อยากให้ ดร สนอง วรอุไร ออกมาชี้แจง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย devman, 12 กรกฎาคม 2013.

  1. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    อย่างน้อยผมก้อรู้ว่า ญาณที่เขาได้นั้นไม่ชัดเจน เพราะสำนักที่เขาไปเรียนนั้น ชอบดูถูกสำนักอื่นว่าไม่ดี และท่าน ดร ก้อเป็นคนหนึ่งที่สำนักนี้ยกย่องออกหน้าออกตา ผมจึงรู้แล้วว่าอย่างน้อยสำนักนี้ก้อไม่ได้วิเศษวิโสอะไร
     
  2. nirvana555

    nirvana555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +125
    ได้ผลของสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าได้ทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง
    คนเรามันพลาดกันได้ เรื่องธรรมดานิครับ
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เคยอ่านงานเขียนของ ดร.สนอง วรอุไร เกี่ยวกับประสบการณ์ในการ
    ปฏิบัติธรรมของเขา ที่เขาเล่าเรื่องอภินิหารต่างๆ ซึ่งฟังแล้วก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย

    แต่ผมไม่เคยนึกไม่เคยคิด ไม่เคยเชื่อเลยว่า ดร.สนอง คนนี้จะสำเร็จธรรมถึงขั้นโสดาบัน
    ตามที่หลายๆคนเข้าใจกัน
    เนื่องด้วย ดร.สนอง ยังมีความยินดี มีความีเพลิดเพลิน ยังมีความมัวเมา ในการเล่าประสบการณ์ ปาฏีหาริย์ต่างๆที่เขาได้พบในขณะปฏิบัติธรรมให้ผู้อื่นฟังอยู่
    คนใดที่ยังมีความยินดี ยังความเพลิดเพลิน ยังมีความมัวเมา ในอิทธิปาฏีหาริย์ของตนเองอยู่ ถึงขั้นนำมาเล่าให้ผู้อื่นฟังด้วยความมัวเมาเพลิดเพลิน
    คนนั้นจะเป็นอริยะบุคคลได้ยังไง สาเหตุก็เพราะเขายังมีกิเลสความมัวเมาอยู่
    ซึ่งความมัวเมานี้ เป็นสิ่งที่อริยะบุคคลต้องละให้ได้เสียก่อน ใครที่ยังละไม่ได้ ยังมีความมัวเมา ยังมีความยินดี พอใจ คนนั้นจึงยังไม่ได้เป็นอริยะบุคคล

    อย่างน้อยอริยะบุคคลต้องละสังโยชน์ได้ ๓
    ๑.สักกายะทิฏฐิ ความเห็นเป็นเหตุถือตน คือความมัวเมาในตน
    ๒.วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ๓.สีลพัตตะปรามาส ความเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธิปาฏีหาริย์ต่างๆ

    พระโสดาบันต้องละ ๓ ข้อนี้

    เมื่อดร.สนอง ยังมีความยินดี พอใจ หลงใหล เพลิดเพลิน ด้วยอิทธิปาฏีหาริย์
    ที่ตนได้ประสบในขณะปฏบัติธรรม และยังมีความยินดี พอใจ หลงใหลเพลิดเพลิน มัวเมา
    ในการเล่าเรื่องอิทธิปาฏีหาริย์เหล่านั้นให้คนอื่นฟังเนืองๆ ดังนั้นจึงวิเคราะห์และตัดสินได้ว่า ท่านไม่ใช่อริยะบุคคล เพราะอริยะบุคคล
    ต้องปล่อยวาง ความพอใจ ยินดี เพลิดเพลิน หลงใหล มัวเมาในเรื่องเหล่านั้นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...