เรื่องเด่น หญิงแก่ขวางทาง(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ๐Novice๐, 14 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ๐Novice๐

    ๐Novice๐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    62
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +357
    sangkha47.gif
    105730.jpg

    หญิงแก่ขวางทาง


    เมื่อกลับมาถึงที่แล้วก็คิดในใจ พอทรงอารมณ์ได้ ก็ตั้งใจคิดว่าประเดี๋ยวเราจะไปหาลุง ก็ลุกจากที่นอน ออกจากสถานที่ จะไปหาท่านลุง แต่ว่าบรรดาท่านผู้ฟังอุปสรรคย่อมเป็นอุปสรรค เป็นของธรรมดา ๆ คำว่า อุปสรรค นี่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อนว่า การจะไปไหนก็ดี การจะทำงานทุกอย่างก็ดี ต้องคิดถึงอุปสรรคก่อน แม้แต่การประกอบอาชีพต่าง ๆ ก็ต้องคิดถึงอุปสรรคก่อน อุปสรรคมันต้องมีกับคนทุกคน


    พอเคลื่อนจากที่ก็ปรากฏว่า มีหญิงแก่คนหนึ่ง ผิวขาว รูปร่างเพรียว อายุประมาณ ๗๐ ปี อายุนี่ขอประมาณ เธอนั่งขวางทางหลีกทางซ้ายเธอก็ขวาง หลีกทางขวาเธอก็ขวาง เดินตรงเธอก็ขวาง

    ก็ถามเธอว่า “เธอจองเวรจองกรรมอะไรกับฉัน ทำไมจึงขวางทางเดินของฉัน นี่ฉันจะไปหาลุง แล้วเธอมาขวางทำไม”
    เธอก็ยิ้ม บอกว่า “ที่ฉันมาขวางนี่ฉันยังไม่ต้องการให้ไปหาลุง”
    เอาสิ ไหมล่ะ อย่านึกว่าพระนี่เก่งกว่าผี ผีเก่งกว่าพระ
    ก็ถามเธอว่า “เธอต้องการอะไร”


    เธอตอบว่า “ตามฉันมา”
    ก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น เธอก็นำหน้า ฉันจะตามไป”
    ก็ไม่ทราบว่า เธอจะพาไปไหน เธอก็พาเดินเรื่อยขึ้นไปทางด้านทิศเหนือ ชันขึ้นไป ๆ ปรากฏว่าดินแดนนั้นเป็นดินแดนของ เขาพระสุเมรุ เป็นทางที่ราบรื่น สวยสดงดงามมาก ขึ้นไม่เหนื่อย

    พอไปถึงยอดเขาพระสุเมรุ ก็ปรากฏว่าไปถึงที่ ปัญจสิกขเทพบุตร เป็นที่รวมใกล้กับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปถึงเธอก็นั่ง อาตมาผู้พูดก็นั่งก็อยากจะทราบว่าเธอฟ้องอะไรหรือเปล่า คือคิดว่าไปหา ผู้พิพากษาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธออาจจะฟ้อง

    นั่งอยู่แล้วก็ถามท่านปัญจสิกขเทพบุตรว่า “หญิงคนนี้คือใคร”
    ท่านก็ตอบว่า “เป็นหญิงคนหนึ่งที่มีคนเขาถามคุณ ที่ซอยสามลมว่า เธอตายไปแล้วไปไหน และท่านเองท่านก็ตอบสั้น ๆ ว่า คิดว่าเธอมีความสุข เพราะว่าคนคนนี้ทำบุญไว้มาก เวลาใกล้จะตาย เวลานั้นภาพเวลาเขาถาม ภาพเกิดกับคุณว่าหญิงคนนี้ถวายผ้าไตร หญิงคนนี้เคยสร้างพระพุทธรูปถวายในพระพุทธศาสนา

    แต่ความจริงบุญของเธอไม่ได้ทำแค่นั้น เธอทำไว้มากกว่านั้น เป็นคนใจบุญ เรื่องบาป เป็นของธรรมดาของคนที่เกิดมาต้องมีบาป แต่เธอก็เป็นคนใจบุญหนัก เธอเคยถวายสังฆทานที่เป็นอาหารกับพระ เคยถวายสังฆทานเป็นของแห้ง เคยทำบุญบวชพระ เคยทำบุญทอดกฐิน จิตใจของเธอจริง ๆ จับอยู่ที่ผ้าไตร กับพระพุทธรูป

    จึงหันมาถามเธอว่า “ความจริงเป็นอย่างนั้นไหม”
    เธอก็ตอบว่า “เป็นความจริง”
    ถามเธอว่า “บ้านอยู่ที่ไหน”
    เธอก็ยิ้ม ๆ เธอก็บอกว่า “เวลาที่คนเขาถามปัญหา เขาบอกบ้านแล้วนี่เจ้าคะ เขาบอกจังหวัดอยู่แล้ว”

    ก็เลยถามเธอว่า “บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ผู้หญิงแก่ ๆ แบบนี้มีกับเขาด้วยรึ นางฟ้าก็ดี เทวดาก็ดี พรหมก็ดี ที่มีรูปร่างแก่น่ะไม่มี”
    เธอก็ตอบว่า “เท่าที่เห็นแก่ จะได้ทราบว่าเมื่อตายอายุเท่าไร”
    ก็ถามถึงอาการตายของเธอ
    เธอบอกว่ามีอาการร้อนในท้อง และก็แน่นในหน้าอก ไม่มากนัก ต่อมาศีรษะก็มึน ความร้อนถึงศีรษะตาก็พร่า

    เวลานั้นจิตใจของเธอไม่ได้นึกอะไรมาก นึกอย่างเดียวว่าเวลานี้เรานับถือพระพุทธเจ้า เราเคยสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนั้น ก็ถวายสังฆทานเป็นพระพุทธรูปหน้าตักขนาด ๕ นิ้วบ้าง ๔ นิ้วบ้าง เคยถวายสังฆทานที่เป็นวัตถุแห้งเยอะ มีผ้าไตร เคยถวายสังฆทานที่เป็นอาหารก็เยอะ ภาพทั้งหมดก็ปรากฏกับเธอ

    และเวลานั้นก็ปรากฏมีภาพแมว กับภาพสุนัขเกิดขึ้น เจ้าแมวกับเจ้าสุนัขนี่เป็นภาพที่เธอเลี้ยงไว้ให้ความเมตตาปรานี เจ้าแมวกับเจ้าสุนัขก็มาหมอบอยู่ข้าง ๆ จิตเธอก็มีความรัก อาศัยภาพทั้งหลายเหล่านี้ปรากฏ เธอบอกว่า ทุกขเวทนาที่ปรากฏในร่างกายมันก็สลายตัวไป เพราะจิตไม่เกาะ จิตไปเกาะภาพพระพุทธรูปบ้าง จิตไปเกาะผ้าไตร การถวายทานบ้าง เกาะหมาเกาะแมวบ้าง ก็เลยไม่รู้ทุกขเวทนา เวลานั้นปรากฏว่าอารมณ์เป็นสุข

    และต่อมาก็เห็นภาพพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเสด็จมา ใสสะอาดมาก แสงสว่าง ยิ้มแย้มแจ่มใส ทรงแย้มพระโอษฐ์ น่ารักกำลังสวย ริมฝีปากแดง ผิวขาวค่อนข้างเหลือง รูปร่างลักษณะโปร่ง สวยมาก จิตใจเธอก็จับพระพุทธเจ้า

    และปรากฏว่าภายหลังต่อมาอีกนิดหน่อย ปรากฏเห็นเทวดากับนางฟ้ามาก เทวดากับนางฟ้ามีความสวยสดงดงาม มีเทวดากับนางฟ้าร้องชวนเธอว่า ขอให้ไปสวรรค์ด้วยกันเถิด ฉันอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แต่เท่าที่ปรากฏเวลานั้น เฉพาะเทวดากับนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่านั้น เธอก็ติดใจในนางฟ้า

    ในที่สุดจิตออกจากร่าง รูปร่างหน้าตาก็เป็นนางฟ้า สวยสดงดงาม เมื่อเธอพูดจบ ก็ปรากฏว่าร่างกายแก่หายไป มีร่างกายสดใส เป็นนางฟ้า สวยสดงดงามแพรวพราวระยับ สวยมาก
    ก็ถามว่า “เท่าที่บอกให้ตามนี้ ต้องการจะรู้อะไร”
    เธอก็ตอบว่า “อยากจะเล่าให้ฟังว่า เรื่องราวจริง ๆ ที่ท่านตอบเขาวันนั้น ยังตอบน้อยไป”
    ก็เลยบอกว่า “ฉันกำลังป่วยมาก แล้วก็เหนื่อยมาก คอก็แห้ง เสียงไม่ออก มันคิดอะไรไม่ออก เห็นภาพชัด ๆ แค่พระพุทธรูปกับผ้าไตร ลอยอยู่ข้างหน้าเธอ”

    เธอก็บอกว่า “ต้องการให้ทราบตามนี้”
    จึงถามเธอต่อไปว่า “ต้องการอะไรอีก”
    เธอก็อวด เธอถามว่า “อยากจะดูวิมานฉันไหม”
    ก็ตอบเธอว่า “อยากจะดู”

    ก็ถามว่า “วิมานเธอได้มาจากอะไร”
    เธอก็ตอบว่า “สังฆทานถังที่ถวายท่าน ท่านแบ่งไว้เป็น ๒ อย่าง คือโดยเฉพาะอย่างยิ่งสตางค์ที่ถวายร่วม สตางค์ที่ถวายร่วมนั่นท่านไปใช้เป็นสังฆทานบ้าง สร้างวิหารทานบ้าง สร้างพระพุทธรูปบ้าง ฉะนั้นอาศัยที่เงินของฉันมีส่วนวิหารทาน ฉันจึงมีวิมาน”
    ถามว่า “วิมานของเธออยู่ที่ไหน”

    เวลานั้นก็ปรากฏมีวิมานลอยมา เป็นวิมานทองคำ แต่ว่าบนยอดเป็นแก้ว พื้นของวิมานเป็นทองคำ สวยสดงดงามมาก มีนางฟ้าประจำอยู่ ๓,๐๐๐ คน นางฟ้าก็สวยสดงดงาม บรรดานางฟ้าทั้งหลายเห็นเธอเข้า เธอก็ลงมาไหว้

    ก็ถามเธอบอกว่า “วิมานของเธอเป็นทองคำเพราะอาศัยบุญอะไร”
    เธอก็ตอบว่า “อาศัยบุญวิหารทานบ้าง สังฆทานบ้าง เลี้ยงสัตว์บ้าง ก็มีวิหารทานเป็นปัจจัย แต่กำลังใจต่ำไปนิด ได้วิมานทองคำ”
    ถามว่า “ยอดวิมานของเธอมันแปลกแทนที่จะเป็นทองคำอย่างวิมานอื่น ก็กลับกลายเป็นแก้วแพรวพราวเป็นระยับ”

    เธอก็ตอบว่า “ที่เป็นแก้วน่ะ ฉันชอบใจมณฑปแก้วไปทีไร ฉันชอบใจเฉพาะยอดมณฑป เบื้องบนของมณฑปตั้งแต่หลังคาขึ้นไปนี่ชอบ แต่ว่าความสนใจในตัวอาคารของมณฑปสนใจน้อยไป ถ้าเข้าไปที่นั่นไปเห็นพระที่นั่นก็มีจิตชุ่มชื่น เห็นพระองค์ที่ ๑๐ บ้าง ๑๑ บ้าง อย่างนี้เป็นต้น ฉันก็พอใจพระทุกองค์ จิตติดใจในพระ ตายมาแล้วก็ได้วิมานอย่างนี้”

    ก็ถามเธอบอกว่า “นอกจากนี้เธอมีอะไรอีกไหม”
    เธอก็ตอบว่า” ท่านจะไปเขียนหนังสือ เล่มนี้เป็นเล่มที่ ๖ อยากจะฝากไปถึงลูกถึงหลานว่า ถ้าหากท่านเขียนหนังสือ ลูกหลานเขาจะทราบ บอกว่า ฉันเป็นหญิงเชื้อชาติจีน นั่นก็หมายความว่า พ่อก็เจ๊ก แม่ก็จีน เป็นเจ๊กทั้งพ่อทั้งแม่ การเกิดมาในตระกูลของจีน แต่ว่าอยู่ในเขตพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ชอบการให้ทาน เรื่องความโกรธ ความไม่ชอบใจก็มีบ้าง เป็นของธรรมดา

    และประการที่สอง ศีลก็รักษาบ้าง ตอนเด็ก ๆ ก็ไปวัดกับแม่ รักษาศีลบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็เป็นบุญ แม่ให้ใส่บาตรก็ใส่บาตรบ้าง ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เรื่องว่าใส่บาตรมีอานิสงส์อะไร ก็ได้บุญ เวลาพระเทศน์ก็ตั้งใจฟังพระเทศน์บ้าง ไม่ตั้งใจฟังบ้าง คิดเรื่องอื่นบ้าง ถึงแม้ไม่สมบูรณ์แบบ ก็ได้บุญ

    และต่อมาก็ชอบในการถวายสังฆทาน สังฆทานนี่ชอบมาก การเลี้ยงพระก็ชอบ เลี้ยงพระก็เป็นสังฆทาน สังฆทานแห้งก็ชอบ ที่ชอบมากที่สุดคือสังฆทานที่มีพระพุทธรูป มีผ้าไตร และมีอาหารแห้ง โดยเฉพาะยิ่ง ผ้าไตร ติดตาติดใจมาก กับพระพุทธรูป


    ต่อมาขณะตอนต้นถวายพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ จิตใจก็ไม่ชุ่มชื่น อยากได้องค์ใหญ่ ๆ ก็เลยทำบุญด้วย พระพุทธรูปหน้าตัก ๙ นิ้ว เพราะในโลกเขาถือเลข ๙ กัน อะไร ๆ ก็เลข ๙ อะไร ๆ ก็เลข ๙ แต่ความจริง เลข ๙ ไม่ได้มีความหมายเด่นไปกว่านั้น ถ้าหากว่าฉันฉลาดพอ ฉันจะใช้พระ ๑๒ นิ้ว ถ้า ๑๒ นิ้ว เป็นชินราชจะดีมากเพราะสวยสดงดงามมาก

    แต่ทีนี้บังเอิญ คนข้าง ๆ บ้านบ้าง เพื่อนกันบ้าง ลูกหลานบ้าง เขาบอกว่า ๙ ดี ๙ ดี ๙ หน้า ๙ หลัง แต่ความจริง ๙ หน้า ๙ หลังนี่ มันไปไม่ไกล ก้าวหน้าไป ๑ ก้าว ถอยหลังไป ๑ ก้าว ก้าวเท่าไรก็อยู่แค่นั้น ก็รวมความว่า ก็น่าจะไปสูงกว่านี้ แต่กำลังใจก็ดีไม่สมบูรณ์แบบ ก็อยากจะแนะนำให้ลูกให้หลาน ขึ้นชื่อว่าบาป ทำกันแล้วก็พอกันเสียที ให้พยายามทรงตัวความดี


    อย่างน้อยจิตใจตั้งในทาน คิดว่าทาน การให้ จะมีในเรา อย่างนี้อย่างหนึ่ง ประการที่สอง ศีล รักษาทุกวันไม่ได้ ก็รักษาบ้าง เป็นประจำวัน ประการที่สาม กิจที่ฉันทำคือฉันบูชาพระของฉันทุกวัน ตอนหัวค่ำก็บูชาพระ ตอนเช้าตรู่ฉันก็บูชาพระ ฉันไม่มีเวลาภาวนามากอย่างเขา แต่อาศัยการบูชาพระเป็นกำลังใจ

    ฉันติดใจในภาพพระพุทธรูปมาก ถึงเวลาจะตายภาพพระพุทธรูปจึงปรากฏ และในที่สุดมีพระพุทธเจ้ามา นี่เป็นปัจจัยให้เกิดความสุข ถ้าหากว่าท่านไปพบลูกพบหลานฉัน บอกด้วยว่า “ฉันมีความสุข”
    ถามเธอว่า “ชื่ออะไร”
    เธอก็ยิ้ม เธอตอบว่า “ฉันไม่บอก เพราะเขาบอกชื่อท่านแล้วที่ซอยสายลม”

    ก็รวมความว่า เมื่อเธอไม่บอกก็ไม่รู้ รู้ก็ไม่พูด “ถ้าเธอไม่บอก เวลานี้แสดงว่าเธอปกปิดชื่อของเธอ”
    เธอก็บอกว่า “ใช่ ฉันปกปิดชื่อของฉัน เพราะชื่อของฉันนี่ คนรักก็มี คนเกลียดก็มี ถ้าท่านไปพูดว่า ฉันมีความสุข คนที่เกลียดฉันเขาก็จะด่า เขาจะหาว่ามีความสุขไม่จริง แต่ในเมื่อเขาด่าฉัน คำด่า คำสาปแช่ง มันไม่ถึงฉัน มันจะถึงเขา จิตใจเขาจะเศร้าหมอง จะเพิ่มบาปขึ้นมาอีก ก็จงอย่าบอกชื่อเสียก็แล้วกัน”
    ก็รวมความว่า วันนี้เลยไม่ได้ชื่อ เลยไม่ได้ไปหาลุงกัน บรรดาท่านพุทธบริษัท

    ต่อมาก็หันมาคุยกับท่านปัญจสิกขเทพบุตร
    ถามว่า “หญิงคนนี้ตามบัญชีของท่านมีบุญวาสนาบารมีถึงไหน”
    ท่านปัญจสิกขะถามว่า ท่านถามมาหมายถึงนิพพานใช่ไหม”
    ก็ตอบว่า “ใช่”

    ท่านก็ตอบว่า “ยัง กำลังบารมียังอ่อนอยู่ ยังจะไปนิพพานไม่ได้ ทั้งนี้เว้นไว้แต่ว่า ถ้าเธอมาอยู่บนสวรรค์แล้ว ตั้งใจบำเพ็ญความดีเพื่อนิพพานต่อไป อาจจะไปได้ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง เทวดาหรือพรหมจะพยากรณ์ เป็นหน้าที่ขององค์สมเด็จพระชินวร จะพยากรณ์แต่พระองค์เดียว แต่ถึงกระไรก็ดี ถ้าเธอทำความดี ความดีก็จะช่วยเธอ”

    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัท เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีดี ก็ขอเตือนบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า รายการนี้ เป็นรายการธรรมะ เอาเรื่องราวต่าง ๆ มาคุยสู่กันฟังเพื่อสร้างความเพลิน
    ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จงรักษาความดี ๔ ประการ ไว้ คือ
    ๑. รู้จักการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน
    ๒. พูดไพเราะ ใช้วาจาดี ๆ
    ๓. ช่วยเหลือการงานซึ่งกัน และกัน
    ๔. ไม่ถือตัว
    คุณธรรม ๔ ประการนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัทจะเป็นปัจจัยให้ท่านทั้งหลายมีความสุข เพราะความรักกัน


    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน เวลาหมดแล้วขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน

    สวัสดี

    ที่มา: หนังสืออ่านเล่น เล่มที่ 6
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 มีนาคม 2013
  2. daisy lucy

    daisy lucy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +190
    เป็นเรื่องราวที่ดีมากค่ะ เป็นกำลังใจในการทำความดี ทำบุญ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. ใฝ่รู้

    ใฝ่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +240
    กราบแทบเท้าหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เทศนาธรรมของท่านช่วยฉุดคนจากไม่รู้ ได้มากมาย

    สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
     
  4. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    satu satu satu nippan....
     
  5. phasusorn

    phasusorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +133
    โมทนาสาธุครับ อย่างน้อยตอนที่เรารู้ว่ายังมีลมหายใจ เราควรจะหมั่นรักษาศีล ทำบุญเยอะๆๆ ดดยเฉพาะสังฆทาน ทำบุญสร้างพระ อะไรที่ให้บุญกุศลใหญ่ๆๆ เพื่อจะได้ต่อยอดในการเข้าสู่ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
     
  6. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    อนุโมทนาและขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีที่นำมาลงให้เปนธรรมทานค่ะ
    เชื่อมั่นและศัทธาในพระพุทธองค์พระรัตนตรัยและท่านครูบาอาจารย์
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG] วิหารสมเด็จองค์ปฐม[​IMG] วิหาร 100 เมตร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    กราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม [www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2012
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG][/url] สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม [​IMG] สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย

    กราบสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม กราบสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย กราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม [www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2012
  9. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ผมขออนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งปวงด้วยครับ
     
  10. miss you

    miss you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +202
    สาธุ สาธุ สาธุ กราบหลวงพ่อด้วยความเคารพเจ้าค่ะ
     
  11. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631

แชร์หน้านี้

Loading...