หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม ญาติธรรมหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 16 ธันวาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]"พระครูบริบาลสังฆกิจ" หรือ หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม เป็นพระสุปฏิปันโนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เชี่ยวชาญการเจริญสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    มีจิตตานุภาพอยู่ในระดับสูง เป็นที่เคารพนับถือ แม้ในหมู่พระเถระด้วยกัน

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า อุ่น วงศ์วันดี เกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2342 ที่บ้านอากาศ ต.อากาศ อ.วานรนิวาส (ปัจจุบันเป็น อ.อากาศอำนวย) จ.สกลนคร โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอุปละและนางบุดดี วงศ์วัน มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน หลวงปู่อุ่นเป็นบุตรคนที่ 7

    ชีวิตในวัยเด็ก เป็นคนมีสุขภาพอ่อนแอ มักเจ็บป่วยอยู่เสมอๆ โยมบิดา-มารดา ได้พากันนำท่านไปฝากกับญาติครูทุม (พระอธิการทุม) เจ้าอาวาสวัดกลาง

    ปรากฏอาการป่วยดีขึ้น จนแข็งแรงดังเดิม และได้เริ่มเรียนหนังสือกับพระอธิการทุม

    อายุ 10 ปี บวชเป็นสามเณร มีพระอธิการทุม เป็นพระอุปัชฌาย์ หัดเรียนอักษรขอม ตลอดถึงท่องบทสวดมนต์น้อย สวดมนต์กลาง สวดมนต์หลวง พระปาฏิโมกข์ จนมีความชำนาญ

    เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดกลางแห่งเดิม

    แต่ต่อมาได้ลาสิกขา แล้วไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่สีลา อิสฺสโร ที่วัดอิสระธรรม บ้านวา ต.วาใหญ่ อ.วานรนิวาส

    เมื่ออายุได้ 21 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ณ อุกกุกเขปสีมา (สิมน้ำ) ที่ท่าบ้านร้าง กลางลำน้ำยาม มีพระราชเวที (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สีลา อิสฺสโร วัดอิสสรธรรม บ้านวา เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    ท่านมาอยู่จำพรรษากับพระอาจารย์สีลา อิสฺสโร เพื่อทำการศึกษาแนวทางการปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐาน ตามแบบอย่างของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นเวลา 4 ปี

    พ.ศ.2477 กราบลาพระอาจารย์สีลามาอยู่กับศึกษากับพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านสามผง อ.ท่าอุ จ.นครพนม จำพรรษาติดต่อ 3 ปี

    ขณะอยู่ที่วัด เร่งศึกษาบาลีไวยกรณ์และแปลธรรมบท เมื่อถึงฤดูแล้งก็ออกเที่ยวธุดงค์ไปอยู่ที่ภูค้อ เพื่อฝึกหัดอบรมจิตใจ

    พ.ศ.2580 กลับมาจำพรรษาที่บ้านอากาศ ซึ่งเป็นถิ่นมาตุภูมิ

    กระทั่งหลวงปู่มั่น ภูริทตฺตโต กลับจากการไปปฏิบัติธรรมในเขต จ.เชียงใหม่ ที่ยาวนานถึง 10 ปี มาจำพรรษาในเขต จ.สกลนครแล้ว จึงหาโอกาสไปนมัสการและศึกษาธรรมปฏิบัติจากท่านพระอาจารย์มั่นอยู่เสมอ

    พ.ศ.2523 ท่านเริ่มอาพาธ รักษาที่โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อ.พรรณานิคม เมื่ออาการทุเลาจึงได้กลับวัด แต่ยังไม่หายขาด คณะศิษย์จึงนิมนต์ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ อาการพอทรงตัวอยู่ได้บ้าง

    คณะแพทย์แนะนำให้มารักษาตัวที่วัดอุดมรัตนาราม เพื่อจะได้พักผ่อนมากๆ ครั้นอาการทรุดลง จึงนำท่านไปรับการรักษาที่โรงพาบาลสกลนคร

    เมื่อเดือนพฤษภาคม 2523 อาการยิ่งทรุดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือน อาการทรุดหนักจนไม่รู้สึกตัว

    แต่ครั้นถึงวันที่ 27 พฤษภาคม ท่านกลับรู้สึกตัวขึ้นมาเหมือนไม่ได้เป็นอะไรมาก

    หลวงปู่อุ่น เดินทางกลับถึงวัดอุดมรัตนาราม ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2523

    วันที่ 29 พฤษภาคม 2523 วันวิสาขบูชา ท่านได้ให้โอวาทแก่ภิกษุสามเณร แม่ชี และญาติโยมที่มาเยี่ยมอาการอาพาธของท่าน

    มีใจความว่า "สพฺพปาบสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทธาน สาสนํ" การไม่ทำความชั่วทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึ่งการยังจิตของตนให้ผ่องใสหนึ่ง นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    อธิบายว่า เมื่อเราท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติตามนี้แล้ว ย่อมยังพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง คนเรานับถือศาสนาทุกวันนี้ ถือกันแต่เพียงในสำมะโนครัว ว่าถือศาสนาพุทธเท่านั้น ไม่ได้ปฏิบัติกันจริงจัง บ้านเมืองจึงมีความเดือนร้อน

    ถ้าทุกคนละเว้นความชั่วแล้วทำความดี ความสุขความเจริญย่อมจะมีอย่างแน่นอน

    รุ่งเช้าวันที่ 30 พฤษภาคม 2523 หลังจากฉันภัตตาหารเช้าแล้ว ท่านจะกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสกลนคร

    ก่อนที่ท่านจะขึ้นรถเดินทางไปโรงพยาบาล ได้พูดกับพระเณรและญาติโยมว่า "จะไปให้เขาฉีดยาให้ จักหน่อยก็จะได้กลับมาแล้ว" แต่ปรากฏว่า อาการท่านกลับกำเริบ อาเจียน และทรุดหนักลง

    จนถึงแก่มรณภาพในที่สุด เมื่อเวลา 16.30 น. ด้วยอาการสงบ ท่ามกลางคณะแพทย์และศิษย์หลายคน รวมอายุได้ 71 ปี

    เหลือไว้เพียงแต่คุณงามและคำสอนของหลวงปู่ ให้ลูกศิษย์ทุกคนจงทำความดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...