องค์เทพกับพุทธศาสนา

สวัสดีครับ

พอดีผมมีข้อสงสัยบางอย่าง ในเรื่องของการเข้าทรง เห็นที่บอกกันว่า หากร่างทรงไม่ยอมรับเป็นร่างให้เทพแล้วนั้นจะถูกลงโทษให้ยอมเป็นร่างให้ได้ เกิดเหตุการณ์ต่างๆเช่น อุบัติเหตุ เจ็บป่วย

องค์เทพสามารถลงโทษมนุษย์ได้ด้วยหรือครับ แล้วบาปไหม ที่ยังเป็นองค์เทพที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว

ผมใช้ในการศึกษาทำวิจัยนะครับ

 

คุณตั้งคำถามผิดนะครับ อย่าพึ่งเอาศาสนาพุทธมาข้องเกี่ยว เราต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรที่พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวถึงไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริง พระพุทธเจ้าท่านจะพูดถึงแต่เรื่องที่ทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ได้เท่านั้น ซึ่งถ้าเราจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์เทพต่างๆเราก็ต้องแยกความคิดตรงนี้ให้ออกเสียก่อน ไม่งั้นเราก็จะหลงทางเอาได้

เรื่องร่างทรงผมไม่ทราบ แต่เทวดาหรือองค์เทพก็มีทั้งเทวดาที่ให้คุณ เทวดาที่นิสัยไม่ดีเป็นมิจฉาทิฏฐิทำร้ายมนุษย์ และยังมีพวกอสุรกายที่รับสินบนของไหว้จากชาวบ้านเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือ เรื่องกรรมไม่ได้มีผลแค่กับมนุษย์เท่านั้นแต่สัตว์เหล่าอื่นก็มีผลด้วยเช่นกัน ทำดีก็ได้บุญ ทำชั่วก็ได้บาป

 

...ไม่มีองค์เทพอะไรๆจะมาลงโทษใครๆอย่างไม่มีปี่ขลุ่ยหรอกครับ ยิ่งเป็นเทพ(เทวดาจริงๆ)แล้วที่อยากจะเข้าใกล้ปุถุชนยิ่งหายาก เหมือนเราไม้อยากเข้าใกล้หมาเน่าฉันใด เทวดาก็ฉันนั้น ท่านเหล่านั้นไม่อยากทนกลิ่นเหม็นสกปรกของคนทั่วไปที่ไม่มีศีล จะอยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นแหละ..

ในพระไตรปิฎกแสดงไว้ใน. มารตัชชนียสูตร--ว่าด้วยการคุกคามมาร ว่า..

ในพระไตรปิฎกแสดงว่ามารเข้าสิงพระโมคคัลลานะ---มารนั้นเป็นหลานของมารชื่อทูสี คืออดีตชาติของพระโมคคัลลานะ--นี้เป็นผลของอกุศล
กรรมที่ท่านพระโมคคัลลานะเคยเกเรเป็นมารสิงเด็กเอาหินปาพระมหาสาวกของพระผู้มีพระภาคผู้ประเสริฐพระนามว่ากกุสันธะมาก่อน...

จึงเป็นอันกล่าวได้ว่า เมื่อตนเคยทำบาปกรรมทำนองนี้มา ผลที่สอดคล้องเสมอกันย่อมมีได้...

และมารหรือผู้ใด ทำร้ายเบียดเบียนใครๆ ผลที่ตามมาก็ย่อมเสมอกันคือพาไปเกิดในนรกบายภูมิตามกฏแห่งกรรมที่เที่ยงตรงไม่เอียงหรืออยุติธรรมเพราะตำแหน่งหรือภพภูมิของใครๆ ..พระมหาโมคคัลลานะเคยเกิดในนรกเพราะการได้เป็นมารผู้เกิดด้วยบุญดีแต่กลับใช้บุญดีเบียดเบียนพระพุทธเจ้ากกุสันธะมาอย่างลืมตัวเลยหมดบุญไปนรกมาแล้ว ท่านเล่าความสาหัสของนรกให้ทราบดังมีในพระสูตร--มารตัชชนียสูตร--ตาม link นี้ เชิญศึกษาครับ..

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=10287

 

..ส่วนมากที่มีอาการเหมือนจะถูกสิงหรือออกท่าแปลกๆ มาจากการที่ชอบเสพเรื่องทรงเจ้าหรือนิยมเรื่องผีสิงมาก่อนสัญญาที่จำหมายสิ่งเหล่านี้มาจะทำงานเหมือนสะกดจิตตนเองให้แสดงท่าทางออกมา ในทำนองที่สอดคล้องกัน (ไม่เชื่อลองถามเจ้าตัวดู ว่าเคยไปเกี่ยวข้องจะด้วยการไปเข้าทรง อ่านหรือฟังมา ดูหนังมา etc...etc..แม้ครั้งเดียว ก็แสดงผลทำนองนี้ได้ เพราะจิตนั้นวิจิตรเกินบรรยายจริงๆ)

ส่วนผีที่จะมาสิงอะไรๆนั้น เอาเข้าจริงแล้วกลัวคนมากกว่า ..โดยเฉพาะผี(ที่มีความเห็นถูก)จะไม่มาเบียดเบียนคนที่กำลังเจริญกุศลหรอก เพราะอยากได้บุญกะเขา..

ส่วนผีมิจฉาทิฏฐิ ส่วนมากก็ไม่อาจทนพุทธานุภาพได้ ยกเว้นที่นั้นมีพิธีถือผีเท่านั้นเป็นไป พวกนี้(คือเปรตสุรกาย)จะชอบมาปาร์ตี้ร่วมด้วยจึงต้องสอบสวนทวนดูว่ากำลังเจริญพิธีทรงเจ้าอยู่หรือกำลังทำอะไรที่เป็นทางที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้..

ในเวลานี้ คนส่วนมากมีปัญญาไม่มาก จึงชอบเรื่องผีและสิ่งลึกลับ ที่จะเอาสาระแห่งปัญญานั้นยากส์มากจึงควรสอนคนที่มาให้ทราบสาระแห่งธรรมมากกว่าจะไปานับสนุนให้เชื่อเรื่องทรงผีหรือบนบานอะไรๆ ตกไปแล้วจากพุทธศาสนาน่าสงสาร เพราะเมื่อทำเหตุที่จะชอบใจเรื่องผีๆแล้วย่อมมีผลให้ได้เจอและนับถือผีไม่มีโอกาสศรัทธาพระพุทธศาสนาแม้จะตั้งบ้านเรือนในวัดก็ตาม กลายเป็นตอในวัฏฏะไปโดยไม่รู้ตัว..น่าเห็นใจจริงๆ..