องคาพยพแห่ง "พระผู้เป็นเจ้า" ที่โอบอุ้มจักรวาล ขับเคลื่อนไปอย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 17 พฤษภาคม 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สวัสดีครับ ยังมีเรื่องหนึ่งที่หลายท่านอาจเข้าใจ
    อยู่แล้ว แต่ยังไม่ดีพอ ดังนั้น ผมจึงรับอาสาที่จะ
    อธิบายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือ เรื่องพลังงานที่
    อยู่ในจักรวาลแบบต่างๆ อันประกอบกันขึ้นมาดุจ
    องคาพยพแห่งพระผู้เป็นเจ้า เป็นพลังงานที่ได้
    ขับเคลื่อนจักรวาลมายาวนาน และจะยังคงทำ
    อย่างนั้นอยู่ต่อไป ซึ่งผมจะค่อยๆ เล่าต่อไปครับ
     
  2. manoflove

    manoflove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +146
    มันเป็นอจินไตย แม้อธิบาย ได้ แต่มนุษย์ก็อาจจะปรุงแต่งมากขึ้น ออกจากกองทุกได้ยากมากขึ้น ตามใจนะ บอกก็ได้ไม่บอกก็ได้ บอกวิธีว่ารู้ได้อย่างไร หใขห็นอย่างที่เราเห็นเป็นแนวทางที่ดีกว่า
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=YEH98_Ha2aA&feature=related"]Muse-Exogenesis Symphony Full - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  3. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ครับ

    พระพุทธเจ้ามาเกี่ยวอะไรด้วยเหรอครับ เท่าที่รู้คือพลังงานควอนตัมที่ประคองและขับเคลื่อนจักรวาล ว่ากันทางวิทยาศาสตร์ ขอร้องอย่ามั่วนิ่ม
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    พลังงานที่แตกต่างกัน ภาคส่วนต่างๆ นั้น แท้แล้วคือ "องคาพยพ
    แห่งพระผู้เป็นเจ้า" นั่นเอง อย่างไรหรือ? ก็เพราะพลังงานที่ต่าง
    กันนี้ ประกอบกันขึ้นมาจนทำให้จักรวาลสมบูรณ์ เติมเต็มส่วนที่ขาด
    หาย ทำให้ครบองค์ประกอบมากยิ่งขึ้น ผมจึงขอเรียกว่า "องคาพยพ
    แห่งพระผู้เป็นเจ้า" ซึ่งต่อไป ผมจะอธิบายถึงส่วนต่างๆ ที่เหมือนดั่ง
    อวัยวะร่างกายแห่งพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งผมขอแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกันคือ


    1. พลังงานกลุ่มต้นแบบ (OM - Original Model) เป็นดั่งพระหัตถ์
    ขวาของพระผู้เป็นเจ้า ที่เราอาจเรียกว่าเทพ หรือผู้ที่เดินตามทางและทำ
    ตามคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ออกนอกทางอื่น พวกเขาจะคงความถูก
    ต้องไว้ เพื่อเป็นต้นแบบให้ผู้อื่นที่หลงทางอยู่ เดินตามรอยมาในภายหลัง

    2. พลังงานกลุ่มทดลอง (IT - Incomplete tester) เป็นดั่งพระหัตถ์
    ซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า ที่ถูกเรียกว่ามาร แต่ผมกำลังให้คุณมองมุมใหม่ที่
    ไม่ใช่การวนติดอยู่กับคำว่ามารร้าย เอาเป็นว่าพวกเขาไม่ชอบอยู่ในเส้น
    ทางที่ถูกกำหนด ชอบทดลองจึงออกนอกเส้นทาง และยังไม่ประสบความ
    สำเร็จ พวกเขาชอบทดสอบผู้อื่นด้วย ขัดขวางคนที่เดินตรงทาง และทำสิ่ง
    ที่ตรงข้ามกับพระหัตถ์ข้างขวา แต่พวกเขาก็จำเป็นต่อสมดุลของจักรวาล

    3. พลังงานกลุ่มตัวแบบใหม่ (NM - New model) เป็นดั่งศีรษะของ
    พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะเอาตัวเองเป็นหนูทดลองเพื่อหาเส้นทางใหม่ๆ ให้
    ผูคนเดินตามมา และพวกเขาก็ทำสำเร็จ เข้าเข้าถึงเส้นชัยแห่งแสงสว่าง
    และความหลุดพ้นได้ด้วยเส้นทางของเขาเอง ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ จึงเป็น
    "ตัวแบบใหม่" เป็นดั่งสมองของพระผู้เป็นเจ้า หรือศีรษะของท่านเลยละ

    4. พลังงานกลุ่มมืดหวนกลับ (In darkner) เป็นดั่งเท้าขวาของพระผู้
    เป็นเจ้า ซึ่งก็ขาดไม่ได้ ที่จะหยั่งลงไปเบื้องล่าง และเหยียบก้าวไปในสิ่งที่
    สกปรกหรือแปดเปื้อน แต่พวกเขาพร้อมแล้วที่จะหวนกลับคืนสู่ต้นแบบดั้ง
    เดิมที่บริสุทธิ์ พวกเขาจึงหาวิธีหวนกลับมายังตัวต้นแบบ (พระหัตถ์ขวา)

    5. พลังงานกลุ่มมืดหลุดออก (Out darkner) เป็นดั่งเท้าซ้ายของพระ
    ผู้เป็นเจ้าที่จะขาดไม่ได้อีกเช่นกัน พวกเขาคือกลุ่มที่ยอมตกลงสู่เบื้องล่าง
    เพื่อกระทำกิจที่พระหัตถ์ทังสองของพระผู้เป็นเจ้าไม่อาจกระทำได้ แต่ว่า
    กลุ่มนี้จะไม่ยอมหวนกลับคืนมาง่ายๆ พวกเขายังคงเดินหน้าต่อไปในทาง
    เบื้องต่ำ และมืดมิดไปเรื่อยๆ พวกเขาจึงหลุดออกจากระบบปกติที่เป็นอยู่


    องคาพยพ ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งห้านั้น จำต้องประสานงานกัน และทำกิจ
    ร่วมกัน จึงจะโอบอุ้มจักรวาลนี้ให้เคลื่อนไปได้อบย่างสมบูรณ์ ทว่า ท่านจะ
    ต้องเลือกทางเดินที่แตกต่างกัน และเกิดความขัดแย้งกันบ้าง เป็นธรรมดา
    ไม่มีใครผิดหรือถูก แต่ทุกคนมีหน้าที่ที่ต่างกันเท่านั้น ดุจองคาพยพของ
    พระผู้เป็นเจ้า ที่มีหน้าที่แตกต่างกัน แม้ว่าท่านจะเรียกอีกฝ่ายว่ามารหรือ
    พวกมืดก็ตาม แต่ทว่า ท่านก็ยังขาดพวกเขาไม่ได้ เพราะบางภาระกิจ ก็
    ต้องอาศัยการดำเนินการของพวกเขาเช่นกันและหลายครั้งการทำกิจนั้น
    อาจขัดแย้งกันอย่างรุนแรง แต่นั่นคือ วิถีแห่งการเรียนรู้และปรับตัวเท่านั้น
    ดังนั้น หวังว่าท่านคงเข้าใจที่จะดำรงอยู่และทำกิจร่วมกันในลักษณะนี้ด้วย
     
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เข้าใจว่า ความรู้ที่ อ้ายสุดหล่อ

    ได้มาจาก การถามจาก ผู้ดำรงอยู่ใน

    มิติอื่น ที่สามารถ ติดต่อได้

    เรื่อง แบบนี้คิดไม่ได้ ดอกครับ

    หากรับฟัง จากผู้ดำรงอีกมิติที่ไกลโ้พ้น

    (สัมผัสใกล้ แต่รู้ไกล)

    จึงมาเล่าต่อ ก่ ดี แล้ว

    เข้าใจ ว่าจุดประสงค์ ให้รับฟังคือ

    ให้ผู้ที่เปิดใจกว้าง ได้รับรู้และพยายาม

    ก้าวกระโดด ออกจากหล่ม ความคิด

    เพราะ มีอะไร ที่มากมาย ที่ยอมรับแล้ว

    ก่จะสามารถออกจากหล่ม ได้ด้วยตนเอง

    แม่น บ่ ...อ้าย

    เจตนาผู้เขียน(อ้ายสุดหล่อ) คือ ไม่มีเจตนาจะอวดภูมิความรู้อะไร

    เพราะ ไม่จำเป็นต้องเขียน ก่ ได้ ...อ้าย สุด หล่อ ก่ สบายอยู่แล้ว

    จะลำบาก เขียน มาเพื่ออะไร เพราะ เขียนบนนี้ หน้า ก่ ไม่ได้ใหญ่กว่าเดิม

    หน้า ก่ ไม่ได้บาน กว่า เดิม หัว ก่ ตั้ง อยู่บนคอเหมือนเดิม

    จะเอาอะไร อีก ล่ะ ....

    เอ๊ะ ... หรือว่า อ้าย สุด หล่อ เขียน มา หวัง หน้า บาน ๆ อีก
     
  6. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ยังไงก็ขอยืนยันคำตอบเดิม
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    และเมื่อผมได้ให้คำอธิบายไปแล้ว ต่อไปนี้ ผมจะไม่ใช้คำว่าฝ่ายมาร
    หรือฝ่ายมืด นะครับ หวังว่าท่านคงเข้าใจ ถ้าผมจะเรียกว่า "มือซ้าย"
    ของพระผู้เป็นเจ้า หรือ "เท้าข้างใดข้างหนึ่ง" ของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น
    เราจะไม่กล่าวถึงพวกเขาในมุมที่เป็นลบ (เช่นคำว่า "มารร้าย" หรือคำ
    ว่า "พวกมืด") แต่เราจะกล่าวถึงแต่ละท่าน แต่ละภาคส่วน หรือพลังงาน
    แต่ละชนิดในมุมที่เป็น "องคาพยพ" ของพระผู้เป็นเจ้า ดังที่ผมได้อธิบาย
    ไปแล้ว เพราะการแบ่งแยกพรรคพวกนั้น ก็คือ จุดเริ่มต้นของการแตกแยก
    และขาดความสามัคคี ซึ่งองคาพยพของพระผู้เป็นเจ้า นั้นควรทำกิจอย่าง
    กลมกลืนประสานกัน จึงจะทำให้กิจต่างๆ ดำเนินไปด้วยดี เหมือนร่างกาย
    ของเรา จะขาดไปเสียซึ่งมือซ้าย หรือเท้าข้างใดข้างหนึ่ง คงไม่ดีแน่ครับ


     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ถึงแม้ว่าเราไม่อาจเป็นได้ทั้งหมดขององคาพยพของพระผู้เป็นเจ้า
    แต่ผมยังคงยืนยันคำเดิมเสมอว่า "คุณเลือกที่จะเป็นได้" และเมื่อ
    ใดที่คุณเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับผลของมัน และยากนักที่จะถอนตัว
    ออกจากการเลือกนั้น เพราะคุณก็คิอ ส่วนหนึ่งขององคาพยพที่จะ
    ต้องมี ขาดไม่ได้ ไปเสียแล้ว นั่นเอง ดังนั้น จำเป็นที่ผมจะต้องเตือน
    เน้นย้ำแก่คุณอีกครั้งในโอกาสที่คุณยังมี และสามารถที่จะเลือกได้
    นี้ เพราะเมื่อใดที่ทุกอย่างลงตัวแล้ว มันยากยิ่งที่จะถอนตัวหรือเลือก
    ใหม่ หวังว่าคุณคงจะเลือกได้ไม่ยาก หนึ่งในห้าส่วนนั้น มือขาว, มือ
    ซ้าย, เท้าขวา, เท้าซ้าย หรือจะศีรษะ ดี? ไม่ยากเลย ใช่ไหมครับ?
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การเจริญเติบโต ของต้นไม้

    ต้นไม้ ยังคาย หรือผลิต ก๊าซ ที่เป็นประโยชน์

    และไม่เป็นประโยชน์

    การมีประโยชน์ หรือไม่ ขึ้น อยู่ กับ เวลา

    ออกซิเจน มีประโยชน์

    คาร์บอนไดออกไซค์ มนุษย์คิดว่าไม่มีประโยชน์

    แต่จะรู้ไม่ อาจจะมีประโยชน์ แก่ ผู้อื่น สิ่งอื่น

    เพื่อไป ขับเคลื่อนอย่างอื่น ... ใครจะรู้
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    และเพื่อให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น และเข้าใจถึงองคาพยพส่วนต่างๆ
    ของพระผู้เป็นเจ้าให้มากขึ้นยิ่งกว่านี้ ผมจะขออธิบายเป็นส่วนๆ ไป
    โดยเริ่มต้นจาก "พระหัตถ์ขวา" ของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะอยู่ในรูป
    นามใด มีรูปหรือไร้ลักษณ์ แต่พวกเขาจะมีลักษณะเหมือนๆ กันก็คือ

    1. จะเดินตามเส้นทางดั้งเดิมที่ถูกต้อง ไม่ออกนอกเส้นทาง
    2. เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า ไม่ดื้อรั้น ไม่ทำตามอำเถอใจตนเอง
    3. มีกฏระเบียบ มีกรอบการทำงาน ไม่ทำเกินหน้าที่ของตน
    4. จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรโดยพละการณ์ ทำตามแบบเดิม
    5. จะเป็นต้นแบบของสิ่งที่ตรงทางหลุดพ้นให้ผู้เดินตามมา

    ดังนั้น พวกเขาจึงมีข้อดีคือ ไม่เกะกะระราน ไม่เกเร ไม่ก่อกวน
    ไม่ทำสิ่งที่ผิดละเมิด หรือปั่นป่วนเรา แต่ก็จะอนุรักษ์นิยมมากไป
    เสียหน่อย ไม่ค่อยยอมลองผิด ลองถูก ไม่ค่อยทำสิ่งที่ออกนอก
    ลู่นอกทางและบางครั้งพวกเขาจะมีความเข้าใจที่จำกัดในกรอบ
    ไม่มีความคิดที่นอกกรอบมากนัก ซึ่งท่านจะสัมผัสพวกเขาได้ถ้า
    ท่านเลื่อนระดับไปสู่ทางที่ถูกต้อง ในแต่ละระดับมีพวกเขารออยู่
    เพื่อบอกทางแก่ท่าน แสดงผลเชิงประจักษ์แก่ท่านเพื่อยืนยันผล
    ของการเดินทางที่ถูกต้องตรงทางและสว่างไสวของพวกท่านนั้น
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ส่วนต่อไปคือ "พระหัตถ์ซ้าย" ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะมีลักษณะที่
    ตรงกันข้ามกับพระหัตถ์ขวา ซึ่งเรามักเรียกเขาว่า "มาร" แต่อย่าง
    ที่ผมบอกแล้วว่าเราจะเคลียร์พลังงานเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับเขาจาก
    คำว่า "มารร้าย" ไปเสีย เพราะเราต้องเข้าใจถึงความเป็นส่วนหนึ่ง
    ใน "องคาพยพ" นี้ของพวกเขาด้วย ดังจะอธิบายดังต่อไปนี้ครับ

    1. ชอบทำตามใจตัวเองมากกว่าฟังคำสั่งจากพระผู้เป็นเจ้า และมัก
    ออกนอกเส้นทางเพื่อหาเส้นทางใหม่ๆ ของตนเอง ซึ่งพวกเขาจะไม่
    พบความสำเร็จในครั้งแรกที่กระทำ ทำให้กลายเป็นการทดลองที่ยัง
    ไม่สำเร็จ แต่เพราะมีการทดลองของพวกเขาเหล่านี้ ทำให้ผู้ที่จะต้อง
    ทดลองได้อาศัยความล้มเหลวของพวกเขา ต่อยอดเส้นทางใหม่ได้

    2. ชอบทดสอบคนอื่น, ทดลองความสามารถ, ปัญญา, การปฏิบัติตน
    ของผู้อื่น ทำตนเหมือนเป็นพระเจ้าผู้กำหนดความถูกผิดเองได้ ตัดสิน
    ผู้คนว่าผ่านหรือไม่ผ่านตามใจตัวเอง (ซึ่งอาจไม่ตรงกับ พระประสงค์
    ของพระผู้เป็นเจ้า ก็ได้) ทว่า เพราะการทดสอบของพวกเขานี้เองที่จะ
    ทำให้ "ผู้เข้าทดสอบ" อื่นๆ เข้มแข็งและพัฒนาเส้นทางที่ดีมากกว่าได้

    3. มักขัดขวาง, เกะกะระราน, กลั่นแกล้ง, เล่นงาน, จับผิด, อ้างนั่นนี่
    เพื่อเล่นงาน "ผู้ทดลอง" คนอื่นๆ ถ้าผู้ทดลองนั้นอ่อนแอ ก็จะกลายเป็น
    พวกเดียวกับเขา เรียกว่า "การทดลองไม่สำเร็จผล" แต่ถ้าผ่านได้ ก็จะ
    กลายเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำเร็จของผลการทดลองได้มากทีเดียว จึง
    กลายเป็นเครื่องช่วยอีกแบบหนึ่งสำหรับผู้ทำการทดลองเส้นทางใหม่ๆ

    พวกเขาจะถูกเรียกว่า "มาร หรือ มารร้าย" มานาน แต่พวกเขาก็ได้รับ
    การยอมรับในหมู่คนมากมาย ทว่า ต่อไปนี้ เราจะมองเขาใหม่ให้เห็นถึง
    ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากเขา ซึ่งหาได้ยากทีเดียว และหากสามารถ
    นำสิ่งที่พวกเขาล้มเหลวมาพัฒนาต่อไปให้สำเร็จผลได้ ก็จะย่อย่นการ
    ทดลองค้นหาเส้นทางใหม่ๆ ของนักท่องจักรวาลได้ไปอย่างมากทีเดียว
     
  12. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ส่วนต่อไปคือ "เท้าขวา" ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งได้เหยียดยื่นลงในที่ต่ำ
    เพื่อทำกิจเฉพาะที่ยากยิ่ง ซึ่งมือซ้ายและมือขวา ไม่สามารถกระทำได้
    และไม่อาจเข้าถึงได้ ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงต้องมีองคาพยพที่เหยียดต่ำ
    ลงไปในที่ที่มืดมิด ผมจึงเรียกส่วนนี้ว่า "เท้าขวาของพระผู้เป็นเจ้า" ซึ่ง
    ยังคงพร้อมที่จะกลับคืนสู่ "สภาวะดั้งเดิม" ซึ่งพวกเขาจะมีลักษณะดังนี้

    1. การไม่ยอมรับในกฏระเบียบดั้งเดิม หรือการถูกลงทัณฑ์ ทำให้ต้องหนี
    ลงไปเบื้องต่ำ และเข้าสู่ความมืดมน หรือก็คือ การเยียดลงเบื้องล่างของ
    เท้าขวา นั่นเอง ซึ่งผมนิยมที่จะเรียกอย่างนี้มากกว่าภาษาที่คุณใช้กันอยู่
    ที่เรียกว่า "เทวดาตกสวรรค์" ใช่ไหม? ฟังดูมันร้ายแรงมากเลย ไม่หรอก
    ก็แค่การเหยียดลงของเท้าแห่งพระผู้เป็นเจ้า เพื่อทำกิจเบื้องล่าง เท่านั้น

    2. การสร้าวงโลกของตนเอง มิติของตนเอง การอยู่นอกระบบปกติดั้งเดิม
    การสร้างระบบใหม่ของตนที่ผิดไปจากระบบดั้งเดิมที่ควรมี ควรเป็น ทว่าก็
    สะท้อนถึง "ความมีอยู่ของบางสิ่ง" ที่จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติต่างออก
    ไป ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น การกระทำของเขาด้านหนึ่งก็
    ส่งผลกระทบต่อระบบดั้งเดิม ด้านหนึ่งก็เพื่อการดำรงอยู่ของบางสิ่งที่เคย
    ถูกมองข้ามไป นี่แหละ ผมจึงเรียกพวกเขาว่า เท้าขวาของพระผู้เป็นเจ้า

    3. การพร้อมยอมรับและกลับคืนสู่เส้นทางดั้งเดิม พวกเขายากลำบากมา
    นานแล้ว จึงพร้อมและอยากกลับมาสู่เส้นทางที่สว่างไสวดังเดิม ทว่า มัน
    ไม่ง่ายอย่างที่คิดนัก เพราะการกลับเข้ามาสู่เส้นทางดั้งเดิมนั้น อาจทำให้
    พวกเขาต้องได้รับผลกระทบ หรือได้รับโทษทัณฑ์ที่รุนแรงมาก ก็เป็นได้
    ดังนั้น แม้พวกเขาต้องการคืนกลับ ทว่า เส้นทางการกลับ ยังยาวไกลอยู่

    พวกเขา จะแหกคอก แหกกรอบ แหกกฏ และพยายามสร้าง "แนวร่วม"
    ให้มากขึ้นเพื่อดำรงอยู่ในแบบของพวกเขา ซ้อนขึ้นมาในระบบดั้งเดิมนั้น
    ทว่า พวกเขาก็ยังมีความหวังว่าจะสามารถดำรงอยู่ร่วมกันกับทุกคนได้?
     
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    และใคร จะ รู้ ได้ ว่่า

    พลังงานควอนตัม ที่ นักวิทยาศาสตร์ ศึกษา ก่ คือ

    คุณ ลักษณะ องค์ประกอบ ของ matrix ที่ อยู่ ภาย ใต้ ... ที่ มี การ ส่ง

    พลังงาน จาก มิติ พระผู้เป็นเจ้า ก่ ได้

    ตกลง ใคร เข้า ถึง แท้ จริง
     
  14. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ส่วนต่อไปคือ "เท้าซ้าย" ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งได้เหยียดยื่นลงในที่ต่ำ
    เพื่อทำกิจเฉพาะที่ยากยิ่ง ไม่ต่างจาก "เท้าขวาของพระผู้เป็นเจ้า" แต่
    ก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างไปจากเท้าขวา คือ การที่พวกเขาต่อต้าน
    และไม่ยอมกลับคืนสู่เส้นทางเดิม ทำให้ดูเหมือนพวกเกเรไปบ้าง ทว่า นั่น
    ก็คือ "เท้าซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า" เช่นกัน ย่อมมีความสำคัญจำเป็น ดังนี้

    1. นอกจากจะมีลักษณะเหยียดลงเบื้องล่างอย่างเท้าขวาแล้ว พวกเขาจะ
    แตกต่างและตรงกันข้ามกับ "เท้าขวา" มากคือ พวกเขาไม่ต้องการหวน
    กลับ และพร้อมตายทุกเมื่อ ไม่กลัวอะไร และไม่ต้องการการเจรจาต่อรอง
    อะไรทั้งสิ้น ทว่า การกระทำของพวกเขาที่ดูเกเรและเป็นปรปักษ์อย่างยิ่งนี้
    ก็มีเหตุผลในระดับมิติที่สูงขึ้น และท่านสามารถหาประโยชน์จากพวกเขา
    ได้ เมื่อยกระดับตัวเองขึ้นสูงมากพอที่จะเห็นภาพกว้างที่รวมเอาพวกเขา
    ไว้ด้วยนั้นได้ ดังที่บอกแล้วว่าพวกเขาก็คือ เท้าซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า ดังนี้
    จึงมีเหตุผลและมีประโยชน์บางอย่าง เพียงแต่เราจะต้องเข้าใจให้มากขึ้น

    2. พวกเขามักมี "คติความเชื่อ" แบบของตัวเอง หรือศรัทธาในพระผู้เป็น
    เจ้ามาก ถึงขนาดยอมพลีชีพโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เลย ดังนั้น ใน
    มุมหนึ่ง พวกเขาคือ ผู้เสียสละตนอย่างยิ่งยวด ยิ่งกว่าส่วนอื่นใดของพระ
    ผู้เป็นเจ้าเลยทีเดียว ทว่า พวกเขาไม่ใช่ศีรษะของพระผู้เป็นเจ้า จึงได้ทำ
    สิ่งที่อาจยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด พวกเขาเป็นเท้าซ้ายที่ยอมทั้งแปดเปื้อนและ
    พร้อมสละตนเต็มที่ แต่ในระดับพวกท่านอาจเรียกเขาว่า "โจร" เลยก็ได้

    มีความจำเป็นมากครับที่เราจะต้องทำความเข้าใจ "เท้าซ้ายของพระผู้เป็น
    เจ้า" นี้ให้มาก เพราะเป็นองคาพยพส่วนที่เข้าใจได้ยากที่สุด แต่ก็อุทิศตน
    มากที่สุด พร้อมยอมสละตนสูงสุดเช่นกัน ดังนั้น เราจะขาดพวกเขาไม่ได้
    นะครับ เพราะถ้าขาดพวกเขาแล้ว ท่านอาจจะหาคนที่สละตนไม่ได้อีกเลย
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ว่ามาเลย ท่าน
     
  16. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ส่วนสุดท้ายคือ "ศีรษะ" ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งมีลักษณะเด่นเหมือน
    กับศีรษะ คือ เป็นส่วนที่มีทั้งปัญญา, ความคิดและตรงกลางมากที่สุด
    มองเห็นทุกส่วนได้อย่างถ้วนทั่วมากที่สุด ทว่า ก็ไม่ใช่ส่วนที่จะปฏิบัติ
    การเหมือนมือและเท้า ดังนั้น พวกเขาจึงทำงานโดยใช้การสื่อสาร การ
    สั่งการ การบริหาร เป็นสำคัญ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่าง ดังนี้

    1. พวกเขาเหมือน "พระหัตถ์ขวา" ตรงที่ ค้นพบเส้นทางเดินที่ถูกต้อง
    ตรงทาง และหลุดพ้นสู่ความสว่างไสวได้ในท้ายที่สุดของการทดลองแต่
    ต่างกันตรงที่ พวกเขากล้าทดลองเส้นทางใหม่ๆ ซึ่งพระหัตถ์ขวา ไม่ทำ

    2. พวกเขาเหมือน "พระหัตถ์ซ้าย" ตรงที่ กล้าที่จะทดลองและค้นหา
    เส้นทางเดินใหม่ๆ แต่พวกเขาต่างจากพระหัตถ์ซ้ายตรงที่ "ค้นพบและ
    ประสบความสำเร็จ" ในการทดลองหาเส้นทางเดินใหม่ๆ นั้นด้วยตนเอง

    3. พวกเขาเหมือน "เท้าขวา" ตรงที่ พร้อมสละตนลงสู่เบื้องล่างได้เสมอ
    แต่ต่างกันตรงที่พวกเขาไม่มีลักษณะใดๆ ที่จะตกลงสู่เบื้องล่างได้เลย จึง
    ต้องดำรงอยู่ในฐานะเดิมคือที่ศีรษะ คือ พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งผิดเลย นั่นเอง

    4. พวกเขาเหมือน "เท้าซ้าย" ตรงที่ มีอุดมการณ์ของตนเอง พร้อมสละ
    ตน อุทิศตน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่หวังแม้จะได้กลับมาหรือไม่? ทว่า
    พวกเขาก็ยังสามารถกลับมาสู่เส้นทางดั้งเดิมที่ถูกต้องได้ด้วยตนเองอยู่ดี

    องคาพยพส่วน "ศีรษะของพระผู้เป็นเจ้า" มักมีข้อเสียคือ "ไม่อาจกระทำ
    สิ่งต่างๆ ได้เอง" อาจเป็นเพราะการที่เขาเอาตัวเองเข้าทดลอง คือเป็นหนู
    ทดลองจนอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจกระทำการใดได้อีกได้แต่ใช้ปัญญาเท่านั้น
    ทว่า พวกเขาคือ ส่วนที่สำคัญมากและหาได้ยากยิ่งทีเดียว แม้ว่าพวกเขา
    จะไม่ทำอะไรเลย หรืออยู่เหมือนคนที่ไม่มีงานทำ ตกงาน หรือว่างงานก็ดี
    ทว่า อย่าเพิ่งมองข้ามเลยไปละ เพราะนี่คือ "ส่วนที่สำคัญ" ที่สุดทีเดียว
     
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจความเป็นหนึ่งเดียวกันของจักรวาล
    นี้มากขึ้น มันเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้วโดยที่คุณไม่ต้องกระทำการรวม
    อะไรไว้ด้วยกันเลย มันเป็นหนึ่งเดียวกันมานแล้ว อยู่แล้ว ทว่า ภาวะที่
    ถูกแบ่งแยก, จำกัดกรอบ, ความคับแคบ ฯลฯ ทำให้มันถูกทำให้กลาย
    เป็น "คนละส่วนกัน" และนานวันเข้ามันก็ขัดแย้งกันเอง, ปะทะกันเอง
    อย่างที่คุณเห็นอยู่ แต่นั่นไม่แปลกอะไรหรอกนะ เพราะเป็นวิถีของการ
    "ทดลอง" เท่านั้น ซึ่งนักท่องจักรวาลทั้งหลายจะทดลองเข้าสู่ภาคส่วน
    ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมือขวาหรือเท้าซ้าย ก็ดี มันจึงเกิดความขัดแย้งกันบ้าง
    เป็นธรรมดา แต่เมื่อไรที่มันลงตัวแล้ว ทุกอย่างจะง่ายขึ้น ราวกับว่าคุณไม่
    ต้องทำอะไรเลย? เพราะอะไร? เพราะทุกอย่างเป็นองค์ประกอบของการ
    กระทำอยู่แล้ว มันคือ องคาพยพแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่จะขับเคลื่อนจักรวาล
    นี้ไปอย่างที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว นั่นเอง หวังว่าคุณจะเข้าใจและเข้าถึงในสิ่ง
    ที่ผมได้สื่อสาร ซึ่งอาจเป็นการยากสักหน่อยสำหรับคุณเพราะมันอยู่ในมิติ
    ที่สูงมากๆ และคุณจะต้องเลื่อนระดับให้ได้ถึงระดับ "สากลจักรวาล" จริงๆ
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
  19. ืำีืneung48

    ืำีืneung48 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +7
    ก็ปฏิจจสมุปบาทนั่นหละ อธิบายต่างมุมออกไปเท่านั้นเอง
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    คคห. หลากหลายอย่างนี้ คงมากันครบทุก
    องคาพยพแห่งพระผู้เป็นเจ้า เลยมังครับเนี่ย?


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...