เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมหาเจดีย์ทราย84000กองถวายเป็นพุทธบูชา

ในห้อง 'ทวีป ยุโรป' ตั้งกระทู้โดย ต๋ามนาบุญ, 27 พฤศจิกายน 2012.

  1. ต๋ามนาบุญ

    ต๋ามนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมหาเจดีย์ทราย84000กองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาวาระที่๑ ไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกร ไถ่ชีวิตนก หอย ปลา สัตว์ที่ขายในตลาดคืนสู่แม้น้ำและธรรมชาติถวายแก่เจ้ากรรมนายเวร สืบชะตาสะเดาะห์นพเคราะห์แบบโบราญล้านา อาบน้ำยาว่านลงนะเมตตาบารมีครอบมงกุฎพระเจ้าตามแบบฉบับล้านนาโบราณสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุอันขุดค้นพบ ณ สถานที่ก่อสร้างพุทธสถานล้านาจ๋อมสรี๋คีรีพุทธชยันตีนุสรณ์ โดยร่วมเป็นเจ้าภาพได้ในราคากองละ99 บาท รายได้สมทบทุนก่อสร้างศาลาบฎิบัติธรรมพุทะสถานล้านนาจ๋อมสรี๋คีรีพุทธชยันตีนุสรณ์ บ้านกลางดง ต.ทุ่งปี๊ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและคลายเคราะห์กรรมอันได้แก่การทำแท้ง ผู้ที่เกิดปีชง ชะตาตกค้าขายไม่เจริญรุ่งเรือง
    ในวันจันทร์ที่31ธันวาคม 2555และวันอังคาร ที่1มกราคม2556ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เสริมสิริมงคลให้รวยๆเฮงๆเจริญรุ่งเรืองตลอดปี2556 [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    17 อานิสงส์ก่อสร้างพระเจดีย์ทราย


    ...ในเมื่อพระองค์เสด็จประทับอยู่ ณ บุพพารามมหาวิหารในนครสาวัตถีได้เทศนาถึงอานิสงส์
    ก่อเจดีย์ทรายแล้วตั้งความปรารถนาไว้ เป็นใจความว่าวันหนึ่งเป็นฤดูร้อนอากาศร้อนอบอ้าวมาก
    พระเจ้าปัสเสนทิโกศลทรงพักผ่อนพระอิริยาบถให้สบาย ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำไม่ห่างจากพระนคร
    เท่าใดนักได้ทรงทอดพระเนตรเห็นทรายขาวสะอาดราบเรียบดีนัก มีพระดำริว่าควรทำเป็นรูปเจดีย์ขึ้น
    เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ดีกว่าที่เราจะมาเดินเล่นโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อทรงดำริเช่นนั้น แล้วก็รีบลงมือ
    ก่อเป็นรูปเจดีย์ด้วยพระองค์เอง พวกบริวารทั้งหลายที่ตามเสด็จ ก็ลงมือก่อตามไปด้วย เมื่อสำเร็จแล้ว
    มองก็เป็นทิวแถวสวยงามเกิดมีความปิติยินดีเป็นที่ยิ่ง เพราะนับดูแล้วมี ๘ หมื่น ๔ พันองค์พระบรม
    กษัตริย์ทรงโสมนัสเป็นยิ่งนัก ก็เสด็จกลับมาสู่บุพพารามมหาวิหารถวายอภิวาท แล้วก็นั่งอยู่ส่วนข้าง
    หนึ่งแล้วกราบทูลถึงอานิสงส์ของการก่อพระเจดีย์ทรายบูชาพระรัตนตรัย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำมา
    แล้ว โดยตลอด

    .... พระพุทธองค์ทรงโปรดประทานพระธรรมเทศนาว่า มหาราชดูกรมหาบพิตรนรชนหญิง
    ชายทั้งหลายเหล่าใด มีศรัทธาเลื่อมใสอุตสาห์พากเพียรพยายาม ทำการก่อสร้างพระเจดีย์ทรายใหญ่น้อย
    ก็ดี มีจำนวนถึง ๘ หมื่น ๔ พันองค์นั้น หรือว่าจะมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า ก็จะไม่
    ไปสู่อบายภูมิตลอดร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติบริวารเป็นอันมาก ครั้น
    ตายไปจากมนุษย์โลก ก็จะไปเกิดในสวรรค์เสวยทิพย์สมบัติ แม้พระตถาคตก็เคยได้กระทำมาแล้ว ใน
    ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีอยู่แล้วพระองค์นำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปว่า

    ครั้งนั้น
    พระตถาคตได้เกิดในตระกูลอนาถา พอเจริญวัยขึ้นก็ต้องเข้าป่าแสวงหาฟืนมาขายเลี้ยงชีพ กระทำอย่าง
    นี้เป็นอาจิณ อยู่มาวันหนึ่งได้เห็นทรายขาวสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องในราวป่า ก็มีจิตผ่องใสศรัทธาใคร่จะ
    ก่อพระเจดีย์บูชาพระรัตนตรัย จึงสละเวลาไม่ตัดฟืนทั้งวัน ได้ก่อพระเจดีย์ทรายเสร็จแล้วได้ฉีกผ้าห่ม
    ผืนหนึ่งปักเป็นธงชัย แล้วบูชาพระรัตนตรัยในพุทธบาทศาสดาของพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วตั้ง
    ความปรารถนาว่า ขอให้ข้าพเจ้าได้สำเร็จพระโพธิญาณ ในอนาคตกาลโน้นเทอญ ครั้นทำลายขันธ์แล้ว
    ไปเกิดอยู่ชั้นดาวดึงส์มีวิมานสูง ๑๒ โยชน์ เสวยทิพย์สมบัติอยู่ถึง ๒ พันปีทิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วได้
    จุติมาเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพาราณสี ได้ท่องเที่ยวอยู่ในมนุษย์โลก บำเพ็ญบารมีญาณจน
    เต็มเปี่ยมดีแล้ว จึงได้มาอุบัติเป็นพระตถาคต ดังที่มหาบพิตรปรารภอยู่ขณะนี้ เมื่อจบพระธรรมเทศนา
    ลงแล้ว พระเจ้าปัสเสนทิโกศล พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายก็มีความยินดีโสมนัส ในการที่พระองค์ทรง
    ก่อ พระเจดีย์ทรายบูชาคุณพระรัตนตรัยโดยไม่เปล่าปรยชน์

    ร่วมจองทำบุญมหาเจดีย์ทรายได้ที่
    พระครูบา เทวฤทธิ์ เทวธมฺโม โทร 089-8355136
    หรือโอนปัจจัยร่วมทำบุญได้ที่
    โอนเข้าสมทบทุนได้ที่โอนเข้าบัญชี
    ธนาคารรุงเทพ สาขาลำพูน
    ชื่อบัญชี คุณ ชิตาพร สุตะวงค์
    หมาเลขบัญชี๓๓๔-๔-๘๑๘๙๘-๘


    กำหนดการ วันจันทร์ที่ 31ธันวาคม 2555 ส่งท้ายปีเก่า

    เวลา 09.00นเริ่มพิธีบวงสรางเทพยดาฟ้าดิน
    09.39น.พระสงฆ์เกจิเถราจารย์ 9รูปเจริญพุทธมนต์ สืบชะตา ปลุกเสกน้ำว่านยาพุทธมนต์
    10.30น.ถวายภ้ตราหารเพลแด่พระสงค์
    13.09น.เริ่มพิธีลงนะเมตตาบารมีเศรษฐีพันล้านโดยท่านพระครูบาเทวฤทธิ์ เทวธมฺโมเป็นเจ้าพิธี
    14.09น.เริ่มพิธีอาบน้ำยาว่านมหาบารมี
    18.00น.เป็นต้นไปทำพิธีเสดาะห์นพเคราะห์
    (ทำการก่อพระมหาเจดีย์ทราย ไถ่ชีวิตโคกระบือ ปล่อยสัตว์ ตลอดวัน)


    วันที่1มกราคม 2556 ต้อนรับวันใหม่ แห่งปีด้วยความร่ำรวย
    เวลา 09.09น.ทำพิธีสืบชะตาหลวงแบบโบราญล้านนา สงฆ์พิธีปลุกเสกน้ำว่านพุทธมนต์รอบที่2
    มัคทายกเวนตานกล่าวคำถวายเจดีย์ทราย ไถ่ชีวิตโคกระบือ สัพสัตว์ทั้งหลาย พระสงฆ์อนุโมทนา
    ให้พรเป็นอันเสร็จพิธี
    11.00 น. เลี้ยงภัตราหารเพลแต่พระสงฆ์
    12.00น. ร่วมรับประทานอาหาร
    13.09น.เริ่มพิธีลงนะเมตตาบารมีเศรษฐีพันล้านโดยท่านพระครูบาเทวฤทธิ์ เทวธมฺโมเป็นเจ้าพิธี
    14.09น.เริ่มพิธีอาบน้ำยาว่านมหาบารมี
    (เป็นอันเสร็จพิธี)

    เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสังฆทาน 36ชุด ชุดละ1,000 บาท
    หรือร่วมเป็นเจ้าภาพภัตราหารเพล หรือเป็นเจ้าภาพโรงทาน ติดต่อได้ที่ 089-8355136
    ต่างจังหวัดต้องการมาพักค้างคืนกรุณาติดต่อจองก่อนล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมที่พักใว้ให้ครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    พระครูบาเทวฤทธิ์ เทวธมฺโม เจ้าพิธี
    งานสืบชะตา บูชานพเคราะห์แบบล้านนา
    ทำบุญอายุ งานสืบชะตา บูชานพเคราะห์แบบล้านนากันเจ้า

    ความหมายของการสืบชะตา ก็คือการต่ออายุค่ะ เป็นพิธีกรรมที่กระทำตามความเชื่อว่า ถ้าทำแล้วจะมีสุขภาพดีขึ้น มีอายุยืนยาว มีความสุขความเจริญยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการขจัดภัยอันตรายต่าง ๆ ให้คลาดแคล้วไป โดยปกติจะจัดทำในวันสำคัญของบุคคล เช่นวันคล้ายวันเกิด ได้รับตำแหน่งใหม่ วันขึ้นบ้านใหม่ ไม่ได้อิงช่วงเวลาเทศกาลหรือฤดูกาลใด ๆ โดยเชื่อกันว่า เมื่อมีอายุเจริญวัยโดยไม่มีอันตรายมาพอสมควรแล้วและมีฐานะพอจะทำบุญได้ ก็นิยมทำบุญอายุของตนวันบรรจบรอบคล้ายวันเกิด เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิตค่ะ

    งานพิธีของเราเริ่มขึ้นในช่วงเช้าประมาณ 8.30 น. จัดขึ้นภายในพระวิหารของวัดเชียงมั่น ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป อันดับแรกจะมีการทำพิธีปัดเคราะห์หรือสะเดาะเคราะห์ก่อน แล้วจึงทำพิธีสืบชะตาทีหลัง เพื่อให้เคราะห์ภัยที่มีอยู่ในตัวเราสูญไป แล้วจึงทำพิธีสืบชะตาให้มีความสุขความเจริญต่อไป




    พิธีการสะเดาะเคราะห์หรือบูชานพเคราะห์ทั้งเก้า

    ของใช้ในพิธีจะมีการเตรียม "สะตวงเครื่องสะเดาะเคราะห์ 9 สะตวง" (กะบะ) เพื่อบูชา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ ราหู และดาวเกตุ มีความหมายถึงการบูชาเทวดาที่ประจำดวงดาวแต่ละดวง โดยในแต่ละสะตวงจะมีเทียนปักอยู่จำนวนตามกำลังของเทวดาประจำดาวนพเคราะห์แต่ละดวง เช่น อาทิตย์ มีกำลัง 6, พระจันทร์ มีกำลัง 15, อังคาร 8, พุธ 17, พฤหัส 19, ศุกร์ 21, เสาร์ 10, ราหู 12


    [​IMG]

    เครื่องบูชาหลากหลายชนิดในแต่ละสะตวงได้แก่ หมากพลู เมี่ยง บุหรี่ ข้าวเหนียว กล้วย อ้อย ผลไม้ ของคาวหวาน ซึ่งตระเตรียมประดิดประดอยอย่างสวยงาม มีธงสีประดับตามวันเกิด และมีรูปสัตว์ต่าง ๆ อยู่ในแต่ละสะตวงด้วย เช่น รูปเสือ รูปวัว รูปแมว รูปหนู รูปนาค รูปช้าง รูปราชสีห์

    เครื่องบูชาในสะดวงนี้ตั้งบนตั่งสูงพอประมาณ ด้านล่างเป็นช่องว่างสำหรับใส่เสื้อได้ สำหรับคนที่ไม่สามารถเดินทางมาทำพิธีได้ ก็นำเสื้อไปใส่ไว้ใต้สะตวงประจำวันเกิด ถ้าใครไม่ทราบวันเกิดแน่นอนก็ใช้สะดวงวันเกตุได้


    [​IMG]

    สะตวงทั้ง 9 จะพันด้วยสายสิญจน์ซึ่งจะโยงไปรอบ ๆ ในพิธี สายสิญจน์อีกด้านนำมาให้พวกเราถือไว้ขณะพระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์

    พิธีการสืบชะตาแบบล้านนาโบราณ

    ของในพิธีจะมี "สะตวงสืบชะตา" คล้าย ๆ กับสะตวงสะเดาะเคราะห์ข้างต้น แต่ขนาดจะใหญ่กว่าค่ะ


    [​IMG]

    นอกจากนี้ยังมีการเตรียม "ซุ้มกระโจมแบบสามขา" ใช้ไม้ค้ำ คติก็คือ เพื่อให้เป็นสิ่งค้ำจุนชีวิตให้มีความเจริญรุ่งเรืองมีอายุยืนยาวเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ใกล้จะล้ม หากมีไม้มาค้ำไว้ก็จะทำให้เจริญงอกงามต่อไป เหมือนชีวิตคนเราที่ได้รับการค้ำชูย่อมจะมีความสุขความเจริญต่อไป

    [​IMG]


    ตรงกลางเป็นที่ว่างสำหรับวางสะตวงและจัดให้เป็นที่นั่งสำหรับผู้เข้าไปรับการสืบชะตา แล้ววนด้านสายสิญจน์ 3 รอบ โยงกับเสากระโจมทั้งสามขา แล้วนำไปพันรอบพระพุทธรูป และพระที่สวดทำพิธี ขณะสวดก็จะนำด้ายสายสิญจน์ที่แขวนลงมาจากกระโจมมาเวียนรอบศรีษะ

    [​IMG]


    ตรงปลายของฐานไม้ค้ำแต่ละขาจะวาง กล้วย อ้อย มะพร้าว ฟักทอง ซึ่งหมายความว่า คนที่ได้รับการสืบชะตาจะมีชีวิตที่เหมือนกับได้เกิดใหม่แล้วจะมีความหอมหวาน มีความเจริญงอกงาม เหมือนต้นกล้วย ต้นอ้อย ต้นมะพร้าวที่พร้อมจะเจริญเติบโตต่อไป




    [​IMG]



    เทียนที่ใช้ในพิธี เรียกว่า "เทียนชะตา" ลักษณะไม่เหมือนเทียนทั่วไป โดยนำขี้ผึ้งมามวนเป็นเทียน ด้านในใส่ยันต์ดวงของเจ้าชะตา ทั้งวันเดือนปีเกิด พร้อมชื่อนามสกุล ของเจ้าชะตา แต่ละเล่มจะมีชื่อซึ่งจะให้เจ้าชะตามาจุดด้วยตัวเองค่ะ




    นอกจากนี้ก็จะมีพานข้าวตอก ดอกไม้ เครื่องบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์


    [​IMG]

    ขั้นตอนการประกอบพิธี

    เมื่อเริ่มพิธีตั้งเครื่องบูชาแล้ว ก็จะทำกราบบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเทียนชะตาของแต่ละคน ถวายพานบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    ก่อนเริ่มเจริญพระพุทธมนต์ ก็จะมีการประเคนบาตรน้ำมนต์ ขันสืบชะตา ให้พระภิกษุที่เป็นประธานสงฆ์ ท่านจะยกขันตั้งขึ้น กล่าวคาถาอันเป็นมงคล ตามสมควร

    เริ่มการสวดบูชานพเคราะห์ ทำพิธีอัญเชิญเทวดาก่อน และมัคทายกอาราธนาพระปริตรก่อน จากนั้นมัคทายกจะกล่าวคำอวยพรนำแก่ผู้เข้าร่วมพิธีตามแต่ละรายชื่อ-สกุล แล้วจึงเริ่ม ประกาศคำบูชาพระอาทิตย์ จากนั้น พระสงฆ์ก็เริ่มสวด บทประจำพระอาทิตย์ ปูเรนฺตมฺโพธิสมฺภาเร... ขณะพระสงฆ์สวดนั้น มัคทายกก็จะจุดเทียนบูชาที่ปักไว้ในสะตวง ตามจำนวนกำลังของพระอาทิตย์ 6 เล่ม

    เสร็จแล้วมัคทายกประกาศคำบูชาพระเคราะห์ไล่ไปแต่วัน ๆ พระสงฆ์สวดบทบูชาพระเคราะห์แต่ละดวง และทยอยจุดเทียนบูชานพเคราะห์ตามกำลังแต่ละดวง ทำเช่นนี้ไปเรื่อย จนครบทั้ง 9 สะตวงใช้เวลาประมาณราวชั่วโมง ดังนี้


    พระอาทิตย์ สวดบทบูชาปูเรนฺตมฺโพธิสมฺภาเร...สวด โมรปริตต์ อุเทตยญฺจกขุมา...
    พระจันทร์ สวดบทบูชา ปุฺลาภ มหาเตช...สวด อภยปริตต์ ยนฺทุนฺนิมิตฺต...
    พระอังคาร สวดบทบูชายสฺสานุภาวโต ยกฺขา...สวด กรณียเมตตสูตร กรณียมตฺถกุสเลน...
    พระพุธ สวด สพฺพาสีวิสชาตีน...สวด ขันธปริตต์ วิรูปกฺเขหิ...
    พระเสาร์ สวด ปริตฺต ยมฺภณนฺตสฺส... สวด อังคุลิมาลปริตต์ ยโตห ภคินิ...
    พระพฤหัสบดี สวดบท ปณิธานโต ปฏฺาย...สวด รตนสตร ยานีธ ภูตานิ...
    พระราหู สวด อปฺปสนฺเนหิ นาถสฺส...สวด อาฏานาฏิยปริตต์ วิปสฺสิสฺส นมตฺถุ...
    พระศุกร์ สวด ยสฺสนุสฺสรเณนาปิ...สวด ธชัคคสูตร เอวมฺเม สุต...
    และสำหรับพระเกตุ สวด ชย เทวมนุสสาน...สวด ชยปริตต์ มหาการุณิโก...


    เมื่อครบแล้วเราก็จะออกไปยืนประจำตำแหน่งของสะตวงตามวันที่เกิด เช่นเกิดวันจันทร์ก็ยืนที่สะตวงของวันจันทร์ แล้วยื่นมาทั้งสองออกไปเพื่อให้มีการประพรมน้ำมนต์จากมือของเจ้าชะตาให้ไหลไปสู่เครื่องบูชาในสะตวง เป็นอันเสร็จพิธีบูชานพเคราะห์
    ต่อจากนั้นจึงเริ่มพิธีสืบชะตา

    ในขณะพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ให้เอาด้ายสายสิญจน์ที่โยงไปสู่ยอดกระโจมและดึงไปหาบาตรน้ำมนต์หน้าพระพุทธรูป นั้นมาเวียนไว้รอบศรีษะ ใช้เวลาในการสวดบทต่าง ๆ และบทสืบชะตา ใช้เวลาอีกประมาณราวหนึ่งชั่วโมง

    เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ก็จะนำเอาด้ายสายสิญจน์มงคลนั้นมาผูกข้อมือให้กับทุกคนในพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล

    หลังจากนั้นก็ถวายจตุปัจจัยเครื่องไทยธรรมแก่พระสงฆ์ทั้ง 9 รูป พระสงฆ์กล่าวอนุโมทนาให้พร

    เสร็จพิธีทั้งสองประมาณ 10.30 น. พวกเราก็ได้จัดถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ต่อไป เป็นอันเสร็จพิธี ส่วนเครื่องใช้ในพิธีบูชาทั้งหมด ก็ถวายไว้ ณ วัดเชียงมั่นไปเลย


    ได้มาร่วมพิธีงานดังกล่าวแล้วก็รู้สึกแปลกไปอีกแบบน่ะค่ะ เพราะเป็นพิธีที่ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร แต่ก็รู้สึกว่าเป็นภูมิปัญญาโบราณที่น่าเรียนรู้ไว้จริง ๆ ยิ่งเห็นความประณีตของสะตวงแต่ละสะตวงแล้วต้องยอมรับว่าทึ่งค่ะ คงมีขั้นตอนการจัดเตรียมที่จุกจิกน่าดู สำหรับเราแล้วการเขียนบทความเรื่องนี้นอกจากจะเป็นการบันทึกประสบการณ์การทำบุญอายุแล้ว ก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ช่วยส่งเสริม อนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านพิธีกรรมล้านนาไว้บ้างนะค่ะ หากข้อมูลหรือความเข้าใจในส่วนใดผิดพลาด หรือขาดตกบกพร่องอะไรไป ก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ เพราะเราเขียนจากประสบการณ์ที่ได้เจอมาเองในระหว่างทำพิธีค่ะ

    สุดท้ายอันนี้เป็น "เทียนชะตา" ที่หลวงพี่ที่วัดหนึ่งที่เชียงใหม่ให้นำมาจุดที่บ้าน หน้าหิ้งพระ หลังจาก สวดมนต์ไหว้พระแล้วค่ะ ในขั้นตอนการจุด ต้องเลือกจากเวลาเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งหลวงพี่ท่านก็กำหนดวันมาให้เรียบร้อย จุดแล้วสังเกตุไหมค่ะ ว่าแสงเทียนจะสว่างโชติช่วงมากกว่าเทียนธรรมดา เพราะด้านในไส้เทียนมีกระดาษเขียนยันต์ม้วนไว้ด้านในกับไส้เทียนด้วยค่ะ

    [​IMG]


    จบพีธีทำบุญอายุแต่เพียงเท่านี้นะค่ะ


    บทความแสดงเพื่อความเข้าใจในพิธีกรรมยืมมาจากเว็ปBloggang.com : weblog for you and your gang

    [​IMG]
    พระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบ เชิญมากรบใหว้เพื่อเสริมสิริมงคลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...