ศน.เตือน!! ระวังมือดีแอบขายพระไตรปิฎก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) เปิดเผยถึงกรณีมีผู้นำพระไตรปิฏก ฉบับประชาชน ตอนว่าด้วยพระสูตร ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)ได้จัดพิมพ์ขึ้นไปวางจำหน่ายตามร้านหนังสือบางแห่ง ว่า ขณะนี้ตนได้ข้อมูลมาว่ามีผู้นำพระไตรปิฏกฉบับดังกล่าว ไปวางจำหน่ายตามร้านหนังสือแถวบริเวณท่าพระจันทร์ ซึ่งมีการตั้งราคาจำหน่ายสูงตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันบาท เนื่องจากพระไตรปิฏกฉบับดังกล่าวที่ศน.จัดพิมพ์ขึ้น จำนวน 30,000 เล่มได้แจกจ่ายจนหมดแล้วและยังมีประชาชนที่ยังต้องการได้ไว้ศึกษาหลักธรรมคำสอนอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้ไม่หวังดีบางกลุ่มอาศัยช่วงจังหวะดังกล่าวมาหาผลประโยชน์กับพี่น้องชาวพุทธด้วยกันเอง

นายปรีชา กล่าวต่อไปว่า ทางศน.จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าหนังสือพระไตรปิฏก ที่ศน.จัดพิมพ์ขึ้นนั้นแจกให้แก่ประชาชนฟรีๆ ไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใด และประชาชนอย่าหลงเชื่อให้การสนับสนุนบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของพระไตรปิฏก ทั้งนี้พระไตรปิฏกฉบับดังกล่าว มีการระบุไว้อย่างชัดเจนที่ปกหน้า ด้านล่าง และที่ปกใน ว่าห้ามจำหน่าย จึงขอให้พี่น้องประชาชนสังเกตจากปกหนังสือด้วย นอกจากนี้ ศน.กำลังจัดหางบประมาณในการจัดพิมพ์พระไตรปิฏกเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะจัดพิมพ์ได้อีก 20,000 เล่ม เพื่อไว้แจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนอีกครั้ง โดยผู้ใดที่มีความประสงค์จะขอรับพระไตรปิฏกฉบับดังกล่าวสามารถมาลงชื่อไว้ได้ที่กรมการศาสนา เพื่อที่ทางกรมจะได้ทราบจำนวนว่าประชาชนมีความต้องการมากน้อยแค่ไหน