อะไร ที่ไหน? “พระพุทธเจ้าไม่มีตัวจริง” สำหรับคุณล่ะ จะคิดอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย do re mi, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. do re mi

    do re mi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +183
    เห็นข่าวสด วันที่ 06 มกราคม พ.ศ. 2553 โดยศาตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก / ราชบัณฑิต เขียนว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ท่านผู้หนึ่งปรารภกับผมเชิงวิชาการว่า เดี๋ยวนี้นักวิชาการสมัยใหม่เสนอความคิดว่า "พระพุทธ เจ้าไม่มีตัวจริง คุณคิดเห็นอย่างไร" … “ผม … รู้สึกขัดเคืองที่เดียรถีย์นอกศาสนาคนใดมาย่ำยีดูหมิ่นพระพุทธองค์และบิดเบือนคำสอนของพระองค์ จึงขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า ผมพร้อมที่จะวิวาทกับใครก็ได้ ที่มาละลาบละล้วงสิ่งเคารพสักการะของผม” และ ศ.พิเศษ เสถียรพงษ์ฯ ตอบว่า “พยานทางประวัติศาสตร์หนักแน่นพอ จะให้เชื่อว่า เจ้าชายสิทธัตถะเป็นบุคคลจริง” <link rel="File-List" href="file:///C:%5CWINDOWS%5CTEMP%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Arial Unicode MS"; mso-fareast-language:KO;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CWINDOWS%5CTEMP%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Arial Unicode MS"; mso-fareast-language:KO;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

    และท่านศ.พิเศษ เสถียรพงษ์ฯ เขียนต่อโดยเอาเรื่องของ ท่านอาจารย์พุทธทาส ผู้รวบรวม "พุทธประวัติจากพระโอษฐ์" ได้ปรารภด้วยความประหลาดใจว่า" เรื่องที่ตรัสเล่าถึงพระองค์เอง ในขณะที่ทรงทำความเพียรเพื่อตรัสรู้นั้นมี มากมายเกินกว่าที่ข้าพเจ้าเคยนึกฝัน และได้เกิดเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่บุคคลที่ประสงค์จะ "ตามรอยพระยุคลบาท" หรือ "ตามรอยพระอรหันต์" ลอง มาดูกันสักนิดไหม ว่าเรื่องที่พระพุทธองค์ชอบยกมาเล่าให้เหล่าสาวกฟังนั้น เป็นเรื่องอะไรบ้าง พระพุทธองค์ทรงเล่าถึง "มรรควิธีที่ผิดพลาด" ที่ทรงหลงดำเนินเป็นเวลา 6 ปี ล้วนแต่เรื่องพิลึกกึกกือทั้งนั้น ก็เป็นเรื่องในพระไตรปิฎก ๒. มหาสีหนาทสูตร ซึ่งต่อจาก “ลองมาอ่านเรื่องจริงๆกันบ้างใน” (นี่คือสัจธรรมที่เป็นประโยชน์ยิ่ง เราควรสำนึกว่า สัจธรรมในบางครั้งอาจไม่สวยงาม ก็ยังดีกว่ารับความสวยงาม ความดีเด่นที่ไม่ใช่สัจธรรม)

    เรื่อง “พระพุทธ เจ้าไม่มีตัวจริง”นี้ เมื่อ 6-7 ปีก่อน ก็มีเด็กมหาวิทยาลัยถามผม และต่อมาก็มีพระสงฆ์ลูกวัดคุยกับผมในเรื่องเดียวกันนี้เหมือนกัน ซึ่งผมได้อธิบายว่าพระสงฆ์ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จะต้องมีศาสดา มีพระธรรม เหมือนเช่นศาสนาอื่นๆ และศาสดาของพระพุทธศาสนาคือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตม และสามารถค้นคว้าทางวิชาการหาความเป็นจริงได้

    ผมเห็นอันตรายจากอิทธิปาฏิหาริย์ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรังเกียจ ทรงตรัสห้าม แต่ยังมีพุทธศาสนิกบางคน สร้างเรื่องแต่งเรื่องในทำนองอิทธิปาฏิหาริย์ โดยยากที่จะหาความเป็นจริงได้ ผมไม่ว่าเขา เพราะเขาอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สิ่งที่แสดงออกเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์นั้น ทำให้เดียรถีย์นอกศาสนายึดถือเป็นอาวุธหนึ่ง ในการทำลายพระพุทธศาสนาดังเช่น “พระพุทธเจ้าไม่มีจริงตัวจริง”

    เรื่องอภินิหาริย์ที่ผมว่ายกเป็นตัวอย่างเช่น พุทธประวัติที่เขียนสอดแทรกอภินิหาริย์ไว้ ดังเช่น “นางสุชาดากับทาสีมาถวายข้าวมธุปายาส โดยสำคัญว่าเทวดา … ทรงลอยถาด ถาดไปกระทบกับถาดเดิม พญานาคก็รู้ว่า พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ … เสด็จกลับจากลอยถาด ทรงรับหญ้าคาซึ่งพราหมณ์โสตถิยะถวายในระหว่างทาง ทรงลาดหญ้าคาประทับเป็นโพธิบัลลังก์ … ตกเย็นพญามารก็กรีฑาพลมาขับไล่ … แม่พระธรณีบิดพระเกศา เกิดเป็นสมุทรธารา พระยามารก็พ่ายแพ้แก่พระบารมี พอรุ่งอรุณก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เทวดาฝ่ายฟ้อนร่อนรำถวายเป็นพุทธบูชา … เสด็จไปประทับโคนต้นไทร สามธิดามารมาประโลมล่อให้หลง ก็ไม่ทรงใยดี … ย้ายไปประทับโคนไม้จิก ฝนตกพรำ พญานาคมาขดขนดปกพระกาย กำบังฝน” ถ้าผมเป็นคนนอกศาสนาได้อ่าน ก็คงกล่าวว่าไม่เป็นเรื่องจริง แล้วอาจพูดว่า “พระพุทธ เจ้าไม่มีตัวจริง” ดังนั้นการที่บางท่านพยายามยกย่องพระพุทธศาสนา แต่ถ้าหาหลักฐานมาชี้แจงไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง การแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ออกไปจักเป็นดาบสองคมกลับมาฟาดฟันเราเองได้

    ลองมาอ่านเรื่องจริงๆกันบ้างใน

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ ชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ๒. มหาสีหนาทสูตร

    “ดูกรสารีบุตร เรานั้นแลเคยคลานเข้าไปในคอกที่เหล่าโคออกไปแล้ว และปราศจากคนเลี้ยงโค กินโคมัยของลูกโคอ่อนที่ยังไม่ทิ้งแม่ มูตรและกรีสของเรายังไม่หมดสิ้นไป เพียงไร เราก็กินบุตรและกรีส (อุจจาระ) ของตนเองเป็นอาหาร ดูกรสารีบุตร นี้แหละเป็นวัตรในโภชนะ มหาวิกัฏของเรา …”
    <o></o>
    “ดูกรสารีบุตร เราย่อมสำเร็จการนอนแอบอิงกระดูกศพในป่าช้า พวกเด็กเลี้ยงโคเข้ามาใกล้เราแล้ว ถ่มน้ำลายรดบ้าง ถ่ายปัสสาวะรดแล้ว โปรยฝุ่นรดบ้าง เอาไม้ยอนที่ช่อง หูบ้าง เราไม่รู้สึกว่า ยังจิตอันลามกให้เกิดขึ้นในพวกเด็กเหล่านั้นเลย ดูกรสารีบุตร นี้แหละเป็น วัตรในการอยู่ด้วยอุเบกขาของเรา ...”
    <o></o>
    “ดูกรสารีบุตร เมื่อเรากิน [อาหารเท่า] ผลพุทราผลเดียวเท่านั้น ร่างกายก็ถึงความซูบผอมยิ่งนัก … ตะโพกของเราเปรียบเหมือนรอยเท้าอูฐ … กระดูกซี่โครงของเราเหลื่อมขึ้น เหลื่อมลงเห็นปรากฏ … ดวงตาของเราลึกเข้าไปใน เบ้าตา เหมือนเงาดวงดาวปรากฏในบ่อน้ำอันลึกฉะนั้น … ดูกรสารีบุตร เรานั้นแลคิดว่า จะลูบคลำผิวหนังท้อง ก็คลำถูกกระดูกสันหลังทีเดียว ...”
    <o></o>
    ผมอ่านแล้ว มองเห็นแล้วซึ่งความพยายามของพระโพธิสัตว์ที่ทรงกระทำใน 6 ปี กว่าที่พระองค์จักทรงตรัสรู้ได้นั้น มีความลำบากยากแค้นแสนสาหัสยิ่งนักเพียงใด ผมเห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนายิ่งนัก เห็นคำตรัสสอนของพระพุทธองค์เป็นปาฏิหาริย์ (คือเป็นคำตรัสสอนที่เป็นอัศจรรย์) มีหลักฐาน เป็นวิชาการที่แท้จริง ผมจึงมีศรัทธาในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งนัก
    <o></o>
    ผมขอขอบคุณยิ่ง ขออนุโมทนายิ่ง และขออนิสงค์ (การสร้างบุญบารมี ด้วย ทาน, ศีล, ภาวนา) จงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลายที่สนับสนุนข้อเท็จจริงของพระพุทธศาสนา มีการกระทำที่มีเจตนารมณ์ และแสดงความคิดเห็นที่เป็นไปในทางสร้างสรรค์จรรโลงพระพุทธศาสนา อย่างเช่น คุณวีระชัย แก่นภักดี เว็บมาสเตอร์และผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ที่มีความมุ่งมั่น “มีจุดมุ่งหมายของเว็บ พลังจิต คือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา”ที่ให้เราได้มีโอกาสหาความรู้ สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในพระพุทธศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2010
  2. do re mi

    do re mi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +183
    เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงว่า มีบุคคลทั่วโลก อาจจะสนใจในเรื่อง “พระพุทธเจ้าไม่มีตัวจริง” หรือมีคำถามเกี่ยวกับพระพุพธเจ้าและคำตรัสสอนของพระพุทธองค์
    <o></o>
    ผมจึงขอผลการค้นหาเรื่องที่มีคนสงสัยเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าบ้างไหม จากเวบ selfwisdom.net ที่มีผู้ลงบุ๊กมาร์ก (bookmark) มากถึงประมาณ 95% ของผู้เข้าอ่านข้อมูล
    <o></o>
    ทั้งนี้เพื่อนำมาประกอบเป็นตัวอย่างเรื่องข้างบน ปรากฏมีและขอยกเป็นตัวอย่างดังนี้

    ในวันที่ 25 เมษายน 53 ผู้ชมจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ค้นหาเรื่อง "อะไรบ้าง ถ้าพระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนผิด" (what+if+buddha+is+wrong) และข้อมูลในเรื่องข้อเท็จของพระพุทธศาสนา(Buddhism.htm) ของเวบ selfwisdom.netทำให้ผู้ชมนี้ บุ๊กมาร์กเก็บ URL ของเวบ selfwisdom.net ไว้เพื่อกลับมาดูข้อมูลอื่นๆต่อไป<o></o>

    [112.135.xx.xxx [2010/04/25@13:09:xx-0400] "GET /true%20messiah/buddhism.htm HTTP/1.1" 200 22103 "selfwisdom.net" "http://www.google.lk/url?sa=t&source=web&ct= .... %2Fbuddhism.htm&rct=j&q=what+if+buddha+is+wrong&ei= ... vHjQ"
    112.135.xx.xxx [2010/04/25@13:09:37 -0400] "GET /favicon.ico HTTP/1.1" 200 1406 "selfwisdom.net" "-"]
    <o></o>
    ในวันที่ 5 พฤษภาคม 53 ผู้ชมจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอร์มัน ค้นหาเรื่อง "ความผิดของพระพุทธเจ้า" (buddha+mistake) และข้อมูล ในเรื่องข้อเท็จของพระพุทธศาสนา(Buddhism.htm) ของselfwisdom.net ทำให้ผู้ชมนี้บุ๊กมาร์กเก็บ URL ของเวบ selfwisdom.net ไว้เพื่อกลับมาดูข้อมูลอื่นๆต่อไป
    <o></o>
    [85.216.xxx.xxx [2010/05/07@15:26:09 -0400] "GET /true%20messiah/buddhism.htm HTTP/1.1" 200 22103 "selfwisdom.net" "http://www.google.de/search?q=buddha+mistake&hl=en&start=40&sa=N"
    85.216.xxx.xxx [2010/05/07@15:26:09 -0400] "GET /favicon.ico HTTP/1.1" 200 1406 "selfwisdom.net" "-"]

    เวบselfwisdom.net เป็นเวบ(ภาษาอังกฤษ) แสดงข้อเท็จจริงเรื่องพระจักรพรรดิ สำหรับภาษาไทยอยู่ที่เวบmetteya.org
    จากกลุ่มพุทธศาสนิกชนผู้ยึดมั่นในคำตรัสสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตม
    (ข้อมูลจาก เวบ metteya.org)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2010
  3. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    บุคคลมีที่มาแตกต่างกัน ย่อมเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยที่จะให้คิดและมีปัญญาเหมือนกัน มันเป็นเช่นนั้นเองล่ะท่าน ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าไม่มีอะไรที่ไม่จริง พระองค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นความรัก ความเมตตา กรุณาต่อสัตว์โลกที่ต้องทนทุกข์อยู่ในความไม่รู้ เวียนเกิดเวียนตายไม่มีวันจบสิ้น ทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระองค์ในความคิดของสัตว์โลกอย่างเราๆมักมองว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระองค์เป็นจริง
     
  4. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    หมดข้อสงสัย...พระพุทธเจ้ามีจริง

    เนื่องจากที่ผมเคยได้บวชที่ วัดบวรนิเวศน์วิหาร

    และก็ได้พบกับพระอาจารย์ ผู้จบวิชามนุษย์ศาสตร์จากประเทศอังกฤษ


    ท่านนามสกุล ศากยะ เป็นชาวเนปาลแต่พูดไทยเก่งมาก ท่านบอกว่า

    " ชาวเนปาลนั้นจะมีการจารึกชื่อบรรพบุรุษไว้ให้ลูกหลานได้ทราบ ซึ่งท่านก็บอกว่าท่านมีเชื้อสายมาจากพระอานนท์"

    เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าพระอานนท์มีจริง ตามที่ทุกท่านทราบพระพุทธเจ้ากับพระอานนท์ก็เป็นญาติกัน

    ท่านยังแสดงความเห็นอีกว่า

    " ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในพุทธประวัตินั้น อาตมายังไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจริง

    ทั้งหมดหรือไม่ "

    นั่นหมายความว่าสิ่งที่บรรพบุรุษของท่านเล่าสืบต่อกันมา อาจเป็นอีกแบบหนึ่ง

    จากที่ท่านได้อ่านในพุทธประวัติ


    และตามธรรมดาว่าการเขียนพุทธประวัตินั้น เขียนมาหลังจากเรื่องราวทั้งหมด

    เกิดขึ้นผ่านไปแล้ว และบางทีด้วยเจตนาดีของผู้เขียน ที่ต้องการให้เกิด

    ความยิ่งใหญ่ น่าศรัทธา ก็อาจเสริมแต่งเข้าไป โดยพระอานนท์นั้นจะถูกว่า

    กล่าวติเตียนเป็นประจำ จนดูเหมือนว่าผู้เขียนพุทธประวัตินั้น มีอคติอะไรกับ

    พระอานนท์


    แม้ผมจะสงสัยในความมหัศจรรย์ตามพุทธประวัติ แต่ผมก็เชื่อมั่นในผู้ที่ฝึกจิต

    จนมีฤทธิ์ทางใจ



    ปล.หากความคิดเห็นของกระผมมีความถูกผิดอย่างไรช่วยแก้ไขด้วยคับ
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ท่านคงเคยได้ยินคำว่า...ปัจจัตตัง..ทุกอย่างที่ท่านสงสัย ท่านจะมีคำตอบได้ก็จากการปฏิบัติของท่านเท่านั้น ไม่ใช่จากคำบอกเล่าของผู้ใด รู้ธรรมมากแค่ไหนก็แค่นั้นถ้าขาดการปฏิบัติ
     
  6. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    เวลาที่ท่านปฏิบัติ อย่าไปอยากได้อะไรถ้ายังอยากได้จะเกิดอัตตา อัตตาจะไม่สลายตัวปฏิบัิติเพิ่อไม่เอาอะไร ให้จิตเข้าสู่ความว่างเปล่าเป็นอิสระ อย่าไปอยากได้สมาธิ อย่าไปอยากเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์คืออะไร? คือจิตที่ไม่มีความโลภ โกรธ หลง จิตจะหมดความรู้สึกเป็นตัวเรา ของเรา อย่าไปวิ่งตามหาร่างกายตัวบุคคลที่ลือกันว่าเป็นอรหันต์ มันจะเสียเวลาเปล่า เราทำจิตของเราให้เป็นอรหันต์จะดีกว่า

    การปฏิบัติทำได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกอิริยาบท ให้เอาร่างกายและจิตใจของเรา เป็นสถานที่ ปฏิบัติทุกขณะ ทำสติจดจ่อ คิดให้มันชัด เอาเรื่องชีวิตประจำวันเป็นเครื่องรู้ของจิิต เป็นเครื่องระลึกของสติ นิโรธคือความดับ จิตดับ อารมณ์ดับเมื่อจิตมีความคิด ให้กำหนดรู้ ความคิดจะหยุดทันที เมื่อหยุดคิดให้กำหนดอยู่ที่ความว่าง เมื่อสติตามรู้ความคิดทันแล้ว ความสงบจะเกิดขึ้น ถ้าอยากสงบ จิตจะไม่สงบ เมื่อว่างจากความอยาก จิตจึงจะสงบ

    ยอมรับตามความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง จิตจะเป็นอิสระเสรี ไม่วิตกกังวล ไม่เร่าร้อน ไม่ฟู้งซ่าน ไม่ติดในอารมณ์ใด ถ้าไม่อยาก ไม่หวังสิ่งใด จะไม่มีทุกข์เลย อย่าไปอยากได้สมาธิและความสงบ จิตจึงจะเข้าสู่ธรรมชาติ ที่เปล่าเปลี่ยว เป็นอิสระ ว่างเปล่า...
     
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พระพุทธเจ้ามีจริง ปาฏิหาริย์ของพระองค์ก็เป็นเรื่องจริง เป็นความเข้าใจผิดของคุณเสถียรพงศ์เอง
     
  8. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    ยังมั่นคงต่อพระรัตนตรัยไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ใครจะว่าอย่างไรก็เรื่องของเขา ความศรัทธาเรามีเต็มเปี่ยม
     
  9. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    พระธรรมที่พระองค์ทรงประกาศ ปฎิบัติแล้วดีจริงให้ผลจริงหรือไม่ ? นี่ก็เป็นการยืนยันถึงความมีอยู่จริงประการหนึ่งนะจ๊ะ หุ หุ หุ
     
  10. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2010
  11. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ขออนุญาตนะครับจริงๆอ่านยังไม่จบหรอก แต่เห็นเพียงคำนึงก็จับประเด็นได้ว่าคงไม่พ้นกับเรื่องบนหัวข้อนั่นแล.. เนื้อหาก็คงเป็นแบบวิจารณ์เชิงเตะเข้าประตูตัวเองจึงไม่อ่านต่อ

    พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักธรรม ถามหน่อยเถอะว่าเมื่อรู้จักธรรมชาติจริงๆเข้าแล้วยังอยากจะรู้อย่างอื่นอีกหรือไม่ ?
    ก็ขนาดพระศาสดาเองยังบอกให้ปล่อยวางแม้แต่ตัวเราเองเลยนะครับ
     
  12. kodyhusky

    kodyhusky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +829
    ธรรมทั้งหลายนั้นมีเกิดดับ

    และไม่เกิดและไม่ดับ
     
  13. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    do re mi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3282355", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ผมเห็นอันตรายจากอิทธิปาฏิหาริย์ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรังเกียจ ทรงตรัสห้าม แต่ยังมีพุทธศาสนิกบางคน สร้างเรื่องแต่งเรื่องในทำนองอิทธิปาฏิหาริย์ โดยยากที่จะหาความเป็นจริงได้ ผมไม่ว่าเขา เพราะเขาอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สิ่งที่แสดงออกเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์นั้น ทำให้เดียรถีย์นอกศาสนายึดถือเป็นอาวุธหนึ่ง ในการทำลายพระพุทธศาสนาดังเช่น “พระพุทธเจ้าไม่มีจริงตัวจริง”


    ข้อความดังกล่าวด้านบน... มีความเป็นไปได้ เพราะเคยเป็นมาแล้ว ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่และถ้ามนุษย์ยังไม่พึงใจกับเรื่องจริงก็จะมีคนแต่งเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆย้อมใจกันไปเรื่อยๆ

    จะเป็นเรื่องโง่เขลามากทีเดียว หากจะถกเถียงเรื่อง"โคตมะสิทธัตถะ"ว่าเป็นบุคคลที่เคยมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่เคยมีอยู่จริง
    เพราะตัวตนของมหาบุรุษ... ไหนเลยจะสำคัญเท่ากับสิ่งที่มหาบุรุษเฝ้ากล่าวบอกพร่ำสอน
    เขาเองยังบอกให้ละทิ้งความยึดถือตน ละทิ้งความยึดถือรูป นาม ภพ วิญญาณ อุปาทาน ฯ แล้วคนรุ่นหลังจะไปสนใจกับรูปและนามของผู้ที่กล่าวสอนให้ละความยึดถือต่างๆนั้นเพื่อบำรุงปัญญาส่วนไหนกัน

    สิ่งที่กล่าวสอนสิท่าน... นั่นน่ะสำคัญหนักหนา ควรใส่ใจ ขบคิด ตีความ และที่สำคัญในยุคปัจจุบันคือการกลั่นกรอง เพราะเหตุที่คำสอนแท้ถูกแตกออกไปประสมกับคำสอนเทียม มีอยู่อย่างดาษดื่นในปัจจุบัน

    ถ้า"โคตมสิทธัตถะ"เห็นว่ารูปและนามของตนเองสำคัญ วันหนึ่งๆคงให้ลูกศิษย์มาล้อมวงเขียนรูปตนทั้งวัน ไปทางไหนก็คงต้องสลักชื่อให้ประจักษ์กันไปว่า"สิทธัตถะ"มาเยือน
    แต่ก็ไม่เคยมีความประพฤติในแนวทางนั้นของศาสดาท่านเลย...
    แม้แต่ปัจฉิมโอวาท... ที่กล่าวกำชับกับเหล่าผู้รายล้อมและศิษย์ทุกตัวคน คือ อย่าประมาท ไม่ได้บอกให้สร้างรูปปั้นรูปเหมือนเยอะๆ ไม่ได้บอกให้ค้นหาตัวตนของเขา(แต่บอกว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต ถ้าท่านถ่องแท้ธรรม ท่านจะเห็นและเข้าใจกระบวนท่าอาการแห่งธรรมชาติ ซึ่งสิทธัตถะเองก็อยู่ในกระบวนท่าแห่งธรรมชาติเช่นกัน) ไม่ได้บอกให้เชื่อด้วย(แต่บอกให้ไปพิสูจน์ให้เห็นเหตุผลด้วยตนเอง)
    คำสอนแรกที่ถูกนำเข้ามาบนแผ่นดินนี้ ตั้งแต่ยังไม่มีอาณาจักรสยาม มีเหง้าใจความเพียงว่า
    "เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุ ตะถาคะโต เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"
    (ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ ตถาคตตรัสบอกเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งแนวทางการดับเหตุแห่งธรรมทั้งหลายเหล่านั้น ผู้ทรงพรหมจรรย์ท่านนี้มีแนวทางกล่าวสอนเป็นปกติเช่นนี้)

    ก็นั่นแหละท่าน ธรรมของตถาคตทั้งหมด ก็พึงให้ท่านผู้มุ่งสู่ความเจริญทางจิตทั้งหลาย ตรงดิ่งต่อการพิจารณาเหตุแห่งธรรมทั้งหลายทั้งปวงของชีวิตท่านและสรรพชีวิต

    เจตนารมณ์แห่งการกล่าวสอนของ"โคตมะสิทธัตถะ"เป็นดังกล่าวคือ "เย ธัมมา เหตุปปะภะวา"

    รอยพระพุทธบาท เกิดขึ้นเพราะผู้ศรัทธาต้องการสร้างวัตถุธาตุเพื่อระลึกถึง แต่ไม่ทราบรูปพรรณสัณฐานและถึงล่วงรู้ก็มิกล้าจาบจ้วงปั้นหล่อขึ้นมาเพราะรู้ว่าทำอย่างไรเสียก็ไม่เหมือน จึงเกรงกลัวอาญาบาป ปลงใจสร้างเพียงรอยเท้าไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง
    ส่วนพระพุทธรูป เริ่มแรกโดยเชื้อชนที่สืบทอดวิชาช่างและสายเลือดมาจากชาวมาซีโดเนียที่มาพร้อมกับ"เอล็กซานเดอร์"แล้วยึดครองพื้นที่แถบอัฟกานิสถาน
    ส่วนชนอินเดียโบราณก็ไม่กล้าสร้างรูปแทนศาสดา ได้แต่ก่อสถูปเสียเป็นส่วนใหญ่
    ภายหลังเริ่มมีการสร้างมากขึ้นเรื่อยๆและแพร่หลาย
    แต่ก็มีทั้งที่ให้ประโยชน์มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ถ้าสรุปโดยมาตรฐานของศาสดาแล้ว คือ ไม่ควรสร้าง





    ศึกษาคำสอน ขบคิดให้เข้าใจไม่ใช่ท่องบ่นบาลีแค่คล่องปาก หรือจะคำสอนของท่านอื่นก็ตาม ศึกษาให้เข้าใจ ไม่ยึดถือตามๆกัน แต่ต้องเข้าใจจริงๆ
    ขัดเกลาให้เกิดสัญชาติญาณที่ประเสริฐเหมาะสม ฝึกฝนให้เป็นผู้คล่องและจัดเจนในกระบวนธรรมต่างๆ
    แค่เนี้ย... ก็เป็นศิษย์ประเสริฐของทุกศาสดาทุกคำสอนเลยนะท่านๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2010
  14. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    พระพุทธเจ้ามีหรือไม่มีตัวจริงไม่รู้ รู้แต่ว่าผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริง แต่ความจริงเป็นอย่างไร มีใครจะรู้ได้ แม้แต่คนที่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริง เขาก็ไม่มีหลักฐานจริงๆ ที่จะมาพิสูจน์ได้ว่าพระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนจริง มีแค่ลมปาก กับตัวหนังสือที่จิตนาการขึ้นมาเท่านั้น
     
  15. รุ่งศรีทอง

    รุ่งศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +231
     
  16. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    พระพุทธ จะไม่มีจริงได้อย่างไร ในเมื่อปฎิบัติตาม ก็ทำได้จริง เห็นจริง ผลตามนั้นจริง
    ลดกิเลศ ลดอัตตา มีเมตตา มีความเข้าใจต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก เข้าใจในการเวียนว่ายตายเกิด ที่ปัจจุบันการวิจัยก็มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ และคำสอนอื่นอีกมากมายล้วนมีการพิสูจน์มาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วมาบอกว่าอย่างนั้นได้อย่างไร

    แปลกเนาะ
     
  17. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321

    Agreed... Anumothana Sathu
     
  18. do re mi

    do re mi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +183
    เราเหล่าพุทธศาสนิกชน ผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระมหากรุณาต่อปวงชนชาวไทยไม่เลือกเขาเลือกเรา ไม่เลือกที่ไม่เลือกทิศ ในขณะนี้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ พวกเราเหล่าพุทธศาสนิกชน ขอกราบอัญเชิญจอมเทพ เทพทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ได้โปรดช่วยให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยได้สบายพระหฤทัยขึ้นบ้างเถิด สาธุ
     
  19. abha12345

    abha12345 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2009
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +125
    ทุกสิ่งมีตัวตนครับ
     
  20. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    ไม่ได้สนใจว่ามีหรือไม่ แต่คำสั่งสอนนั้นสุดประเสริฐ เกินกว่าคนกิเลสหนาจะค้นพบได้มีเหตุผล
    รองรับทุกทาง ลึกซึ้งมาก แค่ในใบไม้ในกำมือ ที่เหลืออีก 84000 พระธรรมขันธ์ ละ
    จะมี มนุษย์คนใดละที่คิดค้นและพบเจอสภาวะเหนือโลก เหนือกาลเวลา อิสระจากมิติใดๆ
    แห่งจักรวาล.....ถ้าไม่ใช่พุทธะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...