อิทธิบาท 4

คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน

1) ฉันทะ
คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

2) วิริยะ
คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหา_ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง

3) จิตตะ
หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่

4) วิมังสา
หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปั__า ไว้อย่างเต็มที่

 

เพราะขาดอิทธิบาท ๔ นี่แหละหนอ เราเลยเรียนไม่จบสักที(b-cry)

 

เมือก่อน ผมอ่านอิทธฺบาท4
ก็รู้เรื่องแบบ จำๆความหมายได้

พอลองปฏิบัติให้เกิดขึ้นกับใจตัวเอง

ต้องบอกว่า พระพุทธเจ้า ท่านสุดยอดจริงๆ

 

ธรรมทั้งหลายที่คุณได้กล่าวมา เดิมเป็นหลักการหรือธรรมแห่งศาสนาพราหมณ์
ซึ่งเป็นหลักความจริงอย่างหนึ่งเช่นกัน

 

ขออนุญาติเพิ่มเติมจากเจ้าของกระทู้นะครับ

1. ฉันทะ
ถ้าเราทำในสิ่งที่เราชอบเราจะทำได้ดี มีความเต็มใจที่จะทำ
แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบ เราสามารถเพิ่มฉันทะโดย
1.1 รู้ประโยชน์ต่อตัวเราของงานนั้นๆ
1.2 รู้ประโยชน์ต่อผู้อื่นของงานนั้นๆ
ให้นึกถึงแต่ข้อดี แล้วจะมีกำลังใจทำงานนั้นๆให้ลุล่วง ข้อเสียก็ปล่อยวางซะ

2. วิริยะ
ต่อให้งานที่ชอบ ถ้าทำซ้ำๆ ก็อาจจะเบื่อได้ หรือบางครั้งอาจมีอารมณ์ขี้เกียจ
วิธีทำให้ขยัน คือให้ป้องกันอาการเฉี่อยชา ซึมเศร้า ขี้เกียจ โดย หลีกเลี่ยงอบายมุข6 อันได้แก่
- สุรา เมรัย (รวมถึงยาเสพติด อื่นๆ ขาดสติสัมปชัญญะ ขาดกำลังวังชา)
- เจ้าชู้ (มีแฟนมาก มีกิ๊ก ปวดหัว เสียสมาธิในการทำงาน ปัญหาอุปสรรคจะเยอะ)
- เที่ยวกลางคืน
- เล่นการพนัน
- เกียจคร้าน
- คบคนพาล

อบายมุขเป็นปัจจัยที่ทำให้เราขาดความเพียร ลบคำว่า ดินพอกหางหมู ออกไปจากชีวิตเรา

ไม่มีผู้ใดเลยที่ประสพความสำเร็จ โดยขาดความพยายาม ผู้ที่ร่ำรวย มั่งคั่ง หรือใช้ชีวิตมีความสุข จากมรดก หรือ จากโชคลาภ ไม่สามารถพูดด้วยความภูมิใจว่า ตนเองประสพความสำเร็จในชีวิต

3. จิตตะ
ตั้งใจ จดจ่อ มุ่งมั่นเพื่อการประสบความสำเร็จ

วิธีเพิ่ม จิตตะ ทำได้โดย สร้างบรรยากาศ
เช่น การทำงาน ถ้าบรรยากาศในที่ทำงานดี ไม่รบกวนสมาธิ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกดี เพื่อนร่วมงานตั้งใจทำงาน จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างดี
หรือ การเรียน ถ้าเราอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่กำลังขยันอ่านหนังสือ เราก็จะอ่านหนังสือได้ดี
หรือ อย่าการปฏิบัติธรรม ถ้าไปปฏิบัติตามสถานที่ที่เหมาะสม เช่นวัดป่า หรือแม้แต่ในบ้านเรา ที่จัดมุมสงบ มีรูปพระ ก็สามารถปฏิบัติได้ก้าวหน้ารวดเร็ว

4. วิมังสา
เข้าใจในงานที่ทำ คนที่ไม่มีความเข้าใจ สักแต่ว่าทำ ไม่มีทางสำเร็จ
ทำงานเสร็จ แต่ไม่สำเร็จ ไม่ถูกต้อง ก็ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ ยิ่งน่าเบื่อ ไม่อยากทำ บั่นทอนฉันทะในใจ จนในที่สุดก็ขาด วิริยะ และจิตตะ

วิธีสร้างวิมังสา ต้องเริ่มต้นที่ทัศนคติและวิธีคิดก่อน ต้องคิดว่าทำได้ เพราะถ้าไม่เชื่อว่าเราสามารถทำได้แล้ว เราจะขาดความพยายามให้การค้นหาวิธิการ
แต่ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้แน่นอน ให้สร้างภาพความสำเร็จไว้ในใจ แล้วเค้นสมองหาวิธีสำเร็จ

นอกจากเหตุที่จะนำมาซึ่งผลสำเร็จแล้ว ยังต้องเข้าใจด้วยว่า ทุกๆงานต้องมีอุปสรรค อุปสรรคและปัญหาเป็นธรรมชาติ ทุกๆปัญหาและอุปสรรคจะมีทางแก้เสมอ เพียงแต่อาจต้องให้ถูกเวลาด้วย ถ้าเรามีอิทธิบท4 แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้แน่นอน ถ้ายังไม่ล้มเลิก จะต้องมีหนทางสู่ความสำเร็จ

ได้ฟังมาแล้วประทับใจเลยมาแบ่งปันครับ