เรื่องเด่น สุดยอดวิชาคงพระพัน "ผ้าประเจียด" ๕ เกจิชื่อดังในตำนาน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม !!

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 12 กรกฎาคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    เต็มเปี่ยมพุทธคุณเข้มขลัง!! สุดยอดวิชาคงพระพัน "ผ้าประเจียด" ๕ เกจิชื่อดังในตำนาน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม อานุภาพครอบจักรวาล !!

    1044.jpg

    ผ้าประเจียด ผ้าลงเลขยันต์อักขระเวทมนตร์คาถา ซึ่งนอกจากยันต์ธรรมดาแล้ว ยังมีรูปพระ เทวดา ยักษ์ ลิง เสือ ราชสีห์ เป็นต้น โดยมากใช้ผ้าขาว ผ้าแดง และผ้าเหลืองบ้าง ทำขึ้นเพื่อคุ้มกันอันตราย โดยผ้าประเจียดจะให้คุณตามแต่ความต้องการ เช่น คงทน คลาดแคล้ว มหาอุด เมตตามหานิยม โชคลาภ หรือมีโชคทางค้าขาย รูปลักษณะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใช้โพกศีรษะ พันคอ พันแขน หรือใส่กระเป๋า ถือกันว่าเป็นเครื่องรางคุ้มกันตัว เป็นอำนาจทางไสยศาสตร์ซึ่งส่วนใหญ่จัดอยู่ในชุดของวิชาคงกระพันชาตรี กำบังตัว คุ้มกำลัง อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายๆ อย่างรวมกัน ภาษาที่ใช้เขียนเป็นอักขระโบราณ

    สำหรับผ้าประเจียดของเกจิอาจารย์ชื่อดังในตำนาน ก็มีหลายท่าน มีอภินิหารมากมาย เลื่องชื่อเมื่อครั้งอดีต อย่างเช่น ผ้าประเจียดของหลวงปู่ศุขที่ท่านปลุกเสกถวายทหารเรือของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือแม้แต่ผ้าประเจียดของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ที่ใช้ป้องกันภัย ปราบพวกอั๊งยี่มาแล้ว และยังมีอีกมากมาย วันนี้เราขอรวบรวม ๕ ตำนาน ผ้าประเจียด ในตำนาน มากด้วยพุทธคุณครอบจักรวาล




    U17723476361337201290910222.jpg

    ๑. ผ้าประเจียด หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    ผ้าประเจียดของหลวงปู่ศุขนั้น นับว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่ศักดิ์สิทธิ์มาก มีตำนานเล่าขานถึงปาฏิหาริย์แห่งความเข้มขลังของผ้าประเจียด เมื่อครั้งที่ท่านได้ปลุกเสก ทำผ้าประเจียดให้กับ เสด็จในกรม (กรมหลวงชุมพรฯ) และพระองค์ได้นำมาแจกจ่ายให้กับทหารเรือทุกคน

    ผ้าสีเเดงลงอักขระเลขยันต์ หลวงปู่ศุขท่านก็ทำออกมาเรื่อยๆ เเต่จะทำเป็นจำนวนเท่าไหร่ไม่ทราบได้ เพราะว่าท่านทำเเจกทั้งชาวเรือ ชาวบ้าน เเละพวกที่มาทำบุญ เเละกราบขอของดีจากท่าน ส่วนอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์นั้น แม้เเต่เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท่านยังเคยได้ทดลองนำไปเเจกจ่ายให้กับทหารเรือบนเรือรบหลวงมาเเล้วจนเกิดเป็นตำนาน นายยัง หาญทะเล อันลือลั่น รอดพ้นจากฉลามแหวกว่ายอยู่รอบตัว เเละเล่าขานติดปากผู้คนมาจนถึงปัจจุบันถึงพุทธคุณทางเเคล้วคลาด คงกระพัน ของผ้าประเจียดหลวงปู่ศุข



    get_auc1_img(10).jpg

    ๒. ผ้าประเจียด หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง

    เมื่อในปีพุทธศักราช ๒๔๑๙ กรรมกรเหมืองแร่เป็นจำนวนหมื่น ในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงได้ซ่องสุม ผู้คน ก่อตั้งเป็นคณะขึ้นเรียกว่า อั้งยี่ โดยเฉพาะพวกอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ตก่อเหตุวุ่นวายถึงขนาดจะเข้า ยึดการ ปกครอง ของจังหวัดเป็นของพวกตน ทางราชการในสมัยนั้นไม่อาจปราบให้สงบราบคาบได้ พวกอั้งยี่ถืออาวุธ รุกไล่ ยิง ฟันชาวบ้านล้มตายลงเป็นจำนวนมากชาวบ้านไม่อาจต่อสู้ป้องกันตนเองและทรัพย์สิน ที่รอดชีวิตก็หนี เข้าป่าไป เฉพาะในตำบลฉลองชาวบ้านได้หลบหนีเข้าป่า เข้าวัด

    ในคราวนั้น หลวงพ่อแช่มได้ทำเครื่องรางคุ้มครองตัวให้ชาวบ้าน หลวงพ่อแช่มก็ทำผ้าประเจียดแจกจ่ายให้คนละผืน พร้อม กับแจ้งแก่ชาวบ้านว่า "ข้าเป็นพระสงฆ์จะรบราฆ่าฟันกับใครไม่ได้ พวกสูจะรบก็คิดอ่านกันเอาเอง ข้าจะทำเครื่อง คุณพระให้ไว้สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น"

    ชาวบ้านเอาผ้าประเจียดซึ่งหลวงพ่อแช่มทำให้โพก ศีรษะเป็นเครื่องหมาย บอกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ให้ฉายาคนไทยชาวบ้านฉลองว่า พวกหัวขาว ยกพวกมาโจมตีคนไทยชาวบ้านฉลองหลายครั้ง ชาวบ้านถือเอากำแพงพระอุโบสถเป็นแนวป้องกัน อั้งยี่ไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้ ภายหลังจัดเป็นกองทัพเป็น จำนวนพัน ตั้งแม่ทัพ นายกอง มีธงรบ ม้าล่อ เป็นเครื่องประโคมขณะรบกัน ยกทัพเข้าล้อมรอบกำแพงพระอุโบสถ ยิงปืน พุ่งแหลน พุ่งอีโต้ เข้ามาที่กำแพง เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่บรรดาชาวบ้านซึ่งได้เครื่องคุ้มกันตัวจากหลวงพ่อ แช่มต่างก็แคล้วคลาดไม่ถูกอาวุธของพวกอั้งยี่เลย



    suwanchok150106.jpg

    ๓.ผ้าประเจียด หลวงปู่เปลื้อง วัดลาดยาว

    ผ้าประเจียดของหลวงปู่เปลื้องถูกสร้างขึ้นมา เมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว ปัจจุบันหลวงปู่เปลื้องประสงค์จัดทำผ้าประเจียดแบบผืนนั้นให้คงความเข้มขลังขึ้นอีก เป็นสมบัติของแผ่นดินสืบไป ท่านจึงดำริให้ช่างเขียนมือหนึ่งทำการเขียนรูปพระนารายณ์มหาจักรพรรดิตามตำราดั้งเดิม โดยมีพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน พระพรหมขนาบข้าง มีพระนารายณ์มหาจักรพรรดิอยู่กลางผืนผ้า มีอมนุษย์พาหนะทั้งสามรองรับแท่นฐาน คือ พญาครุฑ (เก่งบนฟ้า) หนุมาน (เก่งบนดิน) และพิเภก(เก่งเหนือดวง) ล้อมรอบด้วยตราเสมา แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทับด้านนอกอีกครั้งด้วยพระยันต์และคาถาสำคัญ กำกับผ้ายันต์นารายณ์มหาจักรพรรดิ ตำรานี้บ่งว่า

    "ท้าวเธอเป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย ให้ตั้งใจบูชาให้มั่นจะเป็นใหญ่กว่าผู้ใด ติดบ้านและรถเรือไปทางใด ชนะมีชัยทางนั้น เข้ารณรงค์สงครามติดเหนือยอดธงศัตรูหมู่มารแพ้ไปในที่สุด ประกอบกิจการค้าขายพืชไร่เลือกสวนไร่นา เจริญงอกงาม หาบคลอนไปทางใดคนหลั่งไหลมาอุดหนุนจนหมดสิ้นแล"

    ผ้ายันต์ผืนนี้ช่างได้บรรจงเขียนรายได้อย่างสวยงามตรงตามตำรับเก่าอย่างมั่นคงและแท้จริงสืบต่อไปภายหน้า ตำราผ้าประเจียดนารายณ์มหาจักรพรรดิของหลวงปู่ศุขจะยังคงเป็นอมตะ แบบอย่างและตำนานฝากความขลังไว้ชั่วลูกชั่วหลานสืบไป หลวงปู่เปลื้องบอกว่าตอนที่เสกผ้ายันต์ผืนนี้ หลวงปู่ศุข ท่านมาหาและกำกับตำราของท่านจนหลวงปู่เปลื้องไม่รู้ว่าท่านเสกหรือหลวงปู่ศุขมาเสกกันแน่ เพราะพอใส่วิชาลงไปหมดแล้ว ใช้จิตพิจารณาอีกทีเห็นว่ามีอานุภาพรังสีพุ่งมาจากผ้ายันต์อย่างประหลาด ไม่ใช่แบบที่เราเสกแน่ จึงคิดไปว่าบารมีของหลวงปู่ศุขและครูบาอาจารย์คงมาช่วยกันทำผ้ายันต์ผืนนี้




    104552_JbEZx.jpg

    ๔.ผ้าประเจียด หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    "ความขลัง" ของหลวงพ่อเดิมนั้น ประจักษ์แก่สายตาของผู้เคารพศรัทธามานักต่อนัก จนเป็นที่ประจักษ์แก่หูอยู่เป็นอันมาก จึงปรากฏว่าประชาชนทั้งชาวบ้านและข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนทั้งในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดที่ใกล้เคียงตลอดไปจนจังหวัดที่ห่างไกลบางจังหวัด พากันไปมอบตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อมากมาย ขอให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์บ้าง ขอวิชาอาคมบ้าง ขอแป้งขอผงบ้าง ขอน้ำมันบ้าง ขอตะกรุดบ้าง ขอผ้าประเจียดบ้าง จากหลวงพ่อเดิม

    สำหรับเรื่องผ้าประเจียดนั้น เมื่อสมัยสงครามมหาอาเซียบูรพา มีประชาชนพากันไปหาหลวงพ่อวันละมากๆ นอกจากขอของขลังเช่นกล่าวแล้ว ยังพากันหาซื้อผ้าขาวผ้าแดง ผืนหนึ่งๆ ขนาดกว้างยาวราว ๑๒ นิ้วฟุต เอาน้ำหมึกไปทาฝ่าเท้าหลวงพ่อ แล้วยกขาของท่านเอาฝ่าเท้ากดลงไปให้รอยเท้าติดบนแผ่นผ้า บางคนก็กดเอาไปรอยเท้าเดียว บางคนก็กดเอาไปทั้งสองรอย แล้วก็เอาผ้าผืนนั้นไปเป็นผ้าประเจียดสำหรับคุ้มครองป้องกันตัว ฝ่าเท้าของหลวงพ่อต้องเปื้อนหมึกอยู่ตลอดทุกวัน จนหลวงพ่อเคยบ่นหลังจากเสร็จจากการปลุกเสกของขลังว่า "มันทำกูเป็นหนูถีบจักร เมื่อยแข้งเมื่อยขาไปหมด"



    7603801-149e0.jpg

    ๕. ผ้าประเจียด หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ

    สำหรับความเข้มขลังของผ้าประเจียดหลวงพ่อแดงนั้น เกิดขึ้นในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๗๗ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลานั้นเกิดโรคระบาดสัตว์ วัวควายเป็น โรครินเดรอ์เปรส ซึ่งเป็นโรคปากเท้าเปื่อยที่ติดต่อร้ายแรง พากันล้มตายเป็นเบือ สัตว์แพทย์ก็ไม่มี ต้องขอให้ทางการมาช่วยฉีดยา ราษฎรจึงพากันไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้ด้วย

    หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกลงเลขยันต์ในผืนผ้ารูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ แจกให้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวควายนำไปผูกปลายไม้ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน ปรากฏผลว่า คอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดงไม่ตายเลย ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐ เมื่อรู้กิตติศัพท์จึงพากันมาขอยันต์หลวงพ่อแดงทุกวันมิได้ขาด กระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ คือมหาสงครามเอเชียบูรพา มีทหารญี่ปุ่นมาขึ้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ก็เกิดการต่อสู้กับทหารอากาศของไทยที่นั่น ชาวเพชรบุรีก็ตระหนกตกใจ แล้วชักชวนกันมาหาหลวงพ่อแดง ท่านก็ลงผ้าประเจียดยันต์แจก ให้คุ้มครองป้องกันตัว

    นับได้ว่า ผ้าประเจียด ของเหล่าเกจิอาจารย์ทุกท่านที่กล่าวมานั้น ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่มีกิตติศัพท์ที่น่าศรัทธายิ่ง พุทธคุณของแต่ละท่านก็ต่างกัน แต่เต็มเปี่ยมด้วยพุทธคุณ และความศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า ผ้าประเจียดนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับเหล่าทหารกล้าที่ต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศ ทำให้มีขวัญมีกำลังใจในการทำศึกสงครามมาตั้งแต่ในอดีต


    ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.itti-patihan.com

    เพจ เพจศิษย์ตถาคต อาจารย์สายวัดป่า

    www.g-pra.com


    เรียบเรียงโดย : เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ

    ---------------
    ขอบคุณที่มา
    http://www.partiharn.com/contents/11
     

แชร์หน้านี้

Loading...