เนกขัมมะเป็นกำลังสำคัญในการหลุดพ้นจากวังวน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 4 สิงหาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : เนกขัมมะนี่เป็นกำลังใหญ่มั้ยครับ ?

    ตอบ : สำคัญมากเลย เพราะว่าถ้าหากว่าตราบใดที่จิตของเรายังผูกพันกับกามฉันทะนี่โอกาสจะหลุดพ้นมันยาก มันเป็นวังวนใหญ่ที่จะดึงดูดเราให้หลุดพ้นได้ยากที่สุด พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ชัดเลยว่า เรื่องของการเสพกามอย่างหนึ่ง เรื่องของการอยู่ในอำนาจอย่างหนึ่ง เรื่องของการนอนอย่างหนึ่ง เรื่องของการกินอย่างหนึ่ง ทำอย่างไรคนก็ไม่เบื่อ เดี๋ยวมันก็หวนกลับไปอีกอยากอีก มีอีกเป็นอีก

    หลักการของต่างๆ ของมันฟังดูดีอยู่นะ เคยได้ยินมั้ย ๕ ม. ของมันน่ะมี มังสะกินเนื้อ มัทนะกินเหล้า มันตรามีการท่องมนต์ มุทรามีการร่ายรำ เมถุนมีการเสพกาม เขาบอกว่าถ้าหากว่าทำจนถึงที่สุดมันจะเบื่อไปเอง เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่บุคคลที่เห็นภัยในวัฏฏะสงสารจริงๆ จะไม่มีวันที่จะปลีกตัวออกจากกาม มีแต่จะขลุกอยู่กับมัน

    ถาม : ยกเว้นว่าต้องมีของเก่าช่วยจริงๆ ถึงจะออกมาได้ ?

    ตอบ : ไม่งั้นรอดยาก ตำราของตันตระเขาบัญญัติขึ้นมาเลย แต่ว่าจะทำอย่างไรก็บรรลุไม่ได้ แต่ว่าคนมันชอบ ในเมื่อเป็นสิ่งที่คนชอบมันก็เอา ถึงเวลาก็สมัครเป็นลูกศิษย์กันเป็นแถว

    ถาม : กิเลสมันก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ ?

    ตอบ : ก็คนกินเหล้าจะหลุดพ้นได้อย่างไร สติสัมปชัญญะมันไม่มี โอกาสของมันมีอยู่อย่างเดียว ตัวมันตราการท่องบ่นภาวนา ทีนี้พอมันเลิกท่องบ่นภาวนาไปขลุึกอยู่กับ ๔ ตัวมันก็เจ๊งแล้ว ก็ยังดีมันมีความดีขึ้นมาเป็นพักๆ

    ถาม : แล้วอย่างท่องบ่นภาวนานี่ ยิ่งท่องมันก็ยิ่งคล่องมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ?

    ตอบ : ตัวสมาธิมันมีนะ เมื่อสมาธิทรงตัวขึ้น ปัญญามันก็มี กูไม่น่าจะต้องมาเหนื่อยอยู่อย่างนี้เลย มันน่าจะมีวิธีที่ง่ายกว่านี้

    ถาม : จริงๆ กามก็มีประโยชน์เหมือนกันใช่มั้ยครับ ?

    ตอบ : มีอยู่ ทุกอย่างถ้ามันพอดีมีประโยชน์ แต่คนเรามันไม่ค่อยพอดีหรอก มันไม่ขาดก็เกิน

    ถาม : อย่างบางครั้งเราต้องอาศัยเสียงเพลงเพื่อคลายเครียดบ้าง อะไรบ้าง ?

    ตอบ : ใช่ แต่คราวนี้มันก็ต้องระวังสุดขีด เผลอไม่ได้เผลอเมื่อไหร่ก็จะไหลตามเพลง อาตมาโดนถีบลงน้ำทั้งๆ ที่เป็นพระก็เพราะไหลตามเพลง

    เข้าไปที่เมืองลับแล เข้าไปใหม่ๆ ก็ไม่ีมั่นใจว่าจะมีอันตรายหรือเปล่า ใจมันทรงตัวเป๊ะเลย อยู่นั่นตลอด ๕ วันไม่มีคลายเลยแม้แต่นิดเดียว ทีนี้ตอนเดินทางกลับพอผ่านป่าใหญ่มาถึงจุดๆ หนึ่งจำได้ว่า หลังจากตรงนี้ไปไม่นานจะมีหมู่บ้าน ใจมันก็คลาย สบายใจแล้วอีกนิดหนึ่งก็จะถึงบ้านคนยังไงรอดแน่ มันแทนที่จะภาวนามันก็ดูฟ้าดูดินเห็นบรรยากาศใจก็ไหลเป็นเพลงตามที่เคยได้ยินมา ไม่รู้ใครเมตตาถีบโครมเดียวหัวทิ่มลงห้วยไปเลย หน้าหนาวด้วยเปียกหัวถึงตีนเลย สั่นแหง็กๆ สมน้ำหน้า

    ถาม : อย่างนี้ก็เลยไม่แน่ใจว่าดีมั้ย ถ้าเผลอไหลไปตามเพลงนี่ช่วยได้มั้ย ?

    ตอบ : ก็มีการผ่อนสั้นผ่อนยาวไง ลักษณะของพระมีการเปลี่ยนอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน เอาท่าเดียวนานๆ ไม่ไหวร่างกายมันแย่ ถึงเวลาก็ไปเดินดูฟ้าดูดินบ้าง แทนที่เราจะไปประเภทนั่งภาวนาอย่างเดียว อาจจะไปรดน้ำต้นไม้บ้าง อาจจะไปกวาดลานวัดบ้าง จับอริยาบถต่อไป พอถึงเวลามันคลายขึ้นมาบ้าง หายเครียดก็ไปนั่งภาวนาของเราต่อ เดินจงกรมของเราต่อ





    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...