อานิสงส์ของการถวายทานประเภทต่างๆ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 9 มิถุนายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : เรื่องของไหว้เจ้า ถ้าเราเอาของพระพุทธแล้วไปถวายพระสงฆ์ได้หรือเปล่าครับ ?

    ตอบ : ได้ แต่ไหว้เจ้าแล้วก็ถวายได้ รีบๆ ถวายด้วยถ้าช้าแล้วเลยเพลเดี๋ยวจะอด ถวายได้ ส่วนใหญ่เขาถือว่าผีกินแล้วไม่ควรถวายพระ มันไม่เกี่ยวกัน ขอให้เป็นอาหารเท่านั้น พระรัฐบาล ท่านเป็นพระอรหันต์แท้ๆ ท่านฉันขนมบูดหน้าตาเฉย พระพุทธเจ้าเอง นางบุญทาสี เอาโรตีเหน็บชายพกมา ถึงเวลาเดินผ่าน ท่านอยากจะถวายท่านก็ควักชายพกออกมาถวาย

    พระพุทธเจ้ารับแล้วก็นั่งฉันตรงนั้นล่ะ พระที่แท้จริงท่านต้องการอาหารเพื่อยังชีพเท่านั้น ท่านไม่เลือกหรอกว่าเป็นอาหารเก่าอาหารใหม่ หรือว่ามันจะเป็นของเหลือเดนแล้ว หรือว่าอะไรขอให้มีก็พอ อย่าลืมว่าทานมันมีทั้ง ทาสทาน สิ่งที่ต่ำกว่าที่เรากินเราใช้ สหายทาน ที่เสมอเรากินเราใช้ สามีทานสิ่งที่ดีกว่าที่เรากินเราใช้อันไหนที่ให้ไปเขาเรียกว่าทานเหมือนกัน

    ถาม : แล้วอานิสงส์เหมือนกันมั้ยครับ ?
    ตอบ : อานิสงส์ถ้าหากว่าทำในสิ่งที่ดีกว่า ถึงเวลารับมันก็รับในสิ่งที่ดีกว่า แต่อย่าลืมว่าขอให้เราได้ทำอานิสงส์มันจะมี อย่างอานันทเศรษฐี ท่านเป็นมหาเศรษฐีนะ อย่าลืมมหาเศรษฐีมีทรัพย์ประมาณ ๘๐ โกฎิ สมัยนี้มันน่าจะประมาณ ๘ พันล้านพอมั้ยล่ะ ? แต่ว่าท่านใช้ของใหม่ไม่ได้ เสื้อผ้านี่ก็ให้คนอื่นเขาใช้ซะหน่อยหนึ่งแล้วตัวเองถึงใช้ได้ กินข้าวก็กินข้าวเต็มเม็ดไม่ได้ ต้องกินข้าวหักอย่างนี้ เพราะว่าท่านทำบุญในลักษณะ ทาสทาน คือเอาของเหลือจากตัวเองกินตัวเองใช้แล้วไปให้ทาน แต่ว่าผลของท่านมันมีอยู่แล้วๆ ก็ได้ทำทานใหญ่มาเป็นมหาเศรษฐี ในเมื่อเป็นมหาเศรษฐีเสร็จแต่ว่าอานิสงส์มันต่ำกว่าคนอื่นอยู่นิดหนึ่งตรงที่ว่าต้องให้คนอื่นเขาเหลือตัวเองถึงจะได้ (หัวเราะ)

    ถาม : แล้วสมมติว่าวันนี้ผมแกงไปหม้อใหญ่ๆ แล้ววันนี้เรากินแล้วพอดีแกงตอนเย็นแล้วตอนเช้าเห็นพระสงฆ์มา เราตักแกงนี้ใส่บาตรได้มั้ยครับ ?

    ตอบ : ได้ เพราะจริงๆ ที่มันเหลือเดนเราจริงๆ แล้วก็คือเรากินในหม้อนั้นเลย แต่ของเราเองส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีใครกินในหม้อขนาดนั้น เราก็ตักแบ่งออกมาทั้งนั้น อันนั้นก็ถือว่าจริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นของใหม่อยู่เหมือนเดิม

    ถาม : ถ้าอย่างนั้นจะถือว่าเป็นสามีทานหรือเป็นอะไร ?
    ตอบ : เรียกว่าเป็นสหายทาน ให้ในสิ่งที่เหมือนกับเรากินเราใช้

    ถาม : แล้วอย่างตอนเช้าผมไปใส่บาตร มันจะมีร้านใส่บาตรอยู่หลายร้าน ร้านหนึ่งชุด ๒๑ ร้านหนึ่งชุด ๓๐ บาทอะไรต่างๆ นี่มีอานิสงส์เหมือนกันมั้ยครับ ?

    ตอบ : อันนี้มันก็ไม่ได้ต่างกันตรงไหนหรอก ให้เลือกเอาสิ่งที่เราชอบ เลือกในสิ่งที่เราชอบ อย่างเช่น อาหารชุดนี้เราชอบใช่มั้ย ? ดอกไม้ชนิดนี้เราชอบอย่างนี้ ถ้าเราชอบอันไหนอันนั้นก็คือดีสำหรับเรา ในเมื่อดีสำหรับเราๆ ตั้งใจถวายไปก็เป็นสิ่งที่ดีที่เรามีอยู่

    ถาม : แล้วเกิดบางร้านเขาไม่ถูกกับพระแล้วบอกว่า ร้านนี้ของไม่อร่อย
    ตอบ : อันนั้นมันเรื่องของพระแล้ว ไม่ใช่เรื่องของเรา (หัวเราะ) เพราะว่าพระเขาบังคับอยู่แล้วว่าห้ามติดรส

    ถาม : อย่างนี้ถ้าเราใส่ก็มีผลเหมือนกันใช่มั้ยครับ ?
    ตอบ : ก็มีผลเหมือนกัน โดยเฉพาะไปซื้ออาหารเขาสบาย สมัยก่อนทำเองบางทีทำไปเหนื่อยแล้ว อารมณ์เสียแล้ว ที่ซื้อเขามามันรักษาอารมณ์ได้ พอรักษาอารมณ์ได้ทำไปมันได้เปรียบคนอื่นเขา อารมณ์ใจมันดีทำบุญทำทานอะไรไปดีนะ ถ้าหากว่าวัตถุทานบริสุทธิ์ เจตนาบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์นี่ อานิสงส์มันเต็ม ๑๐๐ % ยิ่งกำลังใจของเราดีเท่าไหร่ อานิสงส์ของเราดีเท่านั้น สมัยนี้บางคนเขาบอกมันเหมือนกับได้บุญไม่เต็มที่ไปซื้อของที่เขาทำอย่างนี้ ความจริงทำอย่างงั้นน่ะดีไม่เหนื่อยด้วย ในเมื่อไม่เหนื่อยกำลังใจมันไม่เศร้าหมองใช่มั้ย ? สบายกว่าเยอะเลย

    ถาม : แล้วอย่างนี้ อย่างผลไม้อย่างมังคุดนี่มีผลยังไงมั้ยครับ ?
    ตอบ : ไม่มี นี่ยังคิดๆ อยู่นะว่าสักวันหนึ่งจะเอามังคุด เอาละมุด เอามะไฟ เอาระกำอะไรไปถวายพระซักที ส่วนใหญ่มันของอร่อยด้วยนะ พระไม่ได้ฉันเลยเพราะมันกลัว (หัวเราะ) เอาไปถวายทีพระคงชอบใจน่าดู




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกันยายน ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ตุลาคม 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...