MY STYLE

หลากคนหลากสไตล์ หลากมุมมอง
ก็คงไม่ต่างจากลูกเต๋า ที่เป็น4เหลี่ยมมี 6ด้าน ทอดลงไปในกระดาน
ต่างคนต่างที่ต่างทิศ เห็นคนละแต้ม แต่เมื่อไหร่เราพบหรือเจอคนที่เห็นด้านเดียวกับเราละก็ นั่นหละพวกเดียวกัน
ก็คง
ไม่ต่างอะไรกับผีเห็นผีหละมั๊ง

V
V

แค่จะบอกว่าจะดีกว่าถ้าเห็นหลายหลายๆด้านหลายๆมุม จะได้เอามาพินิจพิจารณาหา-ปรับปรุง-สร้างข้อสรุปที่ดีกว่าเก่า แล้วอย่ามองแค่ด้านของตัวเองด้านเดียวหละ เด๋วเค้าจะว่าอคติมั่งเห็นแก่ตัวมั่ง เชื่อเถอะ

มีใครหลายคนเคยถาม ว่า ตายแล้วไปไหน? ตายแล้วเป็นยังไง?
...พระเจ้ามีจริงไหม?
ถามตัวคุณเองก่อน ว่า คุณ เชื่อแบบไหน?
...
ก่อนจะเข้าเรื่องตามที่เกริ่นไว้ ต้องขอความกรุณาให้ทำความเข้าใจในบางเรื่อง และเปิดใจที่จะรับข้อมูลต่างมุมมอง ซึ่งอาจจะไม่ใช่มุมมองเดียวกัน หรือมุมมองแบบเดิมๆที่เคยรู้หรือเข้าใจ อาจแตกต่างจากความเชื่อเดิมที่ยึดมั่นหรือยึดติดอยู่

โลกที่รู้จัก ในรูปแบบ HOLOMATRIX?
...
เคยสนใจบ้างไหมว่าระบบ มิติ เป็นแบบไหน ในระบบHOLOMATRIX มีด้วยกัน ไม่ต่ำกว่า 13มิติ
มิติ ที่ไม่ได้จำกัดความหมายถึง กว้าง ยาว สูง หรือหนาตามรูปแบบคณิตศาสตร์ หากแต่มิติที่จะกล่าวถึงจะเจาะจงไปที่ HOLOMATRIX ในรูปแบบฟิสิกส์ (เชิงซ้อนและแปรผัน)
... ฟิสิกส์ (Physics) ความหมายคือ ธรรมชาติสร้างสรรค์
มิติ 1 มิติ หรือ HOLOMATRIX 1place(Univers) คือ 1 โลกทัศน์ คือ 1 ความแตกต่าง
"""
... ตัวอย่างเช่น
เกิดแก่เจ็บตายเป็นยังไง???
ถ้าเปรียบใน 2D ก็วาดหกเหลี่ยมรังผึ้ง ต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด เราอยู่อันไหนก็ตั้งจุดไว้
....
ตั้งค่าให้เกิดมา โลกแรก(1st HOLOMATRIX ให้เรียกตัวแปลว่า Tier 1 (กฏไบนารี่ที่มีแค่ 1กับ0 จะยังไม่นำมาใช้อธิบาย)
...สถานะการณ์สมมุติ
เมื่อ - A ถูกรถชนตาย ณ ที่โลก(มิติ Tier1) จัดงานศพ พร้อมกับเผาเรียบร้อย
ส่วนเจ้าตัว??? อยู่ไหน???
อยู่ที่ Tier1-1 หรือ Tier2 (Tier แยกย่อยที่อยู่ติดกัน ลองวาดรังผึ้งดู)
ที่ซึ่งมีทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน(แวดล้อมเหมือนกัน กับมิติเดิม) แตกต่างกันก็เพียงแค่
*เจ้าตัว รู้/ไม่รู้ - อยู่/ไม่อยู่ (เจ้าตัวอาจจะเข้าใจว่า เฉียดตายไปและยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่เข้าใจว่าเกือบตายอะไรประมาณนั้น????) *มิติ Tier1 (ตาย) จิตจะไปทบรวมเข้ากับ Tier ใกล้เคียง (รังผึ้งช่องข้างๆ ไปช่องไหนขึ้นอยู่กับ กรรม ที่หมายถึงผลที่เกิดจากการกระทำก่อนหน้า)
การส่งผ่านระบบทาง จิต เพียงแต่ผ่านผู้รับส่ง ที่ให้กำเนิด (บรรพบุรุษ) เปรียบ จิต หากเปรียมเป็นน้ำที่ใสสะอาด
แล้ว เอาน้ำไปใส่แก้ว ต่างสภาพแวดล้อม และสิ่งเร้า (แล้วส่องตรวจดูโมเลกุล)
...
Tier1 ตาย/ดับ>>>>> เผา >>>>> ตอนใช้ชีวิต ปกปิด/ความผิด/ทำดีหรือชั่วฯลฯเท่าไร จิตตัดสิน(ระบบกลาง)ที่ทำงานอย่างมีระบบระเบียบ ซึ่งจะรับรู้หมดทุกการกระทำจะจัดการเองอย่างอัตโนมัติ ( เปรียบทางวิทยาศาสตร์ว่าทำไมจึงรับรู้หมด ต.ย.เช่น ประจุ ฮิกก์ส ที่มีความเร็วระดับจิต infinity distance per second อยู่ไหนทำอะไรก็ตามแต่ ถูกบันทึกหมด มีพยานเพียบไม่ต้องกลัว 　" ไม่ว่าจะห่างกี่เมตรกี่กิโลเมตรหรือจะระยะทางกี่ปีแสง จะส่งข้อมูลแบบทันทีทันใด )
ความรู้ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รู้ได้เห็นมา ฯลฯ จริงๆแล้วส่งต่อ-ถ่ายทอด ระหว่างจิต ไปทั่วทุกส่วนของ จักรวาล ใครทำอะไรรู้หมด แม้แต่ใครตดในลิฟท์
...
จิตตัดสิน(ระบบกลาง) คือ???
- ในศาสนามีการกล่าวถึงพระเจ้า ที่บรรพบุรุษเรียกว่า ยาเวห์/พระยะโฮวา (ชื่อฮิบรู ทางยูดาห์/คริสต์) อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา (ชื่ออาหรับ ทางอิสลาม) พระไวโรจนพุทธเจ้า(ชื่อทางพุทธ) จิตจักรวาล (ชื่อวิทยาศาสตร์ทางจิต) พระเจ้า (ชื่อสามัญทางวิทยาศาสตร์)
- จิตตัดสิน(ระบบกลาง) มีมาตั้งแต่แรกเริ่มพร้อมกับความมีอยู่ของจักรวาล (HOLOMATRIX) กล่าวคือ จิตเริ่มจากความมืดสนิทที่ไม่มีอะไร แล้วเริ่มมีสติ(จิตเล็กๆ) เมื่อพบเจอความว่างจึงเกิดความเหงา(อารมณ์/ความรู้สึกทางจิต) และเริ่มสร้างจิตสมมุติเพื่อให้มีคู่คิด จากนั้นจึงสร้างจิตนาการพร้อมเพิ่มพูลความรู้และความจำจากการทำซ้ำไปซ้ำมาควบคู่ไปกับการพัฒนาการด้วยตรรกะโดยใช้เหตุและผลก่อให้เกิดระบบในรูปแบบHOLOMATRIX การพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องโดยการเพิ่มผลิตผลจากผลิตภัณฑ์ โดยการเพิ่มจำนวนสิ่งมีชีวิต ซึ่งสิ่งมีชีวิตล้วนแต่มีจินตนาการ ที่มีความอยากเป็นบ่อเกิด นั่นจึงทำให้จักรวาลก่อตัวขึ้นอย่างไม่มีที่สุด
..
มิติต่อเนื่องและการตัดปล่อยจำเพาะจากระบบ
- หากใช้หลัก โลกทัศน์ เรามีชีวิตอยู่ในโลกทัศน์หนึ่งและมีการใช้ชีวิตซึ่งจะทำให้ได้มาซึ่งความรู้และประสบการณ์ ถ้าเปรียบเทียบโดยใช้ระบบตัวเลขไม่สิ้นสุด และเปรียบเทียบตามระดับความรู้ ความสามรถ ประสบการณ์และทักษะ(Skill)ต่างๆ อาจใช้ตัวแปรที่เรียกว่า ระดับ(Level) เมื่อมีความรู้/ประสบการณ์และพัฒนาการทางทักษะมากพอที่จะปลดล็อค เพื่อเลื่อนชั้นระดับซึ่งจะส่งผลต่อทุกรูปแบบทั้งทางชีวิตและสังคมของบุคคลนั้นๆ โดยมีตัวแปรผกผันกับกรรม(ผลจากการกระทำในการใช้ชีวิต)
- โลกดุนยา มีโลกทัศน์ (HOLOMATRIX) ให้ไม่จำกัด(หากไม่ได้เสียชีวิตตามธรรมชาติกำหนด) แต่โปรดกรุณาอย่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย เพราะมันสิ้นเปลืองพลังงาน และผู้ทำงานในระบบเหนื่อยโดยใช่เหตุ หากไม่มีคุณค่าอาจถูกดับได้ทุกเมื่อ และจะถูกส่งจิตไปยังนรกญะฮันนัมโดยอัตโนมัติ
- หากเสียชีวิตตามธรรมชาติกำหนด (ตายแก่ONLY) จะมีผู้รับจิตข้ามกำแพง(อาลัม)มิติไปยังHOLOMATRIXปรโลกกลาง(บัรซัค) เพื่อทำการคัดกรองแยกแบบจัดระเบียบ สู่HOLOMATRIXรูปแบบเฉพาะ (อาคิเราะห์)
.....
- สิ่งที่ต้องการใช้ในการพัฒนาระดับโลกทัศน์ให้ดีขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการอนุญาติให้มีและใช้ HOLOMATRIX ในอุดมคติ (อาคิเราะห์)
1. เป็นคนดีมีคุณธรรมและศีลธรรม หากประพฤติผิดอนุญาติให้ปลงอาบัติ (เตาบัติ สำหรับปุถุชน)
2. เข้าใจถึงสาเหตุ/เหตุผล ในการสร้างและให้มีชีวิต (สามารถอธิบายเหตุผลได้ในการสอบสวน)
3. การตรวจสอบจากการใช้ชีวิต(คล้ายกับตรวจการบ้าน)
...
ในปรโลก "ทุกการกระทำได้รับการบันทึกไว้ และสามารถถูกตรวจสอบ/เปิดเผย แก่ผู้เกี่ยวข้อง หากมีการเคลือบแคลงใจ มักใช้ในการไกล่เกลี่ยข้อครรหา และกรณีพิพาทที่ไม่เข้าใจหรือเข้าใจไม่ตรงกัน" มีVTRให้ดูอย่างชัดเจน พร้อมทั้งรูปแบบความคิดในขณะนั้น เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบหลักฐานในการจัดการคดีความและข้อพิพาทอย่างตรงไปตรงมาที่สุด
ต.ย.
- การก่อเหตุกระทำความผิดหากในดุนยาหลบหนีคดี หรือมีกรณีไม่ได้รับความยุติธรรมในดุนยา จะมีการตรวจสอบและพิจาณาไต่สวนอย่างยุติธรรมที่สุด โดยยึดหลักเหตุและผล ซึ่งตรวจสอบพิจารณาทั้งจากข้อมูลที่บันทึกไว้และรูปแบบลักษณะ ทางความคิดของคู่กรณี
- กรณีมีชู้ผิดซินา ผู้เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ได้ตามลำดับความสัมพันธ์ สามารถรับรู้ได้ทุกการกระทำและความคิดที่เป็นสาเหตุให้เกิดข้อพิพาทของคู่กรณี และพิจารณาลงโทษอย่างเหมาะสม
...
อยากสรรค์สร้างหรือทำอะไร ต้องใช้จินตนาการ+ความคิด ปรับแต่งโมดิฟายเข้าไป แม้แต่การปรับแต่งทางกายภาพ จึงเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่าจิตเป็นนายกายเป็นบ่าว เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมาให้ได้ความหลากหลายให้มากที่สุด และที่สำคัญ ENDLESS


โลก
ศาสนา
วิทยาศาสตร์
... หากจะหาความเกี่ยวเนื่องของ3สิ่งนี้เข้าด้วยกัน ต้องเพิ่ม ชีวิต เข้าไปเป็นตัวสัมพันธ์เชิงโมเลกุล
...
โลก ในความหมายทั่วไป คือดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การดำรงค์อยู่ของสิ่งมีชีวิต
...
ศาสนา คือ ??? หากแต่ในที่นี้ได้ให้จำกัดความไว้ว่า หลักปฏิบัติ / รูปแบบ-แนวทางที่ใช้ในการอยู่ร่วมกันตามลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม หรือ นำมาใช้เป็นวิถีทางดำเนินชีวิตแบบอยู่รวมกันของสิ่งมีชีวิตที่มีปฏิทางสังคม ก่อตัวจากการที่ผู้บัญญัติต้องการสร้างจุดกลางเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ
...
วิทยาศาสตร์ คือ กระบวนการสรรหาข้อสรุป โดยยึดหลัก เหตุและผล ในการแสวงหาอย่างมีที่มาที่ไป
...
ชีวิต เกี่ยวข้องกับสามสิ่งนี้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเกี่ยวข้องในรูปแบบไหน หรือเราใช้ชีวิตอย่างไร?
...
ปล. ไม่ต้องมาถามว่าผู้ตั้งกระทู้นี้นับถือศาสนาอะไร เพราะ ทางนี้ไม่ได้มองในมุมศาสนา แต่มองในรูปแบบการเรียนรู้แล้วนำมาปรับใช้
แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก่อนตรัสรู้ยังศึกษาเรียนรู้จากผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมให้เป็นอาจารย์ แล้วจึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มารวบรวมแล้วพินิจวิเคราะห์ปรับปรุงจนออกมาเป็นข้อสรุปต่างๆที่ได้เผยแพร่จนถึงทุกวันนี้

 

กระทู้นี้อิงศาสนาอิสลามครับ
และพระพุทธเจ้า ท่านทรงเน้นสอนเรื่องการดับทุกข์
ที่หากใครดับได้ถึงระดับทะลุขั้น จนสามารถเข้าใจและปลงได้ทุกเรื่องและดับสิ้นกิเลสได้หมดก็ไม่ไกลจากนิพพาน

ส่วนตัวแล้ว ผมนั้นยังเพิ่งผ่านช่วงวัยรุ่นไม่สุด (เพิ่งจะ30เอง) จะให้ดับหมดทุกเรื่อง ถ้าจะทำก็ย่อมได้ และดีด้วย
แต่เนื่องจาก ได้เกิดมาแล้ว จึงต้องพาชีวิตไปให้สุดความสามารถ ไหนจะครอบครัว กับลูกเมียอีก จะให้ทิ้งไปแบบดื้อๆ ก็เท่ากับไร้ความรับผิดชอบ

ตอบตามทัศนคติอิงอิสลาม ผมเลือกรูปแบบ อาบาดัน(เพื่อจะได้ทำธุระกับภาระให้ลุล่วง) มากกว่านิพพาน(คงต้องพอใจกับชีวิตในระดับที่ตั้งปณิธานไว้ให้สำเร็จก่อน) เพราะยังมีตัวตนอยู่ และไม่ต้องการละไปไหน (เพราะเกิดมาแล้วพร้อมทั้งภาระที่ต้องรับผิดชอบ) จะให้ละสังขารเล่นๆตามคำยุแยงของพวกชั่วร้าย ก็คงเลือกอยู่ต่อเพื่อสร้างคุณประโยชน์ก่อนดีกว่า

สำหรับเนื้อหาในกระทู้นั้น
ผมได้สรุปจากปัจจัตตังของผมเอง (คือพบเจอด้วยตัวเอง คือเป็นประสบการณ์ชีวิต)
แล้วพยายามเรียบเรียงข้อมูลในลักษณะหาคำอธิบายของคำตอบ(สิ่งที่พบเจอมา)
โดยนำสรุปให้เป็นวิทยาการวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด ก็เท่านั้น

MY STYLE คือสไตล์ของการทำความรู้จักกับชีวิตของฉัน

 

#ฝากถึงผู้ที่ใช้สกิลคำคมและคำสุภาพทั้งทางกริยาและวาจา ในการกระแหนะกระแหน/หลอกด่าผู้อื่น อย่างอ้อมๆ (ที่เรียกกันว่าอาการ "ปากไม่ตรงกับใจ" และ "ปากหวานก้นเปรี้ยว" ) หากใจคิดร้าย ต้องนึกถึง "สวรรค์ในอก นรกในใจ" ถึงแม้จะวาจาสุภาพ แต่ใจนั่นไปแล้ว ก็ไม่แคล้วจาก "นรกที่ตนเองสร้าง สำหรับตนเอง เพื่อตนเอง โดยตนเอง" เพราะช่วงนี้ผู้ที่ตกใจตนเองในวิถีทางนี้ มีเยอะมากๆ (คงเป็นเทรนกระมัง) ฝากๆด้วยครับ ตนเตือนตน และเตือนคนใกล้ตัว-คนอื่นๆ ก็ได้บุญเช่นกัน