โอวาทก่อนบวช

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 22 กรกฎาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : พอดีกระผมจะบวช ขอโอวาทด้วยครับ ?

    ตอบ : บวชน้อยก็ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่พึงดีได้ ระวังเอาไว้ว่าอาบัติหนักอย่างปาราชิก ๔ ข้อ สังฆาทิเสส ๑๓ ข้อ อย่าให้มันโดนเป็นอันขาด เพราะว่าโดนแล้ว อย่างปาราชิก ๔ ข้อขาดความเป็นพระไปเลย คือบวชใหม่ก็ไม่เป็นพระ ห่มเหลืองอยู่ก็ไม่เป็นพระ สังฆาทิเสส ๑๓ ข้อ โดนแล้วแก้ไขได้ยาก ก็จะขาดความเป็นพระไปชั่วคราวจนกว่าจะได้รับโทษคืออยู่ ปริวาส ตามกำหนดที่เขาตั้งเอาไว้ แล้วก็ขอให้พระอีก ๒๐ รูป สวดคืนความเป็นพระให้ มันจะลำบาก อาบัติข้ออื่นๆ นั้นมันจำนวนมากด้วยกัน โอกาสพลาดมีอยู่

    ในเมื่อโอกาสพลาดมันมีอยู่ก็อย่าให้มันข้ามคืน ถึงเวลาถ้าโดนก็รีบแสดงคืน คือสารภาพเสียโดยไว ของวัดท่าซุงเขาดีอยู่อย่างหนึ่งคือเขาใช้ภาษาไทย อย่างเช่นว่า ข้าแต่สงฆ์ทั้งหลายผู้เจริญ ข้าพเจ้าต้องอาบัติปาจิตตีย์ ด้วยได้โกหกคนอื่นเขา ข้าพเจ้าตอนนี้ทราบถึงควาชั่วหยาบของอาบัตินี้แล้ว ต่อไปนี้จะไม่คิดอย่างนี้อีก ไม่พูดอย่างนี้อีก ไม่ทำอย่างนี้อีก ขอสงฆ์ทั้งหลายโปรดรับทราบด้วยเถิด เขาจะได้ช่วยกันให้เราด้วย ขืนทำซ้ำเขาจะได้โห่เอา มันอายเขา จะได้ไม่กล้าทำ จะได้รู้ชัดๆ ว่าเราทำอะไรผิด

    คราวนี้ว่าเราบวชน้อยก็ให้ตั้งใจไว้ว่า กุศลทั้งหมดที่เราทำนั้นเราปรารถนาอะไร ? ทาน ศีล ภาวนาของเราในช่วงนั้นมีเท่าไรก็ว่าให้เต็มที่ไปเลย อย่างเช่นว่า ออกบิณฑบาตก็ตั้งใจเลยว่า อาหารที่เราบิณฑบาตวันนี้ขอถวายเป็นสังฆทานเลี้ยงพระไปทั้งหมดเลย เราเองก็ด้วย ถึงเวลาเทก็แบ่งกัน ทั้งหมดมีเท่าไร เราก็ได้ส่วนกุศลนั้นด้วย ง่ายออก

    ถ้าหากว่าในเรื่องของศีลก็พยายามทบทวนอยู่ทุกวัน นวโกวาทติดมือไว้ เย็นๆ ก็เปิดทวนทุกวันๆ ให้มันขึ้นใจ เรื่องของการภาวนา เรื่องอื่นๆ วางให้หมด ไม่ต้องมากมายอะไร เอาใจเกาะนิพพานอย่างเดียว พยายามให้อยู่กับพระบนนิพพานให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้ากำลังใจมันเคยชินเมื่อไร ปุ๊บปั๊บมันไปเลย แค่นั้นแหละ จำคร่าวๆ ก็พอ ต้องใช้คำว่าทำเอา วัดท่าซุงน่ะเหมาะสมที่สุด เพราะว่ากระแสความดีรวมจุดตรงนั้นสูงมาก ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมาจนถึงปัจจุบัน

    เอาแค่ว่าสมัย หลวงพ่อเล่ง, หลวงพ่อไล้ ถ้าหากว่าคนอายุมากหน่อยยังทัน มีพระอรหันต์ต่อเนื่องกันมาตั้ง ๗๒ องค์ ที่ใดที่พระอรหันต์อยู่ ความดีที่ท่านทำกระแสเย็นที่กำลังใจของท่านส่งออกมา มันจะคงตัวอยู่ในบริเวณนั้น สิ่งที่ท่านใช้ ถ้าหากว่ายังมีสภาพอยู่ เทวดาต้องรักษาอยู่แล้ว

    เพราะฉะนั้นของเราอยู่ในกระแสความดีขนาดนั้น ถ้าตั้งใจทำอยู่ในทาน ศีล ภาวนา อารมณ์ใจจะทรงตัวแล้วทำได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้นมีโอกาสต้องกอบโกยมันเข้าให้เยอะไว้ เพราะว่าอยู่ที่อื่นมันอาจไม่เหมาะสมอย่างนั้น ถ้าภาษาพระต้องเรียกว่าสถานที่เป็นสัปปายะ คือเหมาะมาก

    เอาแค่สมัยหลวงพ่อเล่ง หลวงพ่อไล้นะ ๗๒ องค์นี้ นี่ยังไม่นับสมัยหลวงพ่อเรา (หัวเราะ) นี่ยังน้อย ถ้าเป็นเตียงที่พระนาคเสนท่านบรรลุมรรคผล ในที่ๆ ท่านทำไว้สำหรับนั่งภาวนา คนที่ไปนั่งภาวนาซ้ำรอยท่านบรรลุมรรคผลต่อมาเป็นพันเลย เพราะฉะนั้นอยู่ในสถานที่ๆ ดีที่สุดต้องพยายามทำตัวให้สมกับสถานที่ด้วย ตัว มโนมยิทธิไม่ต้องมาก เที่ยวเบื่อแล้วเกาะพระนิพพานอย่างเดียวพอ





    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนธันวาคม ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...