เรื่องราว

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 12 เมษายน 2011.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ไม่มีอะไรในชีวิตที่จะประเสริฐเท่ากับการรู้ความจริงของสิ่งทั้งปวง
    เพราะเหตุว่าไม่ใช่การหลอกลวง ไม่ใช่การเข้าใจผิด ไม่ใช่ความเห็นผิด
    แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรู้ความจริงของสิ่งทั้งปวง(สัจจธรรม) เพราะว่า
    จะต้องเป็นผู้ที่ตรงจริง ๆ.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำลัง ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ
    กำลัง คือ ปัญญา ๑ กำลัง คือ ความเพียร ๑ กำลัง คือ การงานอันไม่มี
    โทษ ๑ กำลัง คือ การสงเคราะห์ ๑ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กำลัง คือ ปัญญาเป็นไฉน ธรรมเหล่าใดเป็น
    กุศล นับว่าเป็นกุศล ธรรมเหล่าใดเป็นอกุศล นับว่าเป็นอกุศล ธรรมเหล่าใด
    มีโทษ นับว่ามีโทษ ธรรมเหล่าใดไม่มีโทษ นับว่าไม่มีโทษ ธรรมเหล่าใดดำ
    นับว่าดำ ธรรมเหล่าใดขาว นับว่าขาว ธรรมเหล่าใดไม่ควรเสพ นับว่าไม่ควร
    เสพ ธรรมเหล่าใดควรเสพ นับว่าควรเสพ ธรรมเหล่าใดไม่สามารถทำความ
    เป็นพระอริยะ นับว่าไม่สามารถทำความเป็นอริยะ ธรรมเหล่าใดสามารถทำความ
    เป็นพระอริยะ นับว่าสามารถทำความเป็นพระอริยะ ธรรมเหล่านั้นเป็นธรรม
    อันบุคคลเห็นแจ้ง ประพฤติได้ด้วยปัญญา นี้เรียกว่ากำลัง คือ ปัญญา ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กำลัง คือ ความเพียรเป็นไฉน ธรรมเหล่าใด
    เป็นอกุศล นับว่าเป็นอกุศล ธรรมเหล่าใดมีโทษ นับว่ามีโทษ ธรรมเหล่าใดดำ
    นับว่าดำ ธรรมเหล่าใดไม่ควรเสพ นับว่าไม่ควรเสพ ธรรมเหล่าใดไม่สามารถ
    ทำความเป็นพระอริยะ นับว่าไม่สามารถทำความเป็นพระอริยะ บุคคลยังฉันทะ
    ให้เกิด พยายามปรารภความเพียร ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อละธรรมเหล่านั้น
    ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล นับว่าเป็นกุศล ธรรมเหล่าใดไม่มีโทษ นับว่าไม่มีโทษ
    ธรรมเหล่าใดขาว นับว่าขาว ธรรมเหล่าใดควรเสพ นับว่าควรเสพ ธรรม
    เหล่าใดสามารถทำความเป็นพระอริยะ นับว่าสามารถทำความเป็นพระอริยะ บุคคล
    ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อ
    ได้ธรรมเหล่านั้น นี้เรียกว่ากำลัง คือ ความเพียร ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กำลัง คือ การงานอันไม่มีโทษเป็นไฉน อริยสาวก
    ในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันหาโทษ
    มิได้ นี้เรียกว่ากำลัง คือ การงานอันไม่มีโทษ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กำลัง คือ การสงเคราะห์เป็นไฉน สังคหวัตถุ ๔
    ประการนี้ คือ ทาน ๑ เปยยวัชชะ ๑ อัตถจริยา ๑ สมานัตตตา ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทานเลิศกว่าทานทั้งหลายการแสดงธรรมบ่อยๆ แก่บุคคลผู้
    ต้องการ ผู้เงี่ยโสตลงสดับ นี้เลิศกว่าการพูดถ้อยคำอันเป็นที่รัก การชักชวนคน
    ผู้ไม่มีศรัทธาให้ตั้งมั่นดำรงอยู่ในศรัทธาสัมปทา ชักชวนผู้ทุศีลให้ตั้งมั่นดำรงอยู่
    ในศีลสัมปทา ชักชวนผู้ตระหนี่ให้ตั้งมั่นดำรงอยู่ในจาคสัมปทา ชักชวนผู้มี
    ปัญญาทรามให้ตั้งมั่นดำรงอยู่ในปัญญาสัมปทา นี้เลิศกว่าการประพฤติประโยชน์
    ทั้งหลาย
    พระโสดาบันมีตนเสมอกับพระโสดาบัน พระสกทาคามีมีตนเสมอกับ
    พระสกทาคามี พระอนาคามีมีตนเสมอกับพระอนาคามี พระอรหันต์มีตนเสมอกับ
    พระอรหันต์ นี้เลิศกว่าความมีตนเสมอทั้งหลาย นี้เรียกว่ากำลัง คือ การ
    สงเคราะห์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำลัง ๔ ประการนี้แล ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ประกอบด้วยกำลัง ๔ ประการนี้แล ย่อม
    ก้าวล่วงภัย ๕ ประการ ภัย ๕ ประการเป็นไฉน คือ อาชีวิตภัย ๑ อสิโลกภัย ๑
    ปริสสารัชภัย ๑ มรณภัย ๑ ทุคติภัย ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกนั้นแล
    พิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราไม่กลัวต่อภัยอันเนื่องด้วยชีวิต ไฉนเราจักกลัวต่อภัยอัน
    เนื่องด้วยชีวิตเล่า เรามีกำลัง ๔ ประการ คือ กำลังปัญญา กำลังความเพียร
    กำลังการงานอันไม่มีโทษ กำลังการสงเคราะห์ คนที่มีปัญญาทรามแล จึงกลัว
    ต่อภัยอันเนื่องด้วยชีวิต คนเกียจคร้านจึงกลัวต่อภัยอันเนื่องด้วยชีวิต คือ กลัว
    ต่อภัยอันเนื่องด้วยชีวิตเพราะการงานทางกาย ทางวาจาและทางใจที่มีโทษ คนที่
    ไม่สงเคราะห์ใครก็กลัวต่อภัยอันเนื่องด้วยชีวิต เราไม่กลัวต่อภัย คือ การ
    ติเตียน ฯลฯ เราไม่กลัวต่อภัยคือการสะทกสะท้านในบริษัท ... เราไม่กลัวต่อภัย
    คือความตาย ... เราไม่กลัวต่อภัยคือทุคติ ไฉนเราจักกลัวต่อภัย คือ ทุคติเล่า
    เพราะเรามีกำลัง ๔ ประการ คือ กำลังปัญญา กำลังความเพียร กำลังการงาน
    อันไม่มีโทษ กำลังการสงเคราะห์ คนที่มีปัญญาทรามแล จึงกลัวต่อภัยคือทุคติ
    คนเกียจคร้านแล จึงกลัวต่อภัยคือทุคติ คือ กลัวต่อภัยคือทุคติเพราะการงาน
    ทางกาย ทางวาจา และทางใจที่มีโทษ คนที่ไม่สงเคราะห์ใคร ก็กลัวภัยคือทุคติ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ประกอบด้วยกำลัง ๔ ประการนี้แล ย่อมก้าวล่วง
    ภัย ๕ ประการนี้ ฯ

    จบสูตรที่ ๕


    ถ้าจะพูดเรื่องไร้สาระ ก็นิ่งไม่พูดเสียดีกว่า โดยที่ว่าไม่ต้องลำบาก
    เดือดร้อนใจเพราะเหตุว่าการไม่พูดนั้น ไม่มีเรื่องที่จะทำให้ผู้อื่นเกิดโลภะ
    โทสะ หรืออกุศลต่าง ๆ.

    ถ้าเป็น(ดุจ)ผ้าเช็ดธุลีได้เสมอ ๆ ก็จะเป็นผู้ที่มีความสบายใจ ไม่ว่าใคร
    จะประพฤติต่อท่านด้วยกาย วาจาอย่างไร ไม่เคยเดือดร้อนเลย เพราะว่า
    ไม่ถือตนว่าเป็นผู้มีความสำคัญ.

    พระธรรมนั้นไม่ใช่เพื่อโลภะ ไม่ใช่เพื่อลาภไม่ใช่เพื่อยศ
    ไม่ใช่เพื่อสักการะ ไม่ใช่เพื่อสุข ไม่ใช่เพื่อการสรรเสริญ
    แต่ต้องเป็นไปเพื่อปัญญา เพราะฉะนั้น พระธรรมจริง ๆ
    เพื่อให้พุทธบริษัทเกิดปัญญา.

    ถ้าเป็นผู้ที่อบรมเจริญเมตตาจริง ๆ จะไม่เว้นโอกาสใดเลย
    ไม่ใช่นึกจะเจริญเมตตาเฉพาะในเวลาที่เกิดโทสะเท่านั้น


    กิเลสทั้งหลายเกิดขึ้นทำกิจการงานตลอดวัน (ในขณะที่ไม่ใช่วิบาก
    และไม่ใช่กุศล) หลังจากที่ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบ
    สัมผัสแล้ว ให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ผู้ที่เป็นปุถุชน ที่ว่ามีกิเลส
    หนาแน่นคืออย่างนี้ เพราะความจริงก็คือความจริง จนกว่าปัญญา
    จะเพิ่มขึ้น

    ผู้ที่ตรงต่อพระรัตนตรัย จะเอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัยจริง ๆ
    กิเลสที่มีมาก ต้องอาศัยบารมีที่สะสมมากขึ้น ๆ จึงสามารถที่
    จะละคลายได้.

    การที่จะเป็นบัณฑิตดูเหมือนจะเป็นไม่ยาก โดยที่ไม่เก็บความโกรธไว้
    และสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่พึงประพฤติ.


    ชีวิตที่มีความเห็นถูก จะคิดทำแต่สิ่งที่ดีงาม


    ในสังสารวัฏเราไม่ได้ทำแต่กรรมดีอย่างเดียว เราก็เคยทำอกุศลกรรมด้วย ไม่ว่าเราจะ
    ได้อะไรมา หรือสูญเสียอะไรไป เป็นเรื่องของกรรมที่เราเคยทำไว้ กุศลที่คุณเคยทำ
    ไว้ ไม่สูญหายไปไหน ถ้าไม่ให้ผลชาตินี้ ก็ให้ผลชาติหน้า หรือชาติต่อ ๆ ไป ทรัพย์
    สมบัติเป็นที่เครี่องอาศัยชั่วคราว แต่ปัญญาและกุศลเป็นที่พึ่งในภพหน้า

    เอาบุญมาฝากวันนี้ตั้งใจว่าจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
    สวดมนต์ อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรผสมทองคำเปลวแท้โดยการปั้นด้วยมือของตนเองพร้อมกับนำดอกไม้มาถวายบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ถวายข้าวพระพุทธ
    กรวดน้ำอุทิศบุญ แบ่งบุญให้ผู้อื่น และบอกบุญผู้อื่น อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆของน้องที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพาหนะเป็นทานพร้อมกับให้ทีอยู่อาศัยเป็นทาน และให้การอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น และประพฤติตัวดีมาโดยตลอด อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น เมื่อวานนี้ได้ปิดทอง สักการะพระธาตุ อนุโมทนากับผู้ให้อาหารปลา กราบสังขารอดีตเจ้าอาวาส ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และได้อนุเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อน
    และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
    สวดมนต์ อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรผสมทองคำเปลวแท้โดยการปั้นด้วยมือของตนเองพร้อมกับนำดอกไม้มาถวายบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ถวายข้าวพระพุทธ
    กรวดน้ำอุทิศบุญ แบ่งบุญให้ผู้อื่น และบอกบุญผู้อื่น อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น ปิดทอง สักการะพระธาตุ ให้อาหารปลา กราบสังขารอดีตเจ้าอาวาส ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี อนุเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อน
    สร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลด้วยกันนะครับ

    ประกาศร่วมสร้างบุญ ท่านใดมีพระธาตุพระอุปคุตเถระเจ้า และต้องการบรรจุไว้ที่เจดีย์พระอุปคุตกลางน้ำ ที่วัดดอยแก้ว อ.แม่ลาน้อย จังหวัด แม่ฮ่องสอน ซึ่งทางวัดกำลังจะจัดสร้างเจดีย์กลางน้ำ ประดิษฐานพระอุปคุต ไว้กลางน้ำ เพื่อเป็นสังฆานุสสติของสาธุชนทั้งหลายที่มากราบไหว้บูชาสืบไป


    ขอเชิญผู้ใจบุญร่วมสร้างกุฏิวัดกู่เสือ เชียงใหม่
    สามารถมาทำบุญได้ที่วัดกู่เสือ 227 หมู่ 1 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี เชียงใหม่ 50140
    โทรศัพท์ 053-103 130


    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานและศาลาปฎิบัติธรรม สำนักสงฆ์บ้านแพะ อ.เกาะคา
    หมายเลขบัญชีการโอนเงิน
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาเกาะคา
    ชื่อบัญชี (บัญชีร่วม) นายบุญทวน จินะการ และนายอ้าย แก้วนาดี และนายอำนวย แก้วคะปวง (สำนักสงฆ์บ้านแพะ)
    เลขที่ 457-093-2550
    ติดต่อสอบถามหรือแจ้งการร่วมบุญได้ที่ พระวรากร 085-450-1508


    ขอเชิญร่วมสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่
    สร้างอุโบสถเจดีย์ศรีโพธิญาณ 9ยอด ประดิษฐานพระประธาน 9องค์
    อุโบสถชั้นล่าง กว้าง 13 เมตร ยาว 13 เมตร
    ชั้นบนเป็นเจดีย์ 9 ยอด สูง 19 เมตร กว้าง 4 เมตร
    สร้างได้แล้วประมาณ 70 %
    ร่วมทำบุญผ่านบัญชี
    พระอาจารย์จักรพันธ์ อาภากโร
    ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขาแพร่
    เลขที่บัญชี 5060423530T0869107584
    ภูอาศรมโพธิญาณ หมู่ 10 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่
    08-4372-2059
    หรือส่งพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมาร่วมบรรจุในองค์พระธาตุก็ได้


    ขอเชิญร่วมทำบุญหล่อพระประทาน (ปางพระพุทธชินราช) วัดรามราช บางงา ลพบุรี
    ข่าวงานบุญมาแจ้ง ขอเชิญร่วมทำบุญหล่อพระประธาน (ปางพระพุทธชินราช) วัดรามราชบางงา ลพบุรี หมู่ 7 ตำบลบางงาน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ณ บริเวณปริมณฑล สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2554 เวลา 13.00 น.
    สอบถามรายละเอียด ติดต่อ 089-2401-403 ปลัดอนุศิษฏ์

    ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวการสอนของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เจริญพระชนม์มายุจะครบ 84 พรรษา ที่ วัดบางพาน อ. ท่าวุ้ง จ. ลพบุรี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ให้การอุปถัมภ์และเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ของหลวงพ่อจรัญ ด้วย fficeffice" />>>
    >>
    การปฏิบัติธรรมจะเปิดครั้งละ 3 วัน เริ่มทุกวันศุกร์ – วันอาทิตย์ ดำเนินการสอนโดย แม่ชีพันธ์ทิพย์ เหมะกรม>>
    >>
    ตารางการปฏิบัติธรรมช่วงเทศกาล/วันหยุด ปี 2554>>
    > >
    เทศกาล/วันหยุด ปฏิบัติธรรมวันที่>>
    > >
    สงกรานต์ 13 – 17 เมย. 54>>
    วันแรงงาน 29 เมย. – 2 พค. 54 >>
    วิสาขบูชา 13 – 18 พค. 54>>
    อาสฬหบูชา / เข้าพรรษา 14 – 18 กค. 54>>
    วันแม่ / วันเกิดหลวงพ่อจรัญ 11 – 15 สค. 54>>
    วันออกพรรษา 7 – 12 ตค. 54>>
    วันปิยะมหาราช 21 – 24 ตค. 54>>
    วันพ่อ 2 – 5 ธค. 54>>
    วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 29 ธค. 54 – 2 มค. 55>>
    > >
    การเดินทาง>>
    ผู้ที่ขับรถยนต์มา>>
    1. มาจากกรุงเทพ มาตามสายเอเชีย ผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี โลตัสสิงห์บุรี เลยทางเข้าสิงห์บุรี ช่วงที่ 2 ให้ชิดขวากลับรถหน้าศูนย์รถยนต์เชฟโรเลต หลัก กม.89 กลับไปทางกรุงเทพ และให้ชิดซ้ายขับผ่านทางเข้าสิงห์บุรีเหนือ ไปตามทางคู่ขนาน ประมาณ 500 เมตร จะมีป้ายทางเข้าวัดบางพานอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 3 กม. วัดจะอยู่ทางขวามือ>>
    2. มาจากทางเหนือ ผ่านทางเข้าสิงห์บุรี ให้ชิดซ้ายไปตามทางคู่ขนาน ประมาณ 500 เมตร จะมีป้ายทางเข้าวัดบางพานอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 3 กม. วัดจะอยู่ทางขวามือ>>
    ผู้ที่มาโดยรถประจำทาง>>
    1. มาจากกรุงเทพ มีรถประจำทางไป อินทร์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ ผ่านทางเข้าวัด โดยให้ลงที่ โลตัส สิงห์บุรี แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่วัด จะมีรถออกมารับ>>
    2. มาจากทางเหนือ เมื่อเลยทางเข้าสิงห์บุรี ให้เตรียมตัวลงที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท. หงส์ชวลิต เยื้องกับโลตัส สิงห์บุรี แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่วัด จะมีรถออกมารับ>>
    > >
    โทรศัพท์ 081-9475047 / 089-9036284>>


    สวดถอด – ถอน – แก้กรรม -ใช้พลังจิตรักษาผู้ป่วย ทุกโรคfficeffice" />>>
    หลวงพ่อ แห่งวัดท่าอิฐ ต.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก
    ใช้การสวดมนต์และพลังจิตอธิฐาน รักษาผู้ป่วย ทุกโรค ทุกชนชั้นไม่ว่าจนหรือรวย 9 บาทรักษาทุกโรค เป็นคำเหย้าหยอกกันในหมู่ผู้คนที่มารับการรักษาที่นี้คือใช้ใส่พานครูอธิฐาน ทุกท่านที่ไปจะเริ่มจากเต็นท์ประชาสัมพันธ์รับบุหรี่และบัตรคิว - แล้วไปขอขมากรรม - ถวายสังฆทาน รอเข้ารักษา วิธีการรักษาของหลวงพ่อคือจะสวดถอดถอนแก้กรรมและใช้ไม้จี้ไปบริเวณที่เจ็บปวดและยังผู้ป่วย อัศจรรย์ก็บังเกิดความเจ็บปวดหายไป เวลาที่รักษาคือ ตั้งแต่เช้า 8.30 น. ถึงเย็นทุกวัน ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์วันหยุดนักขัตฤกษ์มีพิธีสวดถอดสวดถอนแก้กรรมและสวดเสริมบารมี ทรัพย์ 4 รอบ คือ 08.30 09.30 13.30 และ 15.00 น.โรคที่รักษา เช่น อัมพฤษ อัมพาต โรคมะเร็ง ทุกระยะ เบาหวาน ความดันสูง-ต่ำ หัวใจ ไต หูหนวก ตาเป็นต้อ ปวดเข่าปวดข้อ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไขมันในเส้นเลือด แม้แต่โรคเอดด์ >>


    อาตมาภาพ พระสุพิน อัตตสันโต ประธานสงฆ์วัดเทียบศิลาราม
    หมู่ ๑๘ บ้านหลักหินใหม่ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
    เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้รับศรัทธาจากชาวบ้านด่านเม่น
    ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
    พร้อม พ่อเพ็ง ศรีสะอาด ภรรยาและลูกหลาน เจ้าของที่ดิน ๑๒๐ ไร่
    ได้พร้อมใจกันน้อมถวายที่ดินถึงพระสงฆ์ทั้งสี่ทิศแปดทิศ ที่มาแล้วก็ดียังมาไม่ถึงก็ดี
    โดยมีอาตมาภาพ พระสุพิน อัตตสันโต เป็นองค์ประธานในการรับถวาย
    เพื่อจัดสร้าง ที่พักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์เทียบศิลารามอุปถัมภ์
    (วัดเทียบศิลาราม สาขาที่ ๒)
    ขณะนี้ได้มีการสร้างศาลาปฎิบัติธรรมขึ้น ๑ หลัง มีความกว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๘ เมตร
    อยู่ในขณะการก่อสร้างอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ สร้างห้องน้ำห้องสุขาชั่วคราว ๔ ห้อง
    และมีกุฎิร้าง ๒ หลัง (เคยมีพระอยู่ก่อนแล้วพระอยู่ไม่ได้เป็นวัดร้าง)
    ปัจจุบันนี้มีพระภิกษุอยู่ประจำ ๗ รูป และมีผ่านไปมาพักครั้งละ ๕-๖ รูปแวะปฏิบัติ
    ครั้งละเดือนประจำตลอดเพราะเหมาะสัปปายะแก่การปฏิบัติธรรม
    ที่พักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ฯ ยังขาดพร้อมแก่สมณะรูปอยู่เป็นจำนวนมาก
    ดังต่อไปนี้ที่มีความจำเป็นเป็นลำดับรองลงมา
    (๑) กุฎิ จำนวนที่จะสร้างเพื่อถวายพระใช้ในพรรษาและตลอดไป ๗ หลังๆ ละ ๓๗,๐๐๐ บาท
    รวมทั้งหมด ๒๕๙,๐๐๐ บาท ขอประกาศหาเจ้าภาพจัดสร้างโดยเร่งด่วน
    เนื่องพระไม่มีที่จำวัดปัจจุบันนี้อยู่ในกลดบ้างตามผาหินบ้างตามอัตภาพที่อยู่ได้
    ฝนตกแต่ละครั้งได้รับความลำบากมากโยมโปรดอนุเคราะห์เร่งด่วนได้กุศลแรงเร็ว
    (กุฏิที่มี ๒ หลังนั้นหลังคารั่วหมดแล้วดั่งภาพที่เห็น)
    (๒) ที่พักสงฆ์ยังไม่มีไฟฟ้า และเสาไฟฟ้า ประมาณ ๖๐๐ เมตร รวมไปกลับ ๑,๒๐๐ เมตร
    สายไฟขนาด ๑๖ ราคา เมตร ละ ๕๒.๘๐ บาท รวมราคา ๖๓,๖๐๐ บาท
    ค่าติดตั้งมิเตอร์ ๔,๘๐๐ บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๖๘,๔๐๐ บาท
    ขอประกาศหาเจ้าภาพรวม
    (๓) ห้องน้ำห้องสุขาจะจัดเพิ่มและมั่นคงถาวรจำนวน ๑๐ เพื่อรองรับทั้งพระ
    และผู้ปฎิบัติธรรมห้องละ ๗,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๗๐,๐๐๐ บาท
    ขอเชิญจับจองเป็นเจ้าภาพได้ตามกำลังศรัทธา
    (๔) ที่พักสงฆ์ยังขาดตาลปัด, ตู้พระอภิธรรม, โต๊ะหมู่ ๗, ๙ ธูปเทียนพรรษา
    คณะโยมผู้มีศรัทธาทุกท่านสามารถรวมบริจาคจัดสร้างได้ที่
    อาตมาภาพ พระสุพิน อัตตสันโต ผู้ดูแลจัดสร้างที่พักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ โดยตรง
    โดยเป็นสมุดบัญชีธนาคารของอาตมาภาพเองเป็นบัญชีบุญโดยเฉพาะ
    เหตุผลเพื่อสะดวกในการจัดเบิกจัดสร้างให้รวดเร็ว เพราะฉะนั้นขอโยมทุกท่านโปรดเข้าใจ
    และก่อนรวมบุญโปรดพิจารณาให้ดี ให้รวมบุญโดยใช้ปัญญาศรัทธาเป็นหลัก
    รวมบุญเป็นเจ้าภาพได้ที่
    ชื่อบัญชี พระสุพิน อัตตสันโต
    ธนาคารกรุงไทย สาขาขุนหาญ
    หมายเลขบัญชี ๓๒๖-๐-๑๖๐๗๗-๙
    ก่อนตัดสินใจให้โยมทุกท่านสามารถโทรสอบถามทันทีที่
    โทร. ๐๘๕-๖๕๗-๘๖๗๖


    ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี กรุงเทพฯ – ราชบุรี
    ณ วัดหนองม่วง ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี
    วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2554 ( ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 )
    ด้วยวัดหนองม่วง ได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ เพื่อใช้แทนศาลาการเปรียญหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม
    ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จเพราะการก่อสร้างได้หยุดชะงักเป็นช่วงๆ
    เนื่องจากยังขาดทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก คณะศิษยานุศิษย์จึงได้ร่วมกันหาทุนโดยจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุน
    การก่อสร้างศาลาการเปรียญ ให้แล้วเสร็จต่อไป จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
    ทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ปล.แต่ถ้าท่านไม่สะดวกที่จะเดินทางมาทำบุญที่วัดในช่วงเวลาดังกล่าวท่านสามารถ
    ร่วมทำบุญได้โดยวิธีโอนเงินผ่านบัญชีมาที่
    ธนาคาร กสิกรไทย สาขา บ้านโป่ง
    เลขที่บัญชี 144-2-77294-7
    ประเภทบัญชี ออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี พระครูประภาสธรรมทัต
    หากท่านโอนเงินมาร่วมทำบุญแล้วกรุณาเมลล์แจ้งการโอนมาที่ info@watnongmuang.com


    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้าง
    พระพุทธเมตตาอุดมทรัพย์ (ปางลีลา)
    ปางลีลา ขนาด 15.50 เมตรรวมฐาน
    วัดป่าดอนหม้อทอง ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.หนองคาย
    เทฐานเสาเข็มพระ งบประมาณ 150,000 บาท เดือน ธันวาคม 2553
    1. - เสาเข็ม 8 ต้น ต้นละ 10000 บาท (มรรคมีองค์ 8)
    - เสาเอก ที่รององค์พระ 80000 บาท ( ยอดคน)
    รวมฐานพระพุทธเมตตาอุดมทรัพย์ 160000 บาท เริ่มก่อสร้างวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เวลา 09.09 น.
    2.องค์พระพุทธเมตตาอุดมทรัพย์
    -ค่าปั้นองค์พระ 350000 บาท แบ่งเป็น
    1. องค์พระสูง 9 เมตร ค่าวัดสุและ ค่าช่าง
    ราคาเมตรละ 30000 ทั้งหมด 9 เมตร เป็นเงิน 27000 บาท
    2.ค่าสีทองทาองค์พระ 12 กระป่อง กระป๋องละ 4000 บาท เป็นเงิน 48000 บาท
    รวม 350000 บาท
    วางศิลาฤกษ์วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 13.09 น.
    วางศิลากฤษ์วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 13.09นโดยมีหลวงตาสรวง สิริปุญโญ จากวัดป่าศรีฐานใน จ.ยโสธร และ พระราชภาวนาพินิจ ( หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย) วัดพุทธบูชา กรุงเทพ มาเป็นองค์ประธาน
    สามารถทำบุญโอนเข้าบัญชีเลขที่ 430-0-38517-3 ธนาคารกรุงไทย สาขา อำเภอเซกา จ.หนองคาย ชื่อบัญชี พระนิตินัย อุดมกัน
    โดยมีหลวงพ่อพระราชภาวนาพินิจ (หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย) องค์ประธานที่ปรึกษากิติมาศักดิ์
    และหลวงพ่อพระครูอนันตสีลคุณ ผู้ดำเนินการสร้าง
    สอบถามได้ที่ พระ.ดร.นิตินัย อุดมกัน 089-676-2902 (ศิษย์รับใช้หลวงพ่อสนธิ์)
    และพระพงศ์พิทักษ์ชน อิสฺสรธมฺโม 086-236-3902
     

แชร์หน้านี้

Loading...