วิธีนี้ทำให้ดับไฟใต้ได้ คุณเองอาจเป็นคนหนึ่งในนั้น กรุณาอ่านครับ

ผมเองปกติไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ และไม่ค่อยได้ตอบกระทู้เท่าไร แต่ผมเข้ามาอ่านเป็นประจำ เป็นส่วนใหญ่ แต่คราวนี้ที่ผมตั้งกระทู้ก็ด้วยเห็นถึงความจำเป็น และเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับกับพี่น้องชาวใต้เป็นสำคัญ และเห็นว่าถึงวาระแล้ว และผมคิดว่าคงจะไม่มีที่ใดจะช่วยให้วิธีการแก้ไขปัญหาภาคใต้ดังที่จะกล่าวต่อไปให้สำเร็จ เป็นจริงได้เท่ากับพวกเรา...ชาวพลังจิต

วิธีการต่อไปนี้ ผมมีแนวคิดมานานแล้วตั้งแต่ปัญหาภาคใต้เกิดขึ้นใหม่ๆ เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มทำ ยังเป็นเพียงแค่ระดับความคิด ยังไม่เป็นรูปธรรม เพราะเนื่องจากช่วงนั้นยังไม่รุนแรง และบานปลาย มีผู้เสียชีวิตมากมาย ต่อเนื่องอย่างทุกวันนี้ และคิดว่าปัญหาคงจะคลีคลายได้ในเร็ววัน หรือมีคนคิดได้แบบเดียวกันนี้ แต่จนถึงวันทุกวันนี้หาได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่จะให้ท่านช่วยก็คือ ช่วยเป็นอาสาสมัครหาผู้ที่จะมาเป็น "หน่วยสืบสวนด้วยอำนาจพิเศษช่วยดับไฟใต้"

- ซึ่งถ้าท่านต้องการร่วมเป็นอาสาสมัครในการหาผู้หยั่งรู้ ที่สามารถหาของหายได้ หรือที่อยู่ของคนที่สูญหาย จากกันไปได้อย่างแม่นยำ คือ รู้จักใครที่สามารถอย่างที่กล่าวมาครับ
- หรือถ้าท่านเป็นผู้หยั่งรู้ที่มีพลังจิต หรือมีฌาน หรือเป็นร่างทรงที่หยั่งรู้ ทำนายของหายได้ หรือที่อยู่ของคนที่สูญหาย จากกันได้ ผมอยากจะให้เข้าร่วมครับ
- ผมต้องการจำนวนหลายท่านครับ และต้องการจากทั่วประเทศ ยิ่งได้จำนวนมากท่านจะยิ่งดีครับ เพราะจะยิ่งทำให้เป็นรูปธรรมได้มากขึ้น และจะสร้างความน่าเชื่อถือเมื่อจะนำแนวทางนี้เสนอต่อรัฐบาลหรือนายกฯ ต่อไป (เมื่อพิสุจน์ว่าเราทำกันได้จริงๆ ก่อน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่เชื่อเราครับ)

ถ้าท่านใดปรารถนาจะช่วยเหลือ กรุณาลงชื่อข้างล่างกระทู้ หรือส่งอีเมล์ให้ผมได้ครับ

ทั้งนี้อาจจะฟังดูแปลก หรือไม่น่าเป็นไปได้ แต่จริงๆ วิธีการต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้แปลกอะไรเลย ต่างประเทศนั้นมีอยู่ ผมได้ดูวิธีการสืบสวนจากหน่วยนี้ผ่านสารคดีถ้าจำไม่ผิดจะเป็น Discovery จึง เห็นว่าวิธีการนี้มีคนทำให้เป็นจริงมาได้แล้ว และใช้กันอยู่ คือ เขาจะมีอยู่กล่มหนึ่งที่มีความสามารถทางจิตมาช่วยคลีคลายคดียากๆ หาด้วยวิธีปกติไม่ได้ โดยจะให้พวกเขานี้เขียนบรรยายถึงลักษณะที่ซ่อนของคนร้ายว่ามีกี่คน และตัวประกันอยู่ที่ไหน และจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอาสิ่งที่พวกเขาบอกมาดูถึงความเหมือนกันกี่คน จากนั้นจะเริ่มสืบสวนและจับคนร้ายโดยรวดเร็ว แม่นยำ ไม่มีใครตายเลย พวกนั้นเท่าที่ผมดูวิธีการดำเนินจิตเขาไม่ใช่พุทธ แต่เขายังทำได้

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะช่วยกัน ซึ่งถ้าทำให้เป็นจริงได้ ไม่เฉพาะไฟใต้เท่านั้นที่จะดับ แต่ไฟสามกอง คือ ราคะ โทสะ โมหะ ของผู้คนอีกมากจะดับไปด้วยได้ เพราะคนจะเริ่มเห็นเรื่องเหล่านี้ว่ามีประโยชน์ต่อประเทศชาติ แล้วหันมาปฏิบัติธรรมกันมากขึ้นครับ คนร้ายเองก็จะไม่ก่อกรรมต่อไป ทหาร ชาวบ้าน ประชาชนก็จะอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่เช่นนั้นก็จะต้องรอไปอีกนานเท่าไรไม่ทราบได้ เพราะเขานั้นอยู่ในที่ซ่อนตัว จะรอจนถึงเมื่อไร ทุกอย่างย่อมดับได้เสมอ จะเร็วหรือช้าอยู่ที่ว่ามีปัจจัยอันเหมาะสมเพียงไร

 

และนี่คือเหตุผลประกอบการยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และพิสูจน์ได้จริง เป็นจริงได้ หากเราช่วยกัน

- พราห์มโกณฑัญญะทำนายเจ้าชายสิทธัตถะว่าจะต้องตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น
- พระพุทธเจ้าของเรา สามารถจะใช้ตาทิพย์ดูถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้ในเรื่องการทำนายฝันของพระราชา ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงอย่างนั้น
- พระพุทธเจ้าทรงเห็นถึงลักษณะการเกิดของมนุษย์ว่ามีพัฒนาการตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรถ์เป็นอย่างไร ระยะไหนร่างกายจะพัฒนาไปอย่างไร ซึ่งปัจจุบันนี้ก็พิสูจน์ทางการแพทย์ว่าเป็นจริงได้บางประการแล้ว
- เรื่องที่พระพุทธเจ้านั้นรู้ถึงเรื่องโลกนี้ว่ากลม และมีอีกหลายจักรวาล และใต้โลกของเรานี้ร้อน ซึ่งปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริง อย่างบางส่วนเท่านั้น
- ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ก็สามารถใช้หลักโหราศาสตร์ทำนายการเกิดขึ้นของสุริยุปราคาบนท้องฟ้าได้อย่างแม่นยำที่ตำบลหว้ากอ

ผมเองก็เคยได้ประสบกับตัวเองมาทั้งโดยทางตรง และโดยอ้อม เช่น ครั้งหนึ่งผมไปกับป้าที่รู้จัก ไปหาพระรูปหนึ่ง ที่จังหวัดราชบุรี พระท่านไม่เคยรู้จักกับพวกเรามาก่อน แต่ท่านสามารถที่จะบอกได้ว่าบ้านของป้านี้อยู่ที่ไหน ลักษณะบ้านเป็นอย่างไร และหน้าบ้านมีอะไรวางอยู่บ้าง, แม่ของผมไปหาร่างทรงที่ต่างจังหวัดไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ร่างทรงนั้นสามารถบอกได้ว่าแม่มากับใคร ซึ่งจริงๆ แม่มาคนเดียว แต่คนที่มาด้วยอีกคนนั้นก็คือ ก๋งของผมที่เพิ่งเสียไปไม่นาน เป็นต้น จึงทำให้นำเอาสิ่งเหล่านี้มาคิดใช้เป็นวิธีการ

วิธีการดังกล่าวนี้สมัยก่อนเขาก็ใช้กันแพร่หลาย ซึ่งเราจะเห็นได้จากว่า

"ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้อ้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา"

เขาใช้หลักการนี้กันไม่ว่าจะเป็นทั้งในสงคราม หรือระดับการชาวบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า วัตถุเจริญก้าวหน้าจึงทำให้คนนั้นห่างไกล และไม่ค่อยได้สนใจถึงเรื่องอำนาจจิตว่ามันมีอยู่มากอย่างไร แต่ทั้งนี้ไม่ใช่จะเป็นกันทั้งหมด บางประเทศ ได้เห็นถึงความสำคัญของข้อนี้ ได้จัดตั้งหน่วยการสืบสวนด้วยอำนาจพิเศษ เพื่อช่วยคลีคลาย หาหลักฐานในบางคดีที่ไม่สามารถใช้วิธีตามปกติได้ และพิสูจน์แล้วว่าเรื่องเหล่านี้มีอยู่จริง ด้วยผลงานนั่นเอง

บางท่านอาจจะสงสัย หรือคิดว่า เขาน่าจะมีการทำกันอยู่แล้วหรือเปล่า ตรงนี้ผมบอกได้ครับว่า ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะว่าถ้าในเมืองไทยมีการทำกันแล้วคงจะไม่ต้องใช้การค้นไปตามทุกบ้าน แต่มุ่งตรงไปยังจุดที่ซ่อนตัวได้เลย ถ้าเป็นแหล่งที่มาจากผู้มีอำนาจพิเศษจะสามารถบอกได้ทันที่ว่าซ่อนที่ไหน และสามารถเข้าไปจับกุมได้ ไม่ต้องให้เขาก่อบาปกรรมต่อคนอื่น และให้คนอื่นตาย หรือก่อบาปกรรมซึ่งกันและกันไปมากกว่านี้ นี่แสดงว่าเขายังไม่ได้ทำกัน ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจากว่าต่างคนก็ต่างความคิด โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีการศึกษาทางตะวันตกมากบางท่าน ย่อมมีความไม่เห็นด้วยเป็นแน่ อาจจะมีบางคนที่ไม่กล้าเสนอไป หรือไม่ได้คิด เพราะว่ามันเป็นรูปธรรมไม่ได้ และพิสูจน์ไม่ได้ และมันออกจะเหลือเชื่อเกินไปก็เป็นได้

แต่ทั้งนี้ผมมีขั้นตอนเตรียมเอาไว้แล้ว ซึ่งหากท่านใดสนใจ เราจะได้คุยกันในรายละเอียดต่อไปครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเกินไปเลยหากเราช่วยกัน เราไม่เสียหาย หรือได้รับอันตรายเลย เพียงแค่คุณบอกเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นเมื่อเราพร้อม และมั่นใจจริงๆ เราจึงจะไปดำเนินการช่วยเหลือประเทศชาติต่อไปครับ

คุณอาจเป็นคนหนึ่งในนั้น...

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ว่าแต่จะมีใครที่พร้อมทั้งรู้จริง และเต็มใจอาสาช่วยงานนะ

 

เป็นเจตนาที่ดี
แต่มันจะขี่ช้างจับตั๊กแตน
ตีงูให้ตีที่หัว
ถ้ามีผู้มีพลังจิตจริง ก็ให้เขาระบุ"หัว"ก็พอ
แต่ทีนี้ถ้าเขาระบุว่า"หัว"นั่งอยู่ใน กอ.รมน.
ทีนี้คุณจะทำยังไง?

 

คุณเจ้าของกระทู้กำลังรวบรวมคน จัดตั้งเป็นเหมือน "ภาคีนกฟินิกส์" ในเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เลยล่ะครับ ถ้ารวบรวมคนได้สำเร็จคงดีมากเลยนะครับ กลายเป็นกลุ่มผู้มีพลังจิตที่ร่วมกันใช้ความสามารถในการช่วยเหลือคน หรือช่วยแจ้งเบาะแสคลี่คลายคดีต่างๆให้กับตำรวจ ฯลฯ

ขอให้ได้เจอบุคคลพิเศษเหล่านั้น สามารถรวบรวมคนได้และทำได้ตรงตามจุดประสงค์ที่ตั้งเอาไว้นะครับ ^ ^ (พอดีผมเป็นคนธรรมดาเลยทำได้แค่เอาใจช่วยในเรื่องนี้)

ปล.แต่สำหรับวิธีแก้ไขไฟใต้วิธีหนึ่งที่ผมอยากจะขอแนะนำก็คือ ลองทำความเข้าใจในทัศนคติ วิถีการดำรงชีวิตของคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเป็นอย่างไร พวกเขาต้องการอย่างไร เราสามารถให้สิ่งที่เขาต้องการได้หรือไม่ ถ้าให้ไม่ได้จะมีวิธีเช่นไรที่จะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจและยอมปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆของส่วนรวมน่ะครับ วิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาด้วยเหตุผล ด้วยการทำความเข้าใจกันครับ ถ้าทำได้สำเร็จก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและมั่นคง อาจจะทำควบคู่ไปกับการใช้กำลังปราบปรามหรือป้องกันผู้บริสุทธิ์ผู้อื่นไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้กระทำความผิดไปด้วยก็ได้ครับ

 

ขอบคุณ คุณ NARKA และคุณ Wit ครับ

ที่คุณ NARKA แนะนำมานั้นดีมากครับ แต่ว่าการจะไปทำอย่างนั้นได้ ผมคิดว่าจะต้องมีการรวบรวมหลักฐานเข้าด้วย เพราะว่าถึงแม้เราจะรู้ตัวหัวหน้า แต่ไม่มีหลักฐานก็จะยากแก่การปราบปราม และเรายังไม่รู้ว่าเขามีตัวตายตัวแทนหรือเปล่าในระดับนั้น จึงต้องลองดูครับ และผมก็ยังคงมั่นใจว่าหากจำนนด้วยหลักฐานแล้ว ตัดแขนตัวขาหมดแล้ว เขาย่อมเดินไม่ได้ และเราจะเอาธรรมะเข้าชนะอธรรมได้ครับ คนผิดจะได้ไม่ทำผิดต่อไปครับ

ขอบคุณ คุณ Wit สำหรับคำแนะนำครับ เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอเลยก็ว่าได้ อย่างที่สมัยก่อนเคยทำ แต่ว่าก่อนจะถึงตอนนั้น เราก็จะต้องแก้ที่ปลายเหตุซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนเสียก่อน แต่ก็ไม่ใช่ละเลยที่จะแก้ต้นเหตุ คือแก้ควบคู่กันไป และเมื่อแก้ต้นเหตุได้ในที่สุดทุกอย่างก็จะยุติจริงๆ สันติภาพที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นได้ ซึ่งเริ่มแรกเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะใช้วิธีแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุกับใครบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะแก้ไขไม่ตรงจุด ตรงบุคคลครับ เพราะถ้าไม่จับมาก็ยากที่เขาจะรับฟังครับ อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

 

ก็เห็นด้วยนะครับ ^_^
แต่เท่าที่ผมเคยดูในหนังฝรั่งนะ ส่วนมากพวกนี้จะเป็นนักสืบเอกชน
ล่าค่าหัว อะไรทำนองนั้น

 

ฮ่าๆๆๆๆๆ อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดเล่น ซิครับ

เดี๋ยวเป็นจริงขึ้นมาคงยุ่งพิลึก ต้องมาตีหัวงูกันในกรุงเทพฯ เนี่ย:d

เรื่องปัญหาชายแดนใต้ ผู้มีพลังจิตอภิญญาเค้ารู้ว่าอะไรเป็นอะไร
รู้จนกระทั่งถึงรากเง่าสาเหตุที่ผูกพันต่อเนื่องกันมาเป็นร้อยเป็นพันปี
เค้าถึงไม่อยากเข้ามายุ่งงัย เพราะไปขวางทางเดินของวิบากกรรม

ความจริงข้าราชการในกรุงเทพฯมาส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ปัญหาบานปลาย
บางคนไม่อยากให้ปัญหานี้หมดไปจริงๆ เพราะนั่นหมายถึงหมดผลประโยชน์ที่
เคนได้เคยกินกันมาอย่างลับๆเป็นเวลานานมากแล้ว

พูดง่ายๆก็คือ ขายชาติแล้วแบ่งกันนั่นแหละ ตัวอย่างก็มีแล้วในเรื่องที่ไปเจอะโน๊ตบุคของโจรที่มีรหัสผ่านของทางราชการทหาร แต่ปิดกันให้แซด

สงสารแต่ทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องอะไร ก็พลอยมาบาดเจ็บ ล้มตายกัน ครอบครัวแตกแยกไปคนละทิศละทาง สูญเสียงบประมาณไม่มีที่สิ้นสุด

นับเป็นเวรกรรม ของประเทศไทยโดยแท้

(tm-love) (tm-love) (tm-love) (tm-love) (tm-love)

 

ผมก็เห็นด้วยนะครับ
แต่ส่วนตัวผมคิดว่าควรรวมกลุ่มกันเงียบๆ ชวนแต่คนที่รู้จักหรือใช้ความสามารถ
ในการค้นหาตัวบุคคลหรือใช้พิจารณา ผมคิดแบบนี้เพราะว่า
การที่จะรวมกลุ่มใหญ่โตเปิดเผยนั้น ข้อมูลบุคคลเปิดเผยต่อประชาชน
ทั้งนี้จะมีผลต่อ ความปลอดภัยในชีวิต คุณไม่คิดเหรอว่าจะมีคนที่ถุกจับแล้วจะแค้นทางกลุ่มในเมื่อข้อมูลเผยต่อสาธารณะชน ครอบครัวก็ไม่ปลอดภัยตามไปด้วย แล้วก็คิดอีกว่า เหตุการณ์จะยิ่งรุนแรงขึ้นอีก
แต่ผมว่าปัญหาใหญ่ที่สุด คือการทำให้คนทั่วไปยอมรับว่าเราทำได้จริง
แต่ก็มีปัญหาต่อไปอีกว่าเมื่อเรารู้แต่ระบบกฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้เพราะเราไม่มีหลักฐานในการจับ
โดยรวมผมว่าเป็นความคิดที่ดีในการจัดตั้งกลุ่มแต่ควรเป็นรูปแบบเงียบๆดีกว่าเช่นไม่มีสำนักงานหรือการติดต่อแบบไม่พบนกันก็น่าจะดี รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลของสมาชิกแบบระดับความปลอดภัยมากๆเพื่อความปลอดภัยของตัวสามชิกเอง

 

สาธุครับคุณ konngaam

เป็นความคิดเห็นอันเหมาะสมแล้วครับ ผมเองก็คิดเช่นเดียวกับท่านครับ เราตั้งกันเงียบๆ เพราะว่าไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายแก่ผู้นั้นได้ครับ และที่จัดตั้งนี้ก็ไม่ใช่เพื่อจะให้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง


ตอบคุณ Nirvana

ในประเด็นนี้ ที่ท่านกล่าวมาผมเองก็พอเข้าใจครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า ผู้ที่ทรงอภิญญานั้นน่าจะประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา ไม่อยากเห็นประชาชน หรือเพื่อนมนุษย์ตกอยู่ในความทุกข์ หากท่านช่วยได้ผมว่าท่านก็ยินดีจะช่วยนะครับ หากสิ่งนั้นไม่ก่อให้เกิดการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น และก่อประโยชน์สุขแก่มหาชน คือ ไม่ใช่ปล่อยไปตามเวรตามกรรมอย่างเดียว เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปทรงห้ามทัพที่จะรบกัน ไม่ทรงปล่อยให้เป็นฆ่าฟันกัน

 

กรรมย่อมเป็นไปตามกรรม ประเทศไทยคงได้แต่เพียงผ่อนกรรม... ต่อไป
ยุคนี้ไม่ใช่ยุคผู้มีอิทธิฤทธิ์ รุ่งเรือง นะขอรับ

นอกเสียจากโลกาวินาศ

แต่ทว่าสถานการณ์ภาคใต้ทวีความรุนแรง การสูญเสีย ไม่เว้นแต่ละวัน ราวกับสงครามแบ่งภาค แบ่งศาสนา

สิ่งสำคัญที่ไฟใต้ไม่มอดไป คือความสามัคคี และศรัทธาของพวกเขาเหล่านั้น...
ถึงแม้กำจัดตัว แกนนำได้ สักวันหนึ่งในอนาคต เขาก็ต้องระดมสร้างสมกำลังกันใหม่อีก จะว่าไงดีล่ะนั่นมันภารกิจที่สืบทอดต่อกันมาของพวกเขาเหล่านั้น

ต้องอาศัยผู้โปรดสัตว์ ที่จะสามารถดับไฟเหล่านั้นได้... แต่ทว่าจะทำได้เช่นไรในเมื่อโจรใต้มิได้นับถือศาสนาพุทธ? หากจะอยู่ก็มาเพียงเพื่อบิดเบือนศาสนาเรา และหาผลกำไร

แต่ผมเชื่ออยู่อย่างว่าผู้โปรดสัตว์ ผู้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น จะเกิดขึ้นในหมู่ของพวกเขา เพื่อลบล้าง และยุติ ความโกลาหลเหล่านั้นได้ ระยะเวลานั้นเป็นไปตาม กรรม...

 

พระพุทธองค์เสด็จไปห้ามทัพถึง 3 ครั้ง น่ะ ครับ

ครั้งสุดท้ายพระองค์หยั่งด้วยพระญานแล้วว่า อันกรรมที่เคยร่วมกันก่อนั้นรุนแรงเกินกำลังที่จะไปห้ามได้ จึงไม่ได้เสด็จไปอีก

แม้ว่าการสงครามครั้งนั้นจะทำให้ถึงกับสิ้นศากยวงศ์ของพระองค์ไปก็ตาม

เรื่องนี้เราได้เคยปรึกษาครู-อาจารย์ หลายท่านถึงวิธีทางออกและการแก้ไข
แต่คำตอบก็ออกมาคล้ายๆกัน ก็คือ กรรมมันหนักมากและซับซ้อน ไม่มีใครคนใดหรือหมู่ใดจะไปหยุดยั้งได้ เพราะจิตที่อาฆาตจองเวรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังมีอยู่อย่างครบถ้วน

หากไปชี้ทางออกให้ก็คือ การแนะนำและชี้ตัวผู้ร้าย ผู้กระทำผิด ซึ่งแน่นอนว่าไม่ผิดตัวอยู่แล้ว แต่นั่นก็หมายถึงไปชี้ทางให้คนไปฆ่ากันนั่นเอง เพราะโจรใต้ไม่มีทางกลับใจ เวรกรรมนี้ก็จะตกมายังผู้ชี้ช่องเป็นวิบากกรรมติดตัวไป

รู้อย่างนี้ใครจะไปบอก ใครจะไปชี้ช่อง ล่ะ ครับ

แต่ถ้าจะถามว่าแล้วเมื่อไหร่เหตุการณ์จะยุติ

คำตอบ ที่ได้ก็ครือๆกัน คือ รอให้น้ำมาท่วมจนไม่มีแผ่นดินจะอยู่จะแย่งกัน นั่นแหละมันถึงเลิก น่ะ

(good) (good) (good) (good) (good) (good)

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับท่าน Masquerader

ผมเห็นว่าปัญหาภาคใต้นั้นเราจะรอให้ถึงยุคของผู้มาโปรดสัตว์ หรือจนถึงช่วงที่อภิญญารุ่งเรืองนี่คงจะไม่ดีนแน่ครับ อะไรที่เราทำได้เราก็ควรจะทำ ซึ่งในประเด็นที่บอกว่าโจรใต้ไม่ใช่พุทธ เขาจะไม่ฟัง ตรงนี้ผมคิดว่าไม่ทุกคนหรอกครับ เพราะผมคิดว่าผู้ที่มีปัญญาในระดับที่สามารถพิจารณาได้ว่าอะไรเป็นสาระ เป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นสาระ ไม่เป็นประโยชน์มีอยู่น่ะครับ แต่อันนั้นจะต้องอาศัยผู้ที่เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก และชาวพุทธช่วยกัน อย่างในสมัยพุทธเจ้านั่นแหละครับ ที่โปรดโจร 500 ซึ่งโจรเองก็ไม่ได้นับถือพุทธ แต่นับถือเจ้าแม่กาลี แต่ว่าลักษณะการเผยแผ่อาจจะต้องให้เหมาะกับคนในศาสนานั้น เมื่อทำอย่างนั้นแล้ว ผมคิดว่าบางคนจะต้องเกิดศรัทธา สามารถเปลี่ยนความเห็นผิดของตนให้มาเป็นความเห็นที่ถูกต้องได้ครับ

และผมก็เห็นด้วยกับคุณนะครับที่บอกว่าสมัยนี้ไม่ใช่ยุครุ่งเรื่องอภิญญา แต่ก็ยังคิดว่าผู้ที่หยังรู้ และมีอภิญญานั้นยังคงมีอยู่ ผมจึงได้ลองพยายามหาดูจากเพื่อนกัลยาณมิตรครับ เพราะผมคิดว่าหลายคนช่วยกันย่อมจะทำให้พบเจอท่านเหล่านั้นได้มากกว่าหาคนเดียวครับ นี่คือสิ่งที่ผมทำได้ครับ

ขอเพียงได้พยายามอย่างเต็มที่ แม้ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไรครับ

 

ทำได้ แต่ไม่ทำ

ทำไมต้องรอใครครับ ในเมื่อบางคน..ก็ทำได้ เพียงแต่เค้าไม่ทำ

 

ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อนุโมทนา เห็นด้วยกับผมครับ

ผมได้ส่งข้อความจากในเว็ปพลังจิตนี้ไปให้ กรุณาอ่านด้วยนะครับ

 

ผมเคยดูช่องดิสเคิฟเวอรี่ของยูบีซีที่กองทัพในอเมริกามีหน่วยงานนี้อยู่นะครับ
เป็นทหารนั่งสมาธิคอยระบุจุดที่ตั้งของข้าศึกในทะเลทราย...
ผมเห็นด้วยครับหากมีการช่วยเหลือประเทศชาติ
ช่วยกันต่อต้านมันครับไอโจรชั่วอย่ามัวแต่คิดว่าเป็นเรื่องของเวรเป็นเรื่องของกรรม
ถ้าวันนึงมันมาตัดคอลูกเมียคุณถึงในบ้านคุณจะทำไง...

 

ถ้าหน่วยงานี้ทำงานได้ผลจริงอย่างในสารคดี

ทำไมไม่ไปชี้หาที่อยู่ของ บิล ลา เดน ล่ะ

 

เราว่าถ้าจะทำก็ทำได้นะค่ะ

 

> วิธีคิดแบบนี้เหมือนวิธีคิดของพวกนักการทหาร เหมือนพวกอังกฤษ อเมริกัน พวกจอร์จ บุช โทนี่ แบร์ พวกนี้มันบ้าสงคราม มันชอบอ้างตัวว่าเป็นฮีโร่ เป็นตำรวจโลกทหารโลก ส่งทหารไปคุมเชิงไว้ทุกทวีปทั่วโลก ผลิตและพัฒนาอาวุธเป็นว่าเล่น ชอบแทรกแซงการเมืองในประเทศด้อยพัฒนา อ้างว่าส่งทหารไปดูแลไปช่วยเหลือเขา แต่จริงๆแล้วมันไปสร้างฐานอำนาจเพื่อกอบโกยทรัพยากรในประเทศโลกที่สาม และSupply อาวุธให้คนในประเทศด้อยพัฒนาทำสงครามกันเองเพื่อที่มันจะได้ขายได้ทั้งอาวุธและกอบโกยทรัพยากร แถมยังสามารถคุมเชิงทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคนั้นได้อีกด้วย ทำตัวเป็นทั้งพระเอกและผู้ร้ายในคนเดียวกัน เป็นพวกนักฆ่าหน้านักบุญ

ผมคิดว่าคนที่เขามีพลังจิต มีอภิญญาในทางพุทธของเรา เขาไม่ค่อยอยากจะใช้พลังเหล่านี้ไปยุ่งเกี่ยวกับทางโลกสักเท่าไหร่หรอก เขาใช้เพื่อเจริญวิปัสนา คือ เพื่อเห็นโลกตามจริงเพื่อความหลุดพ้นจากโลกียะวิสัย ทั้งสงครามความคัดแย้งและภัยพิบัติต่างๆ มีเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอนิจจัง สังคมมีทั้งยุคที่สงบสุขบ้างยุคที่ขัดแย้งบ้าง มันเปลี่ยนแปลงไปเองตามธรรมชาติของมัน

 

ผมว่าการใช้ความสามารภแบบนี้ก็มีขีดจำกัดเหมือนกันครับ เช่น ถ้ามีการระเบิดเกิดขึ้น ผู้มีความสามารถพิเศษนั้นสามารถตรวจย้อนดูภาพในที่เกิดเหตุได้โดยจักรที่6 และพอที่จะเห็นลักษณะคร่าวๆตามกำลังจิต จึงสามารถพอสันนิฐานได้ว่ามีกี่คน แต่งตัวแบบใด รูปร่างอย่างไร แต่ ก็ยังไม่สามารถระบุถึงตัวบงการ ได้ชัดเจน ดังนั้นการจะจับตัวหัว นั้นเป็นไปไม่ได้

อย่างการทำคุณไสย์ ก็ต้องไช้รูปหรือเส้นผมและชิ้นส่วนวัตถุของเป้าหมายและอีกอย่างผมว่าทางการทหารของไทยเค้าอาจจะมีกลุ่มบุคคลเหล่านี้อยู่แล้วก็ได้... แต่อาจจะยังไม่มีระดับเทพจริงๆ