ส่งการบ้านครับ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗<O>​

สังยุตตนิกาย สคาถวรรค<O>​

<O>​

ปัชโชตสูตรที่ ๖<O>​

[๖๘] [FONT=&quot]เทวดาทูลถามว่า[/FONT] โลกย่อมรุ่งเรืองเพราะแสงสว่างทั้งหลายใด <O>
แสงสว่างทั้งหลายนั้น ย่อมมีอยู่เท่าไรในโลก <O>
ข้าพระองค์ทั้งหลาย มาเพื่อจะทูลถามพระผู้มีพระภาค <O>
ไฉนจะรู้จักแสงสว่างที่ทูลถามนั้น ฯ<O>
<O>
[๖๙] [FONT=&quot]พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า[/FONT] แสงสว่างทั้งหลายมีอยู่ ๔ อย่างในโลก <O>
แสงสว่างที่๕ มิได้มีในโลกนี้ ดวงอาทิตย์สว่างในกลางวัน ดวงจันทร์สว่างในกลางคืน <O>
อนึ่ง ไฟย่อมรุ่งเรืองในกลางวันและกลางคืนทุกหนแห่ง <O>
พระสัมพุทธเจ้าประเสริฐกว่าแสงสว่างทั้งหลาย<O>
แสงสว่างของพระสัมพุทธเจ้า เป็นแสงสว่างอย่างเยี่ยม ฯ<O>
<O>
สรสูตรที่ ๗<O>
[๗๐] เทวดาทูลถามว่า สงสารทั้งหลายย่อมกลับแต่ที่ไหน วัฏฏะย่อมไม่เป็นไปในที่ไหน
นามก็ดี รูปก็ดี ย่อมดับหมดในที่ไหน ฯ
<O>
[๗๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า น้ำ ดิน ไฟ ลม ย่อมไม่ตั้งอยู่ในที่ใด สงสารทั้งหลายย่อมกลับแต่ที่นี้
วัฏฏะย่อมไม่เป็นไปในที่นี้ นามก็ดี รูปก็ดี ย่อมดับหมดในที่นี้ ฯ
<O>
มหัทธนสูตรที่ ๘<O>
[๗๒]เทวดาทูลถามว่า กษัตริย์ทั้งหลายมีทรัพย์มาก มีสมบัติมาก ทั้งมีแว่นแคว้น
ไม่รู้จักพอในกามทั้งหลาย ย่อมขันแข่งซึ่งกันและกัน
เมื่อกษัตริย์ทั้งหลายนั้น มัวขวนขวาย ลอยไปตามกระแสแห่งภพ
บุคคลพวกไหนไม่มีความขวนขวาย ละความโกรธ และความทะเยอทะยานเสียแล้วในโลก ฯ
<O>
[๗๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า บุคคลทั้งหลาย ละเรือน ละบุตร ละปศุสัตว์ที่รัก
บวชแล้ว กำจัดราคะ โทสะ และอวิชชาเสียแล้ว เป็นผู้มี
อาสวะสิ้นแล้ว เป็นผู้ไกลจากกิเลส บุคคลพวกนั้น เป็นผู้ไม่ขวนขวายในโลก ฯ

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.616483/[/MUSIC]

 

ขออภัยด้วยนะครับ เสียงแหบมากๆเลยครับ
ปล.เสียงที่บันทึกเบามากๆ อาจจะเกี่ยวกับ Sound on Broard ครับ

 

เป็นไฟล์ mp3 40 kbps stereo ตามที่กำหนด ถูกต้องค่ะ
ควรแยกไฟล์เป็น 3 ไฟล์ค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ