เหรียญพระนิพพานลป.บุญศรีพระรอดวัดพ้นอ้นปี๑๓ ปรกโพธิ์ลพ.ดำ นราธิวาสเหรียญรุ่นแรกลต.ม่อม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. ktv

    ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,169
    ค่าพลัง:
    +1,176
    โอนแล้วครับ 13/09/67 จำนวน180 บ. เวลา 11.28 น.จัดส่งที่เดิมครับ
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726177887742.jpg


    พญาเต่าเรือน” นับเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงปู่หลิวที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ปรารถนาของปวงสาธุชนมากที่สุด ด้วยพุทธคุณที่ครบเครื่อง ส่งเสริมเรื่องดีหลายด้าน ทั้งคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม สู้คดีความ ทำมาค้าขายโชคลาภ เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาแล้วทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทุกคน
    ทั้งนี้ หลวงปู่หลิว ได้บอกถึงเหตุผลในการสร้างว่า “เต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว เป็นสัตว์มีศีลธรรม นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังเคยเสวยพระชาติเป็นเต่ามาแล้ว”
    พระปิดตาหลวงปู่หลิวหลังยันต์พญาเต่าเรือนรุ่นลาภผล พูล ทวี ปี๒๕๓๗

    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งจำนวน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20240913_044741.jpg IMG_20240913_044808.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2024 at 22:06
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    วันนี้ จัดส่ง

    1726240374085.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    พระปิดตามหาลาภวัดถ้ำพระ ถ้ำเหง้า หรือถ้ำโบราณ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน สร้างโดย พระอาจารย์ จรัญ อภิชาโต พระผู้อุปัฏฐากหลวงปู่สิม จนท่านละสังขาร เจตนาการสร้างดี สุดยอดมวลสารและสิ่งมงคลของพ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐาน มากมาย อาทิ 1.ผงอังคารธาตุ** หลวงปู่แหวน สุจินโณ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่พรหม จิรปุณฺโญ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ผาง จิตตคุตฺโต หลวงปู่คำพอง ติสฺโส หลวงพ่อปัญญา ปญฺญาวุฒฺโฒ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ครูบาผาผ่า หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต 2. เกศา **หลวงปู่แหวน สุจินโณ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท หลวงปู่บุดดา ถาวโร หลวงปู่คำดี ปภาโส หลวงปู่แว่น ธนปาโล หลวงปู่หลอด ปโมทิโต หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวนฺโต หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปุญฑิโต หลวงพ่อวิริยัง สิรินฺธโร หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต 3. จีวร** หลวงปู่สิม พุทธาจาโร 4. ชานหมาก และน้ำพระพุทธมนต์ **หลวงปู่แหวน สุจินโณ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร 5. **พระสมเด็จเก่าแตกหัก 6. ** ผงแร่แก้วขนเหล็ก อ.เถิน จ.ลำปาง 7. ** ผงมวลสารเก่า หลวงปู่ครีบ วัดสมถะ จ.ชลบุรี 8. ผ้าพันรอบต้นศรีมหาโพธิ์ ** สถานที่ตรัสรู้แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตรปรินิพพาน ประเทศอินเดีย 9. ดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง **คือ สถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเทศอินเดีย 10. น้ำพระพุทธมนต์** 11. เหล็กน้ำพี้ ** 12. ว่านร้อยแปด** 13. ดินจากเจดีย์ ** บูโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย ดินจากเจดีย์พุกาม ประเทศพม่า
    ขอบคุณท่านเจ้าของ
    พระอาจารย์จรัญบอกว่า เกศาข้างหน้าจะเป็นเกศาหลวงปู่สิมครับ เพราะบางองค์ท่านก็ใส่เกศาน้อย บางองค์ท่านก็ใส่เกศาเยอะ ถ้าไม่ของหลวงปู่สิม ก็เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นใหญ่ ตามใบฝอยครับ ส่วนจีวรที่ติดด้านหลังนึ้เป็นจีวรที่หลวงปู่สิมท่านใช้บ่อยๆครับ พระรุ่นนึ้ท่านอาจารย์ใส่อังคารของครูบาอาจารย์เยอะมากครับ บางองค์ขึ้นพระธาตุครับ พระปิดตารุ่นนึ้มีประสบการณ์เรื่อง เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย ดีมากๆ แคล้วคลาดปลอดภัย ลูกศิษย์ทราบกันดี และยังเหมาะกับการปฏิบัติธรรมอีกด้วย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระปิดตาวัดถ้ำโบราณติดจีวรหลวงปู่สิม ถ้ำผาปล่อง

    ให้พระบูชา 320 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20240914_044215.jpg IMG_20240914_040436.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2024 at 21:16
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726265554492.jpg

    เหรียญพระแก้วมรกต รุ่นบุรณะฉัตร พ.ศ.2531 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ โดยใช้มวลสาร ยอดฉัตร ณ วัดพระแก้วมา ผสมมวลสาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จมาประกอบพิธีพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง และมีพระเกจิอาจารย์เก่งๆในขณะนั้นร่วมปลุกเสกหลายองค์ อาทิ หลวงปู่ดู่(ปลุกเสกในครั้งนี้เเล้วท่านยังได้รับเชิญให้ปลุกเสกเหรียญกรมหลวงชุมพรฯ วัดราชบพิธฯ กรุงเทพฯ ปี 2531อีกด้วย ) หลวงพ่อแพ ฯลฯ เนื้อทองคำเนื้อเงิน เเละเนื้อทองเหลือง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240914_040252.jpg IMG_20240914_040322.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    (2022)_พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม_เขตพระนคร_กรุงเทพมหานคร_(34).jpg 1270265-5b86b.jpg

    เหรียญพระแก้วมรกตธนาคารกรุงไทย นวโลหะปี๒๕๒๕ หลวงปู่ดู่เสกเดี่ยว
    พิธีการสร้าง ส่งแผ่นเงินและแผ่นทอง ถวายสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะ ลงอักขระมงคลร้อยแปดและบริกรรมแผ่เมตตา
    บารมี ส่งแผ่นทองแดง ให้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปให้พระภิกษุสงฆ์ที่ทรงคุณวุฒิ มีพุทธคุณสูงเป็นที่เคารพสักการะของ
    พุทธศาสนิกชนทั่วไป ลงอักขระมงคลร้อยแปดและปลุเสกแผ่นวัตถุมงคล พระเกจิอาจารย์ที่ลงแผ่นวัตถุมงคลทั่วประเทศรวม 359 รูป
    จำนวนแผ่นวัตถุมงคลรวม 456 แผ่น
    พิธีมหาพุทธาภิเษก ประกอบขึ้นเมื่อ 2 พ.ย. 2525 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน
    โดยมีรายนามพระคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ดังนี้
    สมเด็จพระญาณสังวร
    พระราชญาณดิลกวัดเขาเต่า
    หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    หลวงพ่ออุตตมะ วังวิเวการาม
    พระปัญญาภิมณฑ์มุนี กรุงเทพหลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อเปลื้อง วัดใหญ่ชัยมงคล
    หลวงพ่อปกาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม
    หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
    หลวงปู่สิม ถ้ำผาปล่อง
    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พระเทพกวี
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    พระครูประสาทธรรมจักร พิษณุโลก
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส พระครูประ ดิษฐ-นวการ(หลวงพ่อบุญ) ราชบุรี วัดวังมะนาว
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์
    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ พระมหาศิริพงศ์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ และคณะผู้สร้างยังได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย
    เหรียญพระแก้วมรกต ๓ ฤดู ของธนาคารกรุงไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในพิธีเปิดที่ทำการสำนักงานใหญ่ เมื่อ 26 พ.ย. 2525
    พิธีมหาพุทธาภิเษก ประกอบขึ้นเมื่อ 2 พ.ย. 2525 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน
    โดยมีรายนามพระคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ดังนี้ สมเด็จพระญาณสังวร
    พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า
    หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    หลวงพ่ออุตตมะ
    ระปัญญาภิมณฑ์มุนี กรุงเทพ
    หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงพ่อเปลื้อง วัดใหญ่ชัยมงคล
    หลวงพ่อปกาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม
    หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม หลวงปู่สิม
    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พระเทพกวี
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    พระครูประสาทธรรมจักร พิษณุโลก
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    พระครูประดิษฐนวการ(หลวงพ่อบุญ) ราชบุรี
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์
    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ พระมหาศิริพงศ์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    และคณะผู้สร้างยังได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลรูปภาพที่มาอย่างสูงครับ พี่จ่าจีระสิทธิ์และทุกท่าน
    เหรียญพระแก้วมรกตปี๒๕๒๕ ธนาคารกรุงไทยเนื้อนวโลหะ

    พระบูชา 1,500 บาทพร้อมจัดส่งครับ

    IMG_20240912_211053.jpg IMG_20240912_211129.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726288913795.jpg FB_IMG_1726288916822.jpg
    พระผงรูปเหมือนรัชกาลที่ ๕ เนื้อผงหยก วัดธรรมมงคล หลวงพ่อวิริยังค์ปี ๒๕๓๗
    เมื่อครั้งสร้างพระพุทธรูปหยกองค์ใหญ่ที่วัดธรรมมงคล เพื่อไม่เป็นการสูญเปล่าทางวัดจึงนำผงที่ได้จากการขัดกลึงแต่งองค์พระพุทธรูปหยกองค์ใหญ่ มาเป็นส่วนผสมในการสร้างพระผงหยกรุ่นนี้
    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240914_040105.jpg IMG_20240914_040126.jpg
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726332456462.jpg
    เหรียญขอบหน้าต่าง
    หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ พระเกจิกรุงเก่าผู้มีอภินิหารอย่างร่ำลือ ที่ชาวตลาดผักไห่และใกล้เคียงให้ความนับถือมากที่สุด ว่ากันว่าท่านล่องหน หายตัว ย่นระยะทางได้ ท่านเป็นลูกสิษย์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค และท่านยังได้เดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆและร่ำเรียนวิชาไปด้วย ท่านเป็นพระผู้มีวาจาสิทธิ์ น้ำมนต์ท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เหรียญหันข้างหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ ปี 23 หลวงพ่อปลุกเสกไตรมาสครับ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหรียญรุ่นนี้ว่าตอนที่หลวงพ่อปลุกเสกนั้นตัวท่านลอยเสมอขอบหน้าต่างกุฎิท่านมีคนเห็นหลายคนเลย เรียกรุ่นนี้อีกชื่อหนึ่งว่าเหรียญขอบหน้าต่างครับ ด้านหลังเป็นยันต์หน้าพระลักษณ์ที่ลือชื่อของท่าน พุทธคุณเด่นทางเมตตามหานิยม คงกระพันก็เจอกันมาก
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    สภาพผ่านการบูชาเหรียญสึกด้านหลัง แต่ พุทธคุณไม่ได้สึกตาม
    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240914_234404.jpg IMG_20240914_234429.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    500px-Phra_That_Phanom_02.jpg
    พระนาคปรกเนื้อผงดินพระธาตุพนมเนื้อผงว่าน มวลสารศักดิ์สิทธิ์อิฐดินองค์พระธาตุพนม ปี๒๕๑๘
    จัดสร้างหลังจากพระธาตุพนมล้ม จึงนำมวลสารจากองค์พระธาตุมาจัดสร้าง
    เพื่อหาทุนส่วนหนึ่งบูรณะองค์พระธาตุและเพื่อเป็นสิ่งสักการะในการฉลองการบูรณะพระธาตุพนม
    ที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ
    พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่26ธันวาคม พศ.2518พ
    รวมพระเกจิสายอิสาน รวมสายป่าปลุกเสกอธิษฐานจิตเข้มขลัง
    มีพระเกจิเถราจารย์คณาจารย์ทั้งสายอีสาน ทั้งจากทั่วประเทศ
    และพระเกจิครูอาจารย์ศิษย์เอกพระอาจารย์มั่นในยุคนั้นรวมกันปลุกเสกมากมาย เป็นประวัติกาล
    โดยเฉพาะอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และศิษย์เอกพระอาจารย์มั่น พระเกจิคณาจารย์สายอีสาน
    รวมจำนวนกว่า 100 รูป เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก อาทิ
    หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก
    และคณาจารย์สายกรรมฐานอาวุโสอีกหลายรูป ได้ร่วมในพิธีด้วย
    เนื่องจากเป็นพิธีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนิน
    ดินที่พระธาตุพนมถือกันว่าเป็นดินศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระธาตุพนมนั้นประดิษฐานพระอุรังคธาตุของสมเด็จพระบรมศาสดาเอาไว้ และมีพญานาคจากนครพิภพพลัดกันเข้าเวรอารักษ์ขาพระธาตุ ดังนั้นปรกพระธาตุพนมจึงแทนองค์พระธาตุพนมและพญานาค ผู้ใดมีไว้ติดตัวดีนักแล
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    กรอบเก่าเดิมๆครับ
    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20240915_143253.jpg IMG_20240915_143233.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2024 at 21:30
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    พระรอดภยันตรายเนื้อดิน วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ปี2513 พิธีใหญ่ พระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น เข้าร่วมพิธีมากมาย สวยเดิม เนื้อทองแดงรมดำ
    ท่านพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์( ครูบาไฝ ) เจ้าอาวาสวัดพันอ้นในขณะนั้น และท่านอาจารย์ไสว สุมมโน เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง
    สุดยอดพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยพระเกจิอาจารย์ระดับประเทศ 19 รูป
    1.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา ก.ท.ม.
    2.สมเด็จพุฒาจารย์( เสงี่ยม )วัดสุทัศน์ ก.ท.ม.
    3.พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา
    4.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    5.หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    6.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    7.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    8.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชศรีมา
    9.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
    10.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
    11.ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
    12.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่
    13.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
    14.ครูบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    15.ครูบาคำแสนน้อย วัดดอนมูล เชียงใหม่
    16.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    17.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
    18.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก.ท.ม และ
    19.ครูบาไฝ วัดพันอ้น เชียงใหม่
    จากนั้นมีการสวดมนต์สมโภช โดยคณาจารย์อีกรวม 108 รูป ระยะเวลาการปลุกเสก 2 วันเต็ม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240915_143145.jpg IMG_20240915_143214.jpg IMG_20240915_143125.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    LP-Dum.jpg

    เหรียญปรกโพธิ์หลวงพ่อดำ
    หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม จ.นราธิวาส
    ท่านมีนามเดิมว่า ดำ ไกรน้อย เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2484 ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นบุตรของนายจันทร์และนางจันทร์ ไกรน้อย ในวัยเด็กบิดานำท่านมาฝากไว้เรียนที่วัดใหม่นภารามจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีพระอธิการจันทร์อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่นภารามเป็นผู้ดูแล และอบรมความประพฤติ ซึ่งในวัยเด็กท่านดำก็เป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เกเรเหมือนเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน เนื่องจากครอบครัวของท่านเป็นผู้ที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณีไทยมาตั้งแต่โบราณ เมื่อถึงเทศกาลทำบุญก็จะพากันเข้าวัดทำบุญสุนทานอยู่เป็นประจำทำให้ท่านดำมีจิตใจที่อ่อนโยนมีเมตตาต่อสัตว์อื่นๆเหมือนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นและท่านเป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ในการงานเช่นการทำไร่ไถนา รวมทั้งช่างก่อสร้างที่มีฝีมือคนหนึ่ง เมื่ออายุครบ 20 ปีท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2504 ณ พัทธสีมา วัดใหม่นภาราม โดยมีพระครูนิพัทธกาลัญญา วัดประชุมชลธาดาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดม่วง ฐิตธัมโมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการนุ้ยวัดใหม่นภารามเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า” จันทสโร “ หลวงพ่อดำได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีและนักธรรมชั้นโทได้ตามลำดับ ต่อมาจึงสนใจใฝ่รู้และได้เรียนศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานไสยศาสตร์ คาถาอาคมได้ศึกษาวิชาเหล่านี้จากคำภีร์สมุดข่อยใบราณอันเป็นของเก่าแก่ภายในวัด และศึกษาหลักโดยตรงกับเจ้าอาวาสจนมีความเชี่ยวชาญทางด้านภาคปฏิบัติปริยัติและปฏิเวธในพรรษาที่ 4 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประชาภิรมย์อยู่ในตัวเมืองนราธิวาส ในช่วงนี้ท่านก็สามารถสอบผ่านนักธรรมชั้นเอก และจำพรรษาอยู่ที่นั่นนานถึง 10 พรรษา.
    หลวงพ่อดำเป็นพระธุดงค์ เคยท่องเที่ยวธุดงค์ไปทั่วภาคเหนือเป็นเวลาหลายปี สถานที่ปลีกวิเวกส่วนมากมักจะเป็นป่าช้า ป่าเขาลำเนาไพรในระหว่างการธุดงค์นี้เมื่อได้ยินข่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านไหนดีก็จะไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐาน เรียนคาถาอาคม และตำราแพทย์แผนโบราณท่านก็ได้ศึกษาบ้าง หลังจากนั้นท่านได้เดินทางกลับนราธิวาสบ้านเกิดของท่านมาจำพรรษาวัดที่ท่านคุ้นเคยคือวัดใหม่นภาราม สืบมาจนกระทั่งมรณภาพในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2551 ด้วยวัย 67 ปี 47 พรรษา.
    หลวงพ่อดำ จนฺทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่นภาราม ผู้ที่สืบทอดวิชาการสร้างไม้ครูและพระปิตตา(พระควัมบดี) มาจากหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อครน วัดบางแซะ รัฐกลันตัน( มาเลเซีย ) ผู้สร้างพระปิดตาที่มีชื่อเสียงและพุทธคุณไม่น้อยไปกว่าสายเขาอ้อพัทลุง โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่นับถือศาสนาพุทธให้ความนิยมมาก
    วัตถุมงคลของหลวงพ่อดำเด่นทางเมตตามหานิยมและคงกระพัน โด่งดังไปทั่วเมืองไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ว่ากันว่าขลังชนิดยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอันตรายนานับประการเป็น มหาลาภ มหาโภคทรัพย์ พลิกฟื้นดวงชะตาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่ผู้ครองรัฐของมาเลเซียยังแขวนพระปิตตาและถือไม้ครูของท่านด้วยความศรัทธา เนื่องจากเคยมีการทดสอบพระปิตตาของท่านในมาเลเซียต่อหน้ากันมาแล้ว ผลคือมหาอุต ยิงไม่ออกเป็นที่กล่าวขานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์ , ครูบาอาจารย์ของท่านนอกจากหลวงพ่อครนแล้ว ท่านยังได้ไปศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอีกด้วย
    พระปิดตาหลวงพ่อด องค์ลักษณะคล้ายพระปิดตาหลวงพ่อครณ สายตรงพระปิดตาสายใต้คงรู้จักกันดี จัดว่าหาดูได้ยากแล้ว เพราะพระส่วนใหญ่ของท่านได้รับความนิยมจากชาวมาเลเซียสูงมาก จึงทำให้ในพื้นที่ไม่ค่อยจะได้พบเจอ พระปิดตาของท่านเป็นพระที่มีประสบการณ์มากมาย เช่นที่จังหวัดนราธิวาส มีนายทหารถูกซุ่มโจมตีด้วยอาวุธปืนสงคราม แต่ปลอดภัยจากอันตรายมาได้ มีเพียงผิวหนังเป็นลอยจ้ำๆเท่านั้นเอง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 320 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240915_143019.jpg IMG_20240915_143057.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    1726421041364.jpg
    เหรียญ พระนิพพาน พระสมเด็จองค์ปฐม รวย รวย รวย สู่พระนิพพาน เนื้อทองเหลือง
    เหรียญรุ่นนี้ ตอนทำพิธี..พอได้ฤกษ์ หลวงตาลงมาจากกุฏิ เกิดเหตุการณ์ ท้องฟ้า ทางทิศตะวันออก แหวกช่อง เป็นทาง แสงสาดส่อง มาตรงประรำพิธี ..ผู้มีตาดี นั่งเข้าฌาน เห็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าหลายพระองค์ เสด็จ, พระอรหันต์ ,หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง พรหมและเทวดา แน่นขนัด จนล้นมืดฟ้ามัวดิน ( โปรดใช้วิจารณญาน)
    สายจับพลัง เล่าว่า ใช้แทน รูปหล่อพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดท่าซุง ที่ราคาหลักแสนได้เลยครับ..แรงทะลุมิติ มหาลาภ มหาโภคทรัพย์ ป้องกันภัยทุกอย่าง รัศมีพลังปราณ 35 เมตร แรงสุดๆ ..มีพุทธคุณ มหาสะท้อน เป็นพิเศษ ด้วยครับรุ่นนี้ ใครคิดร้ายจะแพ้ภัยไปเอง
    เหรียญพระนิพพาน (เหรียญสมเด็จองค์ปฐม) หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ศรีสุทธาสาว จ.นครสวรรค์
    ด้านหน้าเป็นสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเจ้าองค์แรก" ล้อมรอบด้วยพระคาถาพาหุงมหากา (อะสังวิสุโลปุสะพุภะ พามานาอุกะสะนะทุ กะยะพุตัง)
    .เป็นพระคาถาที่สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว ถวายแด่องค์สมเด็นพระนเรศวรมหาราช "ผู้ชนะตลอดกาล" เป็นองค์ภาวนา ที่ถูกค้นพบโดย หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวา.
    ... ใต้ฐานพระสมเด็จองค์ปฐม มีภาษาบาลีว่า "สัมปะจิตฉามิ" เป็นพระคาถาที่องค์สมเด็จประทานให้แก่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง...
    ..สำหรับไว้ให้ลูกหลาน ภาวนาขจัดอุปสรรค์ทั้งปวง และตีกลับผู้ไม่ปรารถนาดี ทั้งคุณไสยต่างๆที่ส่งมา..
    .อีกทั้งปริศนาธรรม "รวย รวย สู่พระนิพพาน" เป็นข้อคิดสำหรับผู้ปฏิบัติและพระโยคาวจร ทั้งหลาย.
    ด้านขวาขององค์พระเป็นมหายันต์โภครทรัพย์ ด้านซ้ายเป็นยันมหาเมตตาใหญ่
    ด้านหลังเป็นองค์ หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ (นั่งเต็มองค์) ใต้ฐานองค์หลวงปู่มีคำพรของท่านว่า "โชคดี มีสุข เจริญโภคทรัพย์"
    ........
    คณะผู้จัดสร้างเหรียญ "พระนิพพาน" ได้สร้างและรวบรวมสิ่งที่ประเสริฐสูงสุดไว้ในเหรียญ และได้จัดพิธีปลุกเสกในวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ พ.ศ. ๒๕๓๙
    ..ปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ (วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๙) ..
    ...............
    ***ความอัศจรรย์ในวันปลุกเสกเหรียญพระนิพพาน***
    .วันปลุกเสกเหรียญพระนิพพาน.ทางคณะผู้จัดสร้างได้จัดเตรียมพิธีมีบายศรี และเครื่องพิธีอันเป็นมงคลต่างๆ .โดยมีอาจารย์โกศล กิจเจริญ เป็นเจ้าพิธี (อาจารย์โกศลเป็นลูกศิษย์.หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง) ท่านได้มโนมยิทธิ.
    ..พอจัดเตรียมปรัมพิธีเสร็จเรียบร้อย..ทุกคนก็นั่งรอหลวงปู่..หลวงปู่ท่านอยู่บนกุฎิ..สักพักอาจารย์โกศล กิจเจริญ ก็ได้ชี้มือไปที่ปรัมพิธี.แล้วบอกว่า.หลวงปู่ปาน มาแล้ว หลวงพ่อฤาษีก็มา (พระสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่มากคลุมปรัมทั้งหมดเลย)..
    .พอสิ้นเสียงจากอาจารย์โกศล..ทันใดนั้นหลวงปู่ท่านก็ลงมาจากกุฏิทันทีเลย.ท่านห่มผ้าจีวรเรียบร้อยมากๆ. แล้วท่านก็นั่นที่ปรมพิธีทันที .ดูท่านนิ่งมาก. สักพักก็มีแสงส่องมาพร้อมกับลมพัด.มาทางทิศตะวันออก.ตรงท่าน้ำหน้าวัด.
    .แสงและลมพัดพุ่ง.มาเป็นช่องตรงปรมพิธีเลย. อาจารย์โกศล กิจเจริญ ท่านบอกว่า..พิธีนี้มาครบทุกองค์เลย.. มาพร้อมทุกองค์โดยมิได้นัดหมาย (สมเด็จองค์ปฐม พระอัครสาวก พระพรหม เทวดา หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี พระอรหันต์ ฯลฯ) มาเต็มวัดเลยทีเดียว..ขนาดเทวดายังต้องอยู่ข้างนอกเพราะเข้ามาที่ปรมพิธีไม่ได้.
    ..เบื้องขวามี.. พระอัครสาวก หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี | ..เบื้องซ้ายมี.. พระพรหม ส่วนเทวดานั้น.เบียดเข้ามามิได้เลย.ต้องอยู่ข้างนอก . อาจารย์โกศล ท่านว่าเช่นนั้น .
    ..พิธีนี้ถือได้ว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก..จะหาแบบนี้นั้นไม่มีอีกแล้ว.. ..พอเสร็จพิธี.. หลวงปู่ท่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับกุฎิทันที ..
    (เหรียญรุ่นนี้จะมีเนื้อเงิน เนื้อแร่โคตรเศรษฐี เนื้อทองเหลือง ถ้าจำไม่ผิด..เปิดให้ร่วมบุญวันแรก มีเสี่ยคนหนึ่งขับ Volvo มาบูชา.เนื้อแร่โคตรเศรษฐีไป ๑ เหรียญ ๔,๐๐๐ บ. แล้วก็ขับรถกลับ..พอสักพักก็ขับรถกลับมาอีก.ครั้งนี้บูชาเพิ่มไปอีก ๔ เหรียญ)
    ...............
    ..เหรียญพระนิพพาน (สมเด็จองค์ปฐม) รุ่นนี้น่าบูชาติดตัวยิ่งนัก..รับประกันพระแท้เก๊คืนเต็ม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 750 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240916_001736.jpg IMG_20240916_001703.jpg
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726425871255.jpg
    การศึกษาพุทธาคม
    หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาคาถาอาคมและอักขระเลขยันต์ มาตั้งแต่ตอนสมัยเป็นหนุ่ม ทั้งวิชาสักยันต์ รดน้ำมนต์ ครั้นเมื่อท่านได้อุปสมบท แล้วก็ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องด้วยว่า แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่ก็เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ โดยหลวงพ่อท่านได้เป็นอาจารย์สักยันต์อยู่หลายปีจนกระทั่งได้ข่าวว่า ผู้ที่ท่านสักให้ส่วนมากไปกระทำความชั่ว เป็นนักเลงเพราะฮึกเหิมลำพองในความคงกระพันของรอยสักที่หลวงพ่อสักให้ ท่านจึงได้เลิกพิธีกรรมการสักทั้งหมด เพราะเห็นว่าสิ่งนี้ไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง หลังจากนั้นเมื่อมีเวลาว่างท่าน ท่านได้ไปขอต่อวิชากับ หลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเก่งในด้านการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี,
    หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาลบผงอิทธิเจ ปถมัง และการเขียนยันต์ 108, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้วิชามหาอุตม์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้ครอบครูนะเมตตาและได้รับการสอนวิชาเจริญวิปัสสนา และท่านยังมีครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย ปฏิปทากิตติคุณและคุณธรรมของหลวงพ่อสง่า หลวงพ่อท่านจะมีเมตตาธรรมสูงส่งยิ่งนัก ท่านได้พัฒนาวัดหนองม่วง และพัฒนาคนในชุมชนวัดหนองม่วง ให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข สอนให้ทุกคนรู้จักอดทน ให้หมั่นเพียรพยายามพึ่งตนเองเป็นหลัก เอาชนะใจตนเองให้ได้
    ท่านจะเน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้านดั่งที่ท่านพร่ำสอนศิษย์เสมอว่า "คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน ให้มีหิริโอตัปปะ ให้มีความอดทนและเพียรพยายามจะไม่อดตาย ความจนความรวย เราไม่ได้เอามาตั้งแต่เกิด แต่เราทำตัวเราให้รวย ให้จนได้ทั้งนั้น เป็นหนี้ก็เอามาให้พระแก้ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุคือตัวเราเอง หาได้ใช้เป็น ใช้ให้น้อย หาพอเพียงก็จะไม่จน" อนิจจัง วัตสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา หลวงพ่อสง่าท่านก็ไม่อาจพ้นจากพระพุทธพจน์บทนี้ได้ หลวงพ่อสง่าท่านได้ละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวังอังคาร แรม 4 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก ตรงกับวันที่ 29 เดือนมีนาคม ปี 2547 สิริอายุรวม 78 ปี พรรษาที่ 56อภินิหารยิงไม่เข้า เหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ปีพ.ศ. 2511-2530
    เรื่องเล่าเรื่องนี้ได้บอกเล่าจากปากของคุณลุงทวี บ้านของท่านอยู่ใกล้กับวัดหนองม่วง ทุกวันนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ คุณลุงทวีได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยโดนศัตรูของท่านยิงด้วยปืน 11 มม.จนหัวโนเป็นลูกมะนาว แต่ลูกปืนไม่อาจละคายกายของท่านได้ และมีอีกครั้งหนึ่งท่านโดนยิงด้วยปืน m16 ลูกปืนก็ไม่อาจยิงท่านเข้า มีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำๆ มีบ้างนัดเข้าติดหนังอยู่เลยต้องใช้มือแกะออก คุณลุงทวีท่านจะพกมีดตามประสาคนต่างจังหวัดทั่วไป เวลาไปไร่ไปนาก็ต้องติดมีดติดตัวไปด้วย คุณลุงทวีท่านเล่าว่า โดนยิงจนหมดแมกกาซีนจุกจนลุกไม่ขึ้นแต่ท่านยังกัดฟันลุกขึ้นมาชักมีดแบบปาดตาลเข้าต่อสู้กับมือปีนที่มากัน2คน มือปีนเมื่อเห็นว่าลูกปืน m16 ยังไม่ละคายผิวกายของคุณลุงทีวซ้ำร้ายแกยังคว้ามีดปาดตาลลุกขึ้นมาสู้ ก็เลยตกใจรีบขับรถมอเตอร์ไซด์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
    ในตัวของคุณลุงทวีท่านจะพกตะกรุดโทนของหลวงพ่อสง่ากับคล้องเหรียญหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง รุ่น 1 และรุ่น 4 หรือที่วงการเรียกกันว่ารุ่นปี 2511และ รุ่นปี 2530 คุณลุงทวีบอกว่า "ก็มีนี้แหละที่หลวงพ่อสง่าให้กับแกไว้ใช้กับหลวงพ่อกรุณาลงกระหม่อมให้แก" จริงๆแล้วหลวงพ่อสง่าท่านสำเร็จวิชากสิณไฟในด้านคงกระพันธ์ชาตรี จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านออกไปทางเหนียวและเป็นมหาอุดต์ ซึ่งทำให้ข่าวนี้แพร่กระจายไปจนทั่ว ทำให้คนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและใกล้เคียง โดยเฉพาะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต่างมุ่งหน้าเข้ามาที่วัดหนองม่วง เพื่อขอบูชาเหรียญรุ่นนี้เป็นจำนวนมากในสมัยที่หลวงพ่อสง่ายังมีชีวิตอยู่ ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระชัยวัฒน์อนันตนาคราชหลวงพ่อสง่าวัดหนองม่วงปลุกเสกออกวัดบางสองร้อย วัดที่ท่านอุปถัมภ์
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240916_014945.jpg IMG_20240916_015036.jpg
    IMG_20240916_014922.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2024 at 13:46
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    1726464862608.jpg
    ท่านเคยปลุกเสกช่วงสายสิญจ์ไหม้ พิธีปลุกเสกจตุคาม
    ประวัติพระครูสุนทรขันติคุณ (หลวงปู่สาย ขนฺติโก)
    อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนกระต่ายทอง ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
    หลวงปู่สายพระมหาเถราจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและขันติธรรม ผู้สืบสายพุทธาคม หลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และหลวงพ่อซวงแห่งวัดชีปะขาว พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองสิงห์บุรี ที่ทุกคนต้องรู้จักดี

    หลวงปู่สาย ขนฺติโก ท่านเกิดวันจันทร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม 2457 ณ. บ้านไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ใกล้กับวัดสกุณารามหรือวัดนก วัดที่มีพระกรุวัดนกอันโด่งดัง
    โดยหลวงปู่ท่านเป็นบุตรของ คุณพ่อพลอย และคุณแม่สิน จีนขจร มีพี่น้อง 6 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 2 คน คือ พระครูสุนทรขันติคุณ (หลวงปู่สาย ขนฺติโก) , นายวิสุทธิ จีนขจร , นายอุทัย จีนขจร , นายเตี้ยม จีนขจร (หลวงตาเตี้ยม พระน้องชาย) , นางลูกอิน จีนขจร
    หลวงปู่ท่านเป็นบุตรคนโต ในวัยเด็กหลวงปู่ท่านได้ช่วยเหลืองานของบิดา มารดา และดูแลน้อง ๆ ด้วยความขยันหมั่นเพียร มีจิตใจใฝ่ในทางกุศลมาตั้งแต่เด็ก ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาโยมพ่อหรือโยมแม่หาปลามาได้และจะต้องนำปลามาตากแห้งบ้าง หั่นเป็นชิ้นบ้าง หน้าที่ต้องฆ่าปลาหรือทุบหัวปลาท่านจะหลีกเลี่ยง หรือหนีไปให้ไกลไม่ยอมทำเพราะสงสาร และไม่อยากทำบาป บางครั้งแอบปล่อยหนีไปก็มี ซึ่งนับได้ว่าเป็นเด็กที่มีใจเมตตาผิดแปลกจากเด็กทั่ว ๆ ไป

    ในสมัยเด็กท่านก็วิ่งเล่นอยู่ในวัดนก และวัดชีปะขาว ท่านเคยเล่าว่าตอนเด็ก ๆ นี่เรียนอยู่ที่วัดชีปะขาวกับหลวงพ่อซวง หลวงพ่อซวงท่านเองท่านก็เห็นหลวงปู่มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ท่านเองก็เคยซุกซนตามประสาเด็กจนถูกหลงพ่อซวงตีด้วยไม้เรียวก็มี หลวงปู่สายเคยบวชเณรอยู่ที่วัดชีปะขาวอยู่ถึง 5 พรรษา ก่อนที่จะบวชพระ ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนและชอบสนทนากับพระสงฆ์ ในปี 2476 ท่านเรียนจบ ชั้น ป.4 จากโรงเรียนวัดบ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ในระหว่างที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น ท่านสนใจด้านวิชาอาคม และด้านสมุนไพรได้ท่องเที่ยวเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ ในละแวกนั้น เพื่อขอร่ำเรียนวิชาอาคมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว สิงห์บุรี พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน และท่านก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และหลวงปู่สายท่านจึงมีความรู้ต่าง ๆ มากมายทั้งด้านวิชาอาคม และด้านว่านยาสมุนไพรมาตั้งแต่ก่อนอุปสมบท นอกจากนี้หลวงปู่สายท่านยังเคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง อีกด้วย

    สู่ร่มเงาแห่งกาสาวพัสตร์
    เหตุผลหนึ่งที่หลวงปู่ท่านมีความต้องการอยากจะบวช ท่านเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนนั้นมีไม่อะไรนอกจากทำนาทำไร่ พอเช้าไก่ขันนกร้องก็ถือจอบเสียมออกไปทำนา กลับมาก็พักผ่อนหลับนอน ชีวิตอยู่กับธรรมชาติก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน ท่านเห็นว่าไม่มีแก่นสาระประโยชน์อันใด หลังจากช่วยโยมพ่อโยมแม่ทำนาทำไร่มาหลายปี พออายุครบบวชก็เลยตัดสินใจบวช ท่านรู้สึกเฉย ๆ กับการเป็นฆราวาสจึงไม่คิดอยากจะสึก เหตุผลประการหนึ่งที่ท่านไม่คิดอออยากจะสึกคือไม่อยากทำนาทำไร่ เพราะต้องออกหาปลาดักสัตว์ท่านไม่อยากฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตไม่อยากเบียดเบียนชีวิตซึ่งกัน และกันรู้พอใจยินดีในการบวชมากกว่า ดูแบบอย่างจากหลวงพ่อซวง ที่ท่านเคยไปอยู่ด้วยอยู่เป็นพระสงฆ์ปฎิบัติตามพระธรรมวินัย สบายกว่ากันมาก ไม่ต้องไปใช้ชิตที่ก่อทุกข์โทษสร้างกรรมสร้างเวรให้กับตนเอง และผู้อื่น
    เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ หลวงปู่สายท่านได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดสกุณารามหรือวัดนก อ.ไชโย จ.อ่างทอง ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2477 โดยมีพระเจ้าอธิการบุญ วัดสามประชุม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระบัว วัดสกุณาราม เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระชม วัดดอนกระต่ายทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมยานามว่า “ขนฺติโก” คือ “พระผู้มีความอดทนยิ่ง” ซึ่งท่านพระอุปัชฌาย์ท่านคจะเห็นในอุปนิสัยในความอดทน มีความขยันหมั่นเพียรของหลวงปู่ท่าน จึงได้มอบฉายานี้ให้แก่หลวงปู่สาย
    สำหรับพระอนุสาวนาจารย์ของท่านคือ หลวงพ่อชม แห่งวัดดอนกระต่ายทองนั้น ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์ที่มีศีลจริยวัตรเคร่งครัด และมีชื่อเสียงในสมัยนั้น หลวงพ่อชมท่านชอบออกธุดงค์เข้าป่าเป็นประจำในหน้าแล้งของทุกปี หลังจากอุปสมบทแล้วหลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนกเป็นเวลา 2 พรรษา เพื่อศึกษาเล่าเรียนอักขระขอม และด้านว่านยาสมุนไพร กับหลวงปู่เฟื่อง ท่านพระอาจารย์ปลั่ง ท่านเป็นพระที่แก่กล้าและแตกฉานในด้านวิชาไสยเวทย์และ ด้านว่านยาสมุนไพรว่านยาอาคมต่าง ๆ ท่านเป็นศิษย์ในสายพุทธาคมหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงปู่สายท่านเป็นที่ถูกอัธยาศัยของหลวงปู่เฟื่อง และพระอาจารย์ปลั่งอย่างมาก เพราะเป็นพระผู้ที่มีความขยัน และอดทนท่านพระอาจารย์ทั้งสองจึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาต่าง ๆ ให้กับหลวงปู่สายอย่างไม่ปิดบังอำพรางตลอดแนะนำเคล็ดวิชาต่าง ๆ จนหมดภูมิความรู้ของท่าน หลังจากได้ศึกษาเล่าเรียนจากสำนักวัดนกแล้ว หลวงปู่สายท่านมีความสนใจในการปฎิบัติพระกรรมฐาน จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนกระต่ายทอง เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและปฏิบัติจิตภาวณากับหลวงพ่อชม วัดดอนกระต่ายทอง หลวงพ่อชม ท่านก็ได้อบรมในเรื่องจิตภาวนาให้กับหลวงปู่อย่างใกล้ชิด และได้ร่วมออกธุดงค์ไปกับหลวงพ่อชมในหน้าแล้งของทุกปี เพื่อฝึกฝนปฎิบัติกรรมฐานสมาธิและจิตใจให้เข้มแข็งและแก่กล้า

    ปลายปี พ.ศ. 2481 หลวงปู่สาย ท่านได้เดินทางเข้ามาเล่าเรียนศึกษาด้านปริยัติธรรม และหัดท่องพระปาติโมกข์กับหลวงปู่ถม พุทธสโร วัดโพธิ์เรียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางกอกน้อย กทม. หลวงปู่ถมท่านได้อุปสมบทที่วัดดอนกระต่ายทอง ท่านเป็นพระคณาจารย์ทีมีชื่อเสียงรุ่นเดียวกับ หลวงปูโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ในสมัยนั้นไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษกที่ใด ย่อมต้องมีหลวงปู่ถมร่วมด้วยทุกครั้งไป หลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียน ด้วยความตั้งใจอย่างยิ่ง จนกระทั่งท่านสามารถท่องพระปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ท่านยังได้วิชาอาคมไสยเวทย์ และด้านวิชาสมุนไพรซึ่งหลวงปู่ถมเองท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีกิตติศัพท์เลื่องลือไปไกล ซึ่งหลวงปู่ถมเองท่านก็ให้ความเอ็นดูเมตตาต่อท่านเป็นอย่างมาก หลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เรียงเป็นเวลา 2 พรรษา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2483 ท่านก็ได้เดินทางกลับมาจำพรรษา ที่วัดดอนกระต่ายทองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน

    เมื่อกลับมาจำพรรษาที่วัดดอนกระต่ายทอง ท่านก็ได้ทบทวนความรู้ต่าง ๆ ที่ท่านได้เล่าเรียนมา และมาต่อวิชากับหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว ซึ่งท่านเคยมาเรียนตั้งแต่สมัยยังไม่ได้บวช นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาจากสมุดข่อยโบราณที่ตกค้างตามวัดต่าง ๆ ในแถบเมืองไชโยและละแวกใกล้เคียง โดยศึกษาด้วยตัวเอง และทดลองทำตามที่ตำราได้บอกไว้ ก็สามารถทำได้ผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ตามที่ระบุไว้ในตำราทุกประการ ดังเช่นที่วัดวงศ์ภาสน์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดดอนกระต่ายทองเท่าใดนัก สมัยหนึ่ง หลวงปู่พุฒ สารสุข(ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) ซึ่งท่านเป็นเณรที่อุปัฏฐากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่พุฒท่านเคยมาจำพรรษาอยู่ที่วัดวงศ์ภาสน์ถึง 2 พรรษา หลวงปู่สาย ท่านก็ได้ไปขอแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่พุฒ และศึกษาเพิ่มเติมจากตำราเก่าของหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ที่หลวงปู่พุฒท่านได้มอบไว้ให้ หลวงปู่ท่านเล่าว่า ได้ทดลองปฏิบัติทำตามตำรา ก็ได้ผลเป็นอัศจรรย์ยิ่ง หลวงปู่ท่านยังบอกอีกตำราหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่านั้น ล้ำลึกและพิสดารมาก

    เป็นพระหมอยาโบราณรักษาชาวบ้าน
    ภายหลังจากท่านมาอยู่ที่วัดดอนกระต่ายทองแล้ว อายุกาลพรรษาก็มากขึ้นตามวัย ด้วยความรู้ความสามารถประกอยกับศรัทธาที่ชาวบ้านที่มีต่อท่าน เวลาที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็มักจะมาขอความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานมงคล เครื่องรางของขลัง ขับไล่ภูตผี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยในสมัยนั้น การสาธารณสุขก็ยังไม่ดีเช่นทุกวันนี้ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ก็รักษาตามมีตามเกิดหลวงปู่เองก็นึกเมตตา สงสารชาวบ้านท่านจึงได้เริ่มรักษาชาวบ้านด้วย ความรู้ด้านว่านยาสมุนไพรคาถาอาคมต่าง ๆ ที่ท่านมีความชำนาญ จนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันทั่วไปในละแวกนั้น นอกจากท่านจะได้ศึกษาด้านว่านยา สมุนไพรจากหลวงปู่เฟื่องและพระอาจารย์ปลั่ง วัดนกแล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาหมอแผนโบราณเพิ่มเติม กับอาจารย์สดซึ่งเป็นฆราวาสที่อยู่วัดสระเกศ อ่างทอง และที่วัดสระเกศนี้เอง ก็มีหลวงพ่อโต๊ะพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม ที่ชาวอ่างทองให้ความเคารพเลื่อมใสและรู้จักกันดี หลวงปู่สายเอง ท่านก็มีความสนิทสนมแวะเวียนไปมาหาสู่ สนทนากับหลวงพ่อโต๊ะเสมอ ๆ
    เมื่อครั้งเป็นหมอยาแผนโบราณ ท่านเล่าให้ฟังว่าในสมัยนั้น การเดินทางยากลำบากมาก ท่านต้องเดินเท้าไปรักษาคนเจ็บคนป่วยทั้งใกล้ทั้งไกล บางครั้งเดินทางเป็นวัน ๆ กว่าจะถึงบ้านคนเจ็บก็บ่ายก็เย็น แต่ท่านก็ไม่เคยบ่นหรือท้อถอย ในการเดินทางท่านให้การรักษาแก่ชาวบ้านอย่างสุดความสามารถ ไม่เลือกยากดีมีจน ด้วยความเมตตาสงสาร จนมีชื่อเสียงเลื่องลือเป็นที่รู้จัก ด้านการรักษาด้วยยาแผนโบราณของท่าน นอกจากนี้ท่านยังมีความรู้เรื่องว่านยาอย่างลึกซึ้งอีกด้วย ลูกศิษย์รุ่นเก่าๆเล่าให้ฟังว่าหลังจากฉันท์เช้าแล้ว ท่านก็จะเริ่มรักษาชาวบ้าน เลยหรือหากวันใดไม่มีคนป่วยท่านก็จะลงไปสวนป่าสมุนไพร ว่านยาที่ท่านปลูกไว้สมัยนั้น บริเวณวัดดอนกระต่ายทองเต็มไปด้วยว่านยาสมุนไพรนานาชนิด เมื่อมีใครเจ็บไข้ได้ป่วย ก็สามารถจัดหามารักษาได้อย่างทันท่วงที หลวงปู่ท่านเป็นหมอยาโบราณ ให้กับชาวบ้านด้วยความเมตตามาช้านานไม่เคยคิดค่ายารักษา จนกระทั่งการสาธารณสุขเริ่มดีขึ้น ประกอบด้วยอายุท่านมากขึ้นจึงได้เลิกราไป ด้วยความที่ท่านเป็นหมอยามาก่อน ท่านจึงมีความชำนาญแตกฉานเกี่ยวกับเรื่องของอาการ 32 และธาตุเป็นอย่างมาก ท่านรู้ในธาตุรู้ในอาการอย่างลึกซึ้ง โดยปกติหลวงปู่จะไม่ค่อยพูดไม่เล่าอะไรให้ฟัง ครั้งหนึ่งตอนที่ท่านอารมณ์ดี ๆ เผลอ เล่าให้ฟังว่า “นะโมพุทธายะ พระเจ้า 5 พระองค์นี้เปรียบเสมือนแม่ธาตุใหญ่เป็นรากเหง้าของธาตุทั้ง 4 นะมะพะทะ ธาตุทั้ง 4 เป็นธาตุหล่อเลี้ยงร่างกาย สังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมา เป็นตัวก็เป็นธาตุที่ถอดออกจากแม่ธาตุใหญ่คือนะโมพุทธายะ ถ้าหากว่าธาตุทั้ง 4 กองนี้ สมบูรณ์ไม่วิปริตผิดแผกไป ร่างกายก็มิได้มีการเจ็บไข้ และหากธาตุทั้ง 4 นี้เกิดอการวิปริตขึ้นเมื่อใดจะเป็นธาตุหนึ่งธาตุใดก็ตาม อาการเจ็บไข้ก็จะบังเกิดขึ้นทันที และก็เป็นไปตามลักษณะอาการของธาตุที่วิปริตนั้น ฉะนั้นธาตุทั้ง 4 นี้เองจึงเป็นสมมุติฐานใหญ่ในคัมภีร์แพทยศาสตร์ สำหรับใช้พิจารณาตรวจดูอาการ โรคภัยไข้เจ็บทั้งมวลเมื่อเราประกอบพิธีกรรมกระทำใด ๆ ก็ตาม พึงกระทำธาตุในตัวเราให้ตั้งมั่นสมบูรณ์เสียก่อน โดยการตั้งธาตุหนุนธาตุให้ถูกต้อง ตามลักษณะการที่จะกระทำนั้น และเมื่อกระทำการเสร็จแล้วก็ควรจะหนุนธาตุให้เกิดอิทธิฤทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้นอีก เมื่อธาตุในกายเราเป็นปกติสมบูรณ์ ก็จะทำให้กำลังใจของเราเข้มแข็ง สามารถที่จะทำให้บรรลุในสิ่งที่ต้องการได้ดังปรารถณา เราต้องตั้งแม่ธาตุก่อนจึงตั้งตัวธาตืเมื่อจะตั้งธาตุทั้ง 4 กอง ก็ต้องมีธาตุพระเจ้าคือ ธาตุกรณีกำกับลงไปเพื่อเป็นพี่เลี้ยงคุมธาตุ

    เมื่อตั้งธาตุบริบูรณ์แล้วก็ให้ทำการหนุนาตุด้วยแก้ว 4 ดวงคือ แก้วมณีโชติ แก้วไพฑูรย์ แก้ววิเชียร แก้วปัทมราช ให้พิจารณาดูว่าจะกระทำการใด เช่นจะแก้โรคภัยไข้เจ็บให้ตรวจดูว่าโรคนั้นเป็นเพราะธาตุใดวิกลไป ก็ให้ตั้งธาตุนั้นและหนุนธาตุให้ดีดังเดิม แต่หากจะกระทำการปลุกเสก ก็ให้พิจารณาว่าจะปลุกเสกก็ให้พิจารณาว่าจะปลุกเสกไปในด้านไหน เข้าในหมวดธาตุใดก็ให้เอาธาตุนั้นหนุน พอได้ฟังท่านเล่ามา อย่างนี้ ทำให้รู้ว่าหลวงปู่ท่านมีความรู้เรื่องธาตุละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างดี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จแหวกม่านและเหรียญระฆังหลวงปู่สาย
    ให้บูชา 320 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240916_035520.jpg IMG_20240916_035539.jpg IMG_20240916_035608.jpg IMG_20240916_035638.jpg IMG_20240916_035654.jpg IMG_20240916_035710.jpg
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726427409183.jpg
    ประวัติ หลวงพ่อยวง อาภัสสโร วัดโพธิ์ศรี (พระครูสิริโพธิรักษ์)
    เมืองราชบุรี มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยเป็นถิ่นกำเนิดพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมากมาย อาทิ พระครูสุนทรจริยาวัตร (หลวงปู่ม่วง นาคเสโน) วัดยางงาม ต.วัดยางงาม อ.ปากท่อ, หลวงพ่อเงิน วัดถ้ำน้ำรุ่งสว่าง อ.โพธาราม, หลวงพ่อเขียน วัดโบสถ์ อ.โพธาราม และพระคณาจารย์อีกมากมาย
    อีกหนึ่งรูปที่โด่งดังไม่แพ้กัน คือ "หลวงพ่อยวง อาภัสสโร" หรือ "พระครูสิริโพธิรักษ์" วัดโพธิ์ศรี ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีเมตตา มักน้อย ถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มอาคมแก่กล้า นามของท่านจึงขจรขจายไปไกล หลวงพ่อยวงถือว่าเป็นยอดพระเกจิอีกรูปในปัจจุบัน ปัจจุบันสิริอายุ 87 พรรษา 64 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิศรี
    อัตโนประวัติ เกิดในสกุลชาวนรินทร์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2475 เกิดที่ ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    วัยเยาว์เรียนจบชั้นประถม 4 จากนั้นออกมาช่วยครอบครัวทำนาทำไร่ จวบจนอายุ 23 ปี ได้เข้าบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อทดแทนคุณบุพการี เมื่อวันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2498 ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์สมานฉันท์ ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.ราชบุรี
    มีพระครูขันตยาภิรัต เจ้าอาวาสวัด หนองกระทุ่ม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แห วัดหนองกระทุ่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์บุญช่วย วัดเขาย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังอุปสมบทได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยาคมกับพระเกจิคณาจารย์หลายท่าน
    เรียนวิชาอักขระขอมจากหลวงปู่นาค วัดช่องลม และศึกษาวิชาเสกหินสะกดจากหลวงปู่นาค โดยนำแผ่นหินมาลงอักขระยันต์ ปลุกเสกตามตำราแล้วให้เจ้าของนำไปฝังยังมุมบ้านของตนเอง เพื่อรักษาดูแล และกันไม่ให้ขโมย หรือโจรเข้าบ้านหรือลักขโมยสิ่งของในบ้าน
    ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า "เวลาไปเรียนเขียนขอมกับหลวงปู่นาค ห้ามเขียนหัวอักขระขอมใต้เส้น ต้องเขียนทูนเส้น ถ้าเขียนใต้เส้นถือว่าลบหลู่ครูบาอาจารย์ จะโดนหลวงปู่นาคดุเอา"
    ส่วนวิชาการลงตะกรุดท่านเรียนมาจากพระครูขันตยาภิรัต หรือหลวงปู่ป๋อง วัดหนองกระทุ่ม ซึ่งหลวงปู่ป๋องท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
    หลวงปู่ป๋องเป็นพระที่ดุมากๆ พระเณรที่วัดได้กลิ่นยาฉุน ยังไม่ต้องเห็นตัวหลวงปู่ป๋อง ได้แต่กลิ่นยาก็ไม่กล้าเดินเข้าใกล้หรือเดินเฉียดแล้ว มีงานวัดก็ไม่ต้องจ้างเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หลวงปู่ป๋องเดินถือไม้เท้า ไม้ตะพดอันเดียวพวกวัยรุ่นก็ไม่มีใครกล้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันแล้ว
    เคยมีลูกศิษย์ถามหลวงพ่อว่า "แล้วหลวงพ่อไม่กลัวหลวงปู่หรือ???" หลวงพ่อยวงบอกว่า "ฉันไม่กลัวหลวงปู่ เวลาไปเรียนก็เก็บผลไม้ไปฝากหลวงปู่" มีคนถามต่อว่า "นานหรือเปล่าครับ กว่าหลวงปู่จะสอนและกว่าหลวงพ่อจะเรียนจบ" หลวงพ่อบอกว่า "ก็นานเหมือนกัน" ส่วนวิชาลงปลัดขิกนั้นเรียนกับหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรี
    นอกจากนี้ ท่านยังได้ไปเรียนวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาวด้วย เรียนวิชามาจาก "ตาชม" ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาส ท่านได้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดสอดที่ตา ตะกรุดแปดทิศ และการทำยาวาสนาจินดามณี และอีกหลายอย่าง หลวงพ่อยวงสร้างวัดเมื่อปี พ.ศ.2507 ตั้งชื่อวัดว่า "โพธิศรี" ด้วยการเอาต้นโพธิ์มาตั้งเป็นชื่อ
    ต่อมาก็ได้นำวิชาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบหรือมาพึ่งบารมีของท่าน ช่วยขจัดปัดเป่าให้บรรเทาเบาบางลงไป ด้วยความเป็นพระที่เมตตา เข้าถึงง่าย จึงเป็นที่เคารพและศรัทธาของคนในพื้นที่และใกล้เคียง
    หลวงพ่อยวงนับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวราชบุรีรู้จักกันดี มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ ท่านเป็นพระที่ใจดีมากๆ ด้วยความที่หลวงพ่อยวงเป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก แต่ท่านจะไม่ค่อยได้สร้างวัตถุมงคลสักเท่าไร และถ้าท่านจัดสร้างวัตถุมงคลส่วนมากจะมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์และเสนาสนะภายในวัด
    เฉกเช่นห้วงนี้ที่วัดมีอยู่เพียงรุ่นเดียวที่หลวงพ่อยวงทำไว้เพื่อบูรณะอุโบสถ คือ เหรียญหลวงพ่อยวง วัดโพธิ์ศรี รุ่นแรก พ.ศ.2519 เนื้อฝาบาตร กล่าวขวัญกันว่า วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณโดดเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตา โดยเฉพาะตะกรุด
    หลวงพ่อยวงเป็นพระดีมีวินัยเคร่งครัด มีหลายคนเดินทางไปที่วัดของท่าน ปรากฏว่าท่านจะออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี และเมื่อเอ่ยปากขอท่านถ่ายรูปท่านก็จะรีบเดินไปห่มผ้า และมาให้ถ่ายในทันทีเช่นกัน
    นี่คือภาพของพระสงฆ์ ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีหัวใจแห่งการสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบขอความเมตตาอย่างจริงใจ ให้อาบน้ำมนต์ ลงกระหม่อม แต่ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อพกติดตัวแล้ว ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ามีพุทธคุณโดนเด่นรอบด้านครบเครื่อง
    อาจกล่าวได้ว่า เมืองราชบุรีนับแต่สิ้นหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งอำเภอปากท่อ ปัจจุบันพระเกจิอาจารย์ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาและน่ากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป คือ หลวงพ่อยวง วัดโพธิ์ศรี
    ด้วยความเมตตาของท่านที่คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอย่างเต็มที่ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง จนชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายไปทั่วทุกทิศ อีกทั้งยังนิมนต์ให้ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล ในงานวันไหว้ครูของสำนักต่างๆ เป็นประจำทุกปี หลวงพ่อยวงได้ปฏิบัติงานศาสนกิจด้วยดี ได้อบรมสั่งสอนพระภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด อบรมสั่งสอนศีลธรรมจริยธรรมแก่พุทธบริษัทสม่ำเสมอ ตลอดจนบำเพ็ญประโยชน์แก่ส่วนรวมมิได้ขาด จึงเป็นพระเกจิที่ควรค่าแก่การนับถือกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
    ขอขอบพระคุณ ข้อมูลดีๆจากเวป : https://goo.gl/Z6RRwh
    Scan this!
    Share
    Tweet
    http://www.armamulet.com/c/101
    COPY
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    รูปเหมือนใบโพธิ์หลวงปู่ยวงอายุ ๘๐ ปี
    ให้บูชา
    130 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240916_021511.jpg IMG_20240916_021534.jpg IMG_20240916_021644.jpg
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726528858568.jpg
    หลวงปู่บุดดา ถาวโร
    วัดกลางชูศรีเจริญสุข ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
    ....ครั้งหนึ่งหลวงปู่บุดด
    าท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดา ได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศีรษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป
    ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ดู่ " หลวงปู่ทำไมทาแป้งอย่างนั้นล่ะครับ"
    หลวงปู่ดู่ ท่านตอบ "ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศีรษะของเรา ไม่งันจะเป็นการไม่เคารพ"
    ในพิธีเปิดโลกที่โด่งดังของหลวงปู่ดู่นั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปู่เกษม และองค์หลวงปุ่บุดดา มาร่วมเสกด้วย (ทางญาณนะครับ)
    แม้แต่องค์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริญพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยู่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า
    " ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง"
    แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า " รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ " และยกย่องหลวงปุ่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และ ล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้
    ซึ่งแม้แต่หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า " หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน"
    ด้านพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระ โปรดอ่านเรื่องราวต่อไปนี้
    ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก็ส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของลูกศิษย์ผู้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยู่ที่นั้นบอก " พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม " เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว ........ตกใจไหม...... และเมื่อมีคนนำพระไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต จ.ตาก ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า "เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว" แม้แต่องค์หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก " จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน"
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    คู่นี้ ให้บูชาแล้ว 160 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240916_022830.jpg IMG_20240916_022849.jpg IMG_20240916_022747.jpg
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726563054990.jpg
    คาถาเมตตาหลวงพ่อจำเนียร กันงูกันตะขาบ
    ออแอ อออา เมตตา พุทโธ โดยหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฎโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    ออแอ อออา เมตตา พุทโธ
    แม่เลี้ยงของอาตมา มีพ่อชื่อว่า นายอ้น หรือ ตาอ้น มีเมตตาสูง อดีตเป็นพรานป่า ตามามืดมัวเมื่อตอนแก่
    แต่มีเมตตาน่าอัศจรรย์มาก อาตมาก็ได้คาถามาท่อง ใช้อยู่กระทั่งเข้าบวชพระจึงเลิก ถาไม่เป็นพระก็ยังไม่เลิก
    สัตว์เล็กก็ดีสัตว์ใหญ่ก็ดี ไม่กล้าทำอะไรแก ตะขาบมานอนอยู่ได้กับตัว งูที่ดุก็ไม่กัด
    ครั้งหนึ่งอาตมาเกิดศรัทธาขึ้นมา ตะขาบกัดคนอื่นแล้วมาหลบอยู่ในผ้าของตาอ้น พ่อของแม่เลี้ยงเราเรียกกันภาษาใต้ว่า
    พ่อเฒ่าอ้น (ถ้าพ่อของแม่เค้าเรียกว่าพ่อเฒ่า) ตะขาบไม่กัด แกก็จะจับตะขาบไปทิ้งแล้วพูดว่า
    “ลูก อยู่กันดีๆ นะ อย่าทำอันตรายนะ”
    แกก็จะจับตะขาบนี้ไปทั้งที่ตาแกไม่เห็น แกก็บอกให้ไปปลอดภัย เราก็สงสัย เขาทำไมตะขาบไม่กัด และยังมีงูเห่าตัวหนึ่ง
    ไข่อยู่หลังบ้าน ดุมาก เด็กจะไปตี แกบอกไม่ให้ตีเมื่อถามแกว่า “พ่อเฒ่าครับ งูดุนี้ทำอย่างไร ตีทิ้งดีไหม”
    แกบอกว่า “ไม่ต้องเดี๋ยวข้าจะเรียกเอง”อาตมาก็จูงมือแกไป พอพ่อเฒ่าไปถึง งูมันหดหัวทันที ไม่แสดงอาการดุร้ายน่ากลัว
    พอพ่อเฒ่าอ้นออกมา ไม่แสดงอาการน่ากลัวอีก แต่ในที่สุดงูก็ฟังเสียงแก ก็เลยเลื้อยหายไปเลย ไปไหนก็ไม่รู้ นึกสงสัยก็เลย
    ถามพ่อเฒ่าว่า “พ่อเฒ่า ช่วยบอกคาถาเมตตา การปฏิบัติให้ผมทีเถอะ ทำไม่ศักดิ์สิทธ์มากเมตตาแปลกอัศจรรย์”
    พ่อเฒ่าได้บอกว่า “วันไหนแกฆ่ากวาง ฆ่าไก่ ฆ่าหมู สัตว์อื่นจะไม่ฆ่า ฆ่าเฉพาะสัตว์ที่ต้องการในวันนั้นเท่านั้น”
    “ถ้าอย่างนั้นพ่อเฒ่าก็ต้องฆ่าทีละอย่างจนหมดแหละ ก็เอาเปรียบสัตว์โลก”
    “ไม่ใช่ เราต้องมีสัจจะ ทำอะไรมีสัจจะ”
    “ผมขอคาถาได้ไหม”
    แกบอกว่า
    “ได้! แต่ว่าเธอต้องถือให้จริงนะ ถ้าถือไม่จริง จะไม่เห็นผล”
    อาตมาก็ตอบตกลง แกบอกว่า
    “เดี๋ยวบอกให้นะ ไม่ต้องจดล่ะ คาถาของเด็กผู้หญิง ออแอ เพราะเด็กผู้หญิงเกิดมาร้อง ออแอ อออา เป็นเด็กผู้ชายคำร้อ
    ของเด็กผู้ชาย พระพุทธเจ้ามี เมตตาพุทโธ เมตตา แปลว่าความรักทั่วโลก และก็ พุทโธ แปลว่า ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
    คาถาสามคำนี่เป็นคาถาของเด็กอ่อนและพระพุทธเจ้า ก่อนจะสำเร็จก็ต้องเป็นเด็กมาก่อน ต้องมี ออแอ อออามาก่อนเหมือนกัน ”
    อาตมาก็ชอบคาถานี้มาก แล้วอาตมาก็ท่อง
    “ออแอ อออา เมตตาพุทโธ” ท่องเรื่อยทุกวัน แกบอกว่าให้ทดสอบได้ อาตมาทดสอบครั้งแรกกับ ยายจันคือ
    ธรรมดายายจัน แกแคะขนมครกขาย เมื่อเราวิ่งผ่าน แกก็จะคอยตีประจำแหละ แกว่าทำให้สกปรก
    อาตมาว่าคาถา ออแอ อออา เมตตาพุทโธ ก็ท่องไปเรื่อง พอยกขาขวาก็ว่า ออแอ อออา เมตตาพุทโธ พอยกขาซ้ายก็ว่า
    ออแอ อออา เมตตาพุทโธ ท่องด้วยความสำรวม มารยาทดีโดยไม่รู้ตัว พอไปถึงก็บอกว่า
    “ยายครับให้อภัยผมนะ ผมขอทางไปที”
    แกบอกว่า “เออวันนี้ดีนะ กูเตรียมไม้จะตีมึงน่ะ แต่วันนี้นิสัยดีมารยาทดีก็สงสาร”
    เออ คาถานี่ขลัง และก็ให้ขนมครกกินด้วย ปกติแกไม่เคยให้เลย ก็เข้าใจว่าคาถานี่ขลัง มาบอกพ่อเฒ่า
    “พ่อเฒ่า ตอนนี้คนที่เกลียดผมกลับรักผมมาก”
    “เออ ว่าคาถาดีนะ”
    พ่อเฒ่ายังบอกให้ลองเสกข้าวให้นกกิน ให้ไก่กิน ให้สัตว์กิน มันก็มากิน มาสนิทกับเรา นกป่าก็สนิทเพราะเราเสกข้าวให้กิน

    ล็อกเก็ตหลวงพ่อจำเนียรวัดถ้ำเสือ 2 องค์
    ปี๒๕๓๕
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20240917_141237.jpg IMG_20240917_141254.jpg
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    FB_IMG_1726600998503.jpg
    เหรียญหลวงพ่อแดง วัดป่าสามัคคีธรรม รุ่นแรกปี21
    ท่านเจ้าคุณแดงเป็นศิษย์โดยตรงของท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ครับ ท่านพ่อหมายมั่นปั้นมือให้ท่านเจ้าคุณแดงครองวัดต่อจากท่าน แต่เจ้าคุณแดงพยายามเลี่ยงตลอดมาด้วยเหตุผลว่า ศิษย์ท่านพ่อโดยมากเป็นพวกปากตะไกร และหัวดื้อ ว่ายากสอนยาก เขาเชื่อฟังนับถือแต่ท่านพ่อลีเท่านั้น เมื่อท่านพ่อลีนิพพานลง ท่านก็หาหนทางหนีจนได้โดยกลับไปพักวัดที่ท่านสร้างเอาไว้ชื่อวัดป่าสามัคคีธรรม ต.ท่าคันโท อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งช่วงนั้นท่านต้องดูแลวัดประชานิยม ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ด้วย
    ต่อมาท่านได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมาอยู่ราวสองสามพรรษา หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ก็มารับช่วงต่อ ท่านเจ้าคุณแดงจึงได้กลับไปอยู่วัดป่าสามัคคีธรรมอย่างถาวรสมปรารถนาท่าน แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังไป ๆ มา ๆ ระหว่างวัดท่านและวัดสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะวัดอโศการามที่ท่านไม่อาจทิ้งได้เสียทีเดียว เพราะอุตสาหะบากบั่นสร้างวัดนี้ขึ้นมากับมือร่วมกับท่านพ่อลี
    เหรียญรุ่นแรกของท่านเจ้าคุณแดงนั้นเป็นรูปทรงเสมา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. ๒๔๙๕ โดยคณะศิษย์ "วรจักร" เป็นผู้ขอสร้างถวาย ซึ่งท่านก็เมตตาอนุญาตเพราะคณะนี้เป็นกำลังหลักในการร่วมสร้างวัดอโศฯ มาด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นอุปัฏฐากสำคัญของท่านพ่อลีและท่านเจ้าคุณแดงเองด้วย แต่เมื่อรับเหรียญมาและอธิษฐานจิตเรียบร้อยแล้ว ท่านกลับคืนให้คณะผู้สร้างเพียงบางส่วนตามที่เขาขอ ส่วนที่เขาถวายท่านไว้ท่านไม่ได้แจกจ่ายเลย คงเก็บเงียบไว้และอธิษฐานพรอยู่เสมอ ๆ จวบจนวันท่านพ่อมาสร้างนาแม่ขาวขึ้นเป็นวัดอโศการามในปีพ.ศ. ๒๔๙๘ และประกอบพิธีฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษในปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านพ่อลีได้ทำพิธีพุทธาภิเษก "พระโพธิจักร" อันลือลั่น นอกจากการ "บินเดี่ยว" โดยท่านพ่อลีเองแล้ว ก็ยังมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรมคุณและอภิญญามากมายเข้าร่วมอธิษฐาน อาทิ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม, หลวงปู่ดุลย์ อตุโล, หลวงปู่สาม อกิญจโน, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ,หลวงพ่อพุธ ฐานิโย และท่านเจ้าคุณแดงนี้องค์หนึ่ง เป็นต้น เหล่าศิษย์เชื่อมั่นกันว่าท่านเจ้าคุณแดงได้นำเหรียญเสมารุ่นแรกที่เหลือนี้มาเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยแน่นอน
    ต่อมาท่านได้ตัดสินใจนำเหรียญนี้ออกแจกในงานฉลองอายุครบ ๗๒ ปีของท่านประมาณปีพ.ศ. ๒๕๒๓ ทำให้หลายคนได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเหรียญรุ่นแรกของท่านมีอยู่จริง เป็นที่สังเกตว่าเหรียญเสมาที่ท่านอธิษฐานจิตอย่างยาวนานหลายสิบปีนี้ ท่านเจ้าคุณแดงจะ "จาร" อักขระที่ด้านหลังเหรียญเหนือยันต์ทั้งด้านซ้ายและขวาทุกเหรียญ หากเหรียญไหนไม่มีก็สรุปได้ว่าเป็นเหรียญที่ท่านแจกในปีที่สร้าง คือพ.ศ. ๒๔๙๕ นั่นเอง
    ส่วนเหรียญรูปไข่ปีพ.ศ. ๒๕๒๑ นั้น เกิดจากคณะศิษย์ชาวจังหวัดสมุทรปราการที่เลื่อมใสศรัทธาท่านขอสร้างขึ้น และด้วยความที่ไม่ทราบ ไม่ระแคะระคายมาก่อนเลยว่าท่านเจ้าคุณแดงนั้นมีเหรียญรุ่นแรกที่คณะศิษย์วรจักรขอสร้างอยู่ เมื่อท่านเจ้าคุณอนุญาตและกำหนดยันต์แล้ว ศิษย์สมุทรปราการจึงได้ใส่คำว่า "รุ่นแรก" ลงไปด้วย แต่หากจะมองให้เป็นว่า "รุ่นแรก" ของศิษย์สมุทรปราการที่สร้างถวาย ก็จะได้รับความสุขใจและน่ารักดีไปอีกแบบ
    แต่ไม่ว่าจะรุ่นไหนอย่างใด หากท่านเจ้าคุณแดง ธัมมรักขิโต ได้อธิษฐานจิตแล้วไซร้ วัตถุนั้น ๆ ย่อมเป็นของสูงค่าสูงพุทธคุณ เพราะอานุภาพจิตของท่านมหัศจรรย์ล้นเหลือแทบไม่ต่างจากท่านพ่อลีผู้เป็นบูรพาจารย์เลย ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส ยังได้กล่าวยกย่องถึงภูมิจิตภูมิธรรมของท่านเจ้าคุณแดงอยู่บ่อยครั้ง ท่านว่า เวลาเราเดินจงกรมแล้วง่วงเหนื่อยเมื่อยเพลีย คิดอยากเลิก หรือเดิน ๆ อยู่แล้วกลัวผีไม่อยากเดินอีกต่อไป เพียงได้ยินเสียงท่านเจ้าคุณแดงกระแอมไอและหวดหางกระเบนในอากาศเสียงดังเควี้ยวคว้าวตรงมาทางที่ท่านยืนอยู่ ความง่วงเหนื่อยเมื่อยเพลีย และความหวาดกลัวภูตผีเป็นอันเตลิดแน่บหนีเข้าป่าหมดสิ้น สามารถนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมได้อย่างแข็งขัน จิตทรงตัวเป็นสมาธิดีเยี่ยม นั่นเพราะอาศัยความกลัวและเกรงบารมีท่านเจ้าคุณแดงเป็นหนักหนา ไม่มีพระเณรรูปใดไม่กลัวเกรงในความดุและเอาจริงเอาจังของท่านเลย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของและบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20240917_141540.jpg IMG_20240917_141509.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2024 at 11:02
  19. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,046
    ค่าพลัง:
    +6,759
    -ขอจองครับ
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,639
    ค่าพลัง:
    +21,332
    1-2.jpg


    หลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก วัดราษฎร์นิยมธรรม หรือวัดหนองผักชี ชาวบ้านเรียกขานท่านว่า “หลวงพ่อสูง” ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคมและเก่งกาจด้านพิธีกรรมและโดยเฉพาะการสวดภาณยักษ์ ซึ่งเป็นยอดพิธีหนึ่งที่มีความนิยมและเชื่อถือกันมากในความศักดิ์สิทธิ์ การสวดนี้เชื่อกันว่ามีพุทธานุภาพเพื่อเป็นการขับไล่ภูติผีปีศาจ สิ่งอัปมงคล สิ่งชั่วร้ายต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความสุขร่มเย็น หลวงพ่อสูงมีชื่อเสียงด้านนี้มาก และท่านมักจะได้รับเชิญไปร่วมพิธีอยู่เสมอ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญรุ่น 2 หลวงพ่อสูงให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240917_141703.jpg IMG_20240917_141727.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...