เรื่อง..กามกิเลส โดย.. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 12 ธันวาคม 2006.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=+2][/SIZE]
    [SIZE=+2][/SIZE]
    [SIZE=+2]พระธรรมเทศนาเรื่อง กามกิเลส - [/SIZE]
    [SIZE=+2]โดย ... หลวงปู่แหวน สุจิณโณ[/SIZE]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <CENTER><TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><!"#853A7B"><TBODY><TR><TD align=middle width="100%">
    <CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#bbddff border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2> เนื้อความ :
    กามกิเลส
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    กามนี้มันหมุนรอบโลก มันเป็นเจ้าโลก กามกิเลสนี้แหละที่ทำให้เกิดสงคราม
    ต่อสู้กัน เกิดก็เพราะกามตายก็เพราะกาม รักก็เพราะกามชังก็เพราะกาม

    การทุกอย่างนี้เรียกว่ากามกิเลส การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่
    กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทุกทาง ความพอใจก็คือกิเลส ความไม่พอใจ
    ก็คือกามกิเลส กามกิเลสนี้อุปมาเหมือนแม่น้ำธารน้ำน้อยใหญ่ไม่มีประมาณไหล
    ลงสู่ทะเลไม่มีที่เต็มฉันใดก็ดี กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหาเป็น
    แหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งหมดอยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจ
    ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ ใจนี่แหละคือตัวเหตุ ทำความรักษาหู รักษาตัว รักษาปาก สำรวม
    อินทรีย์ รักษาธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ พิจารณาเข้าไป

    ตจปัญจกกรรมฐาน ๕ กายคตากรรมฐานพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงจะถอนได้
    พวกหมู หมา เป็ด ไก่ มันก็เสพกามกันทั่วแผ่นดิน อย่าได้ไปอัศจรรย์ มีแต่ศีล
    สมาธิ ปัญญา ผู้ใดรักษาศีลภาวนาเข้าจนเกิดสมาธิแล้ว สติก็ดิ่งเข้าไปแล้ว ก็จะ
    ได้ทำจิตทำใจของตนให้บริสุทธิ์ พระธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ท่านก็ชี้
    เข้าหาใจนี่แหละ ทำใจให้บริสุทธิ์ให้มีสติสัมปชัญญะนำคืนออกให้หมด ถ้ามีสติ
    แล้วก็นำความผิดออกจากกายจากใจของตน อย่าหลงสมมติทั้งหลาย มีรูป เสียง
    กลิ่น รส สัมผัส อย่าเอามาหมักไว้ในใจ

    กามตัณหา เปรียบเหมือนแม่น้ำไหลไปสู่ทะเลไม่รู้จักเต็มสักที อันนี้ฉันใด ความ
    อยากของตัณหามันไม่พอ ต้องทำความพอจึงจะดี เราต้องทำใจให้ผ่องใส ตั้งอยู่
    ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิก็ดี ทุกอย่างเราทำความพอดี
    ความพอใจก็นำออกเสีย ความไม่พอใจก็นำออกเสีย เวลานี้เราจะพักจิต ทำกายของเรา
    ทำใจของเราให้รู้แจ้งในกายในใจของเรานี้ รู้ความเป็นมาวางให้หมดวางอารมณ์วางอดีต
    อนาคตทั้งปวง...ที่ใจนี้แหละ

    เรื่องสังขารนี้ สังขารปรุง สังขารมันแต่ง มันเกิด มันแก่ มันเจ็บ มันดับ
    เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา วางอยู่นี่แหละ อดีตอนาคตมันก็มานี่แหละ ตัดอดีต
    อนาคตลงหมดจิตดิ่งอยู่ในปัจจุบันรู้ในปัจจุบันและในปัจจุบันสางในปัจจุบัน ทำจิต
    ทำใจของเราให้สว่าง ให้รู้แจ้งในมรรคในผล ในศีล สมาธิ ปัญญา เอาที่ใจนี้แหละให้
    มันสำเร็จขึ้นที่ใจ

    เวลาปฏิบัติจริงกิเลสมันมาได้ทุกทิศทุกทาง ใจนี้มันสำคัญ เหตุมันเกิดจากใจนี้
    ตั้งสัจจะจริง กายจริง วาจาจริงใจ อย่าหลงไปตามเขาตามอารมณ์ ละทิ้งความที่เกิด
    ขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย สมบัติของเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหมดนี้เป็นที่ตั้งของทาน
    เป็นที่ตั้งของมรรค เป็นที่ตั้งของพระนิพพาน จงละและวางให้เป็นพุทโธ ละวางหมด
    ก็เป็นสุข ปล่อยวางก็สบาย

    ************************************************************************

    คัดลอกจากหนังสือ "ธรรมโอวาท" รวมพระโอวาทเทศนาของพระธรรมมาจารย์ หน้า ๗๑ - ๗๓​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ที่มา

    http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/006286.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...