หลวงพ่อปานวัดบางนมโค ผจญ คุณไสย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 18 มีนาคม 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]


    ตอนออกพรรษา หลวงพ่อสุ่นก็เรียกมาอบรมในการธุดงค์ บอกว่าถ้าจะให้ดีละก็ต้องออกธุดงค์กัน หลวงพ่อสุ่นสั่งหลวงพ่อปานว่า ให้เข้าป่าลึกเลยนะ แต่เวลาออกธุดงค์ท่านปล่อยเดี๋ยวเลย ท่านบอกว่าไม่ต้องกลัวหลงหรอก ถ้ากลัวหลงละให้นึกถึงฉัน บางครั้งท่านไม่รู้สึกว่าท่านจะไปทางไหน ท่านก็ทำใจให้สบาย ๆ นึกถึงหลวงพ่อสุ่น พอนึกเท่านั้นแหละ ท่านบอกเห็นหลวงพ่อสุ่นเดินนำหน้าไปเลย ถ้าถึงทางแยกหลวงพ่อสุ่นจะชี้ทางบอกแยกว่าไปทางโน้นทางนี้ เมื่อไปตามนั้นก็ได้ตามผลตามความประสงค์ นี่เล่าอย่างย่อ ๆ นะ
    แต่ว่าวิธีการธุดงค์ของสมัยนั้นมันก็แปลก มีคนประเภทหนึ่งเขาชอบลองพระธุดงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านตะวันออกทางด้านนครนายก ปราจีนนี่น่ะสำคัญมาก แถวนั้นเขาเรียกว่ามีต้นมหาโพธิ์สำหรับพระไปไหว้ ไปตั้งใจกำหนดเอาพระพุทธเจ้าท่านทรงบรรลุที่ต้นมหาโพธิ์ต้นนี้ ถือเป็นเรื่องนึกกันขึ้นมา ไม่จริงจังหรอก แต่การนึกนี่เป็นการนึกดี นึกถึงพระพุทธเจ้า คิดว่าท่านบรรลุอภิเภกสัมมาสัมโพธิ์ญาณตรงนี้ ก็เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ทีนี้บรรดาพระทั้งหลายก็นิยมกันว่าต้องไปที่ปราจีนบุรี ไปใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ดินแดนตะวันออกแดนหนึ่ง ของทางภาคอิสาน มีหมอไสยศาสตร์ ชอบลองพระ ใช้ยาเบื่อ ยาสั่ง ลองพระบ้าง ทำคุณไสยด้วยอำนาจจิตบ้าง เอาของเข้าท้อง อันนี้หลวงพ่อปานก็เคยโดนมา

    ท่านบอกว่าวันหนึ่งมีผู้ชาย ๒ คน แต่งตัวเรียบร้อย เอาต้มยำมีหัวกะพุงปลา เอามาถวายตอนเข้า ทำ ต้มยำและข้าวมาถวาย ๑ โถ ข้าวขาวจ๋อง คนอื่นก็เอามาถวายเหมือนกัน เพราะผ่านบ้านนี่ก็ต้องปักกลด ใกล้บ้าน แต่ไม่ใกล้กว่า ๑ กิโล แต่ข้าวไม่สวยอย่างนั้น กับข้าวก็ไม่สวยอย่างนั้น เมื่อท่านเห็นท่านรู้ตัวอยู่แล้ว หลวงพ่อสุ่นสั่งไว้ว่าออกธุดงค์ทุกครั้งจะกินข้าวต้องทำน้ำมนต์เสียก่อน อาหารดีไม่ดีมันจะไปโดนอย่างอื่นเข้า พอท่านเอาน้ำมนต์พรมปรากฏว่าเป็นหนามยาว ๆ ผูกไขว้กัน พอทำได้ขนาดนั้น ท่านเจ้าของตกใจทำหน้าซีดเลย

    แล้วเขาก็แก้ว่าความจริงผมไม่ต้องการให้ท่านฉัน ผมพิสูจน์ดูว่าท่านจะมีดีไหม หากว่าท่านจะฉันผมก็จะบอกว่าไม่ให้ฉัน ท่านก็ไม่ว่าอะไร ท่านก็รู้ว่าเขาเกล้ง แล้วต่อมาเขานิมนต์ให้พักอยู่ ๓ วัน ท่านก็พัก ท่านบอกว่าอยากจะดูซิว่ามันจะทำยังไงต่อไปอีก

    ตอนกลางคืนมันก็ทำมา ทำเป็นนกมาจับอยู่ที่ยอดกลดบ้าง ท่านก็หาไม้แหลมถือไม้เล็ก ๆ แทงขึ้นไป เสกไม้แทงไป นกตัวนั้นมันก็กลายเป็นหนัง ผืนใหญ่ เรียกว่าคืนนั้นทั้งคืนโดนกันแบบนี้แหละ เสียงปุปะปุปะไม่ได้หลับตลอดคืน เป็นอันว่าถูกพิสูจน์ตลอดคืน ต่อมาเมื่อถึงตอนเช้า ท่านก็เลยเอาไอ้หนังแผ่นนั้น หนัง ที่เขาทำนกนั่นแหละรองนั่ง มันอยากส่งมาให้นี่ ท่านว่าอย่างนั้น ฉันก็เลยเอารองนั่งเสียเลย แล้วเวลาฉันข้าว เจ้า ๒ คนนั่นก็มาอีกแหละ เอาของมาถวายอีก ตานี้ฉันเอาน้ำมนต์พรมไม่มีอะไร เป็นข้าวธรรมดาเป็นกับธรรมดา

    แต่ว่าเวลาฉันข้าว หนังที่นั่งทับน่ะมันค่อย ๆ เล็กลงไปทีละหน่อย ๆ เล็กเข้ามา ๆ หนัง ทั้งตัวมันใหญ่ เล็กเข้ามาจนกระทั้งแค่เข่าฉัน พอดีกับตัว ฉันสังเกตไว้ พอมันพอดีกับที่นั่งคล้าย ๆ กับผ้ารองนั่ง ฉันก็เอาน้ำมนต์พรม เอาน้ำในขันน่ะนึกอธิษฐานพรม ว่าไอ้สิ่งนี้มันมีสภาพเป็นยังไงก็ขอให้สภาพเป็นไปตามเดิม อธิษฐานจิตแค่นี้คาถาอาคมทั้งหลายเหล่าใดก็ตามที่เขาทำมาขอใหสลายตัว แล้วก็เอาน้ำมนต์พรม พอพรมลงไปหนังมันก็ขึงไปใหญ่ตามเดิม อีตา ๒ คนหน้าเสีย เป็นอันว่าจบพิธีการกัน เรื่องธุดงค์ของท่านน่ะฉันเล่าให้ฟังเท่านี้แหละ เพราะนอกจากนั้นเรื่องธุดงค์ของท่านก็ผ่านมามากแล้ว

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านปราจีนบุรีนี่ตัวเองฉันเองก็โดนมาสมัยออกธุดงค์ มีวันหนึ่งฉันเดินผ่านไปใกล้บ้าน ๓ คนกะเพื่อน เพื่อนกันน่ะที่เข้าป่า มันอยากน้ำเต็มทีนี่ก็แวะเข้าไปและเข้าไปในบ้านเขา ก็ปรากฏว่าพ่อแม่อยู่ข้างล่าง ลูกสาวเขาอยู่ข้างบน ฉันเดินผ่านไปใกล้บ้าน ๓ คนกะเพื่อน เพื่อนกันน่ะที่เข้าป่า มันอยากน้ำเต็มทีนี่ก็แวะเข้าไปและเข้าไปในบ้านเขา ก็ปรากฏว่าพ่อแม่อยู่ข้างล่าง ลูกสาวเขาอยู่ข้างบน ฉันขอน้ำเขากิน ร้องขอน้ำกิน เขาก็นิมนต์ขึ้นไปบนบ้าน แต่พ่อแม่ของเขาไม่ขึ้น อยู่แต่ลูกสาวอายุ ๑๕ - ๑๖ ประมาณนั้นนะ คนเดียว แม่ลูกสาวไปตักน้ำมา เอาขันน้ำวางลงไปในถาด

    น้ำใสแจ๋ว เป็นน้ำบ่อ แล้วก็มีจอกลอยจอกเล็ก ๆ วางมาในถาด พอมาถึงเขาก็วางถาดน้ำลงข้างหน้า แล้วเขาก็จับจอกลอยลูกนั้นตักน้ำแล้วก็ดื่มกิน แล้วเอาจอกลอยวางลงในขัน เขาบอกว่าที่นี่มียาเบื่อยาเมามากนัก ต้องกินให้ดูก่อน ประเดี๋ยวจะหาว่าแกล้งฆ่าพระ เดี๋ยวท่านจะสงสัยไม่กล้าดื่มน้ำ แต่ความจริงฉันไม่รู้เรื่อง พอเขาดื่มให้ดูแล้วเขาก็เอาขันวางลงไปในน้ำ ฉันกำลังอยากนี่ ฉันก็หยิบซี ไม่ได้ดูอะไรละ ญาณเยิน ต่าง ๆ น่ะไม่ได้ใช้ โธ๋ คนที่ใช้ได้ไม่เผลอน่ะมีแต่พระพุทธเจ้าองค์เดี๋ยวนา ขนาดพระอรหันต์ ขั้นปฏิสัมภิทาญาณอย่างพระมหากัสสปก็เผลอ ไม่มีใครรู้แจ่มใส ไม่มีใครไม่เผลออะไรหรอกเผลอทั้งนั้น มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวที่จะรู้อะไรได้ทุกขณะจิต

    พระอรหันต์น่ะไม่ไหวหรอกก็เผลอ ถ้าไม่ใช้ก็ไม่รู้อะไรกัน ยิ่งอย่างฉันด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ฉันไม่ได้เป็นกังหันกับเขานี่มันก็ยิ่งเผลอมากกว่าเขา ฉันหยิบขันน้ำลูกนั้นตักจะดื่ม แม่หนูน้อยตบมือฉาด ขันน้ำกระเด็ด ฉันแปลกใจถามว่าตบทำไมจ๊ะ เขาก็บอกว่า ท่านไม่ใช่พระบ้านนี้ใช่ไหม ใช่ฉันธุดงค์มาจากอยุธยา เธอว่ามิน่าเล่าถึงได้กินน้ำแบบนี้ ถามว่าทำไม แกเลยบอกว่าแถวนี้มียาเบื่อยาเมามาก วิธีการแบบนี้เป็นการฆ่าคนนะ นี่เขาเอายาพิษทาใต้ก้นขันแล้วเอาขันวางไว้ข้างนอก

    เวลาตักน้ำจ้วงลงไปยาพิษยังไม่ลงไปในน้ำ น้ำในขันที่เขาดื่มน่ะมันยังไม่มีพิษ เวลาเอาจอกลอยวางลงไปในขัน ลงไปในน้ำ ยาพิษจะละลายตัว ถ้าท่านฉันจะตายทันที บอกว่าถ้าเป็นยาพิษก็ต้องตายที่นี่ ถ้ายาสั่งจะก็ต้องไปตายที่อื่น เขาสั่งให้กินอะไรตายก็ตายตามนั้น ฉันไม่รู้เรื่องเลย แล้วเธอก็ไปตักน้ำมาใหม่ ๑ ขัน บอกว่าคราวนี้ฉันได้ก็เป็นอันว่าบุญตัวของฉันนะ นี่ได้ครูบาอาจารย์ใหม่ เด็กคนนี้ฉันถือว่าเป็นครูฉัน เป็นผู้มีคุณกะฉันมาก ไม่ยังงั้นฉันก็เอวังกิ่มไปนานแล้ว นี่ว่ากันตามความของความเป็นจริงนะเรื่องการกระทำของพระที่ไปธุดงค์น่ะมันเป็นยังงี้

    จาก

    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=3573
     
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    คุณไสยกับหลวงพ่อปานวัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    ตอนนั้นกำลังนั่งอยู่กับหลวงพ่อปาน อยู่ ๆ ก็มีเด็กสาว ๆ คนหนึ่งอยู่บ้านสามกอ บ้านสามกอนี่เป็นตำบลบ้านแพน ใกล้ ๆ กับอำเภอเสนาคือชิดกับอำเภอ เด็กสาวคนนี้อายุราว ๑๕ - ๑๖ รูปร่างหน้าตาดีมาก ถ้าสงเข้าประกวดนางงาม ไม่แน่เด็กคนนี้อาจจะได้ตำแหน่งใดตำเหน่งหนึ่งก็ได้ เขาต้องหามแกขึ้นมา เดินไม่ได้ เป็นไข้ขนาดหนัก พอหามขึ้นมาวางหลวงพ่อปานก็บอกว่าไม่ต้องลอง ไม่ต้องใช้หมากลอง นี่ถูกเขาทำของมาแล้วนี่ เออ อีหนูนี่หน้าตามันไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยน่ะ มันเป็นคนสวยก็มีคนรักมาก แล้วคนรักก็รักแบบดีก็มี รักแบบทุจริตก็มี นี่คนรักเขาอยากได้มันแต่มันก็ไม่ตามใจเขา เขาก็เลยเกล้งกระทำเอ็ง จะทำให้ตาย เพราะปรากฏว่าเจ้าเด็กคนนี้มันไปรักเด็กชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่คนนั้น ไม่เมื่อไม่สมหวัง เขาก็เลยคิดว่าในเมื่อเขาไม่ได้ คนอื่นก็จงอย่าได้ ให้มันตายไปเสีย จะได้ไม่มีได้ไว้เป็นสมบัติ เขาไปจ้างเจ้าลาวทำ หลวงพ่อปานท่านบอกเสร็จว่าคนทำนี่น่ะเป็นลาว เขาจ้าง ๒๐๐ บาท นี่ท่านรู้เอาตามชอบใจ พอเขาเอาคนไข้มาวางท่านก็พูดเลย ไม่เห็นท่านนั่งหลับตาอะไร
    ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ประเดี๋ยวก็หาย ท่านพูดเฉย ๆ แล้วก็หัวเราะกั๊ก ๆ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกลูกเอ้ย ท่านบอกกะพ่อแม่เด็กถ้ามันเป็นใหม่ ๆ ยังงี้มาหาพ่อละไม่เกิน ๒๐ นาทีหรอก หายแน่ แล้วท่านก็เรียกหา เจ้าลิงดำเอ๊ย ตอนนั้นฉันนั่งอยู่ไม่ไกลท่านนักหรอก นั่งอยู่ไกลประมาณ ๖- ๗ วา เอ็งไปลดน้ำมนต์ให้ข้าที อ้าว ? นี่ฉันไม่ได้เป็นหมอกับเขาสักนิดหนึ่ง ท่านบอกให้ไปรดน้ำมนต์ ก็เลยไปกราบ ๆ ท่าน ถามว่า รดแล้วว่าอะไรบ้างขอรับ ท่านก็บอกว่าแกมีหน้าที่รดอย่างเดียว ไม่ต้องว่าอะไรทั้งหมด น้ำในตุ่มน่ะรดลงไปจนกว่าฉันจะบอกเลิก

    เขาเอาเด็กคนนั้นไปนั่งพื้นข้างล้างต่ำลงไป ฉันยืนรดอยู่ข้างบน รดน้ำประมาณ ๒ ปีบ พอถูกน้ำรดทีแรกรู้สึกว่าเด็กคนนั้นดิ้นบอกไม่ถูก แกดิ้นใหญ่ ดิ้นไปดิ้นมา น้ำหมดไปประมาณ ๒ ปีบนี่แหละ แกฉีกเสื้อของแกออกหมด เหลือแต่ตัวหล่อนจ้อน แต่ว่าเดชะบุญนะ ถ้าแกดันฉีกผ้าถุงแกออกหมดอีก บางทีน่ะหมอรดน้ำขันหล่นมือไม่รู้ตัวเชียวนะ นี่ดีว่าแกฉีกแต่เสื้อ แต่ถึงกระนั้นก็ดี หมอ ก็ใจเต้นตึ้กๆๆๆ ตอนนั้นหมอยังเป็นกระทิงเปรี่ยวอยู่นา แต่เวลานั้นจิตใจไม่เป็นไรหรอก เห็นว่าแกเป็นคนไข้ เห็นว่ามีทุกข์ ในจิตใจก็คิดเมตตาสงสารตั้งใจสงเคราะห์อย่างเดียว อาราธนาในจิตนึกถึงบารมีของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนึกถึงพระพุทธเจ้าหรือพระองค์ยิ้มของฉัน เวลาฉันหยิบขันฉันก็นึกถึงท่าน ท่านก็มายืนอยู่ข้าง ๆ ท่านก็ยิ้มแล้วสั่งว่า รดไปเถอะลูก ประเดี๋ยวจะปรากฏเหตุอัศจรรย์ ฉันก็รดไปเรื่อยๆ แกก็ดิ้นไปดิ้นมา

    คนหลายสิบคน และพระ มายืนดูแกนอนดิ้น แกฉีกเสื้อขาดหมด เห็นมันก็ไอ้เนื้อหนังนั้นแหละ เดี๋ยวมันก็ผุก็พังหมด ไม่เห็นว่ามันมีสิ่งที่ว่าสวยว่างามตรงไหน พอเห็นแกไม่มีเสื้อผ้าแล้ว แกก็พลิกคว่ำ หลวงพ่อปานก็สั่งให้รดใหญ่ รดหนักเข้าไป เราเป็นต่อเขาแล้ว ไม่เห็นท่านว่าคาถาอะไรกระหมุบกระหมิบ ๆ อะไรก็ไม่เห็น เห็นท่านคุยกับพ่อแม่ของเด็ก ฉันก็รดไปประมาณดูน้ำหมด ๑ ปีบ เด็กนั้นก็หยุดดิ้น พอหยดดิ้นเธอลุงขึ้น เรียกว่าโงหัวขึ้นมา ปรากฏว่ามีมีดโตเล่มหนึ่ง มีดโตขนาดใหญ่ ผูกตราสัง ๓ เปลาะอย่างกับผูกผี หล่นเป็งลงมา จากหน้าอกของเธอ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก ก็เวลาเธอดิ้น เธอฉีกเสื้อออกหมดแล้วนี่ ก็เห็นหนังเท่านั้นแหละมีอะไร ทุกคนที่อยู่ที่นั้นเห็นเหมือนกันหมด บอกว่าอัศจรรย์ แล้วเขาก็หยับมีดมาให้หลวงพ่อปาน ตอนนี้เธอก็หมดทุกข์เวทนา รู้สึกเธออายจัด รีบคว้าขาวม้าพ่อมาปิดอก

    แล้วหลวงพ่อปานก็บอกว่า นี่เขาทำมา เขาเสกมีดเข้าอก แล้วท่านก็เสกมลคลให้ แล้วเอาผ้ายันต์ทอ เสกยันต์ผูกในมงคลแล้ว ก็คล้องคอให้อีหนูคนนั้น บอกว่า อีหนู เอ็งกลับบ้านไปบ้านละก็เอ็งอย่าถอดมงคลนะลูกนะ เขายังจะเล่นงานเอ็งต่อไป แล้วหลวงพ่อปานท่านก็สั่งให้กลับได้ ความจริงรักษากันเดี๋ยวเดียวจริง ๆ นี่คนขนาดหามมานา พอเขาไปแล้วหลวงพ่อปานก็บอกว่า ลิงดำเอ๊ย เอ็งเข้าใจใหมลูก มีดเล่มนี้เขาทำกันยังไง ตอบว่ากระผมไม่เข้าใจขอรับหลวงพ่อ ก็มีดเล่มนี้มันเป็นเหล็ก มันเอาเข้าไปในอกคนได้ยังไง ? ท่านก้เลยบอกว่าประเดี๋ยวพ่อจะทำให้ดู คนเยอะ คนที่มาดูคนไข้ยังกลับกันไม่หมด คือพวกญาติๆของเด็กคนนั้นเขามากันหลายลำเรือ..แต่เด็กคนนั้นเธอกลับไปแล้ว

    ท่านบอกว่าพ่อจะทำให้ดู วิธีที่เขาจะเอาเข้าคนเขาทำกันอย่างนี้ ท่านก็เอามีดวางข้างหน้า ท่านสั่งให้ไปหาไม้ลำที่มีปล้องตัน ๆ มาให้พ่อลำหนึ่ง ไม่ต้องยาวหรอก เขาเรียกว่าข้อขังข้อ คือข้อหัวข้อท้ายมันไม่เปิด มันก็หาไม่ยาก ใกล้ ๆ ที่ท่านนั้นมันมีอยู่ ฉันไปหยิบมา แล้วท่านก็ให้เอาไปวางไว้ พอวางไว้แล้วท่านก็บอกว่าคอยดูนะ พ่อจะเอามีดนี่น่ะเข้าไปอยู่ในลำไม้ เราก็ดู แล้วไม่เห็นมันมีรูที่ไหน มันจะเข้ายังไง ? ไม้ลำนั้นก็รู้สึกว่ามีความกว้างของลำไม้ไม่เท่ากับมีดโต แต่ท่านก็ทำให้ดู ทุกตนตั้งใจดู ท่านบอกว่า ทุกคนตั้งใจดูนะ แล้วท่านก็เอานิ้วจี้ลงไปข้างมีด ไม่เห็นว่าไง ปากก็ไม่หมุบหมิบ สักไม่ถึง ๓ นาทีเป็นอย่างช้า มีดเล่มนั้นก็เล็กลง ๆ เล็กจนเกือบมองๆไม่เห็น แล้วก็วิ่งเปี้ยะไปเข้ากระบอก เสียงกระบอกไม้ดังเพี๊ยะ ท่านก็สั่งให้หยิบกระบอกไม้มา แล้วผ่าออกดูก็เห็นมีดเล่มเล็กนิดหนึ่งเกลือบจะมองไม่เห็น แล้วท่านก็หยิบน้ำมนต์ของท่านมาพรมลงไป พอมีดเล่มนั้นถูกน้ำมนต์มันก็โตขึ้นตามปกติ

    แล้วท่านก็อธิบายว่าของเหล่านี้เขาทำมาเข้าร่างกายคน คราวแรกมันมีพิษไม่มาก ถ้าถึง ๗ วันมีดเล่มนี้หรือของอะไรก็ตามที่เขาทำมามันจะขยายตัวทีละน้อย ๆ ถึง ๗ วันมันจะโตเต็มที่ของมัน มันก็เบียดอวัยวะภายใน ในที่สุดคนก็ตาย

    ต่อมาอีกไม่กี่วันก็ปรากฏว่าเด็กคนนั้นถูกหามมาใหม่ มาถามได้ความว่า เวลาจะเข้าส้วมวันนั้นน่ะเธอนึกยังไงไม่ทราบ มันเป็นกฏของกรรม เธอถอดมงคลแขวนไว้หน้าส้วม พอถอดมงคลเท่านั้นก็ล้มตึงทันที ปรากฏว่าของนี้เขาทำมาเข้าตัว ก็รดน้ำมนต์แบบนั้นอีก คราวหลังนี่ปรากฏว่าได้เลื่อยตัดเหล็ก ๒ ปื้น เขาผูกไขว้กันไว้เป็น ๘ แฉก แล้วก็สายสิญจน์ทำเป็นสายตราสังเหมือนกัน ก็รดน้ำมนต์แบบนั้นจนหาย ต่อไปหลวงพ่อปานสั่งว่าบอกว่าอย่าถอดมงคลนะอีหนู เมื่อไปแล้วหลวงพ่อปานก็บอกว่า ยังต้องโดนอีก นังหนูคนนี้ยังไม่ยังไม่หมดเคราะห์

    ในที่สุดอีกไม่กี่วันก็หามมาอีก คราวนี้รดน้ำมนต์ก็ได้ตะปูกลุ่มเบ้อเร้อ ตะปู ๓
     
  3. DJ-วิเศษ

    DJ-วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3,005
    พี่ๆ ได้แล้วนะครับ เนื้อเพลง love will keep us alive พร้อมด้วยคำแปลครับ
    -------------
    เออพี่ ผมอยากได้ mp3 เพลงนี้หน่อยครับ ทำงัยจะได้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2005
  4. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อ้าว...ขอผิดห้องแระ ทำไมไม่ขอผ่านห้องเพลงหรือทางพีเอ็มจ๊ะพ่อหนุ่ม อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...