อรูปพรหมเมื่อหมดบุญแล้วจะเป็นอย่างไร ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 7 พฤษภาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : อย่างงั้น อรูปพรหมก็.....(ฟังไม่ชัด)....
    ตอบ : อรูปพรหมนั้นไม่มีสิทธิ์ เพราะท่านเหลือแต่จิตแล้ว ในเมื่อเหลือแต่จิตแล้วทุนเดิมมีเท่าไหร่ก็ใช้แค่นั้น คือท่านไม่ต้องการอย่างอื่นนอกจากความมีจิตอย่างเดียว ไปยึดเอาความว่างของอากาศ ไปยึดเอาความไร้ขอบเขตของวิญญาณ ไปยึดเอาความไม่มีอะไรเลย มันก็เลยทำให้ท่านไม่สามารถรับรู้อย่างอื่นได้ นอกจากสิ่งที่ตัวเองยึดอยู่ มีทุนเท่าไหร่ก็ใช้แค่นั้น

    ถ้าทุนหมดแล้วทำชั่วไว้เยอะก็ลงยาวไปเลย ถ้าพอมีความดีอยู่บ้างก็เกาะอยู่ในขอบเขตของสถานที่ ๆ พอที่จะทำความดีต่อได้ อรูปพรหมอย่างหนึ่ง อสัญญีสัตว์หรืออสัญญีสัตตาพรหมอย่างหนึ่ง ๒ อย่างนี้บอกให้โมทนาบุญเท่าไหร่ท่านไม่เอากะเราหรอก

    ถาม : แสดงว่าท่านเสร็จแล้วซิครับก็ต้องลงนรก ?
    ตอบ : ก็ไม่แน่ เพราะบางทีเศษบุญของบุญก็ยังมีเหลืออยู่อาจจะลงมาเป็นมุนษย์ก็ได้ บางทีเศษของเทวดาแต่ว่ามันเป็นของเหลือเฟือของมนุษย์ มากกว่าที่เราคิด อาจจะเกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์เป็นผู้นำคนอะไรไปเลย แต่ถ้าหากว่าทำบาปเอาไว้เยอะ ผลบุญที่เป็นเทวดาขาดช่วงลงปั๊บกำลังบาปมันสูงกว่ามันก็ดึงยาวลงไปเลย

    ถาม : ...........................
    ตอบ : ถ้าหากว่ายังเป็นพรหมอยู่ พรหมมี ๑๖ ชั้น ที่เป็นรูปพรหมคือยังมีร่างกายอยู่ ส่วนอรูปพรหมที่มีแต่จิตอีก ๔ ชั้นรวมแล้ว ๒๐ นะถ้าลงท้ายด้วยพรหมก็คือต้องเป็นพรหม ๑ ใน ๒๐ นี้ แต่ว่าพระวิสุทธิเทพหมายถึงผู้ที่เข้าพระนิพพานได้แล้ว ไปอยู่พระนิพพานแล้ว มีตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านเรียกว่าวิสุทธิเทพ คำว่าเทพคือเทวดามี ๓ ประเภทคือ
    ๑. สมมติเทพ แปลว่าเป็นเทวดาโดยการนับถือยกย่องกันขึ้นมาเอง อย่างเช่น พระมหากษัตริย์หรือพระเจ้าจักรพรรดิ์
    ๒. อุปัติเทพ เกิดเป็นเทวดาโดยตรงคือ บรรดาอากาศเทวดาหรือว่ารุกขเทวดา ภูมิเทวดา ตลอดจนถึงพรหมทั้งหมด
    ๓. วิสุทธิเทพ เทวดาที่บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิงแล้ว หมายถึงตั้งแต่พระอรหันต์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า

    ถาม : ที่ท่านทำสมาธิและทำกรรมฐานแล้วสามารถสอนตัวเองได้เลย พรหมท่านจะมาทรงฌานอยู่ตลอดเวลา ทำไมตรงนั้นไม่สามารถจะต่ออายุของท่านได้ ?
    ตอบ : ตรงนั้นข้อจำกัดมันมีอยู่ว่าถ้าหากเป็นโลกียพรหมยังไม่ได้อยู่ในชั้นสุทธาวาส ก็จำเป็นที่จะต้องลงมาเกิดอีก แต่ถ้าเราอยู่ในชั้นสุทธาวาสท่านเป็นพระอนาคามีขึ้นไปแล้ว การลงมาเกิดก็ไร้ความหมายสำหรับท่าน ท่านก็อยู่ข้างบนต่อไปนิพพานเลย แต่ว่าท่านที่ทำความดีถ้าหากว่ายึดฌานโลกีย์อย่างเดียวมันไปนิพพานไม่ได้อยู่แล้วใช่มั้ย ? มันยังไม่เข้าถึงความบริสุทธิ์โดยแท้จริง

    อย่างสมัยพุทธกาลท้าวผกาพรหมพอท่านหมดอายุปุ๊บท่านก็เกิดเป็นพรหม หมดอายุปุ๊บท่านก็เกิดใหม่เป็นพรหม หมดอายุปุ๊บท่านก็เกิดใหม่เป็นพรหม จนกระทั่งท่านเชื่อว่าพรหมเลิศที่สุดแล้วเป็นอมตะแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว เพราะความเข้าใจผิดอันนี้เป็นมิจฉาทิฐิ พระพุทธเจ้าถึงต้องเสด็จไปโปรด ถ้าไม่ไปสงเคราะห์ท่านก็แหงแก๋อยู่แค่นั้นแหละเป็นมิจฉาทิฐิไป

    ถาม : .........(ไม่ชัด)....จิตของท่านก็จะอยู่ที่นั้นจุดเดียวเลย ความเสื่อมของจิตจะเกิดจากอะไร ?
    ตอบ : มันอยู่ตรงที่ว่าหมดบุญ หมดกำลังบุญที่ทำมา ในเมื่อหมดกำลังบุญที่ทำมาก็ต้องจุติ ถ้าทำชั่วเอาไว้เยอะบางทีก็ลงยาว แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วถึงระดับนั้นแล้วความดีของท่านมาก เพราะฉะนั้นเศษของความดีที่เหลืออยู่ก็เกิดเป็นมนุษย์ได้ ก็ทำบุญกันใหม่หรือว่าถ้าทำบาปอีกคราวนี้ก็พักเป็นมนุษย์หน่อยก็ลงยาวเหมือนกัน




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกรกฏาคม ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2008
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...