อัศจรรย์!!! กระแสพลังธรรม.. พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)

อัศจรรย์!!!กระแสพลังธรรม.. พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)ผสมมวลสารกายสิทธิ์ทรงฤทธิ์อำนาจเมตตาแรงที่สุด..






พ่อท่านบ่าว พระดีพระใจสว่าง แต่นัยย์ตามืดบอด ทรงสมาธิเป็นเอก

พ่อท่านบ่าว ปิยธโร วัดนางโอ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี พ่อท่านดำริสร้างเองและอธิษฐานจิตเพื่อประกาศพลังลี้ลับแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ร่วมบุญบูชาและแจกฟรีแก่ผู้มีจิตใฝ่ธรรมเป็นพุทธานุสติ...อนึ่ง..มวลสารที่ผสมผสานมีมากคณานับเจียรไนไม่ครบถ้วนจะนำเสนอให้ประจักษ์เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์แห่งธรรมนี้ไว้..ผงมวลสารผ่านการเสกมาตลอดห้าปีนี้โดยพระเกจิอาจารย์แดนระอุสามจังหวัดชายแดนภาคใต้..เสกเพิ่มพลังโดยพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ สายหลวงพ่อทวด สายกรรมฐานอีกสิบหกองค์..มีอะไรที่พิเศษ มีท่านใดให้ความเมตตาเป็นกรณีพิเศษบ้าง โปรดติดตามด้วยศรัทธาธรรม...

วัตถุประสงค์ชัดเจน..เพื่อสมทบกองบุญธารบุญธารธรรม สำหรับดูแลรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้.....

พระขุนแผนพิชัยสมบัติ(ตำรับขุนแผนชมตลาดเมืองใต้ วิชาโบราณ)... พ่อท่านบ่าว ปิยธโร พระเถระผู้ทรงศีลทรงธรรมแห่งวัดนางโอ อำเภอแม่ลานจังหวัดปัตตานี ผู้บริสุทธิ์อุปสมบทมาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี ด้วยอำนาจบุญจากการที่ท่านถือครองผ้ากาสาวพัสตร์ทำให้จิตของท่านวิสุทธิ์และแข็งกล้าด้วยพลังศีลพลังธรรมที่มากอานุภาพมีกระแสพลังพระรัตนตรัยที่มากมิมีประมาณ

พ่อท่านบ่าวท่านไม่สามารถมองเห็นมาเป็นเวลาถึง 34 ปีแล้ว พ่อท่านบ่าวจึงดำเนินชีวิตด้วยวิถีที่เรียบง่ายและไม่คลุกคลีกับสังคมมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ท่านมีชีวิตท่ามกลางความสงบสงัดไม่ยุ่งเกี่ยวข้องกับผู้ใดนี่เองที่ทำให้ท่านมีเวลาปฏิบัติธรรมและการสวดภาวนามนต์ของพระพุทธเจ้ามาตลอดเวลานับสิบๆปีท่านจึงได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่ใฝ่ธรรม

ดังนั้นพุทธศาสนิกชนกลุ่มผู้เป็นสายบุญ..ธารบุญธารธรรม..จึงได้ร่วมกันสร้างเครื่องมงคลพระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้เพื่อแจกแก่ข้าราชการ ประชาชนทุกกลุ่มเหล่าอย่างไร้อามิสมาแลกเปลี่ยนมาข้องเกี่ยว พระขุนแผนพิชัยสมบัตินี้ใช้ศาสตร์การสร้างพระของวัดเขาอ้อ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง สำนักไสยศาสตร์ชื่อดังของเมืองใต้มาเป็นภูมิวิชารังสรรค์สถาปนาขึ้นเป็นองค์พระอย่างเคร่งครัดทั้งฤกษ์ยาม มนต์คาถาและด้วยเนื้อหามวลสารศักดิ์สิทธิ์มากด้วยพลังงานกายสิทธิ์ขลังด้วยธรรมชาติ อาทิ



ผสมผงแร่เหล็กน้ำพี้ จากจังหวัดอุตรดิตถ์ที่มีพุทธคุณทางแคล้วคลาด คุ้มครอง ป้องกันภัย เมตตา ค้าขาย กันมนต์ดำ ทำล้ายล้างคุณไสย และกันอสรพิษร้ายงู แมลงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน ทุกชนิด พระทุกองค์จะเน้นผงแร่เหล็กน้ำพี้ผสมว่านที่หายากจำนวนร้อยร้อยแปดชนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ผงเหล็กไหลตาน้ำ ผงเหล็กไหลเขาอึมครึม ผงเหล็กไหลรับมอบจากหลวงพ่อจำเนียรวัดถ้ำเสือ กระบี่ สีผึ้งขุนแผนอาจารย์ชุม ไชยคีรี ผงพระขุนแผนเสด็จกลับหลวงปู่สุภาวัดเขารังภูเก็ตของแท้ๆ น้ำมนต์เก้าสิบเก้าวัด น้ำมันว่านร้อยแปด สีผึ้งร้อยแปดพระเกจิอาจารย์ได้รับจากหลวงพ่อเกษมสุข วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ กรุงเทพมหานคร น้ำตาขี้เทียนเทศน์มหาชาติ น้ำมันว่านภาณยักษ์ ข้าวก้นบาตรพระอรหันต์หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ไม้กาฝากรัก กาฝากมะรุม ผงไม้ขนุนและมวลสารพระแตกหักชำรุดกว่าพันองค์ ผสมมวลสารด้วยสูตรของเขาอ้อซึ่งเข้าเครื่องประกอบกับ น้ำมันงาเสกเขาอ้อ น้ำมันตั้งอิ้ว น้ำผึ้งเดือนห้า น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ น้ำมันเสน่ห์จันทร์ตรี น้ำมันมะพร้าวกะลาตาเดียว น้ำมันว่านสังกรณีตรีชวา น้ำมันจันทน์กะพ้อ น้ำมันหนูกินนมแมว น้ำมันว่านไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันการเวก และอื่นๆอีกจำนวนมาก...เนื้อมวลสารขององค์พระจึงค่อนข้างแดงเข้มคล้ำเหมือนศิลาแลงปราสาทหินและมีความแกร่งพอควรหากได้สัมผัสกับเหงื่อจะวาวมันเข้มสวยสดดูซึ้งส่องด้วยแว่นขยายจะเห็นเม็ดมวลสารแทรกกับเนื้อปูนขาวประสานกับผงว่านร้อยกว่าชนิดที่มีพลังงานศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องยึดประสานเนื้อพระทั้งหมด

ได้ว่าจ้างโรงงานที่เชื่อถือได้และมีศรัทธาในงานบุญจริงๆสร้างเป็นองค์พระขุนแผน เมื่อสร้างเป็นองค์พระแล้วและผึ่งแดดจนแห้งสนิทดีแล้วพบว่าองค์พระออกเป็นเนื้อแก่ผงปูนที่สำคัญขณะที่ยังไม่ได้ประกอบพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกก็ได้รับความเมตตาตรวจสอบทางจิตสมาธิจากอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมและกสิณแล้วพบว่า...มีกระแสพลังฉัพพรรณรังสีครอบคลุมองค์แผ่ขยายวงกว้างใหญ่รอบองค์พระขุนแผนพิชัยสมบัติอย่างน่ามหัศจรรย์...เป็นที่น่ายินดียิ่งเมื่อ...พ่อท่านบ่าว ปิยธโร ท่านได้กำหนดการปลุกเสกอธิษฐานจิตแบบโบราณภาคใต้ถึงสิบหกทิวาราตรีทุกยามที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรและเจริญพระกรรมฐานก็จะสวดเสกอธิษฐานจิตด้วยพระปริตรลงสู่เครื่องมงคลพระขุนแผนพิชัยสมบัตินี้ด้วยมหามนต์ขุนแผนชมตลาดที่ท่านเล่าเรียนมาตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาสอย่างตั้งใจโดยได้อาราธนาดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านดำ ติสสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดนางโอ พระทรงฌาณอภิญญาในอดีตมาปลุกเสกด้วยอำนาจทางจิตวิญญาณในห้วงสถานแห่งโลกทิพย์ทุกคืนวันทั้งสิบหกวันนั้น พระขุนแผนพิชัยสมบัติที่ปลุกเสกด้วยมนต์พุทธาคมขุนแผนชมตลาดจึงมีพลังทางเมตตามหานิยม ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ กันมนต์ดำ กันผีสาง กันอสรพิษสัตว์ร้ายครบถ้วนบริบูรณ์ ขอให้ท่านที่ได้รับได้กล่าวอาราธนาองค์ท่านบูชาประกอบแต่กรรมดีและบูชาองค์พระด้วยจิตบริสุทธิ์ให้ตั้งนะโมสามจบแล้วกล่าวอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์ พ่อท่านดำ ติสสโร พ่อท่านบ่าว ปิยธโร และคุณงามความดีที่ท่านทั้งหลายกระทำมาทั้งหมดแล้วอาราธนาว่า...สาธุ..ขออำนาจแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย อำนาจศักดิ์สิทธิ์อภิญญาของเทพยดาอารักษ์ที่สถิตในองค์พระ เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ บารมีฌาณของพ่อท่านดำ ติสสโร ตลอดจนคุณธรรมทรงศีลของพ่อท่านบ่าว ปิยธโรมาป้องกันมาห้อมล้อมมาบันดาลอำนาจฤทธิกายสิทธิ์พุทธคุณให้บังเกิด ขอให้ข้าพเจ้า...(อธิษฐานขอพรจากองค์พระได้ทันที).....เอวังโหตุ เอวังโหตุ เอวังโหตุ

หากท่านประกอบพิธีอาราธนาอย่างถูกต้องตามโบราณเช่นนี้ท่านก็จะสัมผัสกับพลังศักดิ์สิทธิ์ได้และความปรารถนานั้นย่อมสัมฤทธิ์ผลตามที่ท่านอธิษฐานทุกประการ...

ร่วมบุญบูชาด่วน...พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)ปัดทอง ร่วมบุญ 300 บาท ช่วยค่าจัดส่ง EMS 60 บาท

...มอบเป็นพุทธานุสติฟรี..พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)ชนิดธรรมดาหนึ่งองค์


เสริมบารมีปิดท้าย สวดเสกบวงสรวงอัญเชิญเทวดาชั้นจตุมหาราชิกาประทับรักษาโดย...มโนราห์เซี่ยง เสียงหวาน (ศิษย์อาจารย์ทิมวัดช้างให้)อายุ90ปี

 

ลืมตามิดปิดตาเห็น!!!พ่อท่านบ่าว..พระผู้ประเสริฐประพฤติธรรมเปิดโลกด้วยธรรมะในใจ.. พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรกในวันอาสาฬหบูชา. จึงถือได้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาแก่ชาวโลก และด้วยการที่พระพุทธเจ้าทรงสามารถ แสดง เปิดเผย ทำให้แจ้ง แก่ชาวโลก ซึ่งพระธรรมที่ตรัสรู้ได้ จึงถือได้ว่าพระองค์ได้ทรงกลายเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ คือทรงสำเร็จภารกิจแห่งการเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็น "สัมมาสัมพุทธะ" คือเป็นพระพุทธเจ้าผู้สามารถแสดงสิ่งที่ตรัสรู้ให้ผู้อื่นรู้ตามได้..ธรรมปฏิบัติ..มีหนทางเพียงสายเดียวเพื่อมุ่งตรงไปสู่สภาวะความพิศุทธิ์แห่งจิต ที่ปราศจาก กิเลศ ตัณหา อุปาทาน ทั้งหลายทั้งสิ้นทั้งปวง จนถึงขั้นดับอาสวกิเลสลงก้าวเข้าสู่นิพพาน ที่ไม่มีวันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป
เพียงแต่ธรรมปฏิบัติธรรมนั้นถูกแยกแยะออกไปหลายวิธี หลายรูปแบบ ตามจริตของแต่ละคน ไม่ต้องดูอะไรมาก แค่การปฏิบัติสมาธิพระกรรมฐานยังแบ่งออกเป็น กสิณ.. .อานาปานสติ การเจริญสติปัฏฐาน 4 การพิจารณากายคตาสติ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ท่านอาจารย์ทั้งหลายต่างสำเร็จวิชาในแขนงต่าง ๆ นั้นเสร็จแล้ว จึงนำมาสั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ปฏิบัติตามอย่างหลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด ที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านก็สำเร็จกสิณไฟหรือที่เรียกว่า เตโชกสิณ แต่ทุกแนวทางที่ปฏิบัติเป็นแนวทางเพื่อก้าวสู่ ‘มรรคผล’ ก้าวสู่ ‘นิพพาน’ เดียวกัน...
พ่อท่านบ่าว ปิยธโร พระเถระธรรมดาๆผู้อาวุโสด้วยพรรษาแห่งวัดนางโอ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานีแม้นนัยย์ตาจะพิการดับมืดไม่เห็นโลกใบนี้มาตั้งแต่ปี2522แล้ว..ท่านเคารพพระพุทธเจ้าเป็นครูใหญ่ท่านว่านอกจากบิดามารดา..ผู้เป็นครูเป็นอาจารย์ของพวกเราพุทธบริษัทอันเป็นพระบรมคุรุย่อมหมายถึง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงประทาน ‘พระธรรม’ ให้กับมวลมนุษย์เพื่อนำมาปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นนั่นเอง..ฉะนั้นหน้าที่ของพระภิกษุคือการทำจิตให้แกร่งกล้าและหลีกเว้นชำระกิเลสทุกชนิดที่เข้ามาปะทะ..พ่อท่านอุปสมบทมาตั้งแต่ปี2522ที่วัดนางโอแล้วถือวัตรสวดมนต์ให้จิตถึงพระธรรมเสมอก็เพื่อกระทำความแจ้งแก่จิตและก่อพลังสติสัมปชัญญะให้รู้ตนตลอดทุกขณะชีพดิ้นมุ่งสู่เบื้องหน้าเท่านั้น..

 

พระแท้..พ่อท่านบ่าว..พระธรรมดาๆอายุ76ปีพระลูกวัดนางโอ..นัยย์ตาก็บอดสนิทมาตั้งแต่2522 พระแท้ที่ไม่ได้มีจริตปลอมปนแต่ท่านวิสุทธิ์ด้วยความจริงใจ มอบธรรมแบบธรรมดาไม่ลึกด้วยปริยัติแต่เข้มด้วยปฏิบัติเพราะธรรมไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือแล้วมาสำเร็จธรรมเท่านั้น..ซึ่งขอบรรยายด้วยธรรมถ้อยจากผู้รู้ได้คือ..การทำธรรมะให้แจ้งอาศัยการ ‘รู้ตามจริง’ คือ ต้องมีจิตเป็นสมาธิ ตั้งมั่น ไม่เอียงไปในทางใดทางหนึ่งเสียก่อนและตามธรรมชาติของจิตที่จะเป็นสมาธิ ก็ต้องการน้ำใจสละออก คือไม่ตระหนี่ถี่เหนียว คิดเจือจานสมบัติส่วนเกินของตนให้คนอื่นบ้าง หากใครยังมีความตระหนี่ถี่เหนียว จิตใจจะคับแคบ เวลาระลึกถึงวัตถุอันเป็นเป้าแห่งสมาธิอันใด ก็จะเพ่งคับแคบด้วยความโลภเอาความสงบ ไม่ใช่ระลึกรู้อย่างมีสติพอดีๆในแบบที่ทำให้เกิดสมาธิขึ้นได้ และหากเป็นผู้ผูกพยาบาทแน่นหนา ไม่มีน้ำใจให้อภัยใครเสียบ้าง พอมาฝึกสมาธิแล้วไม่สงบรวดเร็วดังใจ ก็จะเกิดความขัดเคืองรุนแรงตามนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น ยังผลให้อึดอัดคับข้องเสมอๆ

แต่หากเป็นผู้ทำทานมาดี จิตจะเปิดกว้าง ไม่เพ่งคับแคบด้วยแรงบีบของนิสัยตระหนี่ และหากคิดให้อภัยใครต่อใครอย่างสม่ำเสมอ จิตจะเยือกเย็น ไม่กระสับกระส่ายเร่าร้อนง่ายๆ แม้ทำสมาธิล้มเหลวก็ไม่ขุ่นใจ ไม่โกรธตัวเอง ไม่แค้นเคืองวาสนาเหมือนอย่างหลายต่อหลายคน

นอกจากต้องการความเปิดกว้างแบบทานแล้ว สมาธิยังต้องการความสะอาดของจิตประกอบพร้อมอยู่ด้วย ถ้ายังสกปรกมอมแมมไปด้วยกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริตล่ะก็ จะเหมือนมีหมอกมัวมุงบังไม่ให้ระลึกรู้วัตถุอันเป็นเป้าล่อสมาธิได้นานเลย อันนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าให้ถือศีล รักษาศีลจนสะอาด แล้วจะทราบด้วยตนเองว่าผลที่ตามมาคือความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เมื่อมีความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ จิตก็ย่อมมีความสว่างสบาย ง่ายต่อการทำให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิรู้ตามจริงได้
พ่อท่านบ่าว สอนง่ายๆว่า..ถือศีลห้าให้มั่นเสียก่อนและทำสมาธิด้วยความตั้งใจจริงแล้วปัญญาจะเกิดแก่เธอเอง......

 

ผู้รู้ท่านรจนาไว้จากการประพฤติธรรมเมื่อเลียบเคียงกับแนวทางปฏิบัติของพ่อท่านบ่าวก็ได้รับวิสัชนาธรรมะว่าใช่อย่าได้ลังเลจงไปทำเลยอย่าลังเลสงสัยจะไม่ได้อะไรเลย..ธรรมดาเราจะเห็นลมหายใจเป็นสมบัติอันไม่น่าสนใจอย่างที่สุด แต่ก็ลมหายใจนี่แหละคือบันไดขั้นแรกที่น่าสนใจที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสว่าให้ใส่ใจมากที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด

เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร? เพราะเพียงเริ่มต้นก็ทราบตามจริงได้ ว่าเรากำลังหายใจเข้าหรือหายใจออก ความจริงมีเพียงสองด้าน ไม่มีทางผิดไปจากนี้ ดังนั้นถ้าเราสามารถรู้ได้ทันลมเข้าหรือลมออกในแต่ละขณะ ก็แปลว่าเรากำลังฝึกรู้ตามจริงขั้นต้นแล้ว ไม่มีจิตที่แปรปรวนกลับไปกลับมาตามการครอบงำของอุปาทานบ้างแล้ว

เมื่อมีสติดีเยี่ยงผู้ทำทานรักษาศีลจนจิตใจปลอดโปร่งดีแล้ว จะหลับตาหรือลืมตาก็ตาม ให้มีสติรู้ว่าขณะหนึ่งๆนั้น เรากำลังหายใจออก หรือว่าเรากำลังหายใจเข้า อย่าพยายามให้เกิดความผิดปกติใดๆในการรู้ คือไม่ต้องใช้กำลังเพ่งให้เกินกว่าการบอกตัวเองได้ว่านี่หายใจออก นี่หายใจเข้า อย่าหวังความสงบ เพราะการรู้ตามจริงกับการข่มใจให้สงบนั้นเป็นคนละเรื่องกัน

พอจิตจะเคลื่อนจากลมหายใจไปผสมกับความฟุ้งซ่านปั่นป่วน ก็ค่อยๆดึงสติด้วยท่าทีที่นุ่มนวลไม่ฝืนใจ กลับมารู้อยู่กับลมหายใจต่อ พอจิตจะแปรจากอาการรู้เบาสบาย ก็ดึงสติกลับมารู้ในลักษณะที่เบาสบาย สลับยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่ด้วยอาการง่ายๆเพียงเท่านี้ ในที่สุดจิตก็จะเกิดภาวะเงียบจากความคิดขึ้นมา และเหมือนสายลมปรากฏเด่นต่อใจเราทุกครั้งที่มีการหายใจออก และทุกครั้งที่มีการหายใจเข้า ไม่ต้องพะวงอะไรทั้งสิ้น ถึงมันจะยาวเราก็รู้ ถึงมันจะสั้นเราก็รู้ ไม่มีท่าทียินดียินร้ายกับความสั้นหรือความยาวที่เราเห็นตามจริงเป็นขณะๆ

เมื่อสามารถรู้ลมหายใจสั้นได้เป็นปกติเท่าๆกับรู้ลมหายใจยาว ก็แปลว่าขณะนั้นเรามีสติที่เกินธรรมดาที่ผ่านมามากแล้ว เนื่องจากสติของคนปกติจะดีได้ต่อเมื่อลมหายใจยาวเท่านั้น ตรงจุดนี้เราจะเริ่มเห็นสายลมหายใจเป็นสิ่งน่าสนใจ และพบความจริงอันไม่เคยทราบมาก่อน คือถ้าขนทุกสิ่งออกไปจากใจเราให้หมดแล้วเหลือเพียงการรับรู้ลมหายใจผ่านเข้าผ่านออกอย่างเดียว จิตจะสงบสุขอย่างประหลาดล้ำ ไม่ว่าจะหลับตาเพื่อทำสมาธิโดยเฉพาะ หรือเปิดตาดูโลกเพื่อทำกิจวัตรตามปกติก็ตาม เป็นความสุขง่ายๆที่เอ่อขึ้นจากภายใน ไม่ต้องแสวงหาจากภายนอกโดยแท้

และที่จุดนั้นเช่นกัน เราจะเห็นตามจริงว่าสุขอันเกิดจากการมีใจนิ่งนี้ ดีกว่าสุขอันเกิดจากใจกระเพื่อมตามแรงพัดพาของกิเลส บางทีจะนึกเสียดายที่น่าจะรู้อย่างนี้เสียตั้งนานแล้ว ไม่ควรปล่อยเวลาในชีวิตให้สูญเปล่าอยู่กับความเชื่อว่ากามเป็นของดีที่สุดเลย

 

พระขุนแผนพิชัยสมบัติเป็นพระที่ควรใช้บูชา มิใช่เป็นพระเก็บหรือสะสมไว้เฉยๆ ได้แจกที่กุฏิพ่อท่านบ่าวไปแล้วนับไม่ถ้วนการเก็บเอาไว้เฉยๆ ไม่คล้องคอติดตัว ถือว่าเสียประโยชน์ทางธรรมไปไม่น้อยครับ..(แจกทหารตำรวจไปสองพันองค์แล้วที่นราธิวาส)ผมไม่อยากให้ชาวบุญพลังจิตต้องงมงายครับ..แต่อยากให้พระอยู่ในดวงใจทุกท่านและอาราธนาพระแบบประเพณีโบราณเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมไว้ด้วย..ที่สำคัญที่ต้องขออนุญาตเรียนให้ทราบกันทั่วแผ่นดินในบัญชรแห่งนี้..ก็เพราะพระขุนแผนรุ่นนี้ธารบุญธารธรรมยกพลข้าราชการเมืองยะลา นราธิวาสไปสนทนาธรรมกับท่านเจ้าคุณอ่อน เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส วัดประชุมชลธารา ท่านว่า..พระที่อธิษฐานบุญโดยพระอาวุโสท่านผ่านโลกผ่านวิถีโลกทั้งหลายมามาก..ท่านละแล้วยิ่งท่านตาบอดท่านภาวนาอยู่ทุกขณะจิต..จิตท่านภาวนาแบบนี้ลองแผ่อำนาจพลังจิตเมื่อไรเป็นบุญจริงๆพระนั้นจะขลังมากขลังเป็นพิเศษแต่ต้องมีศีลห้าประคองการกระทำนะ..พระท่านถึงจะช่วย..ดีๆๆศาสนาเรามีพระแท้ไม่ใช่มีแต่พระอาเสี่ย..

 

ช้างเผือกกลางป่า พ่อท่านบ่าว..ตาเนื้อมืด..ตาในสว่างโล่ แจ้งในธรรม..!!!!
..พ่อท่านบ่าว..ตาหลวงบ่าว อายุพรรษาสี่สิบหก สูงวัยสูงธรรมแท้
..พ่อท่านบ่าว..ลืมตามิด ปิดตาเห็น ภาวนาธรรมเป็นนิจ ชาวแม่ลาน นางโอ รู้ดีไปถามได้....
..พ่อท่านบ่าว..สร้างพระขุนแผนพิชัยสมบัติ เนื้อผงเหล็กน้ำพี้..ครั้งแรกด้วยดำริของท่านเอง ไม่มีการบิดเบือน..มอบธรรมะคู่พระไปให้ภาวนา ย่อมเกิดอานิสงส์สูงพลังมหาศาล.......
...พ่อท่านบ่าว...อยู่ป่าช้าโคกกอก่อนมาอยู่วัดนางโอ อยู่ป่าช้าเคร่งกรรมฐาน พระตาบอดอยู่องค์เดียว ต้องมีดีแน่ๆ..
.....พ่อท่านบ่าว..ศิษย์สายวัดพลานุภาพ บวชกับพ่อท่านคิ้ม เป็นสหธรรมิกกับพ่อท่านพรหมวัดพลานุภาพ ปัตตานี เสกพระร่วมกันขลังทหารเอาไปยิงไม่ออก....
.....พ่อท่านบ่าว..ใครว่าพ่อท่านตาบอดไม่รู้เรื่องอะไร ใครไปใครมาท่านรู้เห็น ใครมาร้ายท่านยกมือห้ามชั่ว ห้ามมารด้วยจิตอำนาจคาถาตวาดฟ้า..(คนสมัยก่อนเรียนคาถากันทั้งนั้น)
.....พ่อท่านบ่าว..ท่านบัญชาให้ศิษย์สายบุญท่านดูนิสัยใจคออยู่นานจึงไว้ใจให้ดำเนินการแทน..ไปหามวลสารและลงมนต์พิชัยสมบัติต่อทรัพย์เสริมราศีใบหน้าด้วยคาถาขุนแผนชมตลาดปิดท้าย..(มนต์นี้ท่านเรียนมาตั้งแต่เป็นฆราวาส..)
.....พ่อท่านบ่าว..พระแท้พระจิตแจ้งสลัดกิเลสดับเวทนาที่เกิดกับสังขาร..ใครจะรู้ไหมว่าท่านไม่ให้ใครมายุ่ง ไม่ยุ่งกับใคร เพราะต้องการดับจิตดับใจปิดทางอบายเปิดโลกทางบุญโปรดวิญญาณผู้เสียชีวิตในแผ่นดินใต้...
อย่าว่ากล่าวเกินกว่าธรรมเลย ใครอยากกราบพระแท้เนื้อนาบุญอีกองค์มากราบองค์นี้ บุญส่งถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายายเราแน่ๆ...

 

หมายเหตุ..พระขุนแผนพิชัยสมบัติ..จะไม่ปรากฏตามศูนย์พระใดๆทั้งในและนอกจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส..เด็ดขาด นอกจากที่กุฏิพ่อท่านบ่าวข้างๆกุฏิเจ้าอาวาสวัดนางโอ..และที่ธารบุญธารธรรมผู้อุปัฏฐากเท่านั้น.....
สมัยก่อนพ่อท่านบ่าวบอกว่าเขาสร้างพระสืบพระศาสนาท่านเห็นพ่อท่านเพ็ญอดีตเจ้าอาวาสวัดนางโอสร้างเหรียญหลวงพ่อดำอดีตเจ้าอาวาสแจกชาวบ้านท่านก็สาธุไปรับเหรียญมาบูชากับเขา...น่าแปลกพระแจกมีอภินิหาร โดนงูกัดกลางสวนยางพารา..เอาเหรียญท่านไปวางบนแผลความเจ็บปวดแสนทรมานหายไปเดี๋ยวนั้น..พระมอบให้คนทำบุญก็มีปาฏิหาริย์ อย่าดูแคลนเรื่องเทวดานะเธอ เราสัมผัสได้โดยบังเอิญพระเจตนาดีจะขลังมากๆเธอเอ๋ย แต่พระข้างถนน พระตามร้านจะขลังอย่างไรเล่าทำเป็นการค้าเทวดาท่านไม่อยู่นะเธอ..อย่าลืมที่เราบอกนะเธอ...เราบอกเทวดาทุกครั้งฝากท่านไว้แล้ว.....

 

พ่อท่านบ่าว..พระแท้นัยย์ตามืดแห่งวัดนางโอเป็นพระฝึกฝนทางจิตโดยตรงตามแนวทางของพระพุทธเจ้า..ท่านเป็นพระเคร่งและแตกฉานในพระธรรมวินัยอย่างยิ่งท่านเป็นพระที่ถือศิลบริสุทธิ์ ปฏิบัติดีงาม มีศิลจริยวัตรงดงามมาตลอด สมเป็นศิษย์แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ท่านเป็นพระไม่ค่อยพูดนัก ถามคำตอบคำ ท่านฉันน้อยแค่พอเพียงสังขารพยุงกายธรรม ท่านไม่ฆ่าแม้แต่ยุงท่านก็ไม่ตบยุง บางครั้งลูกศิษย์หวังดีตบยุงหรือใช้ยาท่านจะสั่งห้ามเด็ดขาด นอกจากท่านจะเคร่งในพระธรรมวินัยแล้ว พ่อท่านบ่าวท่านยังเรืองรอบรู้พระเวทย์อาคมขลัง รอบรู้ในสรรพวิชาไสยเวทย์ คาถาอาคม ยารักษาโรค เท่าที่ทราบมา เรียนวิชาจากตำราหลวงพ่อดำมาบ้าง ท่านเรียกว่าปู่จ้าวดำ.. นอกจากนั้นท่านยังไปศึกษาวิชาจาก ครูบาอาจารย์ที่อยู่ในทิพย์โลกอุดร(ท่านจะไม่พูดเด็ดขาดท่านที่รักอย่าไปถามท่านเชียวครับ..จะโดนเอ็ดเอาได้ ท่านถือว่า..เรื่องแบบนี้ไม่ให้พูดเล่นท่านว่าจะเสี่ยงปาราชิก..)นอกจากนี้ท่านยังอยู่เบื้องหลังการสร้างพระเครื่องของครูบาอาจารย์หลายท่านในละแวกปัตตานี..เพราะท่านจิตดีละกิเลสอย่างแท้จริง.. พระเครื่องทุกเกจิอาจารย์ของชาวพุทธ ส่วนใหญ่จะมีข้อห้ามไว้ทุกอาจารย์ ข้อห้ามสากลโดยส่วนใหญ่คือห้ามด่าพ่อแม่ผู้มีพระคุณและห้ามเป็นชู้ผิดเมียใคร พระเครื่องของพ่อท่านบ่าว..ก็มีไว้เช่นนั้นเช่นกัน...พระขุนแผนพิชัยสมบัตินี้ลงมนต์ขุนแผนชมตลาดและรวมรวมมวลสารเคร่งครัดไม่สุกเอาเผากินครับ..เสกขั้นอุกฤษฏ์ถึงสิบหกวันเอามงคลโสฬสมาบรรจุ..หน้าหิ้งพระที่ท่านรับแขกที่ท่านจำวัดที่ท่านนั่งกรรมฐานที่ท่านนั่งต้อนรับญาติโยม..ผู้มีตาในทรงญาณแท้ลองสัมผัสดูเถิด..ไม่ดีจริงทหารที่สุไหงปาดีไม่มาขอเพิ่มเด็ดขาดครับ..

แต่กระนั้นเถอะทุกสิ่งอยู่ทีใจแต่ทุกสิ่งก็อยู่ภายใต้พันธสัญญาและกฏแห่งธรรมชาติที่ทุกสิ่งบนโลกไม่เที่ยง

 

ในโลกมืดให้ความสว่างเป็นศรัทธาบารมี.....ความสว่างในโลกมืด...เป็นมิติพิเศษของภิกษุศีลบารมี..พ่อท่านบ่าว ปิยธโร..ซึ่งพิการทางสายตาทั้ง 2 ข้าง อยู่ในโลกมืดยาวนาน แต่มีความสามารถทางธรรมะ...อันเป็นแนวชี้ทางส่องสว่างให้กับผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง...!!!

แม้ว่าพ่อท่านจะมืดทางสายตา แต่ก็มิได้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติกิจของสงฆ์ จะถือปฏิบัติครบทุกอย่างในพระธรรมวินัยและก็มิได้ย่นย่อในกิจแสดงพระธรรมแก่ชาวบ้าน..ด้วยความพิเศษที่เหนือธรรมดา ...ทำให้พ่อท่านบ่าวมีศิษยานุศิษย์ ตั้งแต่ระดับรากหญ้าถึงชั้นสูง และยากจนถึงคหบดีอยู่มากมายกระจายทั่วไป...แต่ในความสมถะ ท่านจะไม่เบียดเบียนใคร พ่อท่านตาบอดทั้งสองข้าง เจิมแป้งหอม พรมน้ำมนต์อยู่ในกุฏิก็ไปหากันทุกวัน มีทั้งคนในจังหวัดปัตตานี ต่างจังหวัด...

 

ท่านเมตตาให้ช่างภาพถ่ายภาพอย่างเมตตา


ไปปลุกเสกพระร่วมกับพ่อท่านพรหมวัดพลานุภาพ เสริมพลังจิตอีกแรง


พระนอนวัดนางโอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด


พระพุทธเจ้าทรงสอนสั่งธรรมะแปดหมื่นสี่พันธ์พระธรรมขันธ์หากปฏิบัติเข้าถึงด้วยจิตวิญญาณข้อวินัยข้อศีลข้อธรรมก็จะเข้าใจ


พ่อท่านดำ ติสสโร..ปู่เจ้าดำ..ที่พ่อท่านบ่าวท่านเชิญดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาเสกทั้งสิบหกวัน


พ่อท่านบ่าว พระเพชรแท้เมืองตานี ขอบอกว่าท่านไม่ได้อยู่สายไหน..เรียนธรรมะสายพระพุทธเจ้าล้วนๆไม่มีเจือปน


พ่อท่านบ่าว..ท่านเล่าถึงความหลังของชีวิตให้ฟัง..


พ่อท่านบ่าวประกอบศาสนกิจทางพระพุทธศาสนาสมัยรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดพรุทุ่งคอก ยะลา


พ่อท่านบ่าวรับเครื่องไทยธรรมจากข้าราชการระดับผู้บริหาร


พ่อท่านพรหมวัดพลานุภาพ ศิษย์อาจารย์เดียวกันเสกมวลสารให้เต็มที่พิธีนี้ขลังมากเพราะเสกร้อยแปดเมื่อสร้างเป็นองค์พระแล้วพ่อท่านพรหมยังเมตตาเสกให้อีกสามชั่วโมงเต็ม......


ภาพพ่อท่านบ่าวที่ใส่กรอบไว้ในกฏิเป็นใบแต่งตั้งรักษาการณ์วัดพรุทุ่งคอก ยะลา


มืดแค่สายตาแต่ปฏิบัติตนเคร่งครัดห่มครองจีวรคล่องแคล่ว


วิหารพ่อท่านดำ พระเกจิทรงอภิญญาที่วัดนางโอ


เหล็กไหลตาน้ำพ่อท่านพรหมวัดพลานุภาพ ปัตตานี ได้บดเป็นผงผสมลงไปในพระขุนแผนด้วย

 

พระขุนแผนพิชัยสมบัติสร้างจากผงเหล็กน้ำพี้ซึ่งเป็นของ ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาตินั้นโบราณจารย์ได้กล่าวเรียกไว้หลายอย่างที่คุ้นหู คือ สิ่งที่เรียกว่า กายสิทธิ์ แต่นอกจากของกายสิทธิ์แล้วยังมีของศักดิ์สิทธิ์ ตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ทนสิทธิ์ ของทนสิทธิ์นั้นมีกล่าวไว้ในตำราพิชัยสงคราม หมายถึง วัตถุตามธรรมชาติที่มีอำนาจทางคงกระพันโดยมิต้องผ่านการปลุกเสก....มีพลังกายสิทธิ์จากธรรมชาติสถิตประทับแผ่รังสีพุทธคุณ...

ใน สมัยโบราณนั้นธาตุเหล็กถือว่าเป็นธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว และสำหรับธาตุเหล็กน้ำพี้นั้นยิ่งถือว่าเป็นเหล็กพิเศษ เพราะเป็นของทนสิทธิ์มีอานุภาพ

มีระบุไว้ในตำราพิชัยสงครามชัดเจนว่าเหล็กน้ำพี้เป็นของทนสิทธิ์ไม่เสื่อม
มีอานุภาพทางความคงกระพันชาตรี ทำลายอาถรรพณ์ทั้ง ปวงเพื่อเป็นที่เกรงกลัวของภูตผีปีศาจป้องกันมนต์ดำ คุณไสย ลมเพลมพันทั้งปวง มีอำนาจทางมหาราชตบะเดชะ เป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั้งปวง...พระขุนแผนรุ่นนี้เมื่อครั้งผสมผงมวลสารกดพิมพ์ขึ้นรูปองค์พระได้นำไปตรวจสอบพลังจากอาจารย์ประสิทธิ์ ศิษย์ช้างให้ตรวจรังสีธาตุปรากฏว่ามีพลังครบทุกด้านโดยไม่ต้องปลุกเสกแต่อย่างใดอีกแล้ว..ท่านอาจารย์ยังขอไว้แจกศิษย์ไว้จำนวนหนึ่ง...

ธาตุ ทนสิทธิ์นั้นถือเป็นของหายากตามธรรมชาติ ในอดีตต่างมีผู้แสวงหากันอย่างมากมาย แต่ผู้ที่จะได้ไว้นั้นมีน้อยคนเหลือเกินเพราะเป็นของสำหรับผู้ที่มีบุญวาสนา เหมือนดั่งกับเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ หรือปรอทสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของตามตำนาน มีเรื่องเล่าขานกันมานานนับหลายชั่วอายุคน เหล็กน้ำพี้จากอำเภอทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ธาตุทนสิทธิ์ที่มีเรื่องเล่าขานตำนานนับร้อยพันปี และยังแสดงอิทธิอานุภาพให้ปรากฏจนถึงทุกวันนี้


เหล็กน้ำพี้ถือว่าเป็นธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์!!!!

เหล็กน้ำพี้ คือ เหล็กที่เหนือกว่าธาตุเหล็กใดๆ ในโลกยกเว้นเหล็กไหล แต่โดยภาพรวมแล้ว เหล็กน้ำพี้ก็ถือได้ว่าเป็นเหล็กอัศจรรย์ตระกูลเหล็กไหลอย่างหนึ่ง ที่มีพลานุภาพเป็นน้องๆ ขององค์เหล็กไหลชั้นยอดขึ้นไป เหล็กน้ำพี้ถือว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตมีเทพยดารักษาไว้ เป็นของคนมีบุญเท่านั้น การหาเหล็กน้ำพี้แม้ว่าไม่ได้เกิดการตัดเช่นเดียวกับการตัดเหล็กไหล ตามแต่ก่อนที่จะทำการหาได้นั้น ต้องทำการบวงสรวง บอกกล่าวต่อเหน้าที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า เจ้าพ่อบ่อเหล็ก ถือเป็นเทพยดาที่ทรงมหิทธิฤทธิ์ดูธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้อยู่
ส่วน ที่เรียกว่าเหล็กน้ำพี้ เป็นธาตุทนสิทธิ์นั้น เนื่องจากว่าคำว่า ทนสิทธิ์ เป็นการเรียกสิ่งบางอย่างในโลกที่มีพลังงานบางอย่างในตัวที่มีอานุภาพทางคง กระพัน และล้างอาถรรพณ์เสียดจันไรทุกชนิด ป้องกันภูตผีปีศาจ

เหล็กน้ำพี้จัดเป็นธาตุที่มีเตโชธาตุในตัวสูงอย่างยิ่งรัศมีของเหล็กน้ำพี้ จึงเป็นที่เกรงกลังของบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลายด้วยความร้อนแรงแห่งเตโชธาตุภายใน

บุคคลที่ลุฌานสมาธิได้ตาในจากการนั่งกรรมฐาน จะแลเห็นรัศมีของเหล็กน้ำพี้เป็นสีแดงสด บ่งบอกอำจาจทางการคุ้มครองชั้นสูง และอำนาจจากเตโชธาตุ ที่ส่งผลในทางตบะเดชะ สนับสนุนดวงชะตาชีวิตให้เป็นเจ้าคนนายคน และอำนาจจากเตโชธาตุนี้เองที่ยังเป็นตัวล้างอาถรรพณ์ทั้งปวงจากคุณไสยมนต์ดำ
พระทุกองค์เปี่ยมด้วยมหาพลังเตโช ธาตุ คือ ธาตุไฟ ครูบาอาจารย์ต่างกล่าวว่า ธาตุไฟในโลกนี้มีอำนาจในทางสร้างมายาอย่างหนึ่ง และสามารถทำลายอาถรรพณ์จากเวทย์มนต์ พลังจิตทุกชนิด ล้างอาถรรพณ์ได้ด้วยธาตุไฟแถมยังเป็นสิ่งที่ให้พลังแก่ชีวิตเราด้วย ดังนั้นพลังงานนี้จะทำให้ร่างกายของผู้ที่ได้รับเกิดความแข็งแรงกระชุ่ม กระชวย หากทำการรับพลังงานจากแร่เหล็กน้ำพี้เสมอๆ จะทำให้แก่ช้า และยังได้ความคงกระพันด้วย บางท่านสื่อพลังเหล็กน้ำพี้ไปนานวันจะเกิดตบะเดชะ เส้นผมจะกลายเป็นสีเหล็กหรือสีทองแดง เมื่อตายไปแล้วกระดูกก็กลายเป็นทองแดงตามไปด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งทั้งนี้เกิดขึ้นจากอำนาจของกระแสพลังงานของเหล็กน้ำพี้ไปปรับธาตุขันธ์ ให้ร่างกายให้กลายเป็นทนสิทธิ์ตามตัวของมันไปด้วย ซึ่งผู้ซึมซับพลังงานของเหล็กน้ำพี้จนถึงขั้นที่เส้นผมเป็นสีเหล็กหรือสีทอง แดง จะมีความคงกระพันชั้นเลิศแก่ช้า มีอายุยาวนานปราศจากโรคภัยทั้งปวง

แต่ทั้งนี้ ต้องหมั่นทำสมาธิบำเพ็ญภาวนา โดยอาศัยการนำพระขุนแผนพิชัยสมบัติ..เหล็กน้ำพี้ไว้ในมือ ดูดรับกระแสพลังงานจากเหล็กน้ำพี้เอาไว้ให้มาก เพื่อพัฒนาจิต

 

เคล็ดลึกวิชาเดินธาตุหรือธาตุกรรมฐาน เพื่อปลุกพลังธาตุกายสิทธิ์ในองค์พระขุนแผนพิชัยสมบัติ
เหล็กน้ำพี้เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งครับ มีสรรพคุณไม่ด้อยไปกว่าเหล็กไหล...แต่ยังไม่เป้นที่รู้จักกันมากเหมือนเหล็ก ไหลแค่นั้นเอง
วิชาเดินธาตุหรือธาตุกรรมฐานเริ่มตั้งแต่...การบูชาพระ คำนมัสการพระรัตนตรัย คำนมัสการพระพุทธเจ้า คำขอขมาพระรัตนตรัย คำพรรณาพระบรมธาตุ บทไตรสรณคมน์ อาราธนา ศีล 5 คำนมัสการพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ บทบูชาบิดามารดาและครูบาอาจารย์ บทชุมนุมเทวดา ธรรมจักรกัปวัตนสูตร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก ชินบัญชร พาหุงมหากา บารมี 30 ทัศ อุณหิสวิชัยคาถา แผ่เมตตาให้ตนเองและสรรพสัตว์
...........จากนั้นจึงนั่งหันหน้าไปทางทิศใต้เพื่อรับพลังปราณจักรวาลที่ไหลจากทิศใต้มา สู่ทิศเหนือ ด้วยการนั่งพนมมือเพื่อรวมพลังปราณทั้ง 6 สายที่นิ้วมือเพื่อเพิ่มพลังปราณให้กับตนเอง พร้อมกับการท่องมนต์ตราแห่งวิชาเดินธาตุ ซึ่งมีทั้งวิชาเดินธาตุแบบขั้นต้น แบบขั้นกลางและแบบขั้นสูง ซึ่งมีความยากง่ายแตกต่างกันไป...เมื่อฝึกวิชาเดินธาตุแล้ว จะออกจากวิชาเดินธาตุเพื่อผ่อนคลายพลัง เพราะวิชาเดินธาตุนั้นเป็นวิชาที่มีพลังมหาศาล เมื่อฝึกไปได้ถึงระดับหนึ่งแล้วจะรู้สึกว่า ใจจะเย็นเหมือนมีน้ำทิพย์ชโลมใจแต่กายจะร้อนดั่งไฟเผากาย ดังนั้นจึงต้องมีการนั่งสมาธิแบบธรรมดาทั่วไป คือ ท่องพุทโธ หรือ ยุบหนอพองหนอ เพื่อผ่อนคลายพลังอันมหาศาลในการและใจของผู้ฝึก จากนั้นจึงท่องบทอัญเชิญเทวดากลับ ที่ต้องอัญเชิญเทวดากลับทีหลังนั้น เพราะเมื่อฝึกวิชานั้นๆ ก็จะได้มีเทพเทวดาต่างๆมาช่วยปกปักษ์รักษาและช่วยส่งเสริมการฝึกวิชา นั่นเอง

วิชาเดินธาตุแบบฉุกเฉิน ใช้ในยามคับขัน เมื่อนึกอะไรไม่ออกให้ให้ นะโมพุทธายะ จิเจรูนิ

วิขาเดินธาตุขั้นต้นนั้นจะใช้ หัวใจของธาตุทั้ง ๔ ไฟ ดิน ลม น้ำ บังเกิดสรรพสิ่งในจักรวาล
ธาตุทั้ง4 ไฟ ดิน ลม น้ำ ตามหลักแล้วธาตุที่อยู่ตรงข้ามกันจะเกื้อหนุนกัน เช่น ดินกับน้ำ ไฟกับลม นะ โม พุท ธา ยะ นี้เปรียบเสมือนธาตุใหญ่ เป็นรากเหง้าของธาตุทั้ง4
นะ คือ พระกุกกุสันโธ คือ ธาตุน้ำ หล่อเลี้ยงร่างกายและดวงจิต กำลังธาตุ 12
โม คือ พระโกนาคม คือ ธาตุดิน ให้กำลังวังชา กำลังธาตุ 21
พุท คือ พระกัสสป คือ ธาตุไฟ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กำลัง ธาตุ 6
ธา คือ พระสมณโคดม คือ ธาตุลม หล่อเลี้ยงชีวิต ดูดพลังปราณมาหล่อเลี้ยงดวงจิต กำลังธาตุ 7
ยะ คือ พระศรีอริยเมตตรัย คือ อากาศธาตุ เป็นที่ตั้งของวิญญาณ กำลังธาตุ 10

เมื่อรวมกำลังธาตุ นะโมพุทธายะ จะได้ 56 คือกำลังพุทธคุณ ส่งผลให้เกิดกำลังธรรมคุณ 38 และกำลังสังฆคุณ 14 รวมกำลัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณได้ 108 เชื่อว่าหากกระทำการใดเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เช่น ปลุกเสกลงเลขยันต์ให้ครบ 108 ครั้งจะมีความศักดิ์สิทธิ์มากได้ผลตามใจปรารถนา

เมื่อถอดจากพระเจ้า 5 พระองค์ นะโมพุทธายะ จึงบังเกิดเป็นธาตุทั้ง 4 คือ
นะ(ธาตุน้ำ)
มะ (ธาตุดิน)
พะ(ธาตุไฟ)
ธะ (ธาตุลม)
นะ มะ พะ ธะ ธาตุทั้ง4นี้ เป็นธาตุหล่อเลี้ยงร่างกาย สังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมาเป็นตัวธาตุ ที่ถอดจากแม่ธาตุใหญ่ คือ นะ โม พุท ธา ยะ

ถอดลงไปอีกบังเกิด ธาตุพระกรณี(ธาตุพี่เลี้ยง)คือ
จะ(ธาตุน้ำ)
ภะ(ธาตุดิน)
กะ(ธาตุไฟ)
สะ(ธาตุลม)
จะ ภะ กะ สะ คือธาตุพี่เลี้ยง นะ มะ พะ ธะ ที่ท่านจัดเป็นกองธาตุทั้ง4กอง คือเมื่อจะตั้งธาตุทั้ง4กองนี้ ต้องมีธาตุพระพุทธเจ้าคือธาตุพระกรณีตั้ง กำกับลงไปด้วย คือ จะ ภะ กะ สะ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงคุมธาตุลงไปอีกทีหนึ่ง

เมื่อตั้งธาตุได้บริบูรณ์แล้ว จากนั้นก็มีการหนุนธาตุ การหนุนธาตุนั้นท่านให้หนุนด้วยแก้ว4ดวง คือ นะ มะ อะ อุ
นะ คือแก้วมณีโชติ (ธาตุน้ำ)
มะ คือแก้วไพฑูรย์ (ธาตุดิน)
อะ คือแก้ววิเชียร (ธาตุไฟ)
อุ คือแก้วปัทมราช (ธาตุลม)

เมื่อรวมพระเจ้า 5 พระองค์ ธาตุทั้ง 4 ธาตุพระกรณีและดวงแก้วทั้ง 4 เข้าด้วยกันจึงจะสมบูรณ์ครบถ้วน ทำให้เกิดเป็นอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ตามหลักวิชาแปรโลกธาตุ คือการปลุกเสกของกายสิทธิ์ให้มีอิทธิฤทธิ์เทียบเท่ากับเหล็กไหลชั้น 1 คือมีสีเปลี่ยนไปจากเดิมจนกลายเป็นสีเขียวปีกแมลงทับ หรือยืดหดกินน้ำผึ้งได้เองเมื่อใช้คาถากำกับหรือใช้อำนาจกำลังของตบะฌาน ประจุลงไป ณ ธาตุนั้น ๆ

หลักการใช้ธาตุอย่างกว้าง ๆ คือ ธาตุน้ำเด่นทางเสน่ห์และเมตตา ธาตุดินเด่นทางอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ คงกระพันชาตรี ธาตุไฟใช้ทำลายสิ่งชั่วร้ายและหลอมรวมวัตถุ ธาตุลมใช้ทางล่องหนหายตัว สะกด เมื่อได้ในพื้นฐานแล้วยังต้องรู้จัก การเดินธาตุ หนุนธาตุ อัดธาตุ ซ้อนธาตุ แยกธาตุ สลับธาตุ ย้อนธาตุและพลิกแพลงธาตุต่าง ๆ ซึ่งยังแบ่งแยกออกตามระดับความยากง่ายอีกด้วย คล้ายกับการเรียนหนังสือ เริ่มจากชั้นประถม มัธยม ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เพราะถ้าขั้นประถมก็อาจใช้พระคาถาว่า นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ

วิชาเดินธาตุขั้นกลาง
ปฐวีธาตุ หรือ ธาตุดิน ให้ว่าดังนี้
มะ กะ ทะ นะ พะ กะ สะ จะ
มิ ตะ ติ อุ อะ มะ นะ
จิ ตะ ติ จะ พะ กะ สะ
มุ ตะ ติ มะ นะ อะ อุ

อาโปธาตุ หัรือ ธาตุน้ำ
นะ มะ ทะ จะภะ กะ สะ
ริ ตะ ติ นะ อะ อิ อุ
ริ ตะ ติ สะ มะ นิ ทุ
ริ ตะ ตะ วิ กะ วิ ตะ ติ

วาโยธาตุ หรือ ธาตุลม
พะ ทะ นะ มะ พะ สะ จะ พะ
ริ ตะ ติ ทะ พะ มะ นะ
มิ ตะ ติ อุ อะ มะ นะ
วิ ตะ ติ พะ สะ กะ สะ

เตโชธาตุ หรือ ธาตุไฟ
ทะ นะ มะ พะ สะ จะ พะ วะ
มิ ตะ ติ พะ จะ สะ กะ
มุ ตะ ติ นะ มะ อะ อุ
จุ ตะ ติ กะ ระ มะ กะ

นอกจากคาถาธาตุตัวเต็มนี้แล้ว สามารถถอดเอาไปใช้เฉพาะเรื่อง
ทำให้ร่างกายให้โตว่า
มะ นะ อุ อะ นะ มะ อะ อุ
ทำให้มีข้าวของเครื่องใช้มากว่า
อะ อุ มะ นะ นะ มะ อุ อุ
ทำให้วิ่งเดินเร็วว่า
อุ อะ มะ นะ นะ มะ อะ อุ
ทำให้หายตัวไม่มีใครเห็น
อะ อุ นะ มะ มะ นะ อะ อุ
ทำให้ฝนตก
นะ มะ อะ อุ มะ นะ อุ อะ


และขั้นสูงสุดคือ วิชาเดินธาตุทั้ง 7 อันประกอบด้วย ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ จิตธาตุ อันเป็นวิชาอันเล้นลับและซับซ้อนซ่อนเงื่อน ซึ่งเมื่อเดินถึงวิชา 7 ธาตุนี้แล้วจึงจะครอบคลุมทั้ง กสิน ฌาณ มโนมยิทธิ อภิญญา 6 และคือครบวิชชา 8 ประการ แถมด้วยพลังลมปราณและพลังจักรวาลอันเป็นเลิศเพื่อเสริมพลังให้กับร่างกายอีก ด้วย
---------------------------------------------
ทำไมต้องพอกกายทิพย์เพราะตกใจขณะจิตสงบในสมาธิ เรียกว่ากายทิพย์สะเทือน
ภาวะตกใจแล้วลุกขึ้นวิ่งหนีจากที่นั่ง เรียกว่า กายทิพย์สะเทือน ถึงขั้นกายทิพย์แตกกระจาย อาจเจ็บบ่วยได้
ตกใจในขณะทำสมาธิ.......เกิดเพราะ
เห็นวิญญาณหรือสิ่งน่ากลัว ต้องมีสติคุมอารมณ์ไม่ให้ตกใจกลัว และไม่ลุกขึ้นจากที่นั่งเป็นอันขาด ต้องวางใจให้นิ่ง ๆ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วอุทิศส่วนบุญกุลศลให้ วิญญาณนั้นก็จะหาย
ตกใจเพราะเหตุอื่น ทำให้สะดุ้งตกใจ เช่น เสียงดัง ๆ ให้ค่อย ๆ ลืมตาดูช้า ๆ นั่งปรับจิตใจให้สงบดีขึ้นแล้ว จึงจะลุกจากที่นั่งได ้

วิธีปรับจิตให้สงบ เพื่อรักษากายทิพย์สะเทือน
ในขณะที่นั่งสมาธิอยู่นั้น เมื่อตกใจ หัวใจจะเต้นแรงผิดปกติ อาจจะมีอาการปวดเสียวเป็นระยะ ๆ หน้าซีด มือที่วางซ้อนอยู่ด้วยกัน อาจจะถูกสลัดออกจากกัน ให้วางซ้อนให้เหมือนเดิม หลับตาลง ถอนหายใจลึก ๆ ช้า ๆ ๕ ครั้ง เริ่มต้น ตั้งจิตใจ ส่งไปที่กึ่งกลางระหว่างคิ้ว หายใจเข้าภาวนาว่า "พุท" หายใจออกว่า "โธ" (คำอื่นก็ได้) ทำอยู่ ๑๕ นาที หัวใจที่เต้นแรงผิดปกตินั้นจะกลับเข้าสู่ภาวะเดิมได้ เมื่อหายกลัวแล้วจึงจะออกจากสมาธิได้

วิธีรักษากายทิพย์ที่ถูกสะเทือนถึงขั้นแตกกระจายหาครูบาอาจารย์ หรือพี่เลี้ยงใจเย็น ๆ มาช่วยควบคุมให้ผู้นั้นนั่งสมาธิใหม่ ด้วยการมองพระให้จำ รูปนั้นแม้หลับตาก็ให้จำภาพนั้นให้ชัดเจน ถ้าภาพหายไปให้ลืมตาดู จนหลับตาก็จำภาพพระได้ นับว่า เริ่มมีสติรู้สึกตัว ควบคุมตัวเองได้ ต่อด้วยการพอกกายทิพย์ให้สมบูรณ์ ด้วยการส่งความรู้สึกนึกคิดทั้งมวล เพ่งส่งไป ที่พระ เมื่อฝึกทำมาก ๆ ครั้งเข้า ภาพพระจะค่อย ๆ ชัดขึ้นจนเห็นชัดทุกสัดส่วน เหมือนลืมตา จนพระนั้นมีความสว่างไสว จนเป็นวงรอบองค์พระเหมือนดวงแก้ว จนมีความปิติสุข เกิดขึ้น แสดงว่า "ท่านหายแล้ว"
การพอกกายทิพย์นี้ เป็นการดึงเก็บรวบรวมเอา มวลสาร ของอะตอมในโมเลกุลซึ่งเป็นส่วนส่วนละเอียดที่สุด ของส่วนประกอบดวงจิต ที่เหมือนดวงแก้วที่แตกกระจากออกไปนั้น มารวมตัวสมานกันอีกครั้ง เมื่อเพ่งมองพระจนเป็นนิมิต นั้นทำให้จิตรวมเป็นหนึ่งก็จะเกิดอำนาจดึงดูด เหมือนแม่เหล็ก ยิ่งส่งความนึกคิดเข้าไปในองค์พระมากเท่าใดแล้ว เหมือนเสริมพลังให้กับแม่เหล็ก อำนาจแม่เหล็ก ที่ศูนย์กลาง คือพระ จะยิ่งเพิ่มพลังดึงดูดมากขึ้น จึงเกิดกำลังทวีคูณดึงดูด เก็บรวบรวมชิ้นส่วนอัน ละเอียดของดวงจิต (ดวงแก้ว) ที่แตกซ่านกระจายนั้นรวมตัวเข้าเป็นวงกลม(ดวงแก้ว) ที่สมบูรณ์ ใหม่ ๆ ดวงแก้วจะไม่ค่อยสว่างและไม่ค่อยกลมด้วย สุดท้ายอำนาจดึงดูดสูงขึ้น ๆ เศษส่วนต่าง ๆ ของดวงแก้วก็ จะติดแน่น สมานจนไม่มีรอยตำหนิ

 

ให้ท่านฝึกฝนเคล็ดลึกนี้ไปตามแต่จะกระทำได้หากไม่เข้าใจถามได้ครับข้อดีจากการฝึกจะทำให้จิตทรงอำนาจและซึมซับพลังงานจากพระได้เพื่อนำไปรักษาจิตให้แกร่งและพัฒนาชีวิตตลอดจนช่วยรักษาอาการเจ็ป่วยให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้...นี่เป็นอีกวิธีการหนึ่งเท่านั้นครับยังมีหลายวิธีที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา...

 

อานุภาพพลังธรรมจากองค์พระขุนแผนที่ผ่านการอัดพลังจิตจากพ่อท่านบ่าวนับได้เป็นพระที่มีกระแสรุนแรงบางท่านรับไปตรวจแล้วถึงกับจิตได้รับพลังสะเทือนสะท้อนกลับมาให้รู้สึก...ท่านที่มีตาในหรือมโนมยิทธิจะสัมผัสพลังได้ชัดแจ้ง เพราะพ่อท่านได้บรรจุกสิณไว้ครบถึงห้าธาตุ....

 

โปรดติดตามประสบการณ์การสักการะบูชาพระขุนแผนพิชัยสมบัติ.......เสน่ห์เมตตาแรงสะท้านใจ...หนุ่มสาวคร้าม!!!(เรื่องจริง จาก คุณธนิต ศรีอ่อนอินทร์ หนุ่มใต้ตัวดำแต่ใจสะอาดใจกว้างดั่งสายนที)

 

หมายเหตุ..พระขุนแผนพิชัยสมบัติ ผงเหล็กน้ำพี้ สร้างเสกโดย พ่อท่านบ่าววัดนางโอ พระอภิญญาตามืดเสกด้วยฌาณสิบหกวัน.....หลังจากนั้นยังได้เข้าพิธีปลุกเสกอีกสิบหกพระเกจิอาจารย์สายใต้ สายเขาอ้อ สายหลวงพ่อทวด สายกรรมฐาน เรื่องจริงไม่อิงนิทาน เข้าพิธีที่วัดเขารัง ภูเก็ต...พ่อท่านสังข์เจ้าอาวาสวัดไทยสันติธรรม รัฐเคดาร์ ประเทศมาเลเซีย..ยังอุทานลั่น...พระอะไร...เสกแล้วเย็นยะเยือกแบบนี้เมตตาแรง เราเพ่งดูเห็นแสงสว่างจ้าไปหมด..ดีดีเราขอเป็นที่ระลึกสักองค์...

 

พลังพุทธคุณ นี้รับรู้สัมผัสได้ด้วยใจ จึงไม่มีเหตุผลใดๆ..จากประสบการณ์ของคุณธนิต ศรีอ่อนอินทร์มีถึงสี่ประสบการณ์หลังจากเคว้งคว้างอกหักตกงานอยู่พักใหญ่....เลยคิดล้างซวยไปทำบุญถวายสังฆทานหวังสะเดาะเคราะห์ที่วัดนางโอ กับพ่อท่านบ่าว(ตาหลวงบ่าว)ท่านมอบพระให้เป็นที่พึ่ง...กลับมาไม่นาน(ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์)ก็ได้งานทำที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง......พระช่วยแท้ๆพี่...เขาบอกกับเราๆ..

 

นี่แค่เรื่องแรก!!!ว่าแล้ว...ก็มีผู้ใจบุญโทรมาทันที..ขอฝากทำบุญเช่าพระขุนแผนพิชัยสมบัติทันทีสององค์..เรามอบให้ฟรีอีกสามองค์ไปเลย(แจกเนื้อธรรมดาไม่ปัดทอง)ขออนุโมทนาบุญครับ..ผมจะนำถวายท่านทั้งหมดเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของเราทุกคน...สาธุ!!!""""""

 

ลืมเรียนให้ทราบกัน....ได้ส่งถวายพ่อท่านสังข์ เคดาร์ มาเลเซีย ผ่านคุณเล็ก หัวตลาดปัตตานีไปมอบให้คนทำบุญที่วัดท่านด้วยครับ....

 

ที่เห็นในถังสองถังนั่นพระปิดตาลืมตามิดปิดตาเห็นแช่น้ำมนต์


พระแท้เรียบง่ายจะเอาอะไรอีกกับชีวิตนอกจาก..บุญภาวนา


รอยยิ้มที่บริสุทธิ์


หิ้งพระเล็กๆในกุฏิอันเรียบง่ายของพ่อท่านบ่าว


อาจารย์แดงวัดไร่ เสกมวลสารอย่างเต็มสูตร..แล้วบอกว่า..ตาหลวงบ่าวเสกผงมาทำพระดีที่สุดแล้วสมาธิท่านยิ่งกว่าผมอีก