็เห็นในนิมิต นี้แหละ แล้วมันก็ไม่รุ้ว่าอะไร เห็นมาในนิมิต มันก็อุปโลกว่า นี่ท่าทางจะเป็นเทพมาบอก มันก็กลายไปเป็น กาเนส นี่แหละ

นี่ พิจารณาหน่อย อย่าหาว่าผมลบหลู่เลย ผมพูดตรงๆ จะไปลบหลู่อะไรหละ

 

อืมอืม.. เดือดมันจริงๆ ต่างฝ่ายต่างมีเหตมีผลคนละอย่าง เง้อ

แค่เป็นคนดูนะครับ ผมไม่เกี่ยว >.<

ปล.อย่าว่าอะไรผมเลย

 

สงสัย ท่านพ่อขุนทุ่ง ชอบ 7 ดอกมั๊งครับ

ทำไมไม่ขอสิ่งที่ต้องการ ... อยากแนะนำให้ขอ ไม่แนะนำให้บนบาน...เดี๋ยวก็ลืมแก้บน

ขอท่านแล้วบอกว่าลูก จะทำทานรักษาศีลนั่งสมาธิ อุทิศกุศลให้พ่อขุนทุ่ง จะได้เร็วกว่าการไปบนบาน

การบนบานก็เสมือนการไปใช้ท่านทำงานให้เรา ผมว่าขอท่านเลยดีกว่า

 

ที่ว่าเคยเห็นน่ะไม่ใช่จิตหลอนเหรอครับ คิดว่าตัวเองมีดีก็เลยจะต้องมีคนมาขอส่วนบุญอย่างงั้นใช่มั๊ยล่ะครับ
แล้วที่บอกว่าเป็นเรื่องที่มีมาแต่โบราณ โบราณแล้วมันเชื่อไม่ได้เหรอครับ แล้วคุณเชื่อในเรื่องของพระพุทธเจ้าทำไมล่ะครับเรื่องมันก็ต้องสองพันห้าร้อยห้าสิบหนึ่งปีแล้วนี่ ไม่โบราณเหรอครับ จะเถียงอะไรแล้วว่าตัวเองฉลาดก็แสดงออกมาหน่อยสิครับ ไม่ใช่ว่าดีแต่เถียงตกคู
คนโบราณก็มีปัญญามีสมองครับสร้างอะไรหลายอย่างที่คุณก็ไม่มีปัญญาจะสร้างได้ตั้งมากมาย ถ้าจะเถียงก็ดูสิครับว่านักวิทยาศาสตร์โบราณสร้างอะไรบ้าง
บนโลกนี้มีศาสนามากมายถ้าเค้าหาว่าคุณนับถือลัทธิมารคุณจะโกรธมะ พิจารณาหน่อยนะ มีความเป็นคนใจกว้างบ้าง ศาสนาอื่นไม่ใช่มารนะครับ แต่ถ้ายังคิดได้แค่นี้ก็... คงได้แค่เนี้ยแหละครับ

 

นี่มีแล้วเหรอพิจารณาน่ะ ผมว่าหัดมีมหาพิจารณาด้วยจะดีกว่าละมั้งครับ

แหม พวกที่ทำเป็นมีทฤษฎีสูงส่งเนี่ย คิดเป็นแค่นี้ ช่างสมองกลวงเสียจริง ๆ เลยทำเป็นมีภูมิสั่งสอนคนอื่น มันเร็วไปร้อยปีมั้งครับ
ผมว่าที่คุณไม่เห็นเทพก็อาจจะเป็นเพราะคุณไม่มีบุญจริง ๆ ก็ได้ เลยมีปัญญาเห็นแค่เปรตที่มันอยู่กับคุณนั่นแหละ พวกหัวช้าง หัวควาย หัวหมา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่อยู่กับคุณน่ะ มันก็สั่งสอนให้คุณได้ดีแค่นี้แหละครับ...

ผมพูดขนาดนี้ก็ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ถ้าคุณว่าคุณไม่ได้พูดลบหลู่อะไรพระพิฆเนศแล้วล่ะก็.. ผมก็แค่พูดตรง ๆ เท่านั้นเหมือนกัน พิจารณาแล้วก็มหาพิจารณาแล้ว ก็พบว่าอย่างนี้แหละครับ

 

เท่าที่ฟังมาถ้าลบหลู่พระพิฆเนศก็....เกินไปนะ - -

 

*** โลกุตตระ ****

เลข ๗...คือ สัญญาลักษณ์ของโลกุตตระ
โลกุตตระธรรม.... ธรรมเหนือโลก นำพาสัตว์หลุดพ้นทุกข์ พ้นจากการเกิดใหม่
โลกุตตระ...ส่งมอบ "สัจจะ" ให้เผยแพร่สู่สัตว์โลก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คุณ นี่ ผมจะไม่ด่าคุณ แต่ผมจะพูดให้คุณฟังว่า สิ่งใดๆ ที่เป็นจริงมันไม่ได้เรียกว่า โบราณ มันทันสมัย มันจริงอยู่เสมอ คำว่าคนโบราณนี้ คือ คนที่คิดอะไรแบบเก่าๆ ที่มันใช้ไม่ได้ มันอธิบายอะไรไม่ได้แล้ว

แต่วิทยาศาสตร์ ที่ใหม่อยู่เสมอ ใช้ได้เสมอ นั้นแหละ ไม่โบราณ

ความคิด เรื่องพระพิฆเนศ โบราณอย่างไร ตอบว่า มันโบราณ เนื่องจากว่า มันใช้อธิบายอะไรไม่ได้เลย แม้แต่อย่างเดียว เป็นความเชื่อที่ไม่มีอะไรสนับสนุน นอกจากคำว่า ทึกทักเอา
นะเอาเท่านี้คงจะพอเข้าใจอะไรบ้างนะ

 

คุณเอาอะไรมาบอกว่าไม่เป็นจริงล่ะครับ คุณพิสูจน์ไม่ได้คนเดียวก็คือไม่จริง ผมพิสูจน์ได้คุณจะว่าจริงไหมล่ะ
โบราณ เพราะว่าคุณไม่เคยเห็น ผมว่าไม่ได้หรอกก็คุณไม่เปิดใจจะเคยเห็นได้ไงล่ะครับ..
เรื่องที่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพิจารณาของแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้นไม่อยากให้คุณด่วนสรุปในสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นเท่านั้นเอง แล้วอีกอย่างคุณพูดนั้นมันก็ล้ำเส้นความนับถือของคนอื่นมากเกินไปด้วยครับ
ทึกทักเอาน่ะก็เหมือนกับที่คุณบอกว่าคุณเห็นพวกหัววัว หัวม้านั่นแหละครับ ทำไมคุณเห็นล่ะ?? ในโลกนี้คนที่สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีแค่คุณนะครับ แล้วสิ่งที่คนอื่นสัมผัสได้ทำไมคิดว่าเป็นมารเสียหมดล่ะครับ เปิดใจให้กว้างกว่านี้อีกหน่อยนะครับ
การที่คุณนั่งวิปัสสนานั้นอันที่จริงก็ไม่ได้รู้ว่าถูกต้องหรือเปล่า คุณก็ต้องทดลองอยู่ดี ถ้าทำแล้วไม่ดีก็แปลว่าโบราณ ถ้าทำแล้วบังเอิญดี ก็ทันสมัยเพราะสามารถอธิบายได้ด้วยตัวคุณเอง แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องยอมรับนี่ครับ...
ที่พอจะเข้าใจในสิ่งที่คุณบอกก็คือ เชื่อผมเหอะเพราะผมรู้ (เท่าที่ผมรู้) ที่คนอื่นรู้มันไม่จริง (รู้ได้ไงว่าคนอื่นรู้ไม่จริง)

 

อยากรู้ไหมว่าเอาอะไรมาพิสูจน์ ตอบว่า เอาธรรม คือ ความเป็นจริงพิสูจน์นะสิ
เอาง่ายๆ นะ ใครเคยเห็นบ้างว่า มีประวัติศาสตร์ สัตว์โลกที่หัวเป็น ช้างตัวเป็นคน ตอบว่าไม่มีเลย ไม่มีประวัติใดๆ บอกว่า มีสัตว์แบบนี้ในโลก

ข้อที่สอง ในเมื่อไม่มีในโลก มันก็คงจะมีนอกโลก คือไม่ใช่ในโลกนี้ แล้วใครกันหละที่มองเห็น แล้วเอามาบอก

ทีนี้พอ ฟังเขามา แล้วจะบอกว่ามันจริง นี่มันจะไปต่างอะไรกับเขาบอกว่า ยูเอฟโอมีจริง ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เราพอจะเดาได้ว่า ufo มีจริงแต่เราก็ไม่ได้กราบไหว้ เพราะมันไม่มีอะไรต้องกราบไหว้ ถ้ามันมีจริงมันก็ธรรมดา

แต่โง่หนัก คือ จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ แล้วยังกราบไหว้อีก ผมว่าเรามาจนถึงจุดที่ โง่มากแล้ว

นี่แหละ เขาเรียกว่า สีลพตรปรามาส จริงไม่จริงก็ไม่รู้ ไม่รู้ด้วยว่า จริงเท็จเป็นอย่างไร แต่ขอกราบไหว้เอาไว้ก่อน

ทีนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า ผมนี่วิเศษนะ เป็นเทพ คุณกราบไหว้ผมสิ ไม่ต้องพิสูจน์หรอก กราบผมเลย แล้วผมจะอวยพรให้

แบบนี้ยังดีเสียกว่า ไปกราบไหว้ สิ่งที่คุณไม่ได้รู้จักเลย

 

ก็ไม่มีใครบอกนี่ครับว่ามีสัตว์ที่หัวเป็นช้างตัวเป็นคน อ่านที่ผมตอบอย่างถี่ถ้วนแล้วจริง ๆ หรือครับ หรือว่าจับแค่ใจความเท่าที่ตัดมา...
1 ไอ้หัววัว หัวม้าที่บอกว่าเคยเห็นน่ะอะไรครับ เห็นว่าเป็นเปรต รู้ได้ไงว่าเป็นเปรต มีใครเคยบอกคุณหรือว่ามีคนพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณเห็นเป็นเปรตจริง ๆ
2 แล้วมีใครพิสูจน์ได้ว่ารอยเท้าที่คุณบอกว่ามีแถว ๆ ต่างจังหวัดที่คุณว่าน่ะเป็นรอยเท้าจริง ๆ ไม่ได้เป็นหินที่เอาอะไรมาเจาะจนเป็นรูปเท้าครับ... ถามว่าพิสูจน์แล้วเหรอ แล้วพิสูจน์ยังไงถ้าจะเถียงก็ตอบมาให้ละเอียด
3 แค่ตอบกระทู้ยังกล้าแสดงความรู้หางอึ่งของคุณ แล้วจะพิสูจน์ไปทำแมวอะไรครับ แค่เด็กป.สองยังสู้ไม่ได้อ่ะ อ่านก็รู้แล้วว่าไม่มีอะไรวิเศษ
4 เทพน่ะมีคนนับถือมาก่อนพระพุทธเจ้าครับ พระพุทธเจ้ายังนับถือเทพมาก่อนตอนเจ้าชายประสูติเดินได้เจ็ดก้าว พิสูจน์ได้เหรอครับ เคยมีเหรอคนเกิดมาแล้วเดินได้ทันที
5 ในพุทธประวัติบอกว่ามีพญามารมาผจญพระพุทธเจ้า เป็นผู้หญิงสามนางถูกส่งมาโดยพญามาร นี่ก็คงไม่มีจริงสิครับเป็นแค่เรื่องเล่า ผู้หญิงอะไรจะมาเต้นเปลือยกายแล้วหายตัวไปเฉย ๆ (หลังจากแพ้) คนเหรอนั่น
6 ส่วนพญามารมีแปดแขน แค่เนี้ย... เคยเห็นเหรอคนมีแปดแขน แล้วพระพุทธเจ้าทรงชนะได้เพราะพระแม่ธรณีออกมาบีบมวยผม (คนอะไรจะมีมวยผมที่บีบน้ำออกมาท่วมเหล่าพญามารได้)

ที่ว่ามาคุณพิสูจน์อะไรได้บ้างอ่ะ
บนโลกนี้มีสิ่งมากมายที่คุณพิสูจน์ไม่ได้ แล้วทำไมเรื่องอื่นที่คุณพิสูจน์ไม่ได้จะเชื่อไม่ได้.. ก็คนอื่นเค้ารับรู้ได้นี่ คุณรับรู้ไม่ได้เอง
ผมไม่เชื่อว่าคนอย่างคุณจะรับรู้อะไรได้มากอยู่แล้วก็ศีล 5 ที่เป็นขันธ์ 5 คุณมียังไม่ครบนี่ครับแล้วเอาอะไรมาภูมิใจว่าตนวิเศษ...

 

ก็ได้ ตอบให้ฟัง

ตอบ ก็ ถ้าคุณ เห็นคน เห็นกลุ่มคน คุณจะบอกว่า นี่คือเสือรึ คุณนี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ตอบ ชาวพุทธ เชื่อในพระไตรปิฎก เพราะว่า เมื่อเราพิสูจน์ในเรื่องที่เป็นจริงตามที่สังเกตุได้ และพบว่าไม่ผิดเพี้ยนเลยสักข้อเดียว จนเรามีคุณธรรมสูงพอ เราจะศรัทธาว่า ทั้งหมด ไม่มีทางเป็นเท็จ เพราะพิสูจน์จากสิ่งที่พิสูจน์ได้ อุปมาว่า เราเห็นแล้วว่า คนนี้ดีกับ ทุกครั้ง และพูดให้เราฟังไม่เคยผิดเลย เราก็จะเกิดศรัทธาและเชื่อเขาเสมอ นั้นแหละ เรียกว่า ศรัทธาในพระไตรปิฎก และในเมื่อ ศรัทธาเกิดแล้ว ปรากฎว่า มีหลักฐานจริงตรงกับที่ปรากฎ มันก็แน่ใจได้ พร้อมกับ หลักฐานด้านตัวบุคคล ด้านสถานที่มันก็ชี้ขัด จนได้เป็นอารามหลวง เรียกว่า พิสูจน์แบบนี้ ว่า อนุมาน

หรือครับ แล้ว ความรู้หางอึ่งของคุณที่มันเชื่อ โดยไม่ลืมหูลืมตา นี่ผมว่า หางอึ่งของผมยาวกว่าหางอึ่งของคุณครับ

อะไรของคุณเนี่ย เรื่องของพระพุทธองค์ ประสูติแล้วเดินได้เจ็ดก้าว ผมตอบไปแล้วนะ ว่าเพราะ การพิสูจน์แบบอนุมาน ในข้อ 2

พิสูจน์ ด้วยหลักการ อนุมานแล้ว ตามข้อ 2 เพราะว่า ธรรมที่ปรากฎกับตัวเราส่วนหนึ่ง และ พระอรหันต์ ผู้จบกิจแล้ว ยืนยันว่า พระไตรปิฎกไม่ผิดเพี้ยน มีพยาน ทั้งวัตถุและบุคคล

ถ้าถามอีกว่า แล้วเชื่อได้อย่างไรว่าคนที่พูดเป็นพระอรหันต์ ตอบว่า เมื่อเรามีคุณธรรมสูงพอ เราก็จะรู้ว่า ใครมีธรรมสูงกว่าเราเมื่อเขาแสดงให้เรารู้ ในเมื่อเรามีคุณธรรมขนาดนี้ เรายังไม่เคยโกหก แล้ว คนที่มีคุณธรรมสูงกว่าเรา จะโกหกนั้นเป็นไปไม่ได้

คุณ เถียงแถกๆ เรื่องของตัวคุณเอง ที่คุณตอบคำถามผมไม่ได้ และคุณไม่ยอมรับ แต่คุณมาถามย้อนกลับ
ผม นี่ผมก็อธิบายไปแล้ว หวังว่าคุณ คงมีปัญญา หางอึ่งยาวมาเท่าผมได้

 

ไปอ่านกระทู้นี้กัน

http://palungjit.org/showthread.php?t=135595