วิธีบำเพ็ญ "สังข์ทิพย์" การใช้, ข้อจำกัด และอื่นๆ

สังข์ทิพย์เกิดได้ด้วยการบำเพ็ญบารมี
ได้หลายระดับ เมื่อผู้มีบารมีธรรมระดับ
พรหมโลกขึ้นไป สามารถครอบครองได้
และดำรงรักษาไว้ได้นาน ดังนั้น สังข์ทิพย์
จึงสืบทอดให้แก่ผู้สำเร็จระดับพรหมโลก,
โพธิสัตว์ และพระยูไล ก็ได้ เนื่องจากเป็นของ
ทิพย์ที่มีผลต่อ "ธาตุน้ำ" บนโลกมาก ผู้ถือครอง
หากทำผิดพลาดก็ต้องรับกรรมนั้นเอง ไม่อาจ
ปัดความรับผิดชอบได้ และไม่อาจปัดไปให้คนอื่น
ได้ง่ายๆ เพราะสังข์ทิพย์มีจิตวิญญาณของมันเอง
และเลือกนายได้ มันไม่ไปกับคนที่ไม่ควรคู่กับมัน


เทพบางองค์ดูแลไว้เพียงชั่วคราว ก็นำมาถวาย
ให้แก่ผู้มีบารมีธรรมครองต่อไป สืบทอดต่อกันไป
เพราะเหตุนี้ (ไม่อยากรับภาระดูแล และภาระกรรม)

 

สังข์ทิพย์ใช้ทำอะไรได้บ้าง?


1. ล้างอาถรรพ์, ไสยดำ, มนต์ดำ, สิ่งอัปมงคลได้ทุกชนิด
แปรเปลี่ยนเป็นพลังน้ำทิพย์แห่งมงคล (เปลี่ยนอัปมงคลให้
เป็นมงคล) ทว่า ขึ้นอยู่กับกำลังจิตของผู้บำเพ็ญด้วย โดย
ผู้บำเพ็ญมักมีจิตใจใสซื่อ แต่ถูกดึงลงไปเกลื้อกกลั้วกับสิ่งที่
มืดมิดทีละน้อย เมื่อชะระได้ระดับน้อยแล้ว ก็จะได้ระดับสูงขึ้น
แก่กล้าขึ้นไปตามลำดับ (เจอพลังดำที่ร้ายกาจขึ้นไปเป็นขั้นๆ)
สังข์ทิพย์จึงเป็นของดีที่เหมาะสำหรับ "พราหมณ์ผู้ทำพิธีมงคล"
มากที่สุด เพราะทำแล้วขึ้น ทำแล้วมงคล เปลี่ยนอัปมงคลสิ้นได้

2. เรียกน้ำ หรือถ่ายเทธาตุน้ำให้มากขึ้นบนโลก ซึ่งผู้ได้ครอง
แรกๆ มักไม่ทันระวัง ถ้าสังข์ทิพย์มีอำนาจมาก เพียงแค่มีกามแต่
เล็กน้อย พลังธาตุน้ำจำนวนมากจะกำเริบ บ้างทำให้น้ำท่วมได้ทั่ว
ทั้งภาค เช่น ภาคเหนือ เป็นต้น ดังนั้น ผู้ถือครองสังข์ทิพย์ จำต้อง
ระวังใน "ความรักใคร่" อย่างยิ่ง เพราะถ้ากามกำเริบ ธาตุน้ำก็จะ
กำเริบเช่นกัน สิ่งนี้ เป็นไปตามจิตใจผู้ถือครองทั้งนั้น ไม่อาจกำหนด
จากความคิดได้ เช่น คิดอยากให้เป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับใจ
มีกามมากหรือน้อย เมตตามากหรือน้อย ฯลฯ (ถ้าเมตตามาก จะหลั่ง
น้ำทิพย์ชำระบาปมนุษย์ได้ จิตวิญญาณบาปที่ดำมืดจะสลายแล้วเกิด
ใหม่ ตามคำสอนของพระเยซู เรื่องการกำเนิดใหม่ เช่นกัน)

3. เก็บคลังปัญญา เนื่องจากสังข์ทิพย์จะมีปัญญา, คลังข้อมูลมากขึ้น
ทุกครั้งที่สามารถชำระพลังดำได้ เปลี่ยนพลังดำเป็นปัญญาได้ ดังนี้ ยิ่ง
กล้าเข้าหาพลังดำ, ความมืดมน, สิ่งชั่วร้าย กลับยิ่งทำให้สังข์ทิพย์แก่
กล้าขึ้น และมีปัญญา มีคลังความรู้มากขึ้น เหมือนระบบเก็บข้อมูลของ
คอมพิวเตอร์ แต่จะเก็บไว้ลึก ผู้ใช้ต้องหมุนคล้ายการหมุนจักร ดึงเอา
ข้อมูลที่เก็บไว้ก้นบึ้งออกมา หรือถูกบีบ กดดันอย่างหนัก เพื่อบีบเอา
ปัญญาที่ซ่อนลึกนั้นออกมา จึงใช้ได้

 

ปัญหาที่ผู้มีสังข์ทิพย์อาจต้องพบเจอ


1. สังข์ทิพย์ทำให้เป็นคนเก็บตัว หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ในบ้าน
หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์, คลังข้อมูล, หรือห้องสมุดมากมาย
ข้อนี้ พบมากและแก้ได้ยาก (ถึงขั้นแก้ไม่ได้เลย)

2. พลังดำ ที่จะเข้ามาหาเอง คนที่มีพลังดำ จะเข้ามาหาผู้ที่มี
สังข์ทิพย์ แล้วจะกลายเป็นอาหารของสังข์ทิพย์ เหมือนหอยที่
กินดินเลนเป็นอาหารนั้น

 

วิธีบำเพ็ญสังข์ทิพย์


บำเพ็ญ "ทองเลน" ดูดซับพลังดำแล้วชำระให้บริสุทธิ์
มากขึ้นๆ ปราณธาตุจะสั่งสมมากพอ แล้วบำเพ็ญรูปฌาน
ต่อ ปราณธาตุที่ไร้รูป จะก่อตัวมีรูป เป็นสังข์ทิพย์ แต่ถ้า
บำเพ็ญเกิดแล้ว จะไม่อยู่กับตัวเอง จะต้องถ่ายทอดต่อ
(ผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้รักษา) หรือบำเพ็ญบารมีในทางการชำระ
ล้างพลังดำไว้ ก็จะมีผู้นำมาให้ หรือเทพนำมาให้ แต่จะไม่
บอกตรงๆ เพราะเจ้าตัวเองก็อาจไม่รู้ แต่ทำไปโดยธรรมชาติ

 

ข้อสังเกตุ


สังข์ทิพย์ไม่ได้ใช้ปราณธาตุน้ำเป็นต้นพลัง
ดังนั้น ผู้ครองสังข์ทิพย์ ไม่จำเป็นต้องดึงเอา
พลังธาตุน้ำเข้ามา สังข์ทิพย์ใช้ปราณดำเป็น
อาหาร เมื่อมีอาหารแล้ว ธาตุน้ำบริสุทธิ์ จะ
เกิดเองในสังข์ทิพย์นั้น (จากการชำระพลังดำ)
ข้อนี้ควรเข้าใจด้วย


อนึ่ง เยาวชนไทยที่ขลุกอยู่หน้าจอคอมฯ และ
เกลือกกลั้วอยู่กับความมืดมน ไม่ชอบออกจาก
บ้าน ก็เข้าข่าย สามารถบำเพ็ญสังข์ทิพย์ได้

 

สังข์ทิพย์ไม่ได้มีอันเดียว


เหมือนหอยก็ไม่ได้มีตัวเดียว มารก็ไม่ได้มีตนเดียว
สังข์ทิพย์มีมาก แต่จะมีเพียง 1 อันที่เป็นยอดแห่ง
สังข์ทิพย์ ซึ่งอยู่คู่ผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิ สืบทอดต่อ
มาหลายยุคสมัย สังข์ทิพย์อันนี้ อายุมาก กำลังมาก
จึงมีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดในบรรดาสังข์ทิพย์ทั้งหมด

 

ตรี, คทา, จักร, สังข์


อาวุธทิพย์ทั้งสี่ มักปรากฏด้วยกัน บำเพ็ญบารมีร่วมกัน
(นั่นหมายถึงว่าใครมีสิ่งเหล่านี้ ก็จะได้พบเจอกันด้วย)
โดย ตรีคุมธาตุไฟ, คทาคุมธาตุดิน, จักรคุมธาตุลม,
สังข์คุมธาตุน้ำ


ในบรรดาอาวุธทิพย์ทั้งสี่ มี "คทา" ที่บำเพ็ญพิสดารกว่า
อย่างอื่น คือ คทาแรกเริ่มเดิมทีไม่มี "หัวคทาเป็นดวงแก้ว
มณี" จนเมื่อผู้ถือคทาได้พบนางแก้ว ผู้ครองดวงแก้วมณี
นางแก้วบำเพ็ญบารมีอ่อนด้อยกว่า ผู้ถือคทาไม่อ่อนด้วย
ใจรักใคร่ ก็จะได้ดวงแก้วมณีนั้นมาเป็นหัวคทา เมื่อนั้น ก็จะ
สามารถนำทางผู้คน ชี้แนะแนวทางให้เห็นทางออกและเดิน
นำพาผู้คนทั้งหลายไปสู่ทางที่สว่างไสวได้อย่างสมภาคภูมิ
ตัวอย่าง ผู้ใช้คทาในตำนานคือ "โมเสส" นั่นเอง

 

การสร้างบ้านแปลงเมือง ต้องอาศัยคทา ตามมาด้วยจักร


เริ่มจากผู้ถือคทาแม่นมั่น ตั้งปณิธานเลือกจุดหมายแล้วปักลงดิน
เป็นศูนย์กลางใจ, ศูนย์กลางแผ่นดิน, ศูนย์กลางบ้านเมือง เป็นที่
รวมใจคนได้แล้ว แต่จะถอนออกไม่ได้ เขาก็จะกลายสภาพเป็น
"เสาเอกของบ้านเมือง" ที่รวมใจคน แต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้
จำต้องอาศัย "ลูกเขยผู้ถือครองจักรทิพย์" มาเป็นผู้หมุนจักรขับส่ง
แรงให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้า การปกครอง การเดินงานต่างๆ
จึงจะดำเนินไปได้ ราบรื่น เหมือนกลจักรของเครื่องจักรที่จะต้องมี
"ล้อเพลา" และ "ตัวจักร" ประกอบกัน บ้านเมืองจึงจะเกิดได้


นี่คือ การสร้างบ้านแปลงเมืองของคนโบราณ ที่ไม่เคยถ่ายทอดสู่
คนชั้นรากหญ้ามาก่อน เพราะเป็น "หลักสูตรลับเฉพาะลูกหลายกษัตริย์"
เท่านั้น นั่นเอง


อนึ่ง "จักรและตรี" ประสานกัน ก็ไม่เท่า จักรกับคทา ตรีนั้นมีอำนาจใน
การปฏิวัติหรือปฏิรูปก็ได้ แต่ไม่อาจให้ความมั่นคงแก่อาณาจักรได้เลย
เป็นของแรงมาก มีฤทธิ์ทำลายได้มาก แต่ไม่สร้างความมั่นคงได้เหมือน
คทา การก่อร่างสร้างบ้านเมือง จึงไม่ควรเริ่มต้นด้วย "จักรตรี" แต่ต้อง
ประสานกันจากมหาบุรุษสองคนที่มี "จักรและคทา" นั่นแล จึงดีแท้...

 

เสามังกร ยังมีอานุภาพไม่เท่า "เสาจักร" (คทา + จักร)


เมื่อนำคทาปักลงดินแล้วอธิษฐานจิตตั้งบ้านแปลงเมือง คทานั้นก็
ขยายใหญ่ขึ้นด้วยฤทธิ์เดชเป็น "เสาหลักเมือง" ศูนย์กลางประเทศ
จากนั้น อาศัยจักรประสานหมุนขับเคลื่อนไป บ้านเมืองจึงดำเนินไป
ได้ด้วยดี ยิ่งกว่า "เสามังกร" เสียอีก เพราะเสามังกร ขับเคลื่อนด้วย
เศรษฐกิจเพียงขาเดียว เป็นสำคัญ แต่ "เสาจักร" เป็นเสาแห่งการ
ปกครอง ที่ครอบคลุมทุกด้าน ในจักร 12 ซี่ ปรากฏมี 12 นักษัตร
ได้แก่ เทพมังกร อีกด้วย (ดังนั้น จึงมีอานุภาพ 12 เท่าของเสามังกร)
อนึ่ง เทพมังกรนี้ เป็นจักรพิเศษพลังงานใหม่ ไม่อ่อนแอเหมือนดัง 12
นักษัตรเดิม

 

เนื้อหาเหล่านี้ เราท้าได้ว่า "หายาก" แม้ท่านจะเพียร
ไปหาจากพระผู้สงฆ์แก่กล้าคนใดในประเทศนี้ ก็ "ไม่
พบเจอ" ทว่า เรามิได้กล่าวไว้ทั้งหมด


การกระทำที่ไม่รู้จริง ไม่รู้ทั้งหมด จะนำภัยมาสู่ตัว
ก่อนจะทำ ก็ควรรู้ให้จริง จึงทำได้สำเร็จ


เราเตือนท่านผู้อ่านเพียงเท่านี้...

 

"เสาจักร" หน้าตามันเป็นยังไงหรอครับ

 

ทั่วโลกตอนนี้ มีผู้นำประเทศๆ เดียวที่กำลังบำเพ็ญแบบนี้
คือ "ภูฎาน" พระราชาจิกมี่ได้คทาแล้ว แต่หัวคทาไร้แก้ว
มณี มีพระลามะรูปหนึ่งในประเทศนั้น กำลังบำเพ็ญจักร


แต่ "มันไม่สำเร็จง่ายๆ หรอกนะ" ถ้าง่ายไป มันก็ไม่สนุกนะสิ...

 

แล้วใครเป็นผู้บำเพ็ญ แล้วใครเป็นผู้ดูแล แล้วสังข์มีส่วนช่วยสร้างบ้านแปลงเมืองอย่างไร

 

เข้ามาขำ 555555555555

 

มาสิกล่าวบทไปเมื่อหน้าโพ้นแหล้ว
คือจั่งมาแจ้งแถลงไขให้ไขข้องแท้หน้อพ่เอ้ย
แนวสิซอยคือมีแต่คำเว้าจาต้านข่อยสิฮู้อยู่บ่หน้อ
ไผ่เด้หน้อบำเพ็ญเพียรสร้างสังข์ทิพย์อยู่
คัดเจ้าบ่บอกเพิ่นซิฮู้ ข้อยกะซิฮู้ได๋ฮ่อมได๋แท้แหล้ว
คือจั่งบ่ไขข้องทำนองแถลงไขจักหน่อยแหน่
จักสิได๋ฮู้ป่องนั่นไขได๋แนวเงื่อนงำนั่นแหล้ว
บ่แม้นว่า จาทิ้มไว้แล้วเปิดหลี้หนี้ไปจ้อยดอกหว้า
เฮ็ดคือจั่งเก่าผู้ข้าว่ามันพอกะเทินโพดดอกตี้
มาเทื่อนี้คูบาบ่าท้าวพญาขอให้แจ้งแก่นแท้ แด่เด้อดอกคำจา นั่นแหล้ว

 

จะเรียกอะไรก็ได้ครับแต่ในทางศาสนาพุทธก็มีกล่าวไว้เช่นกันว่ามีมาก่อนยุคพุทธศาสนา คนที่มีไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่ปฐิบัติกันไม่ถูกต้องกันไม่ได้กินอาหารทางมนต์ดำอย่างเดียวที่เข้าใจ และสามารถสลายพลังหรือถ่ายเทได้ท่ารู้จัก Grounding

 

4 กุมาร หาญกล้าาาา ตรี, คทา, จักร, สังข์

 

อะไรยังไง