เป็นนักกฏิบัติแต่ทำไมจิตคิดอกุศล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nanakorn, 4 มีนาคม 2009.

  1. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    เรียน ทุกท่าน
    ดูจิตแต่คิดอกุศล มันคิดไปเองนะคะ ไม่สามารถควบคุมได้ ทำไมต้องสร้่างวัดใหญ่ ๆ
    ทำไมต้องสร้างพระพุืทธรูปให้ผู้คนบูชาแพง ๆ ทำไมต้องแข่งกันสร้างอะไรที่ใหญ่กว่าคนอื่น หรือบางทีคิดลามกก็มี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจคิดจู่มันก็แวปมา กลัวบาปเหมือนกัน มันไม่ใช่ความคิด เหมือนอุปทานอกุศลน่่ะค่ะ
     
  2. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +38,356
    แล้วท่านคิดว่าจิตของท่านเป็นของใคร
    ของเราหรือไม่ ลองถามมันดูก็จะรู้คำตอบ
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ถูกต้ิองแล้วครับ มันติดที่อุปาทาน
    มันมีอยู่ 4 ประการดังนี้

    อุปาทาน 4กามุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นในกาม
    ทิฏฐุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นด้วยทิฏฐิ
    สีลัพพตุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นด้วยศีลวัตร
    อัตตวาทุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นวาทะว่าตน

    จิตมันติดอยู่ที่ก็ลองพิจารณาและกำหนดรู้เสีย ถ้ามันติดที่คิดแล้วกลับมาทุกข์
    ก็กำหนดรู้มันเสีย "ตัวกูมันเยอะหนักหนา" ถ้ามันไม่ใช่กู กูก็ไม่ทุก
    อย่างกับสิวนะพวกนี้น่ะ ..
    สิวมันขึ้นที่หน้า มันเจ็บปวด อับอาย เพราะมันอยู่บนหน้ากู
    ลองพิจารณาสิว่า ถ้ามันไปเกิดที่หน้าคนอื่นเราจะยังทุกข์ไม๋หนอ..

    ลองนำไปไตรตรองพิจารณาดูครับ
     
  4. SaveMax

    SaveMax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +578
    มีสติระลึกรู้ว่าจิตมันคิด ก็ดีแล้ว
     
  5. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437

    ใช่เลยครับ แบบข้อความที่ว่านี่ แหละครับ ตามหัวข้อกระทู้ที่ว่า

    " เป็นนักปฏิบัติแต่ทำไมจิตคิดอกุศล "

    ก้อเพราะยังเป็นนักปฏิบัติ งัยครับ ใช่เป็นอเสขะบุคคล ซะเมื่อไร

    แต่ที่ท่านรู้น่ะดีแล้วครับ ดีกว่าไม่รุ้อะไรเลย ปล่อยให้มันเลยตามเลย

    แต่เมื่อรู้สึกตัวแล้ว ก้อดึงมันกลับมาครับ เอามาผูกไว้ที่หลัก

    ( คือองค์ภาวนา ) เป็นเรื่องปกติครับ ที่จิต จะถูกปรุงแต่ง ไปต่าง ๆ นานา

    ตามที่ ทวาร ทั้ง 5 จะรับเข้ามา แต่เราเมื่อรู้ตัวว่าเป็นนักปฏิบัติ

    ก้อหมั่นครับ หมั่นกำหนดรู้ ตามดูมันไป ที่ผ่านมาแล้วกำหนดไม่ทัน ก้อช่าง

    มันครับ ไม่ต้องไปย้อนถึงมัน ตามดูรู้ให้เท่าทัน ปัจจุบันก้อพอ หมั่นทำ

    เรื่อย ๆ เด่ว จิต ก้อ มั่นคง เองแหละครับ

    อนุโมทนา สาธุการครับ

    กระผมยังเป็นผู้ฝึกตน

    เมตตาวิหารี
     
  6. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937

    ให้ดูลงไปว่า จิตมันคิดของมันเอง ไม่ใช่เราคิด
    พอมันคิดเมื่อไร ลองสังเกตดูครับ ว่ามันคิดของมันเอง
    ดูไปดูมาจะรู้ได้ว่าจิตไม่ใช่เรา
    จิตมันคิดของมันเอง มันก็บาป ไม่ใช่เราบาป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2009
  7. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    จิตคิดอกุศล ก็เอาสติตะครุบ จับไว้ครับ
    จิตยังคิดอีก ก็เอาสติจับอีก สติไวๆหน่อย
    ทำบ่อยๆจิตก็นิ่งเอง
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอแสดงอีกสำนวนนะ ท่านๆอื่นๆ หลายคนก็สรุปได้แจ่มทีเดียว แต่ขออนุญาติ ร่ายยาว

    ไม่ต้องไปจับ ไม่ต้องไปตะครุบ

    อย่าไปเติมสงสัย อย่าไปเติมการรู้ แค่รู้สึก รู้สึก ตรงนั้นพอดีแล้ว

    ให้มองเห็น เหมือนกิเลสจรมา เป็น แขก ที่เดินผ่านหน้าบ้านไปเฉยๆ

    กิเลส มันไม่ใช่เรา มันเป็นแขกที่จรมา

    มันมาเอง แต่ก็มีเหตุปัจจัย

    อยากทราบถึงเหตุปัจจัย ต้องไม่เติมการรู้ หากไปเติมรู้ ก็จะเผลอคิด

    พอเผลอคิด ก็จะตกจากวิปัสสนาญาณ ทันที ก็เท่ากับ ภาวนาผิดเป้า

    ถ้าไม่เติมการรู้ เดี๋ยวก็รู้เองว่า เหตุปัจจัยมาจากอะไร

    เคยได้ยินไหม อวิชชา เป็น ปัจจัย ของสังขาร

    แต่ยังไม่เห็นอะไรแบบนั้นหรอกนะ จะเห็นแรกๆ ก็แค่ อัตวาทุปาทาน
    หรือ อุปทานในการมีตัวตน ก็ ความรักดีไง เห็นกิเลสปุ๊ปรักตัวเอง
    ขึ้นมา เมื่อก่อนเคยคิดเอาไว้ว่า เป็นคนดีไม่มีกิเลส แต่พอภาวนาปุ๊ป
    น้ำมันก็ใส ก็แจ่มแจ้งขึ้นมา ตอนนี้ก็จะเกิดการครองภพคนดี ก็จะคิด
    แก้ ทั้งๆที่ไม่จำเป็น เพราะมันเกิดในมโนทวาร ไม่ได้ล้นออกมาทาง
    วาจา ทางกาย แบบนี้ยังถือเป็นกรรมอ่อนๆ หากเราภาวนาไปเรื่อยๆ
    จนไม่แทรกแซงการเห็น ไม่เติมการเห็น และไม่รักชั่วปรุงดี ก็จะเห็น
    กิเลสมันเดินผ่านไปเฉยๆ โดยที่จิตที่เป็นผู้ดู ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปจับมัน
    เลยแม้แต่น้อย

    พอเห็นแบบนี้ก็จะเข้าใจ ขันธ์5 ตามความเป็นจริง มันทำงานได้เอง
    แต่ละกองทำงานได้เอง ทำแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผู้ดู ผู้ดูหากตั้ง
    มั่นอยู่ที่รู้ ก็จะเป็นกลางด้วยปัญญา

    แต่ผู้ดู นี่ก็ไม่เที่ยง เราอย่าไปทำให้เที่ยง ก็ดูเขาไม่เที่ยงไปด้วย เดี่ยว
    ก็ตั้งมั่นได้ เดี๋ยวก็กระโดดไปกับกิเลส กิเลสลากไปแล้ว ก็ต้องสำรวม
    ไว้ให้ดี อย่าให้ผิดศีลมากถึงขั้นไปทำร้ายใคร เราก็จะภาวนาแบบนี้
    ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแจ่มแจ้งอริยสัจจแห่งจิต ที่มีธรรมชาติส่งออกนอก

    พอเข้าใจพฤตติจิตแจ่มแจ้ง เห็นทุกขสัจจตามความเป็นจริงแบบนี้แหละ จะเกิดวิราคะธาตุ
    ตอนนี้เป็น ตรุณวิปัสสนา ก็จะกลัวสังขารธรรมขึ้นมา เรียกว่า ภยตูปัฏฐานญาณ เห็นสังขาร
    ธรรมเป็นของน่ากลัว ก็ให้ดูความกลัวนั้นก็เป็นสังขารธรรมอีกชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่
    ดับไป เป็นแขกที่จรมา คล้ายๆกัน ดูไปในแบบเดียวกัน ตลอดสายการปฏิบัติครับ

    หลังจากนั้น ก็ภาวนาแบบนี้ไปเรื่อยๆ หากมันติดวนอกุศลจิตส่วนไหน
    ก็แยบคาย พิจารณา สัมมัปปธาน เอ....ไม่แม่นซะแล้ว คำบาลี รบ
    กวนจขกท ทบทวนเรื่อง โพธิปักขยิธรรม นะครับ จะเข้าใจธรรมะ
    ของพระพุทธองค์ลึกซึ้งขึ้น จะกำซาบใจได้มากขึ้น อันนี้จะถือว่า
    แอบหยิบบารมีที่พระพุทธองค์ได้สร้างไว้ โดยไม่ต้องไปเห็นแบบ
    เป็นรูปเป็นร่างอะไร เราใช้ ใจ ที่เป็นประธานรับเอาตรงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2009
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    อรหันตผล

    จิตเป็นของห้ามได้ยาก
    มักไหลไปในทางต่ำเสมอ

    มีสติระวังความคิด
    ทางโคจรของกุศล
    กับทางอโคจรของ
    อกุศลก็ไม่เกิด
    วันทั้งวันฉันไม่ทำบุญไม่ทำบาป
    เพราะฉันไม่คิดเป็นบุญเป็นบาป
     
  10. สัตบุรุษ

    สัตบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +840
    ความสงสัยลังเลนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อความคิดอกุศลบังเกิดแก่จิตขึ้นแล้ว ก็ดับจิตความคิดอกุศลนั้นเสีย

    มันไม่ได้สำคัญที่ตอนเกิด แต่มันสำคัญที่ตอนดับ ดับได้เร็วหรือช้านั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะว่า จิตมีนิวรณ์ธรรมอยู่ครับ การรักษาในระยะใกล้ก็คือ เลิกสนใจในการคิดนั้น มันจะคิดก็ช่างมัน ก็เรียกว่า ไม่ไปเพิ่มอุปาทาน
    หรือ อาจจะฝืนมัน เมื่อมันคิดก็อาจจะฝืน ไปคิดอย่างอื่น เมื่อความคิดนั้นอ่อนกำลังลงแล้วก็ค่อยพิจารณาวางเฉย แม้บางทีมันจะนึกคิดมาบ้าง

    การรักษาในระยะยาว ก็ต้องฝึกไม่ให้อกุศล แตกออกไปทางนั้น ด้วยการหมั่นฝืน ละ ทำจิตให้เป็นสมาธิ อย่าปรุงไป และ ที่สำคัญที่สุด คือ เข้าใจธรรมชาติว่า เช่นนั้นเอง ต้องพิจารณาตรงนี้ให้ใจมันยอมรับนะ
     
  12. สติรู้

    สติรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +47
    ใครว่าจิตคิดอกุศลไม่เป็นละ แล้วใครว่าจิตคิดกุศลอย่างเดียวละ
    จิตคิดกุศลมากๆ>>สุขติภพ
    จิตคิดอกุศลมากๆ>>ทุกขติภพ
    รักจิตกุศล เกลียดจิตอกุศลจัง....??
    ยุติธรรมหน่อยซิ....???
    ใจเป็นกลาง ๆ ไว้นะ....?(อย่ารัก...อย่าเกลียด)

    ไม่ใช่วิสัยที่จะไปควบคุมมันได้......???
    ธรรมชาติฤดู...หนาว...ร้อน....ฝน....ไม่ใช่วิสัยที่....จะควบคุมได้ฉันใด....
    ธรรมชาติของจิต.....ก็ไม่ใช่วิสัยที่ท่านจะควบคุมได้ฉันนั้น....

    สาธุ สาธุ สาธุ....
     
  13. สงบสงัด

    สงบสงัด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ปล่อยมันไป แค่รู้ว่าเราคิด ก็อย่าไปคิดให้มันมาก ปล่อยไป คนเรามันก็คดไปเรื่อยนั้นแหละ มีเกิดก็ต้องมีดับ มีคิดก็ต้องมีหยุด
     
  14. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    เคยเกิดขึ้นกับตัวเองบ่อยเหมือนกันค่ะ มันคอยจะแว๊บเข้ามาอยู่เรื่อย บางครั้งเหมือนมาพูดซ้ำ ๆ อยู่ในหัว (เหมือนเป็นมารมาผจญหรืออย่างไรไม่ทราบได้) บางครั้งก็กลัวบาปค่ะ พยายามกำหนดจิตด้วยค่ะ แต่ก็มักจะเกิดเป็นเสียงมากระทบ บางทีก็มีภาพแว๊บเข้ามา บางครั้งก็คิดไปว่า เราหนอท่าจะเสียจริตซะแล้วมั้ง หลัง ๆ มาก็พยายามนั่งสมาธิให้เกิดสติ เกิดปัญญาเข้าควบคุมบ้าง ก็น้อยลงค่ะ (สงสัยว่าคงจะมีกรรมมากค่ะ เลยกลัวว่าอาจจะฟุ้งซ่านได้) เป็นกำลังใจให้กับ จขกท. นะคะ
     
  15. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    โมทนากับทุกท่านด้วยครับ

    ตามที่หลายๆท่านแนะนำไปดีแล้ว
     
  16. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50

    อ่านแล้วขนลุกเลยอ่ะ อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ *-*

    ใช้สติตามรู้ ตามดู แล้วปล่อยวาง ธรรมชาติของจิต...เป็นเช่นนั้นเอง
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

    อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ


    <!--emo&:02:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo-->


    "พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
    "เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
    "พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
    "เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

    <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]
    <!--endemo-->
    <!--emo&:16:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:12:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:10:-->[​IMG]

    <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]

    <!--endemo-->
    ;aa10<!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. ทิภาภรณ์

    ทิภาภรณ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าทราบเป้าหมายที่แท้จริงของการสร้างก็อาจจะหายคิดอกุศลได้นะคะ ถ้าไม่เลิกคิดจะทำให้ผังคิดอกุศลติดไปยังภพต่อไปได้นะคะ
     
  19. พระอนิจจัง

    พระอนิจจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +294
    จิตมีหน้าที่คิดอ่านอารมณ์ บันทึกอารมณ์ได้เหมือนเทปบันทึกเสียง ตั้งสติกำหนดรู้ไว้

    พอสมาธิดี ปัญญาก็เกิด ทุกอย่างมันก็เพียงเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
     
  20. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,172
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    กิเลส ตัณหา อวิชชา ฯลฯ ไม่ว่าจะชื่อใด

    อันเป็นอกุศล ย่อมมีแก่ทุกชีวิตที่ยังไม่พ้นจากวัฏฏะสงสาร

    ไม่ว่าในเพศใด นุ่งห่มแบบใด อายุเท่าใด หรือ สังคมสรวมบทอะไรให้กับเรา

    แม้แต่หัวโขนที่เรียกว่า "นักปฏิบัติ " ก็ไม่ได้วิเศษอะไรหรอก เพราะ ถ้ายังหาความจริงภายนอก ที่ไม่ใช่ การเห็นธรรมชาติของจิต




    .....ดีออก ...ที่ปฏิบัติธรรม ได้เห็นธรรมชาติตามความเป็นจริงของจิต และ

    สิ่งปรุงแต่งจิต ว่า มันเป็นอย่างนี้ ....คิดดี คิดชั่ว ...สุดท้ายก็มีค่าไม่ต่างกัน

    แม้ตอนแรกยังต้องอาศัยกุศลจิต มาเป็นกำลังก่อน....

    ... เมื่อใดก็ตาม ที่ได้เห็นแจ่มแจ้งว่า จิตนั้น

    มีธรรมชาติคิดนึก ท่องไปไกล อาศัยถ้ำ( เครื่องอยู่เช่น กาย , รูปธาตุต่างๆ ฯลฯ )

    มีเครื่องปรุงแต่งบ้าง ปรุงแต่งตัวเองบ้าง


    ....มาถูกทางแล้วครับ...




    โมทนา กับ แสงสว่าง จากกระทู้นี้ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...