หลวงปู่ดาบสพูดถึงหลวงพ่อ

หลวงปู่ดาบสพูดถึงหลวงพ่อ


ท่านเจ้าคุณฯ : (เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ไปนมัสการพระธาตุจอมกิตติ) ไปแวะกราบหลวงปู่ดาบสมานี่ ท่านก็บอกว่าหลวงพ่อไม่ใช่หนีไปไหนนะ หลวงพ่อไปรอเราอยู่
หลวงพ่อพระราชพรหมยานไม่ได้ตายหนีเราไป แต่ท่านไปรอเราอยู่ ทำอะไรๆทุกอย่างท่านไม่รู้ไม่มี จำไว้ ทำอะไรท่านต้องรู้ ท่านรู้

ท่านก็บอกว่า สมัยหลวงพ่อท่านมีชีวิตอยู่น่ะ หลวงปู่สี อยู่ตาคลี อายุ 120 กว่าปี ตอนเช้าๆ มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่สีตั้งแต่เช้าเลย เตรียมน้ำใช้น้ำฉัน อายุ 120 ปี เตรียมน้ำใช้น้ำฉัน สั่งให้คนเตรียมสถานที่

พอตอนสายๆหน่อยหลวงพ่อฤาษีไปแล้ว ไปหา นี่ท่านบอกแสดงว่ารู้กันมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันไม่มีโทรศัพท์นี่สมัยก่อน ไม่มีโทรศัพท์

ท่านก็เน้นบอกว่า ขณะมีชีวิตอยู่ท่านยังรู้ใจกัน แล้วนี่ยิ่งตายยิ่งรู้มากใหญ่ ไม่ต้องห่วงหรอก ขอให้มั่นใจในคำสอนของท่านก็แล้วกัน

นิพพานน่ะไม่ใช่สูญ แต่ศูนย์ก็มีมีค่านะ ศูนย์ 1 ตัวมีเลขนำหน้าก็มีค่า ศูนย์ตัวมีเลขนำหน้าก็มีค่ามากขึ้น ศูนย์ 3 ตัวมีเลขนำหน้าก็ยิ่งมีค่ามาก ศูนย์ 4 ตัว ศูนย์ 5 ตัว ศูนย์ 6 ตัว ยิ่งศูนย์มากยิ่งมีค่า

ศูนย์นี้ไม่มีค่าอะไรนี่เลยได้มาแสนหนึ่งนี่ (หัวเราะ) ได้มาแสนเพราะไอ้ศูนย์ 4 ตัวศูนย์ 5 ตัว

แหมไปกันตั้งเจ็ดคันรถได้มาแสนหนึ่งแล้ว ได้ทุนคืนมาแล้วแสดงว่าพระท่านมีนั่นจริง


ทีนี้มีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่งใครจะรู้น้อยเพราะว่าท่านเทศน์ตอนแรกก็บอก ดีนะท่านเจ้าคุณฯลาซะ ถ้าไม่ลาจะพาลูกศิษย์อ้อม อ้อมต้องกลับมาเกิดอีกตั้ง 7 ชาติ ดีเจ้าคุณฯตัดลามาซะก่อน ถึงพาให้พวกเราตรงขึ้นอะไรอย่างนี้

นี่เราไม่ค่อยรู้สิอีตรงนี้ เพราะว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยได้คุยให้ฟังนี่


นี่ โยมน้อย กานดา นี่แกคนถาม คนเก่าก็ชอบถาม หลวงพ่อเคยพูดกับแกไว้


"ไอ้น้อยข้าไม่อยากให้พวกแกมีทุกข์นะ ทุกข์ต้องตามข้าไปอีก 7 ชาตินี่ ข้าจึงตัดสินใจลาซะ พวกเราจะได้ทุกข์น้อยลงไป ย่นระยะลงไป"


นี่หลวงพ่อกับหลวงปู่ดาบสนี่ไม่เคยเจอกันเลย แล้วหลวงพ่อก็ไม่เคยเขียนหนังสือไว้ที่ไหนนี่

พอพูดถึงตรงนี้คนเริ่มหลั่งน้ำตากันบ้างแล้ว ชื่นใจหลวงปู่ดาบสทวนความให้เกิดศรัทธา พูดให้เราเกิดศรัทธานี่


ถ้าไม่เกิดศรัทธาจะให้เจ้าอาวาสเทศน์ ศรัทธาจะหาย แหม..จะให้เราเทศน์ หลวงปู่จะโยนเผือกร้อนๆให้ขบซะแล้ว


(จากคอลัมน์ "ท่านเจ้าคุณสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 482 เดือนพฤษภาคม 2564 หน้า 16-17)





"ไทยมหารัฐ" และ "จักรพรรดิราช"




"เวลานี้ดวงชะตาของประเทศไทย จะเหมือนกับตอนเสียกรุงให้แก่พม่า และคงจะทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2544...."

ครั้นถึงเดือนกรกฎาคมก็จริงอย่างที่ว่า "ค่าเงินบาทลอยตัว" จนต้องเป็นหนี้ต่างชาติกันทุกคน ซึ่งตรงกันกับนักโหราศาสตร์ชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย ได้พยากรณ์ชะตาเมืองลงหนังสือพิมพรายวันฉบับหนึ่งทุกวัน ก็ได้กล่าวไว้ตรงกันว่า ชะตาของประเทศเหมือนกับตอนเสียกรุงครั้งที่แล้ว

แต่ก็นึกสบายใจอีกอย่างหนึ่ง หลวงพ่อเคยบอกว่า ประเทศไทยจะเป็นมหาเศรษฐี และเมื่อต้นปีนี้ หลวงพ่อดาบส ก็ได้เทศน์บอกว่า

"...ที่ใครเขาบอกว่ากรุงเทพฯ จะจมอยู่ใต้น้ำ มันไม่น่าจะถึงขนาดนั้น มันอาจจะท่วมบ้างเป็นธรรมตา แต่คงไม่หนักขนาดนั้น"

และมีอีกเรื่องหนึ่งท่านพูดเหมือนกับหลวงพ่อ คือเรื่องการทำนาย 10 รัชกาล หลวงพ่อพูดตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 10

แต่หลวงพ่อดาบสท่านพูดต่ออีกถึง 12 รัชกาล ตั้งแต่ต้นรัชกาลคือ มหากาฬ ผ่านมหายักษ์ จนถึง ถิ่นกาขาว และ ชาวศรีวิไล


ต่อไปเป็น "ไทยมหารัฐ" และ "จักรพรรดิราช"


แสดงให้เห็นถึงคนไทยจะรุ่งเรืองใหญ่ในรัชกาลต่อไป นับตั้งแต่รัชสมัย ชาวศรีวิไลเป็นต้นไป ซึ่งท่านก็บอกว่าอีกไม่นานนัก ไม่ถึง 300 ปีอย่างที่เขาลือกัน


แต่ท่านก็พูดแย้มๆว่า ก่อนที่จะสุขสบาย ก็ต้องเป็นทุกข์กันบ้างนะ


ก็คงจะเป็นเรื่องภัยของสงคราม และภัยทางธรรมชาติเป็นเหตุ



(จากคอลัมภ์ "ตามรอยพระพุทธบาท" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 201 ธันวาคม 2540 หน้า 100)