สิ่งน่าสนใจ คัดจากกระโถนข้างธรรมาสน์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย santosos, 11 ตุลาคม 2005.

  1. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    1ลักษณะของการฝึกญาณ ๘ เราได้ทิพจักขุญาณก่อน คราวนี้ทิพจักขุญาณถ้าไม่ชัดเจนแจ่มใส บางทีเหมือนยังกับเราคิดเองเออเอง วิธีทดสอบง่าย ๆ ก็คือว่าให้ถามปัญหาที่พิสูจน์ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างเช่นว่าถ้าพรุ่งนี้เราอกจากบ้านเราจะเจอใครเป็นคนแรก ผู้หญิงหรือผู้ชาย ใส่เสื้อผ้าสีอะไรอย่างนี้ พอตอนเช้าก็โผล่หน้าออกไปดูเลย ถ้ามันตรงก็ใช้ได้

    2ทบทวนดูว่าตอนช่วงนั้นเรารักษาอารมณ์ยังไง ? ทาน ศีล ภาวนาของเราทรงตัวแค่ไหน ? อารมณ์ใจนั้นถึงอยู่กับเรา เราปฏิบัติวันละเท่าไหร่ ? เช้ากี่ครั้งเย็นกี่ครั้ง ? รักษาอารมณ์ได้นานเท่าไหร่อย่างนั้น แล้วตอนนี้เราได้ทำอย่างนั้นมั้ย ? ถ้าเรายังทำอย่างนั้นผลอย่างนั้นก็ยังเกิดอยู่ แต่ถ้าเราเลิกทำเมื่อไหร่ผลอย่างนั้นก็หายไป
    3เราไม่สร้างเหตุแลผลจะเกิดได้อย่างไร ? เราก็ต้องทำเหตุอันนั้นใหม่ คนที่เคยทำได้แล้วไม่ยาก ถ้าเคยทำได้แล้วจะไม่ยากไปทบทวนอารมณ์เดิมของเรา พอถึงตรงจุดนั้นเมื่อไหร่ตัวรู้นี่ก็จะเกิดขึ้นมาใหม่ แรก ๆ มันเป็นความรู้สึกพอนานไป ๆ ความมั่นใจมันมากเข้า ๆ อยู่มันจะเหมือนกับปรากฏภาพวาบขึ้นมาเฉย ๆ ตอนนั้นก็จะลำบากอยู่อีกช่วงหนึ่ง พอภาพมันปรากฏขึ้นมาความเคยชินจะไปใช้สายตาเพ่งอยู่ เราต้องส่งจิตออกไปนะไปถึงสถานที่นั้น ๆ ถึงจะรับรู้ภาพอย่างนั้น ๆ ได้
    4 อภิญญาหกมันจะมีอยู่จุดหนึ่งก็คือ อิทธิฤทธิ์ ตัวนี้จะแสดงฤทธิ์ผาดแผลงได้ทุกอย่างเลยเนื่องจากว่าพื้นฐานของอิทธิฤทธิ์มาจากกสิณสิบ แต่ว่าวิชชาสามนี่พื้นฐานมาจากกสิณกองใดกองหนึ่งกองเดียวคือจะเป็นเตโชกสิณกสิณไฟ โอทาตกสิณกสิณสีขาว อาโลกกสิณกสิณแสงสว่าง กสิณสามกองนี้กองใดกองหนึ่งนี่ทำให้เกิดทิพจักขุญาณได้ พอเกิดทิพจักขุญาณแล้วก็นำไปใช้ในปุพเพนิวาสนุสสติญาณคือระลึกชาตินะวิชาที่หนึ่ง วิชาที่สองจุตูปปาตาญาณ รู้ว่าคนและสัตว์ก่อนเกิดมาจากไหนตายแล้วจะไปไหน และตัวสุดท้ายคืออาสวักขยญาณคือทำกิเลสให้สิ้นไปสามอย่างนี้เขาเรียกว่าวิชชาสาม
    5 ฆราวาสทำได้ง่ายกว่าเพราะว่าศีลน้อยกว่า คนที่รักษาของห้าชิ้นกับคนที่รักษาของสองร้อยกว่าชิ้นนี่ใครดูแลง่ายกว่ากัน ฆราวาสรักษาศีลแค่ห้าข้อทำได้ง่ายกว่า มันอยู่ที่ว่าเราเอาจริงมั้ย ? เรื่องของอภิญญาเป็นเรื่องของคนจริงคนจัง ของคนมีสัจจะทำต้องทำจริง ๆ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากว่าเราทำอย่างนั้นได้มันได้ทุกคนไม่ใช่นักบวชหรอก นักบวชปัจจุบันนี้สามแสนกว่านี่ทำได้ไม่ถึงพันหรอก
    6มีคู่นี่ยิ่งไปง่ายเลย คนจะไปนิพพานจะต้องเห็นทุกข์รู้ทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์รู้ทุกข์แล้วรู้สึกเข็ด ในเมื่อรู้สึกเข็ดนี่ก็หาทางหนีทุกข์ซึ่งมันจะไปนิพพานได้ ดีไม่ดีไปง่ายด้วยเพียงแต่ว่าคนส่วนใหญ่ที่มีคู่ถ้าหากว่าจิตใจมัวแต่ไปกังวลกับการทำมาหากิน ห่วงลูกห่วงผัวห่วงเมียมันกังวลอยู่มันก็จะไปยาก แต่ถ้าหากว่าผู้ใดก็ตามที่มีคู่แล้วเห็นทุกข์โอกาสที่จะไปมันง่ายกว่าคือถ้าตั้งใจปฏิบัติจริงเห็นทุกข์จริงจิตมันยอมรับได้ง่ายกว่า มันลำบากจริง ๆ แล้วนี่คนเดียวก็ทุกข์จะแย่แล้วใช่มั้ย ? จาก ขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของตัวเองก็กลายเป็นขันธ์สิบของสามีอย่างนี้ กลายเป็นขันธ์สิบห้าของลูก มีซะสองคนก็ยี่สิบไปเลย มันทุกข์กว่าเดิมหลายเท่ามันน่าจะไปง่ายกว่า ใครบอกว่ามีคู่แล้วไปนิพพานไม่ได้อย่าไปเชื่อ พระพุทธเจ้าก็มีใช่มั้ย ? นั่นจะต้นตำรับนิพพานเลย
    7นางกวัก ถ้าหากว่าทำถูกต้องตามพิธีกรรมของเขามีผลจริง สมัยโบราณพิธีกรรมทุกอย่างขึ้นอยู่กับสติ สมาธิทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่เสาะหาไม้มา จะต้องใช้ฤกษ์ไหน ยามไหนไปตัด ? เวลาตัดต้องภาวนาคาถาว่าอย่างไร ? ได้มาเสร็จแล้วต้องประกอบด้วยพิธีอย่างไร ? จะกลึงจะเกลา จะควัก จะแกะสลักอย่างไร ? ต้องกำกับด้วยคาถาอะไร ? กำลังจิตที่มุ่งมั่นขนาดนั้นทำให้เกิดความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นโดยปริยายแล้ว ยังไม่ทันจะทำพิธีใหญ่เลยนะ
    8เรานึกถึงพระเป็นพุทธานุสสติ เดี๋ยวเราไปวัดเราได้ฟังเทศน์ฟังธรรมเป็น ธรรมานุสสติ เราไปแล้วเรา จะได้กราบหลวงพ่อองค์โน้น หลวงปู่องค์นี้ ได้ฟังพระสงฆ์ของวัดเราสวดมนต์อย่างนี้เป็นสังฆานุสสติ ถ้าหากว่านึกอยู่อย่างนี้เเป็นปกติมันเป็นวันพระอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าวันอื่น ๆ เราไม่ได้นึกเลย ไปนึกเอาเฉพาะวันพระ วันพระเขาจะต่างจากวันอื่น แต่ว่าวันพระพิเศษที่จะเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงยังไง ๆ กำลังใจของเราก็จะต้องเกาะต้องนึกอยู่แล้ว เออ.. วันนี้วันวิสาขะพระพุทธเจ้าเคยประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานมาแล้วก็สามารถทำให้โยงจิตของเราเข้าถึงความดีได้ง่ายกว่าอยู่หน่อยหนึ่ง สำคัญอยู่ตรงการนึกถึงความดีตรงระหว่างที่ทำ
    ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง มาร คือผู้ขวาง คือผู้ฆ่า เขาก็ทำหน้าที่ของเขาไปใช่มั้ย ? เราเองปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้นเราก็ปฎิบัติของเราไป มันเหมือนกับคนพ้นคุกแล้วแต่ย้อนกลับไปรื้อคุกทิ้ง ทันหน้าที่ของเราหรือเปล่าล่ะ ๆ ไม่ได้เกี่ยวเลย (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นเราจะไปว่าผู้คุมคุกนี่ไม่ดีจับเราเข้าคุกหรือตำรวจไม่ดีจับเราเข้าคุกก็รวมหัวกันไปตีตำรวจมันไม่ใช่เรื่องของพลเมืองดี เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าเป็นทัศนคติที่ถูกต้อง ก็ถือว่าถูกของเขาล่ะ แต่ว่ามันผิดของเราก็แล้วกัน เขาเชื่ออย่างนั้น ห้ามเขา ๆ ก็ไม่ฟังเรา
    9นึกถึงพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ว่าคาถาเงินล้าน ซิหมดเรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านมีเยอะ แล้วพระนามของท่านก็มี แต่ว่าเนื่องจากว่าหลวงปู่หลวงพ่อทางด้านครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้บอกไว้ใช่มั้ย ? เราเองเราก็นึกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าของพระคาถาเงินล้าน ถ้านึกภาพท่านไม่ออกก็นึกภาพพระพุทธเจ้านั่นแหละ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าก็เหมือนกันพระพุทธเจ้าทุกอย่างเพียงแต่รัศมีความสว่างน้อยกว่าพระพุทธเจ้านิดเดียวเท่านั้นเอง
     
  2. นุ่น

    นุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +210
    โมทนาครับ ชอบมากเวลาพี่santosos โพสเรื่องประสบการณ์และธรรมมะต่างๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...