อะไรทำไห้คุณเริ่มสนใจธรรมมะ?

ดอดไปคุย กะคุง xeforce มา หรอ

อยู่ดีๆ ถาม " สุญญตะ อนิมิต อัปณิหิต "

ถ้าไปคุยมา หรือ กำลังหา ทองดี หรือ เฉาก๊วย
จงบรรตา คำต่อไปนี้

อัปณิหิต : _____________________ [ 10 คะแนน/คูปอง กัด CNC ชิ้นงานฟรี ]

 

ชอบของขมชมเด็กสวยเล่าความหลัง
ทำมัยคนแก่ชอบเป็นแบบนี้กัน55

 

อะไรก็ไม่เท่า เล่นมุกแล้วเดี๊ยนไม่เก็ตเนี่ยะแหล่ะ

ถามแค่อนิมิต แล้วลากไปไหน ...จขกท ทองดี เฉาก๊วยไหนอะไรยังไง
ถามเพราะอยากรู้แค่นั้น ว่าอนิมิตความหมายคืออะไร


ประวัติคนในห้องนี้ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้จักใครทั้งนั้น ก็เห็นอยู่มาจากห้องภัย

 

คุนมาโอเควิทขอสอบถามหน่อยครับ
ทำไมจิตเรามันใฝ่หาอกุศลตลอด
หรือมันหากุศลด้วยครับ
เวลาไม่มีสตินะครับงงหลาย

 

อยากได้ตัวอย่างประกรอบที่เป็นรูปธรรมนะครับ

 

ถามเอง นะเว้ยเฮ้ย กะระรู ยังไม่ทัน เลีย ตุ มะอึงเลย

ถามมา ก็ตอบให้

ตาม ตำรา พระศาสดาใช้คำว่า " มันหิวอารมณ์ "

เวลา เสพอะไรอยู่ จนชิน สักพัก มันจะต้อง " หิวอารมณ์ "

จิต มีอุเบกขากับ ฌาณ แฌณ ( เรียกว่า สมาธินอกศาสนา )
ว่างเพื่ออยู่ เพื่อเป็น แทนที่จะเห็น ว่างคู่ตรงข้าม กลับไป
ถามหา ว่างที่เป็นอาการเพื่ออยู่เพื่อเป็น จะเรียกว่า สมาธิ
นอกศาสนา

หาก ว่างเพื่อดูคู่ตรงข้าม เช่น ปลากรอบชานบ้านชั้นที่หนึ่ง
ก็จะต้อง กำหนดรู้ว่าตอนนั้น ว่างจาก "กามสัญญา" ก็เรียกว่า
"ว่างจากกามสัญญา" กำหนดรู้ ตรงนี้ จะผลิกเป็น สมาธิพุทธ
เพราะ ว่างจริง มีข้อเท็จจริง เรียกอีกอย่างว่า "สุญญตสมาธิ"

พอจิตตก ก็เก็บไปซื่อๆว่า ขณะนั้น "จิตไม่ว่างจากกามสัญญา"
ก็ยังพอเป็น "สุญญตาสมาธิ" ได้อยู่ เพราะกำหนดรู้ กามสัญญาอยู่
ไม่ใช่ ตกลงไปเพื่ออยู่เพื่อเป็น

จนกระทั่ง จิตไม่เที่ยง จะแสดงตัวให้เห็น ชัดๆ มันก็จะ
ตกลงไปเสพ กามสัญญา เต็มๆ เหมือนคนภาวนาไม่เป็น
หากกำหนดรู้อยู่ ก็จะเป็น แนวรับ แนวต้านสุดท้ายของ
นักลงทุนที่มีความเสี่ยงไปนาหญ้าขึ้นรก แต่ยังเรียกว่า
มี สิกขาอยู่ ก็ไม่ชื่อว่าลงนาแน่ๆ

เว้นเสียแต่ สำคัญตัวผิด ว่า กะระรูมี ธรรม ก็จะโอ้ลาแม่

ภาวนาอยู่ก็จริง แต่ ตกนาหญ้าขึ้นรก มากกว่า คนนอก
ศาสนาร้อยเท่าพันทวี

งง เป่า

หาก งง ก็เอาแค่คำว่า "หิวอารมณ์" ก็ได้ สั้นๆ คือ
จิตมันไม่เที่ยง มันจะต้อง หาอะไรที่แตกกต่าง
ฉูดฉาดจาก ปรกติที่เคยชิน แล้วก็ไป จับเอาสิ่ง
นั้น เพื่อให้จิตมันสำคัญตัวผิดว่ามีเป็นตน ของตน
ซึ่งโดยมากจะแล่นไปสู่อะไรที่ แวมๆ(หมองลง)
น้อยที่จะน้อมไป วับๆ(พวกสว่างๆ แต่ก็สว่างด้วย
อวิชชา ความไม่รู้ ฌาณฤาษี ก็เรียก)

จิต จึงเสวยอารมณ์ ฌาณบ้าง(กุศลบ้าง) อบายบ้าง
ตามหน้าที่ ของจิต

คำว่า ทุกข ทุกข์ หากเป็น พุทธ เขาให้กำหนดรู้
อาการ ความไม่เที่ยง

สุขไม่เที่ยง กุศลไม่เที่ยง เห็นแบบนี้ ก็เรียกว่า กำหนดเห็นทุกข์

( ส่วน ทุกขแบบโลกๆ แบบคนนอกศาสนา ก็เป็นอันไม่
ต้องไป พินา แบบนั้นอีก เพราะ คนละเรื่อง )

 

แก้อยากจริงๆด้วยละครับ
ภาวนาไปจิตตกกามสัญญา
ปุถุชนจะหายมั้ยครับหรือต้องเป็นอริยชนอย่างเดียวมันถึงไม่ตกไปกามสัญญา

 

ผมกะแค่เข้าไปดูละเรียนรู้มันเลยไม่คิดอะไรมาก
แค่สงสัยนะนะครับว่ากำลังฌานกะมีทำมัยยังตกไปกามสัญญาอยู่

 

ไปเกี่ยวอะไรกับ ปุปุชน ไม่ ปุปุชน หละฮับ

พูดอยู่ว่า จิต มี ปรกติ หิวอารมณ์

ให้ พินา สัจจ ข้อเท็จจริง ของจิต

เห็นแล้วได้อะไร

ให้เอาตรงนั้น ต่อยอด ภาวนาไปอีก
ไม่ใช่ เห็นจิตตามจริง แล้วจะเป็น พุทธ ขึ้นมา

ยังเฮียได้ วันยันค่ำ พระป่าท่านเลยกล่าวว่า "มีจิต คือมีภพ"

หลวงปู่ดูลยถึงกับกล่าวว่า พบ พระพุ.. ให้..่า ทิ้งเสีย


หากเข้าใจ มรรค จะเห็นเลย ไม่ใช่ไป แก้อะไร

ไม่ใช่ไปล้างฮ่านอะไร อุปทานแหลก ไม่เลิกแบบนั้น

 

พระน้อยใจแย่เลยแบบนี้55
เคยปฎิภาคไปหลายรอบแต่ดันหนีทุกข์ก่อน
ไม่น่าพลาดเลย55

 

บ๊ระอะไร บร๊ะไหน

หากหมายถึง บร๊ะเลขา ฮ่านอะไรนั่น นั่นไม่ใช่ พระ

และ ไม่ใช่ พระทั้งจังหวัดเลย

ลองเฮีย คบเฮีย ต่อเฮียติด

รับรองเลย ทั้งจังหวัด มีแต่ เฮีย !!!

 

ไม่ช่ายดิพระพุทธเจ้าที่เวลานั่งมาธิละเห็นแบบนี้
ผมก็ไม่รู้พระพุทธเจ้าจริงเหรอป่าวนะดิ
นั่งลบจนกิเลสตีทนไหวเลยหนี้ไปทำกรรมฐานกองอื่น
เลยเลิกไปนั่งดูพระเลยอาสวะกิเลสลอยมาเยอะจัด

 

กั๊กๆๆๆ นี่ ก็ ขาดการสดับ

หาก สายเน้นเห็น พระ แบบนั้น หากหมั่นสดับ
จะได้ยินเขาสอนยิ่งขึ้นไปว่า ให้ "ทรงอารมณ์"

จนกระทั่ง ลืมตาอยู่ เดินเหินอยู่ ทำอะไรอยู่
สามารถกำหนดเห็น ภาพพระ ได้คล่องตัว

พอเห็นได้คล่องตัว แล้ว ค่อย _่า ทิ้งเสีย
จะไปนิพพานลูกเดียว ( ไม่ใช่ การเห็น พระ อะไรอีก )
[ แต่ในทางปฏิบัติ ได้แค่ไหน ก็เอาแค่นั้น ดีกว่า
ไปนาหญ้าขึ้นรก เขาเรียกว่า วาสนาบรรลุไม่มี ]

ลำพังแค่ ทำได้ครั้งสองครั้ง ยิ่งนิมิตไหลไป
ไม่ได้เกิดจาก การรำพึงด้วย สมาธิ คล่องตัว
อะไรพวกนั้น เขาเรียกว่า " โดนหลอกแหลก "

 

" โดนหลอกแหลก " สำหรับบุคคลบางพวก
เขาไม่มีไป นั่งตีอกชกหัว เขาจะสามารถ
กำหนดต่อเลยว่า "ปัญญาเป็นเครื่องตัด"

ปัญญา มันตัดให้ หลุดออกจาก นิพพาน

เห็นแบบนี้ก็ได้ ปัญญามันจะดับ

ปัญญาธรรม จึงไม่ใช่ อะไรที่ พูดได้ พากษ์ได้

แบบนี้ก็ยังพอลุ้น ความสม่ำเสมอ เรียบ ง่าย

 

กว่านั้นมีอีก เรียกว่า ไม่ใช่ทั้งสมาธินิมิต และ ไม่ใช่ ทั้งปัญญา

มันจะเห็นเลย ตน นั้นเชื่อไม่ได้ !!!

พอเห็นว่า ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เชื่อได้เลย
ก็จะกำหนดเห็น ธรรมที่ไม่มีผู้แสดงได้

แบบนี้ ก็ยังพอไหว โอนไปในความเลื่อมใส ศาสดาผู้เดียว
โดยที่ สัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่ประมาท

 

ถึงได้บอกทุกวันนี้ทำแต่ตามใจตัวเอง55
มีเซงบางเวลาจิตไหลไปเสพอกุศล
เหนือยหน่ายกะการเป็นหนี้มาก

 

พึ่งพูดไป หยกๆ ว่า " ตนนั้นเชื่อไม่ได้ "

ก็ยัง อุตสาห์ ไปเชื่อ มันอีก

ไม่ใช่แค่นั้น ยังไป ตำหนิจิต อีก

หากไปเชื่อตน แล้ว ตำหนิจิต แบบนี้
พระศาสดาเรียกว่า พวก นิยตมิจฉาทิฏฐิ
ปิดนิพพาน ชั่วกัลปาวสานนนนน

ฟังธรรมยังไงก็ไม่รู้เรื่อง

ซึ่งเป็น ผลมาจาก อาจิณกรรม เอออวย
บร๊ะเฮีย ให้ทำเฮีย เป็นต้น

 

ยังไง ลองงดเว้น เอออวย บร๊ะเฮีย สักสองสามเดือน

หาก ดีขึ้น ก็ ยังมี แวว เป็น สัมมาทิฏฐิ ได้

ใครจะฟันธงได้ว่าเป็น นิยตมิจฉา ก็มีแต่ พระศาสดาเท่านั้น อะฮับ

 

สุดยอดขอทำงานก่อนครับฮานิบ่าเฮ้ย
อ่าแบ้วทำมัยเราพยากรณ์ตัวเองไม่เอ่อ55

 

อนิมิตาคือ ตัวปัญญาณนะทั่นเมา ตัวที่11 ค่ะ