เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 20 สิงหาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,443
    ค่าพลัง:
    +26,273
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,443
    ค่าพลัง:
    +26,273
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปทำหน้าที่คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) หนกลาง ด้วยการไปตรวจยกหมู่บ้านสะแก หมู่ที่ ๗ ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ซึ่งการตรวจประเมินนั้น ได้ทำการตรวจประเมินภายในวัดสะแกเลย

    วัดสะแกนี้ในอดีตมีครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งหลายรูปด้วยกัน อย่างเช่น หลวงปู่ใหญ่ ติณฺณสุวณฺโณ (พระโบราณคณิสสร) หลวงปู่สีห์ อินฺทสุวณฺโณ ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ ซึ่งครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่กล่าวมานั้น กระผม/อาตมภาพถือว่าหลวงปู่ดู่ท่านเป็นครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง

    คำสอนที่ท่านให้มาในการไปกราบขอความรู้ท่านครั้งแรกก็คือ "ครูบาอาจารย์ของข้าไม่ได้สอนอะไรมากหรอก ท่านบอกว่าพุทธัง ธัมมัง สังฆัง เป็นที่พึ่ง..เท่านี้แหละ..! กระผม/อาตมภาพพอได้ยินก็กราบก้นโด่ง คลานออกจากกุฏิท่านมา

    เพื่อนพระก็คือท่านตี๋ (พระนิติ สุธมฺมสุนฺทโร) คลานตามออกมาข้างหลัง ดึงสบงไว้เอาไว้ ถามว่า "หลวงเฮียจะรีบไปไหนวะ ? ยังไม่ได้อะไรเลย" กระผม/อาตมภาพบอกกับเพื่อนด้วยความฉิวกึ่งขำว่า "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งนี่ หากินไปตลอดชีวิตแล้วนะอาเฮีย ลื้อยังไม่ได้อะไรอีกเลยหรือวะ ?" อีกฝ่ายหนึ่งเพิ่งจะ "ถึงบางอ้อ" ..!

    หลวงปู่ดู่ท่านมีคำสอนที่กินใจมาก อยู่ในลักษณะคล้าย ๆ กับคำสอนของพระนิกายเซน อย่างเช่นว่ามีลูกศิษย์มาเล่าถวายว่า บุคคลนั้นกล่าวไม่ดีกับบุคคลนี้ บุคคลนี้กล่าวไม่ดีกับบุคคลนั้น หลวงปู่ดู่ท่านตอบสั้น ๆ แค่ว่า "คนดีเขาไม่ตีใคร" หรือมีคนไปบอกว่าหลวงปู่ดู่สร้างวัตถุมงคลเป็นการทำให้คนยึดติด ท่านก็ตอบสั้น ๆ ชนิดคนถามหน้าหงายว่า "ยึดติดวัตถุมงคล ดีกว่ายึดติดวัตถุอัปมงคล..!" เป็นต้น

    เมื่อมาถึงก็มีการไปตรวจดูสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งทางด้านนี้ก็เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ ๒๓ (วัดสะแก) เช่นกัน ปรากฏว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้น เป็นห้องปรับอากาศอยู่ภายใต้พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดู่ สถานที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติธรรม และมีการปฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์ ตลอดจนกระทั่งมีการปฏิบัติธรรมในวันพระด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคะแนนในหมวดปฏิบัติธรรมนั้น จะได้มากหรือน้อยเป็นประการใด
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,443
    ค่าพลัง:
    +26,273
    เมื่อชมการปฏิบัติธรรมแล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง ก็ได้พาพวกเราไปชมนิทรรศการ ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ประธานคณะกรรมการบริหารกลาง ซึ่งได้ข่าวว่าหัวเข่าอักเสบเดินไม่ได้ มาปรากฏตัวชมนิทรรศการอยู่ในงาน เมื่อกราบเรียนถาม ท่านบอกว่า "สมัยนี้เขาไม่ผ่ากันแล้ว เขาใช้วิธีเจาะออกมา ก็พอที่จะเดินได้ เพียงแต่ว่ายังนั่งนาน ๆ ไม่ได้เท่านั้น" ในเมื่อพอเดินได้ก็มาให้กำลังใจพวกเขา

    การชมนิทรรศการต้องบอกว่าเป็นนิทรรศการที่จัดได้เป็นหลักเป็นฐานเป็นงานเป็นการเช่นกัน แล้วที่นึกไม่ถึงก็คือได้พบกับท่านเจ้าคุณพระอุดมสิทธินายก (กำพล คุณงฺกโร ป.ธ.๙), รศ.ดร. คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านพระครูโอภาสนนทกิตติ์ (ศักดา โอภาโส), ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดจันทร์ จังหวัดนนทบุรี เหล่านี้เป็นต้น

    ตลอดจนกระทั่งพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน พอถามว่า "มายุ่งอะไรกับทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเขา ?" ท่านบอกว่า "เจ้าอาวาสเป็นเพื่อนเรียนมารุ่นเดียวกันครับ" ถ้าอย่างนี้ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น เพื่อนฝูงเขามาให้กำลังใจกันนั่นเอง

    เมื่อชมนิทรรศการและถ่ายรูปหมู่เสร็จแล้ว พวกเราก็เข้าไปกราบเจริญพระพุทธมนต์ถวายองค์พระประธานในอุโบสถ แล้วขึ้นสู่สถานที่การตรวจประเมิน โดยมีท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ แต่ว่าไม่ปกติตรงที่ว่า วันนี้ทุกฝ่ายสรุปให้กระผม/อาตมภาพถามอยู่รูปเดียว ไม่ทราบเหมือนกันว่ากำลังจะปั้นดาวรุ่ง หรือว่าเห็นว่ากระผม/อาตมภาพมีความสามารถกันแน่ ?

    ในเมื่อต้องให้มีการถามอยู่คนเดียว จึงได้เรียนถามตั้งแต่พระครูธรรมธรไพรัชช์ สิริจนฺโท ท่านเจ้าอาวาสว่า "นอกจากการที่หลวงปู่ดู่ท่านมีชื่อเสียงเกียรติคุณ ทำให้มีลูกศิษย์มาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมากแล้ว ท่านเจ้าอาวาสยังมีการดำเนินงานอย่างไร ที่ทำให้บุคคลมาปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ?"

    ตลอดจนกระทั่งถามทางด้านท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดว่า "มีการปฏิบัติธรรมในแนวไหนบ้าง เพราะว่าบางจังหวัดก็ใช้วิธีนำข้าราชการใส่บาตรทุกวันจันทร์ หรือว่านำข้าราชการสวดมนต์ไหว้พระก่อนทำงาน ?" เหล่านี้เป็นต้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,443
    ค่าพลัง:
    +26,273
    ถามไปจนถึงท่านผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า "วัดสะแกมีผลงานในด้านการปฏิบัติธรรม ตลอดจนกระทั่งผลงานอื่น ๆ ที่สนับสนุนงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอย่างดีมาก ทางด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอะไรที่เป็นโครงการสนับสนุนให้การปฏิบัติธรรมของทางสำนักปฏิบัติธรรมวัดสะแกแห่งนี้ มีความคล่องตัวมากขึ้น หรือว่าช่วยอำนวยความสะดวกในด้านใดบ้าง ?"

    ถามไปจนถึงทางด้านผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า "ทางด้านหมู่ ๗ วัดสะแกแห่งนี้ มีงานทางวัฒนธรรมที่ซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำอย่างไรที่จะมีโครงการมาแปรสภาพทางวัฒนธรรมทั้งหลายเหล่านี้ให้เป็นมูลค่าที่จับต้องได้ เพื่อให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี จะได้เป็นการสนับสนุนให้รักษาศีล ๕ ไปในตัว ?" เหล่านี้เป็นต้น

    ครั้นเมื่อปิดการประเมินแล้ว พวกเราก็ไปทำการเปิดสะพานเชื่อม ๒ ตำบล ก็คือเชื่อมตำบลธนู และตำบลข้าวเม่า ซึ่งสะพานแห่งนี้นั้น มีเรื่องกล่าวขานกันว่า พระยาวชิรปราการ หรือว่าภายหลังคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านได้นำกองทัพฝ่าทหารพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยามา ชาวบ้านทางตำบลธนูให้การสนับสนุนด้วยการทำลูกธนูมอบให้กับทางกองทัพ ชาวบ้านตำบลข้าวเม่า ก็ได้ทำข้าวเม่าเป็นเสบียงกรังมอบให้กับกองทัพ จึงได้กลายเป็นชื่อบ้านนามเมืองมาในปัจจุบัน

    เมื่อเปิดสะพานเสร็จสิ้นก็ไปชมการเล่นเพลงเรือ การแสดงของเด็ก ๆ ซึ่งมีทั้งการรำ ตลอดจนกระทั่งการแสดงนาฏยมวยไทย และปิดท้ายด้วยลิเก ซึ่งทางพวกเราคณะกรรมการก็ได้รวบรวมเงินเป็นกองกลางเอาไว้แล้ว ทางด้านผู้ช่วยเลขานุการ ก็คือพระมหาวิเชียร ชาตวชิโร ป.ธ. ๙ มีหน้าที่เตรียมซองปัจจัยไว้ ให้ประธานกรรมการแจกเด็ก ๆ ในทุกที่ซึ่งเราไป

    เมื่อเสร็จสิ้นปิดการแสดงแล้ว พวกเราก็ได้ทำการประชุมสรุปงานทั้ง ๔ ครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่าในที่ประชุมนั้นขอให้พยายามจัดตารางให้กระชับกว่านี้ เพราะว่าบางแห่งงานนิทรรศการเขามีมาก เขาอุตส่าห์เสียเวลาตั้งหลายวันกว่าที่จะจัดสำเร็จเรียบร้อย พวกเราถ้าเสียเวลาลงไปชมนิทรรศการกันเพื่อให้กำลังใจเขา ก็อาจจะกินเวลาด้านอื่นไปมาก จึงทำให้ต้องมีการกำหนดว่า ถ้านิทรรศการของเขามีมาก เราต้องแบ่งคณะกรรมการเป็น ๒ ชุด เพื่อที่จะได้กระชับเวลาของการไปให้กำลังใจในทุกซุ้มนิทรรศการ
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,443
    ค่าพลัง:
    +26,273
    แล้วในขณะเดียวกันก็กำหนดว่า ตัวกรรมการซึ่งให้คะแนนนั้นจะต้องปรึกษาหารือกันอย่างไรบ้าง เพราะว่าแต่ละฝ่ายรับผิดชอบกัน ๓ รูป แต่ถ้าหากว่าลาก็อย่าให้ลาหมดทีเดียว อย่างน้อยต้องเหลือไว้ ๑ รูปเพื่อที่จะเป็นผู้ประเมิน ไม่ควรให้คณะกรรมการประเมินข้ามหมวด เพราะว่าการประเมินข้ามหมวด คณะกรรมการอาจจะไม่ได้มีความชำนาญในหมวดนั้น ๆ เป็นต้น

    กระผม/อาตมภาพเองได้รับคำชมจากท่านเจ้าคุณต่อศักดิ์ (พระราชมหาเจติยาภิบาล) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ท่านบอกว่า "ปีนี้หลวงพ่อเล็กถามได้สุดยอดมาก นอกจากจะจี้จุดเด่นให้เขาตอบปัญหาได้อย่างง่าย ๆ แล้ว ยังมีการให้คำแนะนำด้วยความเมตตาเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกับปีที่แล้ว พอท่านหยิบไมค์ขึ้นมา พวกเราก็เสียวกันหมดว่าใครจะโดนอะไรบ้าง ?" ซึ่งท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ท่านก็ช่วยแก้ตัวให้กระผม/อาตมภาพว่า "หลวงพ่อเล็กท่านทำงานจริงจัง ดังนั้น..ถ้ามีการตำหนิใครบ้าง ก็ต้องเข้าใจว่าท่านอยากให้เกิดผลดีจริง ๆ"

    แต่กระผม/อาตมภาพเรียนถวายในที่ประชุมไปว่า "แล้วแต่นโยบายของผู้บังคับบัญชา ขอให้แจ้งมาเท่านั้นว่าจะเอาอย่างไร กระผม/อาตมภาพก็จะดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น" ในเมื่อนโยบายบอกว่าเป็นอย่างนี้ ก็คือสามารถที่จะตำหนิได้ แต่ต้องให้คำแนะนำเขาด้วย ขณะเดียวกันการถามคำถามต่าง ๆ นั้นก็ให้ถามในลักษณะสร้างสรรค์ ถ้าเขาตอบไม่ได้ เราก็ต้องชักจูงเขาให้เข้าประเด็นให้ได้ แล้วไปปิดประชุมกันตอน ๕ โมงเย็น..!

    โดยที่กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้กลับที่พัก ต้องวิ่งไปยังวัดสามจุ่น หมู่ที่ ๑ ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องเพราะว่าเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนกันมา ตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ก็คือพระครูปัญญาศาสนธำรง ท่านชิง "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว" ทิ้งเพื่อนไปเสียแล้วด้วยอายุ ๕๙ ปี ท่านเจ้าคุณแก้ว - พระเดชพระคุณพระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับประธานรุ่น ได้นัดให้พวกเราไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในคืนนี้ ก็แปลว่ายังต้องวิ่งเป็นระยะทางอีกชั่วโมงกว่าเกือบจะ ๒ ชั่วโมง..!

    เมื่อไปถึงแล้วก็ไม่ทราบว่างานจะช้าเร็วเป็นประการใด เพราะได้ยินว่าพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. หรือหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม เจ้าคณะภาค ๑๔ ในฐานะผู้บังคับบัญชาใหญ่ในพื้นที่ ท่านก็จะไปร่วมงานด้วย ก็ได้แต่ทำใจว่าวันนี้ก็คงต้องฉันยาแทนอาหารเย็น กว่าที่จะได้กลับถึงที่พักอาจจะดึกอยู่สักหน่อย ในระหว่างเดินทางจึงได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เพื่อให้ทุกท่านได้ฟังกันตามระเบียบ

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...