สวดอุปปาตะสันติ

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 9 เมษายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table border="0" width="550"><tbody><tr><td>คัดลอกเฉพาะตรงคำเริ่มต้นคัมภีร์ กับตรง อานุภาพของอุปปาตะสันติมาให้อ่านครับ
    อุปปาตะสันติ (บทสวดสงบเหตุร้าย)

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    คันถารัมภะ (คำเริ่มต้นคัมภีร์)

    สุทุททะโส อะยัง ธัมโม โลกัตถัง ชินะเทสิโต
    มะหาสันติกะโร โลเก สัพพะสัมปัตติทายะโก
    ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก เป็นธรรมที่เห็นได้ยากยิ่ง สำหรับธรรมที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นธรรมที่สามารถกระทำความสงบอันประเสริฐ และสามารถประทานซึ่งสมบัติทั้งปวง

    สัพพุปปาตูปะสะมะโณ ภูตะยักขะนิวาระโณ
    อะกาละมัจจุสะมะโณ โสกะโรคะวินาสะโน
    เป็นเครื่องสงบเหตุร้ายทั้งปวง เป็นเครื่องป้องกันอมนุษย์และยักษ์ เป็นเครื่องระงับความตายก่อนกำหนดเวลา เป็นเครื่องขจัดความเศร้าโศกและโรค

    ปะระจักกะปะมัททะโน รัญโญ วิชะยะวัฑฒะโน
    สัพพานิฎฐะหะโร สันโต ธัมมัง วักขามิ ภูตะโต
    เป็นเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก เป็นเครื่องจำเริญชัยชนะแด่พระราชา เป็นเครื่องนำสิ่งที่ไม่ปรารถนาทั้งปวงออกไป เป็นธรรมอันประเสริฐ ข้าพเจ้า (พระสีละวังสะมหาเถระ) จักแสดงคุณธรรมเช่นนั้น ตามสภาพที่เป็นจริง

    วัตถุตตะยัสสะ โย ยัตถะ สังวัณเณติ คุณุตตะเม
    ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคฺยะ- โสตถิโย โหนติ สัพพะทา
    ณ ที่ใด มีผู้กล่าววาจาสรรเสริญพระคุณอันประเสริฐของพระรัตนตรัย ด้วยจิตที่เลื่อมใส ณ ที่นั้น ความสุข ความสบายและความสวัสดี ย่อมมีแก่ผู้นั้นตลอดกาลทุกเมื่อ

    อานุภาพของอุปปาตะสันติ

    อิจเจวะมุปปาตะสันติง โย วะเทยยะ สุเณยยะ วา
    วิเชยยะ สัพพะปาปานิ วุทธัตตัญจะ ภะวิสสะติ
    ผู้ใดสวด หรือฟังคัมภีร์ อุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้ จะพึงชนะบาปทั้งปวง และจักเจริญด้วยคุณ 5 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฎิภาณ

    โสตถิกาโม ละเภ โสตถิง สุขะกาโม สุขัง ละเภ
    อายุกาโม ละเภยยายุง ปุตตะกาโม ละเภ สุเต
    ผู้ใดปรารถนาความสวัสดี พึงได้ความสวัสดี ผู้ปรารถนาความสุข พึงได้ความสุข ผู้ปรารถนาอายุ พึงได้อายุ ผู้ประสงค์บุตร พึงได้บุตร

    นะ ตัสสะ โรคา พาเธนติ วาตะปิตตาทิสัมภะวา
    อะกาละมะระณัง นัตถิ นะ เทโว วิสะโมสะเร
    โรคที่เกิดจากลม จากดีเป็นต้น ย่อมไม่เบียดเบียนบุคคลนั้น ความตายในกาลอันไม่สมควร ย่อมไม่มีแก่บุคคลนั้น มิจฉาเทวดาย่อมไม่รังแกต่างๆนาๆ

    นะ จุปปาตะภะยัง ตัสสะ โนปิ ปัตตะภะยัง ตะถา
    นัสสันติ ทุนนิมิตตานิ ปาปะกัมมัฎฐิตานิ จะ
    ทีฆะมายุ มะหาโสตถิง อาโรคฺยัญจะ สะทา ภะเว
    เคราะห์ร้ายและภัยย่อมไม่มีแก่เขา นิมิตร้ายและสิ่งที่ตั้งขึ้นเพราะบาปกรรมย่อมพินาศไป ความมีอายุยืน ความสวัสดีอันประเสริฐ และความไม่มีโรค จะพึงมีแก่เขาในกาลทุกเมื่อ

    โย สุตฺวาปิ มะหาสันติง สังคามัง ปะวิเส นะโร
    วิชะเย เวริโน สัพเพ นะ สัตเถหยะภิภูยะเต
    ผู้ใดฟังคัมภีร์อุปปาตะสันติอันประเสริฐแล้ว พึงเข้าไปสู่สมรภูมิ บุคคลนั้นอันศาสตราไม่กล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล

    สัพพะทา ละภะเต ปีติง วิปัตติง นาวะคาหะติ
    โรเคหิ นาภิภูยะเต สะวัตถูหิ วิวัฑฒะเต
    เขาย่อมได้ซึ่งความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ ความวิบัติ ย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมไร้โรคา ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร

    ยัตฺระ เทเส วะโกวะกา พาฬหะกา รักขะสาทะโย
    อุปปาตะสันติโฆเสนะ สัพเพ ตัตถะ สะมันติ เต
    สัตว์ร้ายน้อยใหญ่ และรากษส เป็นต้น ผู้อยู่ในป่าเขาลำเนาไพรทั้งหลายทั้งปวง ย่อมสงบด้วยเสียงแห่งการสวดคาถาอุปปาตะสันติ

    ยะมุททิสสะ วะเท สันติง สะชีวัญจาปยะชีวิตัง
    โส มุจจะเต มะหาทุกขา ปัปโปติ สุคะติง สะทา
    บุคคลสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ อุทิศให้ผู้ใดที่มีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่ บุคคลนั้นย่อมพ้นจากมหันตทุกข์ ย่อมเข้าถึงสุคติภพในกาลทุกเมื่อ

    เทวัฎฐาเน นะคะเร วา นิจจะมุปปาตะสันติยา
    ปาละกา เทวะราชาโน เตชะสิรีวิวัฑฒะนา
    ท้าวเทวราชทั้งหลายผู้ปกปักรักษาเนืองนิจ ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ หรือในพระนคร เป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล ด้วยคัมภีร์อุปปาตะสันตินี้

    ปะฐัพฺยาปาทิสัญชาตา อุปปาตา จันตะลิกขะชา
    อินทาทิชะนิตุปปาตา ปาปะกัมมะสะมุฎฐิตา
    สัพพุปปาตา วินัสสันติ เตชะสุปปาตะสันติยาติ
    เหตุร้ายอันเกิดจากแผ่นดินไหว และน้ำท่วม เป็นต้น เหตุร้ายที่เกิดจากฟากฟ้า เหตุร้ายอันเกิดจากจันทรุปราคา เป็นต้น เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจากบาปกรรม เหตุร้ายทั้งปวงเหล่านั้นจักพินาศไป ด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ

    คัดลอกมาจากหนังสือ "อิติปิโส ภควา" เรียบเรียงโดยคุณ อภิณัฎฐ์ กิติพันธุ์ ชมรมชีวานุภาพ

    </td> </tr> <tr align="right"> <td>
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. ชุติพนธ์ แจ่มอุลิตรัตน์

    ชุติพนธ์ แจ่มอุลิตรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +314
    อนุโมทนาพี่รินนน มากเลยครับ ที่นำบทสวดมนต์ดีๆมาเผยแพร่
     
  3. trilakbooks

    trilakbooks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +414
    หนังสือสวดมนต์ อุปปาตะสันติ

    [​IMG]
    หนังสือบทสวดมนต์คัมภีร์อุปปาตะสันติหรือมหาสันติงหลวงบทสวดที่สงบความร้ายให้กลายเป็นความดีหนึ่งในบทสวดมงคลที่แนะนำ

    อุปปาตะสันติ แปลว่า

    บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบ

    สิ่งที่กระทบกระเทือน

    เนื้อความ อุปปาตะสันติ สรุปได้ว่า

    เป็นธรรมที่กระทำความสงบอันยิ่งใหญ่

    เป็นธรรมเครื่องสงบเหตุร้ายทั้งปวง

    เป็นธรรมเครื่องป้องกันอมนุษย์ และยักษ์

    เป็นธรรมเครื่องพ้นจากความตายก่อนกำหนดเวลา

    เป็นธรรมเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก

    เป็นธรรมเครื่องจำเริญชัยชนะแด่พระราชา

    เป็นธรรมเครื่องนำสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาทั้งปวงออกไป...

    ...................................................................................



    คัมภีร์อุปปาตะสันติภาษาบาลีนี้ มีคำชี้แจงเพื่อทราบประวัติย่อต่อไปนี้
    ๑. อุปปาตะสันติ แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ คำ ๑ และ สันติ คำ ๑ อุปปาตะ แปลว่า

    เคราะห์กรรม, เหตุร้าย, อันตราย และแปลว่าสิ่งกระทบกระเทือน อุปปาตะสันติ แปลว่า

    บทสวดสงบเคราะห์กรรม แปลว่าบทสวดสงบอันตราย แปลว่าบทสวดสงบเหตุร้าย

    และแปลว่าบทสวดสงบสิ่งกระทบกระเทือ ๒. คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณคดีบาลีลานนาไทย

    พระสีลวังสะมหาเถระ แต่งที่เชียงใหม่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง

    พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๐๑๐ เป็นคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา
    จัดเข้าในหนังสือประเภท “เชียงใหม่คันถะ”



    คือ คัมภีร์เชียงใหม่มีอายุประมาณ ๖๐๐ ปีเศษแล้ว
    มีคำเล่าว่า สมัยแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เมืองเชียงใหม่นั้นมีโจรผู้ร้ายและ
    คนอัทธพาลชุกชุมมากผิดปกติมีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยูเสมอ พระสีลวังสะ จึงให้พระสงฆ์
    สามเณรและประชาชนพากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ
    เพื่อกลับร้ายให้กลายเป็นดี มีผู้เลื่อมใสคัมภีร์นี้มาก
    และถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาชาวพม่ามีความเลื่อมใสนำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า เข้าใจว่านำเข้าไป
    ที่เมืองอังวะก่อนแล้วแพร่หลายไปทั่วประเทศพม่าสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว
    ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชนถือว่า
    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก นิยมท่อง
    นิยมสวดและนิยมฟังอย่างกว้างขวาง มีคำเล่ากันว่า สมัยหนึ่งพวกจีนมาตีเมืองอ้งวะ
    ประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์ ข้าราชการ และประชาชนพากันสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ พวกจีนได้ฟังอุปปาตะสันติโฆษณาคือ
    เสียงกึกก้องของอุปปาตะสันติ ก็มีความกลัวแล้วพากันหนีกลับไป


    ๓. บุคคลและสภาวะที่อ้างถึงในคัมภีร์อุปปาตะสันติมี ๑๓ ประเภทคือ
    ๓.๑ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตถึงปัจจุบัน (เน้นที่ ๒๘ พระองค์)
    ๓.๒ พระปัจเจกพุทธเจ้า
    ๓.๓ พระพุทธเจ้าในอนาคต
    ๑ พระองค์ คือ พระเมตไตรย ๓.๔ โลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑ ๓.๕ พระสังฆรัตนะ
    ๓.๖ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป ๓.๗ พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป ๓.๘ พยานาค ๓.๙ เปรตบางพวก
    ๓.๑๐ อสูร ๓.๑๑ เทวดา ๓.๑๒ พรหม ๓.๑๓ บุคคลประเภทรวม เช่น เทวดา ยักษ์ ปีศาจ
    คือผีที่ทำสิ่งใดๆ อย่างโลดโผน และวิชชาธรหรือพิทยาธร(สันสกฤตเรียกวิทยาธร)
    ถ้าเป็นภาษาอังกฤษเรียกพวก เซอเร่อคือพ่อมด แม่มด หรือผู้วิเศษ พวกวิชชาธร
    เป็นพวกรอบรู้เรื่องเครื่องรางและเสน่ห์ต่างๆ สามารถไปทางอากาศได้
    เรื่องราวเย็นอกเย็นใจที่สังคมมุ่งหวังและเสาะแสวงหา ที่กล่าวถึง ในคัมภีร์อุปปาตะสันติ
    มีประการที่สำคัญ ๓ อย่างคือ

    ก. สันติหรือมหาสันติ ความสงบ ความราบรื่น ความเยือกเย็น ความไม่มีคลื่น
    ข. โสตถิ ความสวัสดี ความปลอดภัย ความเป็นอยู่เรียบร้อย หรือตู้นิรภัย
    ค. อาโรคยะ ความไม่มีสิ่งเป็นเชื้อโรค ความไม่มีโรคหรือความมีสุขภาพสมบูรณ์


    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีข้อความขอความช่วยเหลือ ขอให้พระรัตนตรัยและบุคคล
    พร้อมทั้งสิ่งทรงอิทธิพลในจักรวาลรวม ๑๓ ประเภทดังกล่าวมาแล้วช่วยสร้างสันติ
    หรือมหาสันติ ช่่วยสร้างโสตถิและอาโรคยะ ช่วยปรุงแต่งสันติและอาโรคยะ
    ขอให้ช่วยรวมสันติ รวมโสตถิและรวมอาโรคยะ และขอให้ช่วยเป็นตู้นิรภัยคุ้มครองและ
    กำจัดเหตุร้ายอันตรายหรือสิ่งกระทบกระเทือนต่างๆ อย่าให้เกิดมีในตน ในครอบครัว
    ในหมู่คณะ หรือในวงงานของตน และในวงงานของคนอื่นทั่วไป
    ๔. อานิสงฆ์การสวดและการฟังอุปปาตะสันติ มีคุณประโยชน์ตามที่กล่าวไว้ ในท้ายคัมภีร์ มีดังนี้


    ๔.๑ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมชนะเหตุร้ายทั้งปวงได้ และมีวุฒิภาวะคือ
    ความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ

    ๔.๒ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมได้ประโยชน์ที่ตนต้องการ คือ
    ผู้ประสงค์ความปลอดภัยย่อมได้ความปลอดภัย คนอยากสบายย่อมได้ความสุขฃ
    คนอยากมีอายุยืน ย่อมได้อายุยืน คนอยากมีลูก ย่อมได้ลูกสมประสงค์

    ๔.๓ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมไม่มีโรคลมเป็นต้นมาเบียดเบียน
    ไม่มีอกาละมรณะคือตายก่อนอายุขัย ทุนนิมิตรคือลางร้ายต่างๆมลายหายไป

    ๔.๔ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ เมื่อเข้าสนามรบย่อมชนะข้าศึก ทั้งปวงและแคล้วคลาดจากอาวุธทั้งปวง

    ๕. เดชของอุปปาตะสันติ การสวดอุปปาตะสันติเป็นประจำ ย่อมมีเดชดังนี้

    ๕.๑ อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน
    อันเกิดจากแผ่นดินไหวเป็นต้น ย่อมพินาศไป (ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา)

    ๕.๒ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน
    อันเกิดจากลูกไฟที่ตกจากอากาศหรือสะเก็ดดาว ย่อมพินาศไป (อุปปาตะจันตะลิกขะชา)

    ๕.๓ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน
    อันเกิดจากการเิกิดจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา เป็นต้น ย่อมพินาศไป (อินทาทิชะนิตุปปาตา)

    ๖. คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นคัมภีร์ไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทย
    ไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่า คนไทยสมัยหลังไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ
    ข้าพเจ้าจึงชำระและจัดพิมพ์เป็นอักษรไทย ด้วยวิธีเขียนให้คนอ่านคำบาลีทั่วไป สำหรับต้นฉบับนั้น
    ข้าพเจ้ามีแต่ฉบับเมืองพม่า และเป็นอักษรพม่า โดยท่านอาจารย์ธรรมานันทะธัมมาจริยะ ครูพระไตรปิฏก
    ประจำวักโพธาราม ได้กรุณาถวาย ข้าพเจ้าจึงขอขอบคุณอย่างยิ่งไว้ในที่นี้



    การที่ข้าพเจ้าได้ชำระและจัดพิมพ์อุปปาตะสันติ เป็นอักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรกนี้
    ข้าพเจ้าถือว่าเป็นการนำคัมภีร์ไทยโบราณกลับคืนสู่เมืองไทย เพื่อให้คนไทยได้รู้จัก
    ได้ศึกษา ได้สวด และได้ฟังให้เกิดประโยชน์ทางสันติ ทางโสตถิและทางอาโรคยะ
    สืบไป ในที่สุดนี้ข้าพเจ้าขอถือโอกาสเชิญชวนมวลพุทธศาสนิกชนชาวไทย
    พร้อมกันยกมือสาธุแสดงความชื่นชมโสมนัสต่อการกลับมาโดยสวัสดีของคัมภีร์อุปปาตะสันติ
    โดยทั่วกันทุกท่านเทอญ



    พระเทพเมธาจารย์ ๗ สิงหาคม ๒๕๐๕ วัดโพธาราม จ.นครสวรรค์

    ........................................................

    อานุภาพของอุปปาตะสันติ

    ผู้ใดสวดหรือฟังอุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้ บุคคลนั้นจะพึงชนะจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

    จะเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน

    ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ ยาพิษและศาสตราวุธย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล

    โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์ อมนุษย์

    และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ย่อมสงบไปด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตะสันติ



    ผู้ที่สวดอุปปาตะสันติแล้วอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปก็ดี ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดี
    จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากมหันตทุกข์

    ย่อมเข้าถึงสุขในกาลทุกเมื่อ ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย
    ท้าวพระยามหากษัตริย์ทั้งหลาย จักเป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล

    ด้วยกฤตยานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ

    เหตุร้ายอันเกิดจากภัยธรรมชาติมีแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น เหตุร้ายอันเกิดจากฟากฟ้า

    เหตุร้ายอันเกิดจากสุริยุปราคา จันทรุปราคา เหตุร้ายอันเกิดจากบาปกรรม
    เหตุร้ายทั้งปวงจักพินาศไปด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ

    ....................................................................................


    ศูนย์เผยแพร่พระไตรปิฎกและหนังสือพระพุทธศาสนา ขอ

    กราบเรียนเชิญชวน ร่วมพิมพ์ หนังสือบทสวดมนต์อุปปาตะสันติ มหาสันติงหลวง
    หนังสือบทสวดมนต์คัมภีร์อุปปาตะสันติหรือมหาสันติงหลวงบทสวดที่สงบความร้ายให้กลายเป็นความดีหนึ่งในบทสวดมงคลที่แนะนำ


    เบอร์โทรศัพท์ติดต่อโดยตรง . 086-461-8505, 087-696-7771, 085-819-4018,

    081-424-0781, 02-482-7358
     
  4. trilakbooks

    trilakbooks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +414

แชร์หน้านี้

Loading...