อุปมาขันธ์ ๕ โดย หลวงปู่จันทา ถาวโร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 26 ธันวาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    อุปมาขันธ์ ๕

    [​IMG]

    วัน คืน ปี เดือน ล่วงไป ๆ บัดนี้ เราทำอะไรอยู่นะ อริยสมบัติ หมายถึง บุญกุศลนั้น ทาน ศีล ภาวนา พุทธโธ ธัมโม สังโฆ เราได้เจริญแล้วหรือยัง ที่จะทำให้เราเป็นผู้ไม่เก้อเขิน ในเมื่อพญามัจจุราชมาถึงแล้ว เราจะได้ไม่เดือดร้อนอาทรใจ ไม่หลงไหลไปตามธาตุขันธ์ที่แปรปรวนเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นนิจ มีแต่ความร่าเริงบันเทิง อยู่ด้วยวิบากของขันธ์ทั้งนั้น นั่นแหละ มีแต่สุขกับสุข หาทุกข์ไม่มี
    ถ้าเราไม่เจริญแล้วเป็นอย่างไร ติดอยู่ด้วยกิเลสกาม วัตถุกาม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข นั้น ได้เท่าไรไม่พอ กินไม่อิ่มไม่พอ สำคัญว่าจะเป็นของเราแท้ ตะเกียกตะกายขวนขวาย อันนั้นแหละ เปรียบเหมือนกับคนตาบอด หูหนวก เดินทางไม่รู้อะไร วกหน้าเวียนหลัง ผลสุดท้ายก็ตกบ่อ ตกหลุม คอหัก แขนหักตาย เท่านั้นแหละ
    อันนี้ฉันใด ผู้เจริญสมณธรรมก็ไม่เป็นอย่างนั้น อยู่ดีไปดี มีโชคชัย สุคโต ไปดีมาดี สุคตัสสะ จะเป็นผู้ไม่มีภัยและเวร เรียบร้อย สะอาดดี เป็นของดีเลิศประเสริฐสุด
    ฉะนั้น จงตั้งใจเจริญให้พร้อมอยู่เป็นนิจ จงรักตน อย่าเพิ่งเกลียดชังตน อย่างเพิ่งเอาคนอื่น จงเอาตนนี่ดีกว่า หมายความว่า มาเจริญสมณธรรมนี่แหละ ขยำเสียซึ่งกิเลส กอบโกยซึ่งอริยทรัพย์ คือ บุญใส่ตนให้พร้อมทุกเมื่อ ได้ชื่อว่าเป็นผู้รื้อฟื้นตนออกจากหลุมลึก คือ กิเลส อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ จะเป็นผู้ผ่านพ้นไปจากทุกข์ได้ ทุกข์ภัยน้อยใหญ่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่มันเป็นมหันตทุกข์โทษภัยใหญ่ กรรมชั่วช้าลามกก็ดี นั่นแหละ เปรียบเหมือนศัตรูร้าย
    สำหรับผู้เห็นภัยอย่างนี้ นักปราชญ์เจ้าทั้งหลายก็รีบเร่งฉวยโอกาสเจริญสมณธรรมอยู่เป็นนิจ ไม่หวั่นไหวในชีวิตสังขาร กลัวย่านอยู่ทั้งวันคืน ตื่นเต้นตระหนกตกใจอยู่อย่างนั้น เพราะภัยใหญ่นี้ ไหนๆ ก็หนีไปไม่พ้นเสียแล้ว สิ่งที่ไปพ้นนั้น ก็มีแต่การเจริญสมณธรรมเท่านั้น อันนี้ข้อสำคัญ
    ที่มา http://www.watpa.com/images_subforum/1881.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...