อย่าเป็นทาสของความคิด

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    อย่าเป็นทาสของความคิด

    เทศนา วันที่ 29 สิงหาคม 2537

    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    เจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม
    บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค (กม. ๙๐) จ.กาญจนบุรี






    โพสท์ในลานธรรมจักร โดย TU 2004-08-29
    http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_book&No=559&page=1



    <TABLE style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BACKGROUND: #fffff5; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" bgColor=#fffff5 border=1><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: maroon 1.5pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: maroon 1.5pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: maroon 1.5pt solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: maroon 1.5pt solid" vAlign=top width=568 height="100%">
    คำนำ

    ในตอนแรกของหนังสือเล่มนี้ท่านพระอาจารย์ตั้งใจสอนคนขี้บ่นโดยเฉพาะ เพื่อให้เห็นโทษของการบ่น ให้เห็นว่า การบ่น การนินทา นั้นเป็นความผิด เป็นความชั่วที่จะนำทุกข์โทษมาสู่ตัวเราแน่นอน ส่วนในตอนที่สองนั้นท่านพระอาจารย์สอนเรื่อง ความคิด ท่านบอกว่า ผู้ปฏิบัติธรรมต้อง คิดถูก ไม่ คิดชั่ว แต่ในกรณีที่ความคิดกำลังรุนแรง ก็ต้องค่อยๆ ผ่อนปรนจะฝืนทีเดียวก็ไม่ได้ ท่านอธิบายวิธีผ่อน วิธีปฏิบัติให้เราได้พิจารณาศึกษา
    คำว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ฟังแล้วใครๆ ก็คิดว่าเราเข้าใจแล้ว เรารู้แล้ว แต่จริงๆ แล้ว เราอาจจะยัง รู้ ไม่ทะลุก็ได้ เราทุกคนจะคิดว่า เราทำดีแล้ว และพวกเราส่วนมากจะคิดว่า เราไม่ได้ทำชั่ว เลย แต่เราก็ยัง ทุกข์อยู่ บางคนก็รู้ว่าตัวเอง ทุกข์ แต่หลายๆ คนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเรา ทุกข์ เพราะเราไม่เคยสังเกต เราไม่เคย กำหนดรู้ ทุกข์
    เราคิดว่า การที่เราไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ได้ลักขโมย ฯลฯ นั้นคือ เราไม่ได้ทำชั่วแล้ว เราคิดว่าเราทำดีแล้วเพราะเราไม่ได้คดโกง ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่คอรัปชั่น เราตั้งใจทำงานอย่างดี เราขยันขันแข็ง เอาใจใส่ในการงาน... แต่เราก็ยังทุกข์ ยังวุ่นวายใจ ยังเครียด ยังกังวล และที่สำคัญเราทำให้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ทุกข์ เครียด กังวล ไปด้วย เพราะเรายังไม่เข้าใจคำว่า ทำชั่ว ทำดี คิดถูก คิดผิด ตามธรรม
    ฉะนั้น หวังว่าคำสอนของท่านพระอาจารย์ในหนังสือเล่มนี้ และเล่มอื่นๆ จะเปิดทัศนคติของพวกเราให้กว้างขวางขึ้น ให้เข้าใจความหมายของคำว่า ชั่ว ดี ผิด ถูก ได้กว้างขวางขึ้น และสามารถนำไปใช้พิจารณาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความสงบและความสุขได้มากขึ้นๆ ทั้งแก่ตัวเองและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด

    มูลนิธิมายา โคตมี


    มิถุนายน 2546







    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน


    ที่พวกเรามาบำเพ็ญสมาธิ ภาวนา ทำจิตใจให้สงบ
    ก็เพื่อศึกษาปัจจุบันธรรม ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน
    ปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้
    ปกติจิตใจของเรามักจะคิดอยู่กับอดีต หรืออนาคตเป็นส่วนใหญ่
    เราไม่ค่อยรู้จักว่าปัจจุบันคืออะไร
    ในการศึกษาธรรมะ ปัจจุบันธรรม สำคัญมาก
    เพราะอดีตก็ผ่านไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง

    พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนว่า
    อดีตผ่านไปแล้ว อย่าไปยึด อย่าไปคิด
    เรามักครุ่นคิดอยู่ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว คิดแล้วก็แค้นใจ เสียใจ น้อยใจ
    หรือไม่จิตก็คิดห่วงกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คิดแล้วก็ทุกข์

    อันนี้พระพุทธเจ้าว่าไม่มีประโยชน์
    ถ้าศึกษาปัจจุบันธรรม เราก็เข้าใจทั้งอดีตและอนาคต
    เพราะอดีตเป็นเหตุ ปัจจุบันเป็นผล
    ปัจจุบันเป็นเหตุ อนาคตเป็นผล
    .......... ฉะนั้น ปัจจุบันจึงเป็นที่รวมของเหตุและผล
    ปัจจุบันนี่แหละเป็นเหตุ

    เหตุ ก็มีเหตุดี กับเหตุไม่ดี เราเลือกทำอะไรก็ได้
    ทำดีก็ได้ ทำชั่วก็ได้ เราก็เลือกเอา
    ถ้าเราไม่ได้ปฏิบัติ ไม่ได้ศึกษาธรรมะ เราก็ทำตามอำเภอใจ
    ทำตามความเคยชิน หรือว่าทำตามกิเลส ตัณหา

    การกระทำก็มีทั้ง ทางกาย วาจา จิต
    การกระทำเรียกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...