อานิสงส์จากการทำบุญสร้างพระช่วยให้หายจากอาการปวดหัว

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย tenma, 12 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. tenma

    tenma Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    นี่คือประสบการณ์จริงที่ข้าพเจ้าได้ประสบมากับตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ แม้จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ตนเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าอาการปวดหัวที่เคยเป็นมาตั้งแต่จำความได้นั้นจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง

    สำหรับข้าพเจ้าแล้วอาการปวดหัวจนกระทั่งถึงขั้นอาเจียน ทานอะไรไม่ลง จนบางครั้งต้องนอนหมดสภาพ รอจนให้ผ่านไปสักคืน สองคืน จึงจะทุเลาลงแต่ก็ยังปวดหัวตุบ ๆ อยู่ดี และเคยขอยาพาราจากพ่อ (ที่บ้านขายยา) จนกระทั่งพ่อประชดว่ากินยาอยู่นั่นแหละไม่รู้จักหาย (ปวดหัว) สักที

    บอกตรง ๆ ได้ยินคำพูดนั้นของพ่อทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกน้อยใจมากทีเดียว ถ้าไม่ทรมานจริง ๆ ก็ไม่อยากจะกินยานักหรอก แต่ข้าพเจ้าก็ทำใจแล้ว ตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่ขอยาจากพ่ออีก เพราะต่อให้กินยามันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น

    ข้าพเจ้าเริ่มทำบุญด้วยเงินของตนเองซึ่งกับช่วยให้อาการปวดหัวดีขึ้นบ้างเล็กน้อยส่วนที่น่าแปลกสุดคือถ้าหากอ่านคาถาชินบัญชรแล้วจะดีขึ้นมากทันตาเห็น

    จนกระทั่งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 มีพระมาบอกบุญว่าให้ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระนอน ข้าพเจ้าก็เลยตัดสินใจทำบุญหนึ่งร้อยบาท ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้าง ในใจก็หวังแค่ให้พ่อแม่สุขภาพแข็งแรง แต่ส่วนลึก ๆ ของใจข้าพเจ้าก็คือ ขอให้นอนหลับ ไม่กระวนกระวายด้วยเถิด เพราะตั้งแต่ลุงกับน้า (พี่ชายกับน้องชายของแม่) เสียไป ข้าพเจ้าก็นอนไม่หลับ พอจะหลับหรือเคลิ้ม ๆ ก็เป็นอันต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองบ้าง ฝันแปลก ๆ น่ากลัว ๆ บ้าง ถึงเหตุการณ์พวกนี้ข้าพเจ้าจะได้เจอจนชินแล้วก็เถอะ แต่ปกตินาน ๆ ครั้ง แต่ช่วงนี้ถี่ผิดปกติ

    หลังจากทำบุญแล้วในคืนนั้นข้าพเจ้าก็หลับสนิท ไม่กระวนกระวายอีกเลย จนกระทั่งประมาณตีสามตีสี่ ก็สะดุ้งตื่นเพราะเหมือนได้ยินเสียงแม่เรียก ก็เลยเดินลงมาชั้นล่างเห็นแม่กำลังให้อาหารแมวอยู่ก็เลยถามว่าแม่เรียกหรือเปล่า แม่ก็บอกว่าเปล่า แต่ก็บอกให้ข้าพเจ้าเฝ้าหน้าบ้าน (ร้านขายยา) เดี๋ยวเขาจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย

    หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมแม่ถึงเฉย ๆ กับที่ข้าพเจ้าถามว่าได้ยินเสียงแม่เรียกแต่ ตัวแม่เองไม่ได้เป็นคนเรียก ที่เป็นอย่างนี้ก็อย่างที่เคยเขียนไว้ว่าเคยเจอเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ มาตั้งแต่เล็กแล้วและเคยเล่าให้แม่ฟัง ท่านก็เลยเฉย ๆ ส่วนพ่อน่ะถ้าอ้าปากเล่าเรื่องทำนองนี้เมื่อไร ก็บอกว่าคิดไปเองบ้าง หูแว่วบ้าง สุดท้ายก็เลยยึดหลักนิ่งเสียตำลึงทอง (เฉพาะกับพ่อ) ไม่เล่าอะไรให้ฟังอึกเลย ขี้เกียจมีเรื่องทะเลาะกัน

    แล้วก็นึกแปลกใจตัวเองว่าทำไมทุกทีเราต้องปวดหัวจนแทบดิ้นตายแล้วทำไมวันนี้ ( 9 กุมภาพันธ์) มันดีขึ้นแบบไม่ปวดหนักเท่าเมื่อก่อน แต่อีกใจก็คิดว่ารอดูอีกสักวัน สองวันดีกว่า มันอาจจะหายแบบชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้

    มาถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ คราวนี้อาการปวดหัวหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ยังไม่กล้าดีใจ ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังแล้วก็เริ่มคิดหาเหตุผลให้กับตัวเองโดยตั้งคำถามว่าทำไมหลังจากทำบุญสร้างพระแล้วอาการปวดหัวของเราถึงหายเป็นปลิดทิ้งได้

    พอได้คำตอบแล้วข้าพเจ้าก็อยากจะเผยแพร่ประสบการณ์นี้ให้กับใครก็ตามที่สนใจในเรื่องกฎแห่งกรรม เนื่องจากข้าพเจ้าคิดว่าคนสมัยนี้อาจคิดว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" จึงพลั้งเผลอทำผิดพลาดไป ได้หวนรำลึกถึงกฎแห่งกรรมอีกครั้งว่า "ทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว" สอนใจตนเอง
     
  2. บันลือธรรม

    บันลือธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    800
    ค่าพลัง:
    +2,370
    ขออนุโมทนากับคุณ tenma ครับ
    ความเห็นของผม ผมว่าการร่วมทำบุญสร้างหรือหล่อพระพุทธรูป และซ่อมแซมพระพุทธรูป ที่ชำรุดเสียหายก็จะมีอานิสงส์ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น แต่ควรจะอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งในอดีตชาติและชาติปัจจุบันด้วยก็จะยิ่งดีขึ้นครับ เพราะอานิสงส์ตามที่ได้อ่านมาหลายที่ ก็บอกว่า คนป่วยจะหายไข้ คนโง่สิ้นเขลา และอีกหลาย ๆ ข้อครับ
    ผมว่าควรทำให้ครบ 3 ประการคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (พระรัตนตรัย) เพราะจะมีอานิสงส์สูง ให้บุญกุศลมากครับ
    1. ทำบุญสร้างหรือหล่อพระพุทธรูููป ซ่อมแซมพระพุทธรูป (พระพุทธ)
    2. ทำบุญถวายพระไตรปิฏกถวายวัดหรือพิมพ์หนังสือธรรมะถวายวัด ห้องสมุดโรงเรียน
    ชุมชน หรือแจกให้กับบุคคลทั่วไปได้อ่านเป็นธรรมทาน (พระธรรม)
    3. ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ (พระสงฆ์)
    การปล่อยสัตว์เช่น ปลา กบ ที่เขาจะฆ่า ก็เป็นอภัยทานทำให้สุขภาพดีครับ ปัจจุบันที่นิยมกัน
    มากคือ ไถ่ชีวิต โค กระบือ ก็ช่วยได้ครับเพราะเป็นสัตว์ใหญ่
    ขอให้คุณ tenma สุขภาพดีตลอดไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  3. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    ขออนุญาตแบ่งปันความรู้ด้วยคนนะครับ

    ผมกับเจ้าของกระทู้ มีลักษณะเหมือนกัน เมื่อตอนอยู่ประถมจนถึงเมื่อสองสามปีที่แล้ว อาการปวดหัวนี้เหมือนกับเป็นไมเกรน บางทีก็ปวดข้างเดียว บางทีก็ปวดสองข้าง อยากอาเจียนก็อาเจียนไม่ออก มันทรมาน จนบางทีไข้ขึ้นเลย แม่พาไปหาหมอหลายครั้ง หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ จนมาเข้าธรรมมะ ถึงได้รู้ว่า มันเกิดจากสาเหตุอะไร โดยที่เราไม่ต้องไปสอบถามใครเลย เพียงแค่ผมสวดมนต์อย่างเดียว ช่วงนั้นทำบุญ ทำทานบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ อาศัยว่ามีเพื่อนที่เข้าธรรมมะด้วยกัน เป็นตัวกลางในการสอนให้ผมได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วโรคบางอย่าง ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง ในภพปัจจุบัน แต่เป็นไปด้วยที่ว่าเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาโดยตรง เลยทำให้เราสามารถแก้ไขได้ สำหรับโรคปวดหัวของผม คือ กรรมทุบปลา ตอนเป็นเด็กๆแม่ให้ทุบหัวปลาให้บ่อย เพื่อที่จะเอาไปทำเป็นอาหาร ใจจริงก็ไม่อยากทำ สงสาร แต่ว่าก็ต้องทำ เพราะอยากช่วยแม่ ทำในแต่ละครั้งก็ขอโทษเค้า แต่ว่าการขอโทษไม่ได้ลบล้างได้ เนื่องจากเราไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียว มันก็เลยสะสม ก็เลยทำให้เราต้องปวดหัวแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อเราเข้าธรรมมะแล้วย้อนไปนึกถึงพวกเค้า ด้วยมีเจตนาที่บริสุทธิ์ถึงขั้นน้ำตาไหล ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรก เราก็คงไม่ทำ ชีวิตใคร ใครก็รัก ถ้ามีคนสอนตั้งแต่เด็ก ผมก็คงไม่ทำ ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทูที่ทำให้คิดไปถึงตอนแรกๆที่เข้าธรรมมะมาใหม่ๆ ประสบการณ์ที่เข้าธรรมมะมาใหม่ๆ มีแต่น้ำตา น้ำตาที่เต็มไปด้วยความสุข ที่ทำให้เราสามารถคิดถึงพวกเค้าที่มาสอนเรา ถือว่าเป็นครูที่สำคัญมากๆ สิ่งไหนไม่ดีเราจะไม่ทำ สิ่งไหนดีเราจะทำ

    ขออนุโมทนาบุญ แด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่าน ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. Wiizcard

    Wiizcard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +323
    ขออนุญาตแชร์เข่นกันครับ
    ปี2008 ผมมีอาการเจ็บหน้าอก ปวดร้าวลงไปยังแขนซ้ายเป็นหนักมาก เจียนตายมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ต่อมามีเสียงในหัวตอนนั่งปฏิบัติสมาธิให้สร้างพระประธาน ผมจึงสร้างถวายพระประธาน60นิ้ว
    มารวิชัย วันที่ถวายอัศจรรย์มาก ถวายเสร็จอาการที่เคยเป็นมาหายหมดสิ้น จึงเชื่อมากในเรื่องบุญนี้ ต่อมาได้สร้างถวายเพิ่มอีกสององค์ ไม่ปรากฎการเจ็บป่วยอย่างหนักอีกเลย ตอนถวายก็กล่าวคำอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยครับ ปัจจุบันยังคิดจะถวายทุกปีปีละ องค์
     

แชร์หน้านี้

Loading...