สะบัดครีบ แหวกว่าย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 18 กันยายน 2007.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สะบัดครีบ แหวกว่าย
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000075859
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 มิถุนายน 2550 13:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การเลี้ยงปลาสวยงามนิยมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในบ้าน อาคารสำนักงาน อาพาร์ตเมนต์ ภายใต้รูปแบบที่แตกต่างกันไปทั้งปลาบ่อ และปลาตู้ การเลี้ยงปลาสวยงาม เป็นพัฒนาการมาจากการนำปลามาเลี้ยงไว้ในบ่อที่สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นอาหาร เมื่อปลาบางชนิดมีความสวยงาม ก็เลยเกิดความคิดที่จะเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน แทนที่จะจับกินเป็นอาหารอย่างเดียว และปลาบ่อก็พัฒนาเป็นปลาตู้ จนกระทั่งมีการดีไซน์ตู้ปลาแปลกแหวกสไตล์เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่มีพื้นที่แตกต่างกัน

    จากการเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน แก้เหงา บางคนยังเพาะขยายพันธุ์ปลาให้กลายเป็นธุรกิจของครอบครัว เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่ส่งออกปลาสวยงามเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย

    การเลี้ยงปลาครอบคลุมถึงองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อพันธุ์ปลา, การตกแต่งตู้ปลาให้ดูสวยงาม, การจัดตู้ปลาที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย และการเลี้ยงดูปลาให้มีชีวิตที่ยืนยาวและสะบัดครีบแหวกว่ายโชว์ความสวย

    แน่นอนว่า ในตลาดปลาสวยงามนี้ มีปลาที่ได้รับความนิยมอยู่หลายชนิด เมื่อ Metro Life เอ่ยถาม สมศักดิ์ กีรติบัญชร ประธานที่ปรึกษาชมรมผู้นิยมปลาสวยงามแห่งประเทศไทย ถึง Top Five ของปลา 5 ชนิด ที่นิยมกันแบบต่อเนื่องยาวนาน คำตอบคือ

    ปลาทอง แม้สรีระจะดูสั้น ป้อม ออกท้วมไปหน่อย แต่มีเสน่ห์ ชวนให้หลงใหลในความน่ารัก ในท่าทาง การเลี้ยงปลาทอง เชื่อกันว่า
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปลาทอง
    ตุ้ยนุ้ย ทองประกาย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ด้วยสีสันจัดในเฉดส้ม แดง เทา ดำ และสีขาว ของปลาในสายพันธุ์นี้ คงจะไม่แตกต่างจากเสื้อแบรนด์เนมที่มีคัตติ้งเนี้ยบ อันทำให้ปลาทองมีความ เรียบ หรู โก้ มีราคา และกล้าเชิญชวนสายตาทุกคู่มาทักทาย

    ปลาทอง อยู่ในเผ่าพันธุ์ของปลาไน(Crucian carp) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carassius auratus linn. แต่เดิมนั้นมีชีวิตอยู่ตามแหล่งธรรมชาติ และถูกจับมาเลี้ยงในบ่อ สายพันธุ์เดิม (Common fish) ลำตัวค่อนข้างยาว แบนด้านข้าง หัวสั้นกว้าง และไม่มีเกล็ด เป็นปลาที่อดทน กินอาหารง่าย และลูกดก ไม่ได้จ้ำม่ำและตุ้ยนุ้ยอย่างทุกวันนี้ จีนเป็นประเทศแรกที่สามารถเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ได้สำเร็จ และญี่ปุ่นได้พัฒนาในด้านสีสันและลวดลายในเวลาต่อมาได้สำเร็จ

    สันนิษฐานว่ามีผู้นำปลาเงินปลาทองเข้ามาเลี้ยงครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง เพราะไทยกับ
    จีนเริ่มมีการค้าติดต่อกันในช่วงนั้น

    สายพันธุ์ – พิมพ์นิยม

    ปลาทองสิงห์ตาลูกโป่ง (Bubble eyes goldfish) มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน ญี่ปุ่น เรียกว่า “ซุอีโฮกัน” บอดี้จะคล้ายสิงห์จีน แต่ที่เบ้าตามีถุงน้ำขนาดใหญ่ดูคล้ายลูกโป่งติดอยู่ที่บริเวณใต้ตา ถุงน้ำใต้ตาปรกติจะโปร่งแสงและมีขนาดใกล้เคียงกัน ไม่มีครีบบนหลังปลา มีสีแดง และขาวแซมแดง

    ปลาทองออรันดาหัววุ้น (Dutch lionhead) ญี่ปุ่นเป็นผู้เพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่ และเรียกว่า “ออรันดาชิชิกาชิระ” วุ้นบนส่วนหัวของปลาจะมีมาก และมองเห็นเป็นก้อนกลม มีครีบบนหลังปลา และครีบหางกางแผ่กว้างยาวกว่าปลาสิงห ์มีสีแดง และขาวสลับแดง

    ปลาทองสิงห์สยาม (Siamese lionhead) เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์ให้สวยงามขึ้นมาโดยประเทศไทย ลำตัวมีลักษณะเหมือนสิงห์ลูกผสม แต่มีสีทุกส่วนของลำตัวปลาเป็นสีดำทั้งหมด
    ปลาทองเกล็ดแก้ว (Pearl scale goldfish) ประเทศไทยสามารถเพาะพันธุ์ปลาเกล็ดแก้วหน้าหนู ส่งไปขายทั่วโลก เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นปลาทองที่มีลักษณะแตกต่างจากปลาพันธุ์อื่นๆ มีทรงอ้วนกลมกว่าพันธุ์ริวกิน เกล็ดตามลำตัวปลาเกือบทั้งหมดหนาและแข็งโปนออกมาจากลำตัว มี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เกล็ดแก้วหน้าหนู เกล็ดแก้วหัววุ้น เกล็ดแก้วหัวมงกุฎ

    ปลาทองหัวสิงห์จีน (Chinese lionhead) ลักษณะเด่นของปลาทองหัวสิงห์จีน หัวจะใหญ่กว่าลำตัวมาก ส่วนวุ้นที่หัวมีมากและหนาแน่นกว่าสิงห์สายพันธุ์อื่นๆ โดยในประเทศญี่ปุ่นได้แยกลักษณะวุ้นบนส่วนหัวของปลา เช่น ถ้าวุ้นบนหัวมีขนาดเท่ากันเกือบทั้งหมด เรียกว่า “ชิชิงาชิระ” (Shishigashira) วุ้นมีมากเฉพาะกลางหัวเรียกว่า “โทกิง” (Tokin) วุ้นมีทั้งบนหัวและที่ฝาเหงือกทั้งสองข้างเรียกว่า “โอคาเมะ” (Okame)

    แต่โดยทั่วไปนิยมเรียกปลาที่มีวุ้นบนหัวว่า “รันชู” (Ranchu) ส่วนหลังของปลาลาดโค้งเพียงเล็กน้อยและไม่มีครีบบนหลัง หางจะหนาและใหญ่กว่าสิงห์พันธุ์อื่นๆ และส่วนมากจะมีสีแดง ขนาดใหญ่สุดของตัวปลาอยู่ที่ 20-25 ช.ม.

    ปลาทองริวกิน (Ryukin) เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงกันแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นปลาที่มีรูปทรงและสีสันสวยงาม มีสีแดง ขาวสลับแดง และหลายสี ซึ่งนิยมเรียกว่าปลาริวกิน 5 สี เวลาว่ายน้ำท่าทางสง่างาม ลำตัวอ้วนสั้นเกือบเป็นทรงกลม หน้าแหลม โหนกหลังสูง ส่วนหัวไม่มีวุ้น เกล็ดหนา

    เลือกซื้ออย่างไรไม่โดนย้อม

    ส่วนใหญ่ร้านขายปลาจะเชียร์ว่าปลาตัวนั้นตัวนี้ลักษณะดี แต่เมโทรไลฟ์มีทริกเบื้องต้นในการเลือกซื้อปลาทองไม่ให้โดนย้อมแมว ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานในการเลือกซื้อปลาทองสายพันธุ์ต่างๆ

    - สีสันสดใส เกล็ดเรียงเป็นระเบียบสวยงาม
    - รูปทรงของปลาต้องมีลักษณะเด่นเฉพาะปลาแต่ละชนิด เช่น ถ้าซื้อปลาสิงห์ต้องไม่มีครีบบนหลัง
    - ส่วนหัว ลำตัว และหางที่สมส่วนกัน เวลาว่ายน้ำส่วนหัวไม่ทิ่มลงพื้นหรือว่ายหงายท้อง
    - สุขภาพดีดูได้จากการว่ายน้ำ ตัวไม่ลอยไปตามน้ำหรือลอยคอผิวน้ำเกือบตลอดเวลา
    - สำหรับปลาหัวสิงห์ หลังของปลาจะต้องโค้งสวย ไม่มีปุ่มบนหลังหรือหลังปลาบุ๋มลงไป
    - ครีบและหางของปลาไม่พันงอหรือขาด ครีบมีลักษณะเท่ากัน เวลาว่ายน้ำครีบเบ่งบานสวยงาม ไม่ลู่
    หลังจากที่รู้หลักในการซื้อทีนี้ก็มาถึงขั้นการเลี้ยงปลาให้มีสีสันสวยงาม สุขภาพดี โดยต้องเลี้ยงในตู้ขนาดกว้าง 3 ฟุต ยาว 18 ฟุต (เลี้ยงได้ประมาณ 9 ตัว) และน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาก็น้ำประปาที่เราใช้อยู่ทุกวันนี่แหละครับ แต่ต้องนำน้ำไปพักทิ้งไว้ในโอ่งอย่างน้อย 1-2 วัน แต่ถ้าใจร้อนก็ซื้อยาปรับสภาพความเป็นกรดด่างในน้ำเพื่อให้เหมาะสมกับปลาทอง

    สำหรับอาหารที่เหมาะกับปลาทองที่ช่วยเร่งวุ้น และทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงก็จะมียี่ห้อ ฮาริคาริ (ถุงละ 80-90 บาท) เน้นเร่งสี สารอาหารครบ ฮิคาริไลออนเฮด (ถุงละ 90-100 บาท) เน้นเร่งวุ้นกับสีสันของตัวปลา ไซคอปฟูด (ถุงละ 85 บาท) มีส่วนผสมของโอเมกา ช่วยทำให้เกล็ดของปลามันวาว ตาใส

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านราชาปลาทอง

    ได้ชื่อว่าเป็นกูรูทางด้านปลาทอง ไม่ว่าจะมองหาปลาทองสายพันธุ์ไหนสามารถมาเลือกซื้อได้ที่นี่ โดยพี่ปราณี ฤทธิ์เดชขจร จะคอยให้คำแนะนำ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์ในการเลี้ยงปลาทุกชนิด รวมไปถึงอาหารปลาคุณภาพดี เหมือนกับว่ามาที่นี่คุณสามารถเลี้ยงปลาได้อย่างมืออาชีพ
    ที่ตั้ง 83/1 บางใหญ่ ซิตี้ นนทบุรี กรุงเทพฯ
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-2903-0712

    ************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปลาอโรวาน่า
    ยอดขุนพลแห่งวารี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ต้องบอกว่า ปลาอโรวาน่า (Arowana) นั้นมีทรวดทรงที่น่าเกรงขาม ดวงตานิ่งเหมือนจะจับจ้อง เพ่งมองฝ่ายตรงข้ามอย่างใจจดจ่อ การเคลื่อนตัวบนสายน้ำอย่างเนิบช้านั้น แสดงให้เห็นถึงความสง่างาม และเกล็ดที่เด่นชัดนั้นเหมือนประดุจดั่งเกราะนักรบในสมรภูมิ เมื่อไม่ผิดจากความจริงนี้ ฉายา “ยอดขุนพลแห่งวารี” ย่อมสมควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

    ไม่เฉพาะแต่บอกเล่าความเข้มแข็งผ่านมัจฉาลักษณ์นี้เท่านั้น หากแต่ความจริงแล้ว ปลาอโรวาน่านี้ ยัง
    เลี้ยงง่าย โตไว และอดทนต่อโรคอีกด้วย

    ปลาอโรวาน่า มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า ปลาตะพัด หรือ ปลามังกร ปลานี้อยู่ในครอบครัวออสทีโอกลอสซิดี้ (Osteoglossidae) 7 ชนิด แต่ละชนิดมีถิ่นกำเนิดที่แตกต่างกันไป

    สำหรับใครที่ต้องการปลาอโรวาน่านี้ไว้เลี้ยงดูและครอบครอง ต้องรู้ว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาที่ระบุอยู่ในไซเตส (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ CITES) ปลาอโรวาน่าที่นำมาจากป่าจึงเป็นปลาที่ห้ามซื้อ-ขาย ปลาอโรวาน่าที่เห็นกันส่วนใหญ่จึงเป็นปลาที่ได้รับการเพาะขยายพันธุ์ ปลาอโรวาน่าที่ถูกเพาะพันธุ์จะถูกฝังไมโครชิปที่ใต้เกล็ดปลาเพื่อจุดประสงค์ที่จะสามารถขายได้ทั่วโลก ดังนั้นเวลาจะเลี้ยงปลาหรือซื้อปลาชนิดนี้ต้องดูว่า ทางร้านมีใบอนุญาตในการครอบครองออกให้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็อย่าเสี่ยงซื้อมาดีกว่า ถ้ามีการตรวจสอบ เพราะผิดกฎหมายและมีผลย้อนหลังได้

    นักธุรกิจ และเจ้าของกิจการ นิยมเลี้ยงและครอบครอง เพราะเชื่อกันว่า ปลาอโรวาน่าจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในกิจการและมีโชคลาภอย่างไม่คาดฝัน (ลาภลอย) และด้วยทรวดทรงที่สง่างามและราคาสูงกว่าปลาชนิดอื่น จึงนิยมเลี้ยงไว้ประดับบารมี

    การเลี้ยงปลาอโรวาน่า ควรมีตู้ขนาดกลางหรือใหญ่ (60 X 30 นิ้ว) และไม่ควรตกแต่งให้มีซอกมุม เหมือนการเลี้ยงปลาชนิดอื่น เพราะการสร้างที่กำบังให้ปลาจะทำให้ปลาติดนิสัยขี้ตื่นและตกใจง่าย

    ปลาอโรวาน่ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Scleropages Formosus มีแหล่งที่มาหลากหลายทวีป อาทิ ทวีปเอเชีย, ทวีปอเมริกาใต้, ทวีปแอฟริกา, ทวีปออสเตรเลีย แต่สายพันธุ์ของทวีปเอเชียที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะแบ่งเป็น

    อโรวาน่าทองมาเลย์ (สายพันธุ์ฐานเกล็ดสีน้ำเงินหรือม่วง,เกล็ดดอกสีทอง,เกล็ดสีเขียว) เป็นสายพันธุ์ที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาปลาชนิดนี้ทั้งหมด นำเข้าจากมาเลเซียและสิงคโปร์

    อโรวาน่าแดงอินโดนีเซีย เรียกสั้นๆว่า “แดงอินโด” (แดงเลือดนก, แดงพริก, แดงส้ม, แดงอมทอง) าคาถือว่ายังสูงอยู่ และมาแรงในหมู่ผู้เลี้ยง

    อโรวาน่าทองอินโดฯ และอโรวาน่าเขียว มีขนาดเล็กและสีด้านกว่าทองมาเลย์ ไม่ได้อร่ามทั้งตัวอย่าง มาเลเซีย หากแต่ สีทองอินโด จะมีสีตามเกล็ดที่ฐาน 4 ประเภทคือ สีน้ำเงิน,เขียว,ทอง)

    โหงวเฮ้งปลามังกร

    รูปทรง - รูปร่างเปรียวสวย ลำตัวไม่อ้วนจนเกินงาม องค์รวมแล้วต้องสมส่วนทั้ง ลำตัว,ครีบคู่หน้า - หลังและหาง ความสวยทั้งระหว่างเคลื่อนตัวและหยุดอยู่กับที่

    ว่ายน้ำ - ต้องขนานไปกับผิวน้ำ ถ้าปลามีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ขณะเคลื่อนตัวว่ายน้ำ ส่วนของครีบและหางจะแผ่กว้าง

    เกล็ด - ต้องโค้งได้รูป ไม่ก็มีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมคางหมู เหตุที่ปลาชนิดนี้มีเกล็ดที่สวยงามเป็นพื้นฐาน ดังนั้น ต้องระวังอย่าให้เกล็ดหลุด หรือเกล็ดมีตำหนิ เพราะจะทำให้ความน่าเกรงขามลดลงทันที กลายเป็นของราคาตก จริงอยู่ว่า ปลาสามารถสร้างเกล็ดใหม่ขึ้นแทนที่ แต่อย่าลืมว่า เกล็ดมีโอกาสบิดเบี้ยวไม่ได้รูปที่เสมอกับเกล็ดเดิม สาเหตุที่ทำให้ปลาเกล็ดหลุดคือปลาตกใจจนกระโดด อาจเกิดแรงกระทบกระแทกจากของแข็ง เช่น หินภายในตู้ และท่อออกซิเจน

    หนวด - เรียวยาว ไม่โค้งงอ ยามเคลื่อนตัว หนวดต้องชี้ไปข้างหน้าทั้ง 2 ข้าง จะชิดหรือกางออกได้ทั้งนั้น

    ตา - กลม ใส ทั้ง 2 ข้างต้องเท่ากัน มีประกายของพลัง และไม่โปนออกมาจากเบ้าตา

    AROWANA WOELD

    นทิยา เลี้ยงกอสกุล เปิดขายปลาอโรวาน่ามานานกว่า 4 ปี ได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากลูกค้าว่า ได้ปลาที่ถูกต้องตามลักษณะ เพิ่มบารมีให้กับคนเลี้ยง ปลามังกรที่ร้านส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศนี้มีชื่อเสียงในการเพาะพันธุ์ปลาอโรวาน่า
    ที่ตั้ง ห้อง 407 ตลาดศรีสมรัตน์ สวนจตุจักร (ด้านหลัง เจเจมอลล์) กรุงเทพฯ
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-1480-6544

    ************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>แฟนซีคาร์ป
    ปลาบ่อ สีสันแปลก สะดุดตา


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=370 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=370>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ปลาคาร์ปนิยมเลี้ยงในบ่อมากกว่าใส่ตู้กระจก เนื่องจากสีสันของปลาคาร์ปโดดเด่นมากในบริเวณส่วนบนไล่จากส่วนหัวลงไป ธรรมชาติของปลาคาร์ปนั้นนิยมแหวกว่ายกันเป็นหมู่คณะ และชอบน้ำที่ค่อนข้างเย็น อย่างน้ำในบริเวณแอ่งน้ำตกธรรมชาติเป็นต้น

    กำเนิดของปลาแฟนซีคาร์ป คือ ประเทศเปอร์เซีย (อิหร่านในปัจจุบัน) จัดอยู่ในกลุ่มปลาไนเรียก ปลาไนแฟนซี, ปลาไนสี,ปลาไนทรงเครื่อง ชาวจีนรู้จักปลาชนิดนี้มานานร่วม 2 พันปี หลังศตวรรษที่ 200 ญี่ปุ่นเรียกปลาขนิดนี้ว่าโคย ( Koi ) หรือ นิชิกิกอย ( ์Nishikigoi) คนญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่น แฟนซีคาร์ปเดินทางจากแดนอาทิตย์อุทัยเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2493 ราคาสูงมากในช่วงแรก ต่อมาเมื่อไทยสามารถเพาะและพัฒนาสายพันธุ์ได้เอง ราคาจึงย่อมเยาขึ้น

    การเลี้ยงปลาคาร์ป สภาพแวดล้อมของบ่อสำคัญที่สุด เพราะว่าปลาคาร์ปชอบแหวกว่ายอยู่ระดับผิวน้ำ ดังนั้น นอกเหนือจากความลึกสำหรับปลาแล้ว ขอบบ่อก็ไม่ควรสูงเพราะจะทำให้เสียทัศนียภาพในการชมปลาที่แสนสวยงามและว่องไวนี้ อย่างที่บอกแต่แรกว่า แอ่งน้ำธรรมชาติ เหมาะกับปลาชนิดนี้ ดังนั้น การจำลองบ่อธรรมชาตินี้ น้ำต้องสะอาด มีระบบการหมุนเวียนที่ดี ความลึกของบ่อไม่ควรสร้างตื้นหรือลึกเกินไป บ่อปลาที่ดีก้นบ่อต้องลึกลงไปในดินครึ่งหนึ่งและขอบบ่อโผล่เหนือพื้นดินครึ่งหนึ่ง บ่อที่มีก้นบ่อลึกลงไปในดินจะรักษาอุณหภูมิของน้ำย่อมดีกว่าบ่อที่สร้างเหนือพื้นดิน ส่วนขนาดความกว้างยาวของบ่อนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนปลาที่จะเลี้ยงและสถานที่

    ความลึกที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ที่ ประมาณ 80-120 ซม. ขอบบ่อเพื่อทัศนียภาพและความสวยงาม ควรสูงกว่าระดับน้ำ 50 ซม.

    เนื่องจากต้องเลี้ยงในบ่อ ครั้นจะวิดน้ำ, ถ่ายน้ำบ่อยๆก็คงไม่ใช่หลักวิธีที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงต้องติดตั้งระบบกรองน้ำในบ่อ การสร้างบ่อกรองน้ำที่ดีจะทำให้ปลามีสุขภาพแข็งแรง โตเร็ว สีสวยโดยธรรมชาติ ไม่ติดเชื้อ เพราะอย่าลืมว่า การเลี้ยงปลากลุ่มใหญ่นี้ หากตัวหนึ่งมีปัญหาก็จะลามไปสู่ปลาตัวอื่นๆในทันที

    บริเวณบ่อเลี้ยงปลา ถ้าอยู่ภายในอาคารคงไม่เป็นปัญหามาก แต่หากต้องอยู่กลางแจ้ง ควรทำหลังคาคลุมบ่อปลา หรือใช้ต้นไม้ใหญ่คอยบังแดด เพราะแดดที่ส่องทั้งวันทำให้เกิดตะไคร่ และน้ำเขียวเร็วกว่าปกติ การใส่น้ำยาลดหรือกำจัดตะไคร่น้ำควรเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>Top Five แฟนซีคาร์ป

    KOHAKU (Red and white)
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปอมปาดัวร์
    ราชินีปลาตู้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=420>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ปอมปาดัวร์ อยู่ในครอบครัว Cichlidae ซึ่งหมายรวมถึง ปลานิล, ปลาหมอเทศ, ปลาเทวดา,ปลาออสการ์, ปลาฟลามิงโก, ซึ่งปลาส่วนใหญ่มีนิสัยค่อนข้างดุ ชอบอยู่เดี่ยวๆตัวเดียว แต่ปอมปาดัวร์แม้จะมีนิสัยรักสงบ แต่ก็ไม่ถือสันโดษ อยู่รวมกันเป็นฝูง 5-10 ตัว นิสัยไม่ก้าวร้าวหรือหวงอาณาเขตแต่อย่างใด

    ปอมปาดัวร์(Pompadour) หรือ ดิสคัส (Discus) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Symphysodon มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ในลุ่มน้ำอเมซอน ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1840 มาแพร่หลายทั่วโลกเมื่อทศวรรษที่ 50-60 สมัยนั้นเอเยนต์จำหน่ายอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี เข้ามาครั้งแรกในเมืองไทยในช่วงเดียวกัน แรกๆราคาแพงและเลี้ยงยาก เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ ปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถเพาะพันธุ์และส่งออกได้แล้ว ปัจจุบันมีปลาปอมปาดัวร์หลาย 10 สายพันธุ์ ที่มีความสวยงามและสีสันแตกต่างกันไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมคือ Symphysodon aequifasciata ซึ่งมีลักษณะเด่นตรงเส้นแถบแนวตั้งสีดำจางๆพาดบริเวณส่วนหัว ลำตัว และโคนหางถึง 9 แถบ

    สายพันธุ์ยอดนิยม

    ปลาปอมมุกทับทิม (RUBY PEARL DISCUS) เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงและเพาะพันธุ์ในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย ปอมมุกทับทิมเกิดจากการนำ “ปอมฝุ่นรุ่นหลาน”มาผสมกับ “ปอมสีฟ้า (TO-RQOISE DISCUS)” สายพันธุ์ดีของเยอรมนีเพื่อให้เกิดปลาสีใหม่ ลูกปอมปาดัวร์ที่เกิดจากการผสมของ 2 สายพันธุ์นี้จะมีลักษณะเหมือนปอมฝุ่น แต่ก็มีลูกปลาเพียงบางตัวได้เกิดสีที่พิเศษขึ้นมาใหม่ สีใหม่ที่ว่านี้ ลำตัวมีพื้นขาวเหมือนไข่มุก แต่ลายเส้นสีแดง ลำตัวมีขนาดใหญ่ ขอบตาสีแดงถาวร สีขาวที่เป็นพื้นจะไม่ไปข่มสีแดงเข้มบนตัวปลา ทำให้สีสันมีความเด่นชัด และดูไม่เปรอะเปื้อน

    ปอมปาดัวร์ 7 สี ยังคงได้รับความนิยม และยอดขายมีต่อเนื่อง การเพาะเลี้ยงในบ้านเราทุกวันนี้มีความสวยไม่เป็นรองต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านสีสันหรือสัดส่วนขนาดความกว้างของลำตัว ลูกปอมปาดัวร์ 7 สีเมื่อเทียบกับลูกปอมปาดัวร์ 5 สี ในขนาดเดียวกัน ราคาจะสูงกว่า 1 เท่าตัวทีเดียว

    ปอมปาดัวร์เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) เชื้อสายเยอรมันแท้ คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า “ปอมบูล” หรือ ปอมเยอรมัน เข้าใจกันว่าปลาปอมฯสายพันธุ์นี้ชาวเยอรมันเป็นผู้เพาะพันธุ์ขึ้นสำเร็จเป็นชาติแรก จัดเป็นปลาสวยพันธุ์ใหม่ที่มีสีสันสดเข้มข้น จัดจ้าน ตัวมันวาวสะท้อนกับแสงไฟนีออนได้อย่างสวยงาม ความวาวและสีสะดุดสายตาแก่ผู้พบเห็นนี้มีมากกว่าปอมฯ 7 สี จนถือได้ว่า เป็นปอมเยอรมัน(ทั้งมีลายและไม่มีลาย) นี้ใกล้เคียงกับสีสันของปลาทะเลมากที่สุด

    การเลี้ยงปลาปอมปาดัวร์ควรเลี้ยงในตู้กว้าง 18 X 30 นิ้ว เพื่อจะได้มีพื้นที่ปล่อยปลาในกลุ่มเดียวกันได้จำนวนหนึ่ง เพราะการปล่อยปลาลงไปในตู้ ความเด่นของสีสันบนตัวปลาจะดูกลมกลืนกันหมด ฉะนั้นการเลือกปลาชนิดนี้ลงตู้ควรเลือกปลาที่มีสีสันตัดกัน

    การเลือกปอมปาดัวร์ให้ได้มาตรฐาน ต้องมีรูปทรงกลมและป้อม มีลักษณะคล้ายฝ่ามือ เหงือกเรียบขนานไปกับตัวปลา ไม่บานออกจนเห็นเหงือกสีแดง ตากลมเล็กอยู่ในระดับที่เท่ากัน ครีบบน - ล่างยาวขนานเท่า กัน เหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว แต่ให้ระวังร้านที่ใส่ยาเร่งฮอร์โมนเพิ่มสีบนตัวปลา ซึ่งในระยะยาวสีจะจางและ เลือนหายในที่สุด

    ร้าน P&Y DISCUS

    จากประสบการณ์ที่เพาะเลี้ยงปลาปอมปาดัวร์มายาวนานกว่า 30 ปี ร้าน P&Y DISCUS ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่เปิดตลาดปลาชนิดนี้ ทางร้านมีการทดลองผสมพันธุ์ปลาให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา จนทุกวันนี้ทางร้านมีปอมปาดัวร์มากกว่า 15 สายพันธุ์ ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อนำไปเลี้ยงได้ตามใจชอบ มีบริการขายส่ง และปลีกในราคาย่อมเยา

    ที่ตั้ง 14/19 สุขุมวิท 57 คลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2714-4257

    ************

    ปลาหมอสี
    หน้าหวาน ขี้เล่น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=420>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ปลาหมอสี หรือ Flowerhorn เป็นปลาน้ำจืดจากทะเลสาบทังแกนยีกา (ใหญ่อันดับ 7 ของโลก), มาลาวี (ใหญ่อันดับ 9 ของโลก) และวิกตอเรีย (ใหญ่อันดับ 3 ของโลก) รูปลักษณ์ภายนอกละม้ายกับปลาหมอไทย แต่มีสีสันที่หลากหลายมากกว่า แต่เดิมนั้นเคยเป็นปลาน้ำเค็มมาก่อน จนเมื่อเกิดการแตกแยกของผิวโลก กลายเป็นทะเลสาบ ปลาหมอสีเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้ย้ายตัวเองไปอยู่ในทะเลสาบ และปรับตัวจนสามารถอยู่ในน้ำจืดได้ ข้อที่ควรรู้คือ ปลาหมอสีส่วนใหญ่มีเชื้อสาย Cichlid จากแถบอเมริกาใต้ ปลาในสายพันธุ์นี้ จะรวมถึง ปลานิล, ปลาหมอเทศ, ปลาปอมปาดัวร์, ปลาเทวดา, ปลาออสการ์

    ปลาหมอสีมีโลกส่วนตัวสูง หวงแหนอาณาเขต จัดเป็นปลาดุ ไม่แนะนำให้เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ธรรมชาติของปลาชนิดนี้มีความอดทน และอดอาหารได้นานนับ 10 วัน

    ประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลาหมอสีเพื่อขายในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำรายได้หลายสิบล้านบาทต่อปี ระยะ 5 ปีให้หลังมานี้เป็นที่นิยมเลี้ยงในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยเป็นปลาที่มีลำตัวสวยงามบวกกับสีสันที่แจ่มชัด มีสัญชาตญาณตอบรับ แสดงความตื่นตัวแสดงความอยากรู้อยากเห็น อีกทั้งยังสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าของค่อนข้างเร็ว ดังนั้น... ผู้เลี้ยงดูจึงมีความผูกพัน รักใคร่เป็นพิเศษ

    ปลาหมอสี แบ่งตามสกุล และแต่ละสกุลก็จะแยกย่อยออกเป็นชนิดต่างๆ แต่สายพันธุ์ซึ่งเป็นที่นิยมกันในขณะนี้คือ สายพันธุ์ “หลอฮั่น”เนื้อสีฟ้าหรือเหลืองอมเขียว คอสีแดง ครีบยาว หรือสั้น ขนาดลำตัวหนา กว้างและหัวโหนก

    จันจีหลอฮั่น - ปลาที่มีมุกถึง 50-95 % ตลอดลำตัว มุกนี้จะตามลำตัวและครีบที่สวยและยาว ทั้งบนและล่าง ครีบชนิดนี้เรียกกันว่า “เปีย” หากเข้ามัจฉลักษณ์นี้จะมีราคาแพงและหาซื้อยาก

    ฟาหลอฮั่น - มีครีบหางตัดตรง เมื่อครีบแผ่ออก สังเกต 3 ส่วนคือครีบหาง ครีบหลัง และครีบล่างต้องชิดหรือเกยกันพอดี ไม่มีช่องว่างถึงจะถูกต้องตามลักษณะสายพันธุ์ เมื่อสังเกตดูโดยรวมแล้วเป็นปลาที่มีรูปร่างใหญ่ขึ้น กว่าปกติ

    กัมฟาหลอฮั่น - ลำตัว ทรงและครีบต้องเต็มและมีมุกสีทองหรือมีสีเหลืองบนลำตัว หลากสีสัน หรือโทนสีเดียวก็ได้ และจะมีหรือไม่มีมาร์กกิ้งก็ได้ ปลากัมฟานี้ถือเป็นเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดและมีการซื้อขายในตลาดปลาแพงที่สุด

    เลี้ยงอย่างไร

    - ระดับค่าความเป็นกรด ด่างของน้ำที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงปลา Flowerhorn ต้องอยู่ระหว่าง 7 ถึง 7.8
    - อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด ควรอยู่ระหว่าง 27-32 องศาเซลเซียส
    - มั่นตรวจสอบดูคุณภาพของอาหารไม่ให้มีสิ่งเจือปน ตรวจสอบอุณหภูมิและคุณภาพน้ำขอให้เป็นน้ำคุณภาพดีที่สุด และเปลี่ยนน้ำตู้ปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรือไม่ก็ติดตั้งระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ
    - ในเวลากลางคืน แนะนำให้ปิดไฟเพื่อให้ปลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
    - ปลาอาจจะตกใจจากการที่มีสิ่งเคลื่อนไหวใกล้ตู้ปลามากเกินไป ดังนั้นควรจัดวางในมุมที่โปร่งไม่มีสิ่งของมาวางระเกะระกะ และไม่ควรเคาะตู้ปลาเล่น
    - สังเกตดูว่าปลาเป็นโรคหรือไม่ ? โดยดูจากปลาไม่อยากกินอาหาร กินได้น้อยลง มีสีซีดหรือสีที่ลำตัวคล้ำมาก ไม่ค่อยคล่องแคล่วเหมือนเดิม
    - ควรให้อาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีนสูง อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีชีวิต เพราะอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้

    ร้าน CCN

    ร้านขายปลา Flowerhorn ที่ไม่เคยปิดร้านเลยสักวัน ขายอยู่ในตลาดศรีสมรัตน์ (ด้านหลังเจเจมอลล์) มานานกว่า 5 ปี ผู้ที่นิยมชมชอบปลาหมอสีแวะเวียนมาเลือกซื้อปลาแทบทุกวัน จึงต้องเปิดขายทุกวัน จุดเด่นของร้านนี้คือ ให้คำแนะนำวิธีการเลือกปลา รวมไปถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำให้ปลาสวยงาม

    “ผมยึดหลักว่า ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า ไม่หลอกหรือเชียร์ปลาจนเกินจริง” ชาญชัย นาคประสิทธิ์ เจ้าของร้านกล่าวกับ Metro Life

    **************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> 9 ขั้นตอน
    สำหรับจัดตู้ปลามือใหม่

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หากใครที่คิดจะสร้างชุมชนใต้น้ำให้กับปลาสวยงาม โดยเฉพาะคนมือใหม่ ผ่านร้านเห็นโน่นสวย นี่สวยแล้วก็ซื้อไปจับยัด อัดแน่นเต็มตู้จนแทบไม่มีที่ให้ปลาได้แหวกว่าย หรือเหลือพื้นที่ให้ปลาได้หายใจ เพราะฉะนั้นการจัดตู้ปลาให้ถูกสุขลักษณะ มีสภาพแวดล้อมที่ดี ชวนให้ปลาอยากอยู่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรคำนึงถึงค่อนข้างมากสำหรับคนมือใหม่ที่คิดอยากจะเลี้ยงปลา

    ประสิทธิ์ ไหลริน ฝ่ายเทคนิคและเชี่ยวชาญในการจัดตู้ปลาประจำร้าน “ซี สแควร์” ตรงข้ามตลาดนัด อ.ต.ก.ได้สาธิตและบอกเล่าผ่าน Metro Life

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 1.ตู้ปลา – เลือกขนาดให้เหมาะสมกับจำนวนปลา สำหรับผู้เลี้ยงปลาครั้งแรก ตู้ขนาด 10 – 14 นิ้ว ดูแลง่ายไม่ซับซ้อน ควรล้างตู้ปลาใหม่ด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่อ่อนๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะกระจกออกไป

    2. ตัวกรองล่าง หรือ "แผ่นกรองใกล้ทราย" - ลักษณะเป็นถาดเจาะรู จัดเรียงอยู่บริเวณพื้นล่างของตู้ เพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรก จำพวกเศษอาหาร - ขี้ปลา จำนวนแผ่นกรองขึ้นอยู่กับขนาดของตู้

    3. ท่อออกซิเจน - หลอดใสเหมือนท่อหายใจของนักประดาน้ำ ต่อท่อเข้ากับรูบนแผ่นกรอง ชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยลำเลียงอากาศให้ปลาได้หายใจเหมือนคน

    4. ตัวกรอง - อุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้ ช่วยกรองกลิ่นและสีของน้ำให้ดูใสมากขึ้น อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงปลามือใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาเปลี่ยนน้ำ จัดวางไว้มุมใดมุมหนึ่งของตู้เพื่อไม่ให้กินพื้นที่

    5. เครื่องทำออกซิเจน – ขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ เลือกใช้ได้หลายรูปแบบทั้งท่อเดียว หรือสองท่อ เพื่อช่วยให้ออกซิเจนกระจายได้ทั่วตู้

    6. หินสี – เลือกขนาด และสีที่เหมาะสม เข้าได้และกลมกลืนกับสีสันของปลา เลือกหินที่รูปทรงกลมมน ไม่ควรเป็นเหลี่ยม หรือมีมุมเพราะจะบาดตัวปลาได้ (อันจะนำไปสู่โรคติดเชื้อ) หินต้องล้างเอาเศษดิน เศษผงออกก่อนใส่ลงตู้ปลา

    7. ต้นไม้หรือดอกไม้ - เพื่อสร้างสีสันให้กับตู้ปลา มีชีวิตชีวาในโลกใต้น้ำ จัดได้ตามใจชอบ โดยใช้หลักการเดียวเหมือนจัดสวนในบ้าน โดยดอกไม้ที่นำมาจัดวางต้องให้เข้ากับสีของหิน เช่น ถ้าหินสีดำ ดอกไม้ควรเป็นโทนแดงหรือส้ม ส่วนหินสีขาวจะเข้ากับต้นไม้สีเหลืองหรือสีเขียว การเลือกคู่สีที่ถูกต้องสามารถสร้างความกลมกลืนทางทัศนียภาพ และชวนให้สะดุดสายตาหยุดชื่นชมตู้ปลาของคุณ

    8. เซรามิกตกแต่ง - ถือเป็นลูกเล่นที่นำมาใส่ประดับตู้ปลาให้ดูสวยงามขึ้น มีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น บ้าน สะพาน หรือเจดีย์จำลอง แต่เน้นให้เกิดความสมดุลกับขนาดของตู้ เพื่อให้ปลาว่ายน้ำได้สะดวกและดูสวยงาม

    9. อย่าลืม ควรมี คือ 1. ตัวยาเพื่อปรับสภาพน้ำ “ ยาท็อปคลีนสูตร 5” เหมาะกับตู้ปลาขนาดเล็ก ยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์ไวเพื่อให้น้ำคงสภาพเหมาะสมและไม่ตกตะกอน 2. แอมล็อก หยดลงในน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโปรโตซัว หรือเชื้อรา ที่อาจเป็นอันตรายต่อปลา ยาทุกตัวที่จำหน่ายในร้านซี สแควร์ผ่านการวิเคราะห์และทดลองจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดังนั้นจึงการันตีได้ว่าไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นแก่ปลาแน่นอน!

    ร้านซี สแควร์
    ที่ตั้ง ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. 418 ถนนกำแพงเพชร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
    เปิดบริการ (ทุกวัน) เวลา 08.00-20.00 น.
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2272 - 4344

    ราคาสร้างบ้านปลา

    ตู้ปลา ราคา 70 บาท++
    อุปกรณ์ตกแต่ง (จำพวกเซรามิก) ราคา 10 บาท++
    ต้นไม้น้ำ ราคา 20 บาท++
    ยาฆ่าเชื้อ ราคา 50 บาท++

    *************

    เลี้ยงอย่างไร
    ไม่ให้ราคาตก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=294 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=294>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ถ้าจะเลี้ยงปลาไว้ปั่นราคาไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตาม ควรดูแลไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวปลา และต้องเลี้ยงให้ดูดีสวยงามมากกว่าที่ซื้อจากร้านถึงจะได้ราคาดี

    ปลาทอง - ถ้าซื้อมาจากร้านส่วนใหญ่บอดี้จะไม่ค่อยได้รูปทรง สีสันจะดูจืดๆ ถ้านำมาเลี้ยงต้องดูแลในการเรื่องอาหารต้องมีสารอาหารครบถ้วน และควรเปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอ ที่สำคัญที่สุดต้องระวังไม่ให้ปลามีตำหนิ โดยเฉพาะที่ ลำตัว เกิดลอยขีดข่วนที่เกิดจากหินที่ตกแต่งภายในตู้ ตาบอด เกิดอาการติดเชื้อ และไม่ควรนำปลาชนิดอื่นมาเลี้ยงรวม เพราะส่วนใหญ่จะชอบกัดหางปลาทองทำให้เกิดความเสียหายถึงขั้นราคาตกเลยทีเดียว

    ปลาอโรวน่า - เรื่องที่เข้าใจกันผิดๆ ว่าถ้าให้แมงสาบเป็นอาหารจะทำให้ปลาโตไวสีสันสวยงาม และจากการลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ร้านที่ขายปลาอโรวน่าจะไม่แนะนำ เพราะจะทำให้ปลาติดเชื้อโรค ที่ดีที่สุดควรเลี้ยงด้วยกุ้งฝอย ไรแดง และข้อควรระวังที่จะทำให้ราคาตก เกล็ดหลุด หนวดงอ ตาตก และการว่ายที่ไม่สง่างาม เกิดจากการตื่นตกใจของปลา ซึ่งมีผลมาจากการเคาะกระจกหยอกล้อเล่นกับปลาอันนี้ไม่ควรอย่างยิ่ง ทำให้ปลาเสียบุคลิกขาดความสง่างาม

    ปลาคร๊าฟ - การปั่นราคาของปลาคร๊าฟที่จะได้ราคาดี คือต้องให้ความสำคัญในการเลี้ยงดูตั้งแต่หัวไปจรดหาง สีสันบนตัวปลาคร๊าฟที่มีลวดลายตามตำราและตามตลาดปลากำลังนิยม แต่ที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงปลาคร๊าฟ ก็คือเรื่องน้ำ ต้องติดตั้งระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ และขนาดของบ่อต้องได้มาตรฐาน เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลา

    ปลาหมอสี - นักเลี้ยงปลาส่วนใหญ่จะซื้อปลาที่มีอายุตั้งแต่ 1-2 เดือน (ตัวประมาณ 100-200 บาท) หรือที่เรียกว่า ปลาลุ้น คือลุ้นว่า ลักษณะของปลา สีสัน จะออกมาในรูปแบบใด แต่ถ้าโชดดีเลี้ยงมาได้ประมาณ 5 เดือน เริ่มเห็นโหนกยื่นออกมาจากหัว มีเนียงใต้คางที่เซียนปลาเชื่อกันว่าเป็นถุงเงินถุงทอง บนลำตัวมีจุดสีแดงลวดลายสวยงามทั้งลำตัว ใบหน้าดูอมยิ้ม ลักษณะเด่นอันนี้หละคับจะทำให้ปลาของคุณจากหลักร้อย ทยานขึ้นไปสู่หลักแสน (ร้านปลาหอมสีส่วนใหญ่จะรับซื้อ)

    ปลาปอมปาดัวร์ - ลักษณะเด่นของปอมปาดัวร์อยู่ที่สีสันบนลำตัวยิ่งสีเข้ม ลวดลายสวยยิ่งได้ราคาดี ทางที่ดีการเลี้ยงในตู้ปลาแบลกกราว์หรือด้านหลังตู้ควรใช้สีดำเป็นฉาก ปลาจะปรับสีตามสภาพแวดล้อมภายในตู้ อย่างเช่นถ้าตัวปลาสีแดง ก็จะกลายเป็นแดงเข้มแต่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักระยะ

    *************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โลกของปลา
    เหนือจินตนาการ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=247 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=247>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในความฝันของเด็กและผู้ใหญ่หลาย ๆ คนคงมีความประทับใจกับความน่ารักของการ์ตูนที่เราเคยได้ดู หนึ่งในนั้นคงจะเป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนรักของบรรดาตัวการ์ตูนต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้อิ่มเอมใจทุกครั้งเมื่อนึกถึง เมโทรไลฟ์ฉบับปลาสวยงามนี้ ขอนำเรื่องราวความน่ารักของ “ปลา” มานำเสนอให้ผู้อ่านทั้งหลายได้เลือกรับชม

    Free Willy
    ปีที่ออกฉาย : 1993

    ฟรีวิลลีเป็นหนังที่สร้างความประทับใจให้แก่ใครหลายๆ คน เป็นเรื่องราวมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่าง มนุษย์ คือ Jesse กับ Willy ปลาวาฬจิตใจงาม โดยผลต่อเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้นักอนุรักษ์สัตว์น้ำทำการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะปล่อย Keiko ปลาวาฬที่มารับบทเป็นฟรีวิลลี่เป็นอิสระ นับว่าเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมจากทั่วโลกหันมามองเห็นความสำคัญของสัตว์มีชีวิตที่เรียกว่า “ปลา”

    Finding Nemo
    ปีที่ออกฉาย : 2003

    ผลงานการ์ตูนแอนนิเมชันของค่ายพิกซ่า ที่สร้างความประทับใจให้แก่ใครหลายคน เรื่องราวได้ถูกถ่ายทอดผ่านปลาการ์ตูนสีแดงแสนน่ารัก ชื่อ “นีโม” เนื้อเรื่องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อปลา กับลูกปลา สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างเหมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยจากห้วงทะเลอันกว้างใหญ่ และเหล่าเพื่อนพ้องปลาสวยงาม องค์ประกอบเหล่านี้ย่อมทำให้แฟนพันธุ์แท้ปลาสวยงามไม่ควรพลาดที่จะหาชม
    ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Finding_Nemo

    Shark Tale
    ปีที่ออกฉาย : 2004
    นี่คือการ์ตูนแอนิเมชันที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาคอมพิวเตอร์กราฟิกยอดเยี่ยมในปี 2004 Shark Tale เป็นเรื่องราวของออสการ์ ปลาตัวน้อยที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขัดลิ้นอันต่ำต้อยในอู่ทำความสะอาดปลาวาฬ ได้กลายเป็นฮีโร่อย่างเหลือเชื่อเพราะการโกหกคำโตของออสการ์ เพื่อที่จะปกปิกความลับนี้ออสการ์ต้องขอความร่วมมือจากเลนนี ฉลามขาวมังสวิรัติที่ไม่มีใครคบ และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน แต่เมื่อความลับถูกเปิดเผยขึ้น เรื่องราวการผจญภัยและการต่อสู้กับฉลามที่โหดร้ายก็อุบัติขึ้น หนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างแต่เสียงหัวเราะไว้ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชมว่า ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ แม้กระทั่งในโลกของ “ปลา”

    *************

    Duy Guppy
    บ้านปลา ดีไซน์เก๋
    เรื่องโดย :ไพลิน ตั้งสินพูลชัย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เราอาจจะเคยชินกับตู้ปลาสี่เหลี่ยนผืนผ้าที่ต้องมีพื้นที่เฉพาะสำหรับการจัดวาง วันนี้ตู้ปลาถูกดีไซน์ให้แปลกและแตกต่างด้วยรูปทรงที่แปลกตา ไม่แข็งทื่อเหมือนอย่างกับตู้ปลาในอดีต เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในเมืองที่มักจะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมบนตึกสูงกันเป็นส่วนใหญ่

    บ้านปลา เกิดจากไอเดียนี้ของ ดุ่ย - สมชาย เนตรสิงแสง ที่ทำตู้ปลาให้ออกมาในลักษณะ “2 in 1” ผสมผสานกับการใช้งานได้จริง กับการตกแต่งบ้านในรูปแบบของตู้โชว์ได้อย่างลงตัว เขาเริ่มธุรกิจนี้มาประมาณ 3 ปี มาเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจเมื่อเข้ามาขายที่สวนจตุจักรเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

    สียอดฮิตของตู้ปลาแบ่งเป็น 3 โทนสี คือ สีฉูดฉาด เช่น สีส้ม , สีหวาน เช่น สีฟ้า และสีคลาสสิก คือสีไม้โอ๊ก มีขนาดตู้ให้เลือกตั้งแต่ 4x6 นิ้วที่เหมาะสำหรับปลาตัวเล็ก อย่างปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาเทวดา หรือว่าปลาเรนโบว์ เรื่อยไปจนถึง บ้านปลาทรงสูงขนาด 16 นิ้ว ที่เหมาะกับการเลี้ยงปลากัด หรือตู้ปลาขนาด 36 นิ้วที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงปลาทอง 5-9 ตัว

    ข้อดีของตู้ปลาบ้าน คือ 1. ง่ายต่อการทำความสะอาด สามารถยกตู้กระจกออกจากหลังคาเพื่อนำมาทำความสะอาด ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้บ้านปลาพัง 2. สามารถเลือกมุมจัดวางโดยใช้พื้นที่ไม่มากนัก เช่น บนหัวเตียง บนตู้เย็น หรือห้องรับแขก 3. บริการหลังการขายโดยจะรับซ่อม หรือทาสีให้ใหม่

    ส่วนการดูแลตัวบ้านปลานั้นให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดบริเวณบ้านให้ทั่ว และควรปรับ
    ออกซิเจนให้มีความดันน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ จะไม่ทำให้เกิดน้ำกระเด็นลงบนตัวบ้านอันเป็นสาเหตุทำให้ไม้ชื้น บวมเกิดขึ้นราได้ง่าย สนนราคาเริ่มต้นที่ 299 - 2,590 บาท (แถมต้นไม้และหินสี) นอกจากนี้ Duy Guppy ยังรับบริการดีไซน์บ้านปลาตามความต้องการของลูกค้า

    Duy Guppy
    ที่ตั้ง ตลาดจตุจักรพลาซ่า โซน D ซอย 11
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-4078-3542

    *************

    ตู้ปลากรอบไม้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=437 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=437>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หลักการออกแบบตู้ปลาของร้านเย็นตานั้นยึดหลักทันสมัย ดูแลง่าย มีลูกเล่นในตัวของมันเองเพื่อสนอง ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ซึ่งตู้ปลาทุกแบบที่ดีไซน์เพื่อให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้อย่างลงตัว ตู้ปลากรอบไม้ติดฝาผนังที่มีปลาเคลื่อนไหวอยู่นั้น เหมือนภาพชีวิตที่ไม่มีการหยุดนิ่ง

    ร้านเย็นตารับจัดทำตู้ปลาสั่งตัดเพื่อความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย แต่ถ้าไม่รู้ว่าอยากได้ขนาดไหน ทางร้านก็มีตู้ปลามาตรฐาน 5 ขนาด คือ 24 , 36 , 48 ไปจนถึง 160 นิ้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8,000 บาท ทุกตู้สร้างจากวัสดุชั้นดีที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษ ได้แก่ ไม้สัก และไม้กระสา ขายพร้อมอุปกรณ์ครบชุด และบริการติดตั้งถึงบ้าน

    ส่วนบริการหลังการขายจะมีการทำความสะอาดตู้ปลาในราคากันเอง แนะนำวิธีการจัดตู้ปลาอย่างถูกวิธี รับดีไซน์ตู้ปลาให้เข้ากับบ้านทุกสไตล์ นอกจากนี้ยังมีบริการทำความสะอาดตู้ปลา

    Yenta
    ที่ตั้ง 261 ซอยหัวหมาก 31 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-1867-8830

    ************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>วางตู้ปลาตามหลักฮวงจุ้ย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การจัดวางตู้ปลาภายในบ้านใครว่าไม่สำคัญ ?
    เฮียตือ หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังในย่านท่าพระจันทร์ แนะหลักในการวางตู้ปลาเพื่อเสริมสร้างบารมี และเพิ่มโชคลาภให้แก่ที่ผู้เลี้ยงปลาต้องจัดวางในบริเวณบ้านอย่างเหมาะสม


    1. ตู้ปลาโดยหลักต้องหันหน้าออกถนนหน้าบ้าน
    2. ถ้ายืนหันหน้าเข้าตัวบ้านควรวางตู้ไว้ทางด้านซ้ายมือ เพราะฝั่งซ้ายของตัวบ้านจะเป็นมุมที่ขับเคลื่อนให้เงินทองไหลเข้า
    3. ตำแหน่งตู้ปลาควรจัดวางให้ห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำกับไฟไม่ถูกกัน
    4. ห้ามวางตู้ปลาริมหน้าต่าง ทำให้เงินไหลออกนอกบ้านเก็บเงินไม่อยู่

    ส่วนการสร้างบ่อเลี้ยงปลาต้องดูที่ทิศ ทิศที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือถึงเรียกว่าดี เพราะว่าทิศเหนือเป็นธาตุน้ำ ทิศตะวันออกเป็นทิศที่ดีอยู่แล้วสร้างบ่อน้ำมีแต่ความสิริมงคลเกิดขึ้นภายในบ้าน

    ติดต่อจัดวางตู้ปลาตามหลักฮวงจุ้ย ได้ที่ โทร.08-1516-0612

    ลักษณะของตู้ปลาตามศาสตร์ฮวงจุ้ย
    - ตู้ปลากลม ธาตุน้ำ ช่วยเสริมพลังของน้ำ ถือว่าเป็นมงคล
    - ตู้ปลาสี่เหลี่ยมยาว ธาตุไม้ น้ำให้กำเนิดไม้ช่วยให้ไม้เจริญถือได้ว่าเป็นมงคล
    - ตู้ปลาสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ธาตุดิน ดินข่มน้ำ จึงไม่ควรใช้
    - ตู้ปลารูปหกเหลี่ยม เลข 6 เป็นธาตุน้ำ แต่มีหลายเหลี่ยมถือว่าสังกัดธาตุไฟ จึงไม่ควรใช้เพื่อนำโชค
    - ตู้ปลารูปสามเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยม ธาตุไฟ ไม่ควรใช้เลี้ยงปลา

    เลขมงคลของจำนวนปลาในตู้
    1 ตัว เลขหนึ่งสีขาวดาวทันหลัง เป็นดาวมงคลช่วยนำโชค
    2 ตัว เลขสองสีดำดาวจวี้เหมิน เป็นดาวอัปมงคล ทำลายโชค
    3 ตัว เลขสามสีเขียวมรกตดาวลู่ฉุน เป็นดาวอัปมงคลทำลายโชค
    4 ตัว เลขสี่สีเขียวขี้ม้าดาวเหวินฉวี่ เป็นดาวมงคลช่วยนำโชค
    5 ตัว เลขห้าสีเหลืองดาวเหลียนเจิน เป็นดาวอัปมงคลทำลายโชค
    6 ตัว เลขหกสีขาวดาวอู๋ฉวี่ เป็นดาวมงคล ช่วยนำโชค
    7 ตัว เลขเจ็ดสีแดงดาวพ่อจวิน เป็นดาวอัปมงคล ทำลายโชค
    8 ตัว เลขแปดสีขาวดาวจั๋วฝู่ เป็นดาวมงคล ช่วยนำโชค
    9 ตัว เลขเก้าสีครามดาวอิ้วปี้ เป็นดาวมงคล ช่วยนำโชค

    ปลาและความหมาย
    ปลาเงิน-ปลาทอง เกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง ความรักความช่วยเหลือเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่ จะได้พลังเกี่ยวกับการค้าขาย คุยธุรกิจเงินๆ ทองๆ อยู่ตลอดเวลา

    ปลามังกร เกี่ยวกับอำนาจ คนเกรงขาม คนเกรงใจ เลี้ยงแล้วบารมีก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สีเงินของตัวปลาบ่งบอกถึงความบริสุทธ์ผุดผ่อง การเจรจาเป็นต่อ แต่ต้องเลี้ยงดูให้ดี

    ปลาคาร์ป จะได้โชคลาภในช่วงเดินทางไกล และผู้ที่ทำธุรกิจหรือค้าขายทางน้ำจะดีรุ่งเรือง รวมไปถึงการค้าขายทางน้ำระหว่างประเทศ

    ปลาหมอสี ให้โชคลาภลอย เสี่ยงโชคดี ของอย่างนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

    ***********

    ปล่อยสัตว์น้ำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=330 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=330>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> บางคนอาจจะบอกว่า ไม่ชอบจับสัตว์มาหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ไร้ซึ่งอิสรภาพ แต่ชอบปล่อยเลี้ยงปลาสร้างบุญกุศลมากกว่า ไม่ว่ากันอยู่แล้ว แต่ต้องเข้าใจว่า ปลาสวยงามส่วนใหญ่ต้องเลี้ยง ขืนใจบุญช้อนเอาปลาทองไปปล่อยลงตามคูคลอง ตามยถากรรม ปลาทองก็จะอยู่ไม่ได้ พานจะตายซะและเป็นบาปเป็นกรรมกันเสียเปล่าๆ ปล่อยปลา เพราะฉะนั้น ... คิดในมุมกลับ การเลี้ยงปลาสวยงามก็เป็นการทำกุศลอย่างหนึ่ง เพราะเจ้าของต้องดูแล ถนอมรักใคร่กว่าเจ้าของร้านขายปลาแน่

    แต่ถ้าคุณต้องการทำการกุศลด้วยการปล่อยสัตว์น้ำ ต้องรู้ความหมาย กำลังวัน และรู้จักคำอธิษฐานในการปล่อยสัตว์น้ำ

    ปลาไหล – ไหลลื่นทั้งการเงิน การงานและการเรียน
    ปลาดุก – ชนะศัตรูคู่แข่ง และแคล้วคลาด
    ปลาชะโด – มีแต่สิ่งใหญ่ๆโตๆ เข้าบ้าน
    ปลาช่อน – ช้อนเงิน ช้อนทอง
    ปลาสวาย – ปลดปล่อยสิ่งไม่ดีจากตัวเราเอง
    ปลาราหู(ชัคเกอร์) - สะเดาะห์เคราะห์ หมดเคราะห์
    ปลาดุกเผือก – เป็นสิริมงคล
    ปลาหมอ – เพื่อสุขภาพที่ดี
    ปลาทับทิม – ความรักราบรื่น
    ปลาบู่ – ระลึกถึงพระคุณพ่อแม่
    ปลานิล – ไม่อด ไม่อยาก อุดมสมบูรณ์
    ปลาขาว - นำโชค
    เต่าน้ำ – สะเดาะห์เคราะห์ ต่ออายุให้ยืนยาว
    หอยขม – ทิ้งความขมขื่น มีความร่มเย็นเป็นสุข
    หอยโข่ง – เป็นผู้นำ

    ปล่อยปลาตามกำลังวันเกิด
    วันอาทิตย์ 9 ตัว
    วันจันทร์ 15 ตัว
    วันอังคาร 8 ตัว
    วันพุธ(กลางวัน) 17 ตัว
    วันพุธ (กลางคืน) 12 ตัว
    วันพฤหัสบดี 19 ตัว
    วันศุกร์ 21 ตัว
    วันเสาร์ 10 ตัว

    คำอธิษฐานปล่อยสัตว์
    ข้าพเจ้า..............สกุล................เกิดวันที่ ........ เดือน ................พ.ศ. .............. อายุ ............. ได้ปล่อยสัตว์ .......................... จำนวน ...... ตัว ปล่อยเพื่อให้เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ศัตรู และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ตัวที่เป็นที่พึ่งขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ข้าพเจ้า ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร จงนำเอาสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไรออกไปจากข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้พระแม่ธรณี พระแม่คงคา เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง หลวงปู่โต พญานาคราช จงเป็นสักขีพยาน รับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญนี้ จงสะเดาะห์เคราะห์ร้ายของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จ สมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตสดชื่น สุข สดใส ตั้งแต่บัดนี้ต่อไปด้วยเทอญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ชอบมองปลาว่ายน้ำ ดูแล้วสงบเย็นดี เพลินดีด้วย
     
  10. hoto

    hoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +720
    ขอร้องอย่าให้ความเชื่องมงายทำร้ายระบบนิเวศน์เลย.....

    คุณรู้บ้างไม๊ ปล่อยปลาซักเกอร์ลงแม่น้ำมีผลเสียต่อระบบนิเวศน์อย่างไร ..
    ปลาซักเกอร์ไม่ใช่ปลาไทย มันกินทุกอย่างเป็นอาหาร ปรับตัวได้เก่ง แข็งแรง ตายยาก เนื้อไม่นิยมนำมาเป็นอาหาร ..
    นอกจากมันจะแย่งที่อยู่และอาหาร จากปลาไทยพื้นเมืองแล้ว มันยังเป็นนักกินไข่ปลาอีกด้วย
    ระวังทำบุญได้บาป !!!!!!

    ****************************************

    http://www.ninekaow.com/wbs/view.php?id=33442


    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=600 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffcc>ทำอย่างไรจึงจะหยุดปล่อยปลาชัคเกอร์ลงแม่น้ำไทย
    เมื่อวันก่อนผมแวะไปทำบุญปล่อยปลาที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นั่นมีแม่ค้าจัดเตรียมสัตว์น้ำไว้บริการจำหน่ายหลายชนิด แถมเขียนแต่ละชนิดว่าสะเดาะเคราะห์ด้วยเรื่องอะไรอีกด้วย มี ปลา เต่า ตะพาบน้ำ ปลาไหล ฯลฯ หนึ่งในนั้นมีชัคเกอร์รวมอยู่ด้วย กะด้วยสายตาคร่าวๆในกะละมังนั่นมีอยู่ร่วมร้อยตัวเลยทีเดียว

    ถ้าวันหนึ่งๆขายได้สัก 50 ตัวx365 วัน= 18,250 ตัว / ปี...อะไรจะเกิดขึ้น?



    เห็นที่นี่เรามักเตือนกันเสมอเรื่องปลาชัคเกอร์เลี้ยงว่าอย่าปล่อยลงแม่น้ำเพราะมีผลต่อการขยายพันธุ์ของปลาพื้นเมืองของไทย แล้วเมื่อผมได้มาเห็นอย่างนี้ก็รู้สึกเป็นห่วง

    คุณคิดว่า..ทำอย่างไรจึงจะให้เขาหยุดปล่อยปลาชัคเกอร์ลงแม่น้ำไทยครับ ?
    [​IMG]บอลลูนท้องกลม - - [ 18 Jul 2007 03:54 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 1 คงจะยากที่จะห้ามให้มีการปล่อยแล้วละครับ เพราะถึงตอนนี้ทุกคนหยุดปล่อย แต่ในธรรมชาตินะมันขยายพันธุ์กันเต็มไปหมดแล้วละครับ ทุกวันนี้ละแวกบ้านผมก้อจับได้ทุกวัน แถมขนาดตัวขนาดเท่าน่องอีก น่าจะทำเหมือนหอยเชอรี่นะ ที่ทางกรมประมง กรมเกษตร พยายามหาศึกษาหาศัตรูทางธรรมชาติมาคงจะดีที่สุดแล้วละครับ
    [​IMG]ศารัน - - [ 18 Jul 2007 05:45 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 2
    เคยเจอเหมือนกันครับ รู้สึกเค้าจะเรียกชัคเกอร์ว่าปลาราหู
    [​IMG]Dominic - - [ 18 Jul 2007 10:53 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 3
    ผมว่าพวกเราควรรวมตัวกันสักวัน ไปประท้วงที่วัดนะครับ ถ้าเราไปเยอะพออาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เหมือนกัน งั้นผมขอลงทะเบียนคนแรกเลยแล้วกัน
    ซักเกอร์ ออกไป!!!!!!
    [​IMG] - - [ 18 Jul 2007 11:18 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 4
    คนไทยทำบุญด้วยความโง่ครับอย่าไปคิดมาก ไม่ค่อยคิดไรกันหรอกครับคิดว่าทำแล้วได้บุญครับ ที่แท้มันบาปครับ
    [​IMG]Jayesto [​IMG] - - [ 18 Jul 2007 15:19 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 5
    เห็นมั่งคับ เอาเต่าบก มาขายให้คนปล่อยลงน้ำ คนขายก็นั่งยัน (แกขี้เกียจยืน มันเมื่อย) ว่ามันว่ายน้ำได้ คนทำบุญคงกลัวเต่าว่ายกลับให้คนขายจับ ก้อโยนตูมลงไปกลางแม่น้ำ

    เหอ เหอ เหอ ได้บุญกันถ้วนหน้า ...
    [​IMG]ตุ้ม ขี้เกียจล็อกอิน - - [ 18 Jul 2007 15:39 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 6
    ไม่รู้ว่าหน่วยงานฝ่ายภาครัฐเขาตระหนักถึงเรื่องนี้กันบ้างหรือเปล่า มีการเดินเรื่องไปถึงไหนแล้ว?อย่างไรกันบ้าง? หรือต้องรอจนกว่าปลาสายพันธุ์ไทยเหลือน้อยเต็มทีจึงค่อยมาดำเนินการ

    ผมก็ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ หน้าตาพ่อค้าแม่ค้าก็ดูเอาเรื่องเหมือนกัน มันเป็นอาชีพของเค้าไปพูดมากก็ไม่ได้ ถึงที่นี่ไม่ขายที่อื่นๆก็ขาย มีหลายเจ้า ทำตามกันมา

    ผมว่าถ้าคิดจะแก้ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุคือหมอดูสะเดาะเคราะห์ดวงชะตาให้เขาช่วยกันแนะลูกค้าให้เลี่ยงเป็นปลาไทยที่มีสีดำแทนราหูก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับ ยังดีกว่าชัคเกอร์ ตัวก็ไม่ดำสนิทเท่าไหร่ คุณว่ามะ!


    [​IMG]บอลลูนท้องกลม(จขกท.) - - [ 18 Jul 2007 16:29 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 7 คุณเจ้าของกระทู้ ...

    หน่วยงานภาครัฐบ้านเราก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดี ขาดความตื่นตัว ขาดกำลังคน ขาดงบประมาณ แค่วัวหายน่ะ ยังไม่รู้ตัวกันหรอก ต้องให้สื่อประโคมข่าวก่อน เค้าถึงจะมีแอคชั่น สร้างคอกวัว ....

    เอ ... เข้าข่ายหมิ่นอำนาจรัฐรึป่าวเนี่ย
    บ้านใครอยู่ใกล้ ส่งข้าวส่งน้ำให้ผมด้วยนะ ...
    [​IMG]ตุ้ม ขี้เกียจล็อกอิน - - [ 18 Jul 2007 18:40 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. hoto

    hoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +720
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าขนาดเอาปลาผิดประเภท ผิดท้องถิ่นมาขายเป็นปลาปล่อย
    ก็แสดงว่าพวกเพาะเลี้ยงปลานั่นแหละ
    เพาะเอามาขายพวกพ่อค้าปล่อยนกปล่อยปลา

    โทษที่ต้นเหตุด้วย

    [​IMG] - - [ 18 Jul 2007 19:30 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 9
    สื่อครับ สื่อต้องช่วย อย่างเดียวเลย และต้องเป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้มากที่ สุด ใครมีเพื่อนอยู่ไทยรัฐ เดนิวส์ ไปขอร้องให้ช่วยลงซักวันเถอะ
    [​IMG]จอน - - [ 18 Jul 2007 20:34 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 10
    เกิดมาทำไม เจ้าซัคเกอร์เนี๊ย (อ้าว!! ไปโทษมันอีก เวงกำ)
    [​IMG]Monodon [​IMG] - - [ 18 Jul 2007 20:35 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 11
    กินได้นะครับเจ้าซัคเกอร์เนี๊ย เหงเขาว่าเนื้อมันขาวเหมือนปลาบู่
    เลย อาย่อยด้วย ย่างอ่ะครับ
    [​IMG]ลองดูอาจติดใจ - - [ 18 Jul 2007 21:53 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 12
    เนื้อปลาซักเกอร์ มันเป็นพิษ ไม่ใช่หรอครับ กินไม่ได้ กินแล้ว ชักนิครับ
    [​IMG]บาหารู - - [ 19 Jul 2007 02:11 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 13
    โห๋.. ป๋มเห็นด้วยกับพี่ๆ ทุกคนเลยคับ เนี่ยทราบมาว่าปลาซักเกอร์มันทนทานแข็งแรง ตายยาก และแพร่พันธุ์เร็วด้วย มันชอบกินไข่ปลา-ไข่กบ และสัตว์น้ำที่ออกไข่ในน้ำ โดยพ่อปลาแม่ปลาที่เฝ้าไข่จะคุ้มครองไข่ของมันไม่ค่อยได้ ก้อๆๆซักเกอร์มันมีผิวหยาบและแข็งกระด้างเป็นเกราะป้องกันตัวคับ ไข่ปลาไข่กุ้ง ไข่กบ ฯลฯ จึงมักจะถูกพถวกมันฟาดเรียบ

    เนี่ยอีก 10ปี 50ปี ข้างหน้า พวกมันคงยึดครองแม่น้ำ-ลำคลอง ห้วย-หนอง-บ่อ-บึง คราเนี้ยพวกเราจะไม่มีเนื้อกบ เนื้อปลา เนื้อกุ้ง ฯลฯ ที่แสนอร่อยให้รับทานกันแน่ จะพึ่งพันธุ์ปลาของกรมประมงอย่างเดียวก้อไม่ไหว พันธุ์ปลา ฯลฯ ก้อจะไม่พอแจกให้เลี้ยงขุน ถึงเลี้ยงได้เนื้อก้อไม่อร่อยเหมือนปลาธรรมชาติดอกคับป๋ม แถมสายพันธุ์ก้อยิ่งอินบรีด จนรุ่นลูกจะเป็นปลาพิการ ตัวดุ้งหงิกงอ พิกลพิการ
    สิไม่ว่า เวลาเสริฟขึ้นจานคงจะไม่สวยน่ากินนะคับ

    แล้วทีนี้จะไปโทษปลาซักเกอร์ก้อไม่ได้ พวกมันไม่ผิดหรอก.... แกสโซฮอล..สิที่ผิด

    สวัสดีพี่ๆทุกคนนะคร๊าบบบ (หนุ่ย).
    [​IMG] 02-345-6789 - - [ 19 Jul 2007 16:40 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 14
    ...ผมว่าไม่แน่นะ เพราะบางที ปล่อยปุ๊บก็จับขึ้นมาใหม่ปั๊บ มันยังไม่ทันไปไหนเลย เห็นกันบ่อยๆไป ปล่อยปลาเอาบุญ ไม่ใด้บุญเต็มที่ซะงั้น
    [​IMG]poonaldo [​IMG] - - [ 19 Jul 2007 17:39 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 15 โดยส่วนตัวนะครับ จะปล่อยปลาอะไร หรือสัตว์อะไรก็ตาม ลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ผมว่าก่อนปล่อย เราต้องรู้ว่า ธรรมชาติของสัตว์ที่เรากำลังคิดจะปล่อยลงไปนั้นเป็นอย่างไร สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นได้หรือไม่ แล้วจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์อย่างไร ความใจบุญขอเรา อาจเป็นฆาตกรให้กับตัวมันเอง และสิ่งอื่น ๆ บางครั้งเจตนาที่หวังดี แต่กลับกลายเป็นดาบสังหารก็ได้ครับ ก็ขอฝากไว้ว่า " คิดสักนิด ว่าอะไรจะเกิด หลังจากที่ทำไป " ขอบคุณครับ
    [​IMG]หิมะสีน้ำเงิน - - [ 19 Jul 2007 19:20 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. hoto

    hoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +720
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 16 ที่อ่างปลาหน้าบ้านผมก็มีเลี้ยงชัคเกอร์อยู่เหมือนกัน เลี้ยงมานานแล้ว ที่นั่งโพสต์กระทู้อยู่นี่ก็มองมันอยู่นะ ดูๆไปหน้ามันก็ซื่อๆ(แถมบางครั้งกระพริบตาให้อีกแน่ะ) วันๆไม่ยุ่งกับใคร มันหิวมันก็ดูดหาอะไรกินของมันไปตามเรื่อง มันไม่เคยรู้ว่าบรรพบุรุษของมันมาจากไหน แล้วเอาพวกมันมาทำไม พวกมันยังไม่รู้อีกเลยว่ากำลังถูกมองว่าเป็นตัวปัญหา ไหนๆก็เพาะให้มันเกิดมาแล้วมันก็อยู่ตามอัตภาพของมันไป

    มนุษย์บางกลุ่มต่างหากหวังผลประโยชน์ทางการค้าอย่างเดียวแต่ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบ อีกหน่อยรายชื่อปลาไทยที่ยังดำรงอยู่คงเหลือไม่กี่พันธุ์ ส่วนใหญ่จะออกลูกเป็นไข่แทบทั้งนั้น ที่ออกลูกเป็นตัวก็มีน้อยมาก


    [​IMG](จขกท.) - - [ 19 Jul 2007 20:12 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 17
    [​IMG]

    ลองปล่อยตัวนี้ลงไปในแม่น้ำซิอยากรู้ว่ามันจะขยายพันธุ์เร็วมั้ยแต่ผมว่าน่าจะเหมาะกับแม่น้ำบ้านเราดีวันดีคืนดีอาจจะออกลูกหลานเต็มแม่น้ำก็ได้
    [​IMG]back [​IMG] - - [ 19 Jul 2007 20:15 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 18
    ตัวข้างบนนี่มาปล่อยที่บ้านผมได้ทุกเมื่อครับ อย่าปล่อยแม่น้ำเลย (เสียดาย....)
    [​IMG](จขกท.) - - [ 22 Jul 2007 15:22 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 19
    ข่าวล่าสุดครับ ปลาตายเป็นแพเพราะน้ำเสีย
    ในนั้นมีปลาที่ทนทานมาก ๆ คือ
    ซักเกอร์รวมอยุ่ด้วย
    ตายพร้อมปลาแม่น้ำ แต่ตายน้อยกว่า
    [​IMG] - - [ 22 Jul 2007 18:20 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 20
    เป็นปลาอะไรที่ทนสุดๆแล้ว โอกาสสูญพันธุ์มีน้อยอีกต่างหาก


    [​IMG](จขกท.) - - [ 23 Jul 2007 23:53 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 21
    เกิดขึ้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โรงงานปลาทู ทำแอมโมเนียรั่วลงแม่น้ำ ทำให้ปลานับล้านตัว(ตามข่าว)ลอยตายเป็นแพ
    ประมงจังหวัดตรวจสอบแล้วน้ำในแม่น้ำมีอ๊อกซิเจนเท่ากับ 0 มีผลทำให้ปลาตาย
    [​IMG] - - [ 24 Jul 2007 07:24 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 22
    สงสัยคงต้องมีการวิจัยศึกษาระบบการหายใจของปลาชนิดนี้ดูนะว่ามีลักษณะพิเศษอย่างไร เผื่อว่าจะได้นำไปตัดต่อยีนต์พันธุกรรมให้กับปลาเศรษฐกิจของไทยบ้านเราดูบ้างคงจะดีไม่น้อย
    [​IMG](จขกท.) - - [ 24 Jul 2007 21:33 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 23
    เอ่อ...อยากจะชี้แจงซักเล็กน้อยนะคับ
    ว่าปลาซักเกอร์ หรือที่เราเรียกมันว่าปลาดูด หรือปลาเทศบาลเนี่ยคับ มันก็มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ของบ้านเมืองเราอ่ะนะ
    แต่ที่ไม่ค่อยจะจับมันได้หรือพบบ่อยนักก็เพราะว่า ปลาพวกนี้จะขุดดินเลนอยู่ ลักษณะที่มันขุดจะคล้ายๆรูป สามเหลี่ยมด้านเท่าอ่ะครับ แล้วมันก็แข็งแรงมากๆ...
    [​IMG]คนเคยเห็น - - [ 25 Jul 2007 18:00 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 24
    อ้าว...ไม่ใช่เป็นเพราะคนไปปล่อยก่อนหน้านี้หรอกหรือครับ

    เพิ่งจะรู้เป็นครั้งแรกนะครับเนี่ย ...นับว่าเป็นความรู้ใหม่

    แล้วมันมีชื่อไทยกับเขาไหม ชักอยากจะรู้จักชื่อของมันซะแล้วซิครับ

    [​IMG](จขกท.) - - [ 26 Jul 2007 00:33 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 25
    ขออภัย!!
    จิงๆ แล้วมันเปนปลานำเข้ามา
    แต่เข้ามาอยู่เมืองไทยนานมักมาก
    จนแพร่พันธุ์เต็มไปหมดแล้วครับ ตอนนี้...
    [​IMG]คนเคยเห็น - - [ 28 Jul 2007 17:14 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 26
    เมื่อวันก่อน...ผมเห็นเด็กท้ายเรือเอะอ่ะมุงดูอะไรกันอยู่เลยเดินเข้าไปมุงดูด้วย ในถังเหล็กเก่านั่นมีชัคเกอร์ถูกจับได้อยู่ตัวหนึ่ง (ตัวใหญ่มากๆขอบอก) แต่ดูสภาพโดยรวมแล้วดูเหมือนมันจะป่วยมาก่อนไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกจับได้ง่ายๆหรอก ครีบหลังครีบหางขาดหวิ่นเป็นริ้วๆ ตามเนื้อตามตัวมีเกล็ดร่วงเต็มไปหมด เข้าใจว่าคงเป็นเพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังเน่าเสียลงเรื่อยๆ นี่ขนาดว่าปลาอึดเกล็ดหนาอย่างชัคเกอร์แล้วยังทนไม่ไหวเลย

    แม้ว่าเราจะช่วยกันอนุรักษ์ปลาพันธุ์พื้นเมืองแล้ว แต่เราก็ต้องรนรงณ์ช่วยกันรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีสภาพที่ยังเหมาะแก่การอยู่อาศัยของปลาได้ด้วย ไม่อย่างนั้นปล่อยปลาอะไรลงไปก็ตายหมดน่ะซิครับ....คุณว่าไหม
    [​IMG]กัดจีน - - [ 03 Aug 2007 11:08 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 27
    ^
    ^
    ^
    ^

    ผม จขกท.เองแหละครับ ^ ^'
    [​IMG](จขกท.) - - [ 03 Aug 2007 11:12 AM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=10 width=560 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD class=black bgColor=#ffffff>ความคิดเห็นที่ 28 --------- ขอปิดกระทู้เลยละกันครับ ----------


    * ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ


    [​IMG](จขกท.) - - [ 04 Aug 2007 23:54 PM ]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...