สาเหตุที่ฝึกสมาธิวิปัสสนา ได้ผลช้า และวิธีแก้ไข

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย NUI, 29 พฤศจิกายน 2004.

  1. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    สาเหตุสำคั_ที่ทำให้ฝึกสมาธิหรือวิปัสสนาได้ผลช้า ก็คือ
     
  2. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    ขอบคุณนะครับ จะลองไปใช้ดูครับ(f)
     
  3. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ลองดูสังโยขน์10

    ลองดูสังโยขน์10
    ช่วยได้
     
  4. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +97
    เอ....แล้วสังโยขน์10 นี่มันมีอารายบ้างน้า......
     
  5. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขอให้ทุกคนทุกท่าน
    เจริญในธรรมและมีดวงตาเห็นธรรมทุกท่านทุกคนเทอญ

    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  6. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    สาธุๆๆอนุโมทนามิดีเหลือเกินๆๆอ่านซะนะครับดีมากๆๆยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวจริงๆ
    แต่เสริมอีกแหละ(ลูกอีช่างเสริม)

    ถ้าเข้าใจสภาพของจิต และ สภาวะของเค้าก็จะไม่ยากเลยลองดูนะครับเพราะจิตเค้าซน จิตเค้าดื้อ จิตเค้าฟุ้งไปไดเรื่อยๆดังนั้นจงอย่า บังคับ ลองตามเค้าไปดูดูซิจะคิดได้นานแค่ไหน (นั่นคือคุรไม่สามารถหาที่ตั้งมั่นแห่งจิตได้นะ)แต่ถ้าคุณสามารถทำให้เค้าอยู่กับลมหายใจได้เยี่ยมเลยแปลว่าจิตคุณเริ่มโตแล้ว
    จิตเริ่มมีคุณภาพปล้ว และจงดำเนินต่อไป แต่ถ้าทำไม่ได้.....อย่าเครียด ปล่อยเค้า ถ้าเครียดก็คือจิตเครียด.......มันก็คือทุกข์......ก็ปล่อยวะอย่าเอามันไว้เลยเดี๋ยวก็ดีเองครับ
     
  7. นาคาคีรี

    นาคาคีรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +55
    สังโยชน์ แปลว่า กิเลสเป็นเครื่องร้อยรัดจิตใจให้ตกอยู่ในวัฎฎะ มี 10 อย่าง

    1.สักกายทิฏฐิ เห็นว่า ร่า่งกายเป็นเรา เป็นของเรา (คำว่าร่างกายนี้หมายถึง ขันธ์ 5)
    2.วิจิกิจฉา ความลังเลสังสัย ในคุณพระรัตนตรัย
    3.สีลัพพตปรามาส รักษาศีลแบบลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่รักษาศีลอย่างจริงจัง
    4.กามฉันทะ มีจิตมั่วสุมหมกมุ่น ใคร่อยู่ในกามารมณ์
    5.พยาบาท มีอารมณ์ผูกโกรธ จองล้างจองผลาญ
    6.รูปราคะ ยึดมั่นถือมั่นในรูปฌาน
    7.อรูปราคะ ยึดมั่นถือมั่นในอรูปฌาน คิดว่าเป็นคุณพิเศษที่ทำให้พ้นจากวัฎฎะ
    8.มานะ มีอารมณ์ถือตัวถือตน ถือชั้นวรรณะเกินพอดี
    9.อุทธัจจะ มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ครุ่นคิดอยู่ในอกุศล
    10.อวิชชา มีความคิดเห็นว่า โลกามิสเป็นสมบัติที่ทรงสภาพ
    นักปฏิบัติที่ท่านปฏิบัติกันมาและได้รับผลเป็นมรรคผลนั้น ท่านคอยเอา สังโยชน์ เข้าวัดอารมณ์เป็นปกติ เทียบจิตกับ สังโยชน์ ว่า เราตัดอะไรได้เพียงใด แล้วจะรู้ผลปฏิบัติอารมณ์ที่ละนั้นเอง
    สังโยชน์ทั้ง 10 ข้อนี้ ถ้าพิจารณาวิปัสสนาญาณแล้ว จิตค่อย ปลดอารมณ์ที่ยึดถือได้ครอบ 10 อย่าง โดยไม่กำเริบอีกแล้ว ท่านว่า ท่านผู้นั้นบรรลุอรหัตผล

    ขอโมทนาคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...