อานิสงส์ของการปล่อยปลาช่วยผ่อนคลายกฎของกรรม

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 28 เมษายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : เวลาคนเราเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นนี่ค่ะ บางคนนี่เขาจะมีเจ้ากรรมนายเวรหรือบางคนเขาจะมีกรรมของเขาในปัจจุบัน ตรงนี้เราจะช่วยความเจ็บปวดเขาให้ทุเลาลงได้ยังไงคะ ?
    ตอบ : จริง ๆ แล้ว ในเรื่องของความเจ็บไข้ได้ป่วยมันเกิดจากเศษกรรมของปาณาติบาตในอดีตทั้งสิ้น มันมาส่งผลในชาติปัจจุบันนี้ เศษกรรมนะ ต้นทุนเราใช้เขาแล้ว ดีไม่ดีลงนรกมาเรียบร้อยแล้ว เศษกรรมส่งผลให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย

    สมัยก่อนหลวงพ่อท่านแนะนำให้ปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าเป็นประจำ อย่างเช่นว่า ปล่อยปลาสักเดือนละตัวสองตัวต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ กรรมเหล่านี้จะคลายตัวลงนะ ปล่อยปลาที่เขาขายเพื่อให้ฆ่านะจ๊ะ อย่างในตลาดอย่างนี้ ไม่ใช่เขาขายให้ปล่อย ถ้าขายให้ปล่อยเราได้แต่เมตตาบารมี แต่ถ้าหากที่เขาขายเพื่อให้ฆ่านี่จะเป็นการตัดกรรมตัวนี้ได้เยอะ ทำให้การเจ็บไข้ได้ป่วยลดน้อยลง ถ้าเป็นอุปฆาตกรรมเข้ามาก็ต่ออายุได้อีกต่างหาก

    ถาม : เห็นแม่ค้าเขากำลังจะทุบหัวปลา เราไปช่วยตรงนั้นเลย ?
    ตอบ : ไม่ต้องไอ้ตัวที่ทุบหรอก ทั้งหมดนั่นเลยแหละ เขาขายไปให้ฆ่าแน่ ๆ อยู่แล้ว

    ถาม : แล้วฝากไปปล่อยได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ได้จ้ะ เรามีส่วนอยู่แล้ว เพราะว่าปัจจัยเป็นของเราเงินทองเป็นของเรา ปล่อยได้ด้วยตัวเองยิ่งดี ที่หน้าวัดท่าซุงที่เต็มไปหมด น่ะมันเกิดจากฝีมือของอาตมาเริ่มไว้ก่อน ตอนแรกก็ซื้อไปปล่อยแต่บ่อที่อยู่ข้างร้านป้ากิมกีเขา ...(ร้านอาหาร) ปล่อยไปปล่อยมาหลวงพ่อบอกแกดูบ้างหรือเปล่า ว่าปลามันจะไม่มีที่หายใจอยู่แล้ว ? เราก็เพิ่งจะรู้ (หัวเราะ) พอเอาอาหารไปโยน เออ...ใช่ มันขึ้นมาคลั่กไปหมด ก็เลยไปซื้อปล่อยที่แม่น้ำข้างหน้า

    คราวนี้ปกติจะซื้อแต่ปลาดุก เพราะเป็นปลาที่อดทนทรหดมาก แต่ปรากฏว่ามันเป็นปลาดุกเลี้ยง พอปล่อยลงแม่น้ำแล้ว นอกจากมันหากินไม่เป็นยังไม่ว่า มันยังเอาตัวไม่รอดอีกต่างหาก มันโดนปลากระแหทึ้งหนวดซะเกลี้ยงเลย มันดึงหนวดไปกินน่ะ ปลากระแห ปลาตะเพียนที่มีครบแดง ๆ เขาเรียกว่าตะเพียนแดงก็มี กระแหแดงก็มี พวกนี้มันไวมาก

    ถาม : ตัวเล็ก ๆ หรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : มันโตสักฝ่ามือนี่ มาถึงมันก็โฉบคว้าหนวดเขาไปกินเลย ไอ้เจ้านั่นโดนถอนหนวดไปสด ๆ ร้อน ๆ ก็เจ็บตายชักเลย หนีกันมาออกันอยู่ริมฝั่งหมด พอเจอเข้้าไปงานเดียวก็เข็ดต่อไปก็ เอ๊...พื้นดิมแถวนี้มันมีปลาอะไรมั่ง ? จะไปถามซื้อพวกปลากระแหไม่มี เพราะว่าปลาพวกนี้มันใจเสาะ เขาว่ามันแค่เห็นตะวันมันก็ตาย เห็นท้องฟ้ามันก็ตาย ความจริงไม่ใช่หรอก มันพ้นน้ำขึ้นมาไม่มีอากาศหายใจมันตายง่ายกว่า มันไม่อึดก็ไปสืบหาจนกระทั่งได้ความว่าปลาของพื้นบ้านที่นี่มีพวกปลาเสือ พวกปลาแรด แล้วก็ปลาสวาย ปลาสวายหาง่ายที่สุด เลยตั้งใจซื้อปลาสวายปล่อย

    คราวนี้จะซื้ออย่างที่หลวงพ่อบอก คือ ตัวสองตัว พอไปเจอมันตาปริบ ๆ ทั้งกาละมังก็ต้องยกกาละมัง มีเท่าไหร่ก็ต้องเอาเท่านั้น ปล่อยไปปล่อยมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันไปแตกลูกแตกหลานหรือไปชวนใครมาอยู่มันถึงได้เยอะขนาดนั้น เยอะขนาดนั้นเกิดจากการริเริ่มของอาตมาเอง ๗-๘ ปี เท่านั้นเอง มันไม่นานหรอก

    ถาม : เราปล่อยปลาชนิดไหน เขาห้ามกินปลาชนิดนั้น ?
    ตอบ : เขาห้ามกินปลาตัวนั้น ไม่ใช่ห้ามกินชนิดนั้น เขาบอกว่าห้ามกินชนิดนั้นเพื่อให้มันพ้นไปเลย ต่อไปก็ปล่อยอย่างที่เราไม่ชอบเข้าไว้ ปล่อยอย่างที่เราชอบจะได้ไม่ต้องกินมัน อย่างปล่อยปลาปั๊กกะเป้าอย่างนี้ มีคนเอามาขายหรือเปล่า ?




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมิถุนายน ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...