"กระทู้จับฉ่าย".. สัพเพเหระ สิ่งละอันพันละน้อย เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย รูปสร้าง, 16 พฤศจิกายน 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อยู่กับ Chawalee Chumkum
    15 นาที

    นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงในพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนการดำตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ ภายใต้แนวคิดหลักคือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งหวังให้อาเซียนก้าวสู่อนาคตอย่างมีพลวัต ใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค ตลอดจนสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งนี้ ความร่วมมือของอาเซียนจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 4 ประการ

    ประการที่หนึ่ง ประชาชนจะมีความมั่นคงที่ยั่งยืนมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการแข่งขันและความไม่แน่นอนสูง อาเซียนได้วางรากฐานความไว้เนื้อเชื่อใจในเชิงยุทธศาสตร์ที่ยั่งยืน เป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยได้นำหลักการภายใต้สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) มาใช้ในบริบทที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก และจัดตั้งกลไกแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการส่งกลับผู้พลัดถิ่น

    ประการที่สอง ความร่วมมือของอาเซียนในปีนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและลดผลกระทบจากความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน โดยการสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผลึกกำลังของกลุ่มประเทศซึ่งมี GDP รวมกันร้อยละ 32 ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 30 ของการค้าโลก โดยอาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ประเทศคู่ค้าเปิดตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมโยง ASEAN Single Window ให้ครบทั้ง 10 ประเทศในปีนี้ การริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง IUU และการจัดทำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดทุนอาเซียน จะทำให้ผู้ประกอบการในอาเซียนได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการผลักดันยุทธศาสตร์เชื่อมโยงความเชื่อมโยง ซึ่งอาเซียนได้ประกาศโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน 19 โครงการ ที่ธนาคารโลกได้พิจารณาเห็นว่ามีศักยภาพที่ภาครัฐและเอกชนน่าจะมีความสนใจร่วมลงทุน

    ประการที่สาม อาเซียนให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะร่วมมือในประเด็นด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ การต่อต้านขยะทะเล, การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ ของเด็กและเยาวชน, การเสริมสร้างอัตลักษณ์ของอาเซียน และการสนับสนุนให้อาเซียนร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2577 ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวอาเซียนมีความภาคภูมิใจต่อความเป็นอาเซียนร่วมกัน

    ประการที่สี่ ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือทั้งภายในอาเซียนและระหว่างภาคีภายนอกของอาเซียนจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันรับรองเอกสารวิสัยทัศน์ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนสำหรับเป็นแนวทางการสานต่อความยั่งยืนในทุกมิติ

    นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมเน้นย้ำถึงการสร้างความยั่งยืนในอาเซียนต่อจากนี้ ซึ่งจำเป็นต้องมี 3Cs ได้แก่ 1) Continuity 2) Complementarity และ 3) Creativity ทั้งนี้ เป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว จึงต้องมี C ตัวแรก คือ Continuity กับข้อริเริ่มที่สำคัญจากปีก่อน ๆ เพื่อให้สามารถเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยอาศัย C ตัวที่สอง คือ Complementarity ความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มที่เกื้อกูลกันในอาเซียน สุดท้ายต้องใช้ C ตัวที่สาม คือ Creativity ในการแก้ปัญหาที่คั่งค้างและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตอย่างสร้างสรรค์ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีอวยพรให้เวียดนามและอาเซียนประสบความสำเร็จต่อไปในปีหน้า

    1.jpg 2.jpg

    3.jpg 4.jpg

    5.jpg 6.jpg

    7.jpg
    .
     
  2. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    20 นาที

    นายกรัฐมนตรีแถลงสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยครั้งนี้เป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความเป็นหุ้นส่วน เพื่อสานต่อผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

    ประเทศไทยเห็นความสำคัญของหุ้นส่วนในการขับเคลื่อนความยั่งยืนของอาเซียน จึงได้นำผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ไปหารือกับผู้นำ G20 ที่นครโอซากา และได้นำเสนอประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ 4 ประการ คือ

    การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงแหล่งทุน การพัฒนาทุนมนุษย์ และการแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยกิจกรรมดังกล่าวมีประเทศ G20 เข้าร่วมสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ ไทยได้ผลักดันประเด็นเหล่านี้กับประเทศคู่เจรจาและนำไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการหารือระหว่างอาเซียนกับภาคีของอาเซียนในช่วงการประชุมสุดยอดครั้งนี้

    ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผู้นำจาก 18 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยเลขาธิการสหประชาชาติและกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้มาร่วมประชุมกันที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีแห่งนี้ โดยผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมระดับผู้นำทั้ง 9 การประชุม ทั้งการประชุมระหว่างอาเซียนกันเองและกับประเทศคู่เจรจาที่สำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินเดีย และสหประชาชาติ รวมทั้งมีการประชุมในกรอบอาเซียนบวกสาม การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส และการประชุมสุดยอด RCEP นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษที่ไทยได้จัดขึ้น คือ งานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งที่ประชุมยินดีต่อข้อเสนอไทยที่จะจัดการประชุมระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกเพื่อสร้างหุ้นส่วนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2563

    การประชุมทั้งหมดนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี แสดงให้เห็นถึงบทบาทนำและความเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคและการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศต่าง ๆ ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันและการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ และความตึงเครียดทางการค้า โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สานต่อข้อริเริ่มของอาเซียนในปีที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นข้อริเริ่มความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะกับจีน และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น จีน และประเทศอาเซียนบวกสาม ภายใต้แนวทางการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงของอาเซียนที่ไทยได้ริเริ่ม ซึ่งประเด็นนี้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ และการสนับสนุนในเชิงวิชาการจากธนาคารโลกอีกด้วย

    ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เราได้ต่อยอดการส่งเสริมความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นำอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับการสานต่อมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิกผ่านกิจกรรมและโครงการความร่วมมือในลักษณะ win-win บนพื้นฐานของหลักการสามเอ็ม คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน การเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

    ได้หารือกันในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาค และเห็นความจำเป็นที่จะต้องรักษาพลวัตในการหารือเพื่อแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ โดยสันติวิธี ในการประชุมครั้งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะร่วมกันรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนและการเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์เพื่อส่งเสริมพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ

    ผู้นำอาเซียนต่างเห็นว่า ความมั่นคงที่ยั่งยืนจะเกื้อกูลการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีพลวัต อาเซียนจึงมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ในการนี้
    การสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ตามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มประเทศซึ่งมี GDP รวมกันร้อยละ 32 ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 30 ของการค้าโลก รวมทั้งการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อให้เราได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยง ASEAN Single Window ได้ครบทั้ง 10 ประเทศ การสรุปการเจรจาข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน ตลอดจนการริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง IUU

    ผู้นำอาเซียนได้หารือเพื่อร่วมมือกับภาคีภายนอกในการต่อยอดการสร้างความมั่นคงของมนุษย์ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ และการศึกษาของเด็ก นอกจากนี้ยังได้ลงนาม MOU กับฟีฟ่า เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลในอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเสนอตัวของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือฟีฟ่าเวิล์ดคัพในปี 2577 ด้วย

    ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้พบหารือกับผู้แทนภาคประชาสังคม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยได้รับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมเพื่อทำให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

    ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันสานต่อเจตนารมณ์ของเอกสารวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน โดยภาคีภายนอกได้แสดงความพร้อมที่จะช่วยอาเซียนเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านแผนงานการส่งเสริมข้อริเริ่มความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ (Complementarities Roadmap) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ รวมทั้งผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกได้ออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอในการร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมจากผู้นำอาเซียน แขกของประธาน และองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ จากงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย

    การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวศูนย์อาเซียนในประเทศไทยอีก 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม และศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไทยมอบให้กับอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โดยจะรองรับประเด็นต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม การรองรับการเข้าสังคมสูงวัย และการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวม

    นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้มีข้อตัดสินใจร่วมกันให้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ที่เมืองดานัง เวียดนาม ในปี 2563

    นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณผู้นำอาเซียนและภาคีภายนอกของอาเซียนที่ได้สนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขอบคุณพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนการจัดการประชุมและกิจกรรมภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ติดตาม และเผยแพร่ข่าวสารการประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ ให้สาธารณชนได้รับทราบ และที่สำคัญที่สุด ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่มีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีให้แก่อาเซียนตลอดทั้งปีนี้ เราตระหนักดีว่าเป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว ซึ่งไทยได้สานต่อข้อริเริ่มที่สำคัญจากปีก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับโลกของฟิลิปปินส์ หรือการสร้างความเข้มแข็งและนวัตกรรมของสิงคโปร์เพื่อขับเคลื่อน “วาระของอาเซียน” เหล่านี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ขอให้คนไทยทุกคนภูมิใจว่า ปีนี้เราได้ช่วยวางรากฐานเพื่อนำไปสู่อาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติและผมมั่นใจว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

    สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีหน้าเพื่อสร้างอาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติต่อไป

    a.jpg b.jpg

    c.jpg d.jpg

    e.jpg f.jpg
    .
     
  3. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    รวมพลคนสอบครูผู้ช่วย วิทยากร บัวแสงใส
    3 เมษายน 2013

    ประธานอาเซียน (President of ASEAN)

    ตามบทบัญญัติของกฎบัตรอาเซียน "ประธานอาเซียน" เป็นตำแหน่งสูงสุดของอาเซียน ดำรงตำแหน่งวาระ 1 ปี ตำแหน่งประธานอาเซียนจะหมุนเวียนกันในประเทศสมาชิกตามลำดับตัวอักษร และประเทศที่เป็นประธานอาเซียนจะรับตำแหน่งประธานของกลไกของอาเซียนทุกตำแหน่ง อาทิ ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน มนตรีประสานงานอาเซียน มนตรีประชาคมอาเซียนคณะต่างๆ ประธานผู้แทนถาวรประจำอาเซียน ลำดับการเป็นประธานอาเซียนจากนี้ไปจะเป็นดังนี้

    ปี 2011 - อินโดนีเซีย (สลับวาระการเป็นประธานอาเซียนกับบรูไนดารุสซาลาม)
    ปี 2012 - กัมพูชา
    ปี 2013 – บรูไนดารุสซาลาม**
    ปี 2014 - ลาว
    ปี 2015 - มาเลเซีย
    ปี 2016 - พม่า
    ปี 2017 - ฟิลิปปินส์
    ปี 2018 - สิงคโปร์
    ปี 2019 - ไทย
    ปี 2020 - เวียดนาม
    ..............................
    ประธานอาเซียน
    ไปที่กูเกิล >> https://www.google.com/search?client=firefox-b-d&q=ประธานอาเซียน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2019
  4. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    27 นาที

    นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 11 ร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 11 และแสดงความยินดีในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

    การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมกันทบทวนความคืบหน้าของการดำเนินโครงการความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 รวมทั้งร่วมกันหารือแนวทางในการขับเคลื่อนความร่วมมือในอนาคต และประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อให้ลุ่มน้ำโขงเป็นอนุภูมิภาคที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

    นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ปี 2019 ได้ถูกกำหนดให้เป็น “ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น 2019” (Mekong – Japan Exchange Year 2019) เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของกรอบความร่วมมือ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา อนุภูมิภาคมีพัฒนาการเชิงบวกต่าง ๆ เกิดขึ้น เป็นผลมาจากความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่นได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ การยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายและ EEC ของไทย ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นเป็นกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคที่ทันสมัยที่สุด

    จากการที่ญี่ปุ่นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะสามารถช่วยขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนแม่บท ACMECS ให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

    สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ร่วมเป็นประธานการประชุมครั้งนี้ พร้อมชื่นชมญี่ปุ่นที่แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขงในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ

    1.jpg 2.jpg

    3.jpg 4.jpg

    5.jpg
    .
     
  5. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ไทยคู่ฟ้า
    3 ชม.

    #ไทยคู่ฟ้า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ BBB+ ขยับขึ้นเป็น A- โดยบริษัท Rating and Investment Information, Inc. หรือ R&I ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น ในส่วนมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ของประเทศนั้นยังคงอยู่ที่ระดับเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีปัจจัยสำคัญ ๆ ที่ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของประเทศเพิ่มขึ้น เช่น การดำเนินมาตรการเชิงรุกในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC), การเกินดุลการค้าและดุลบริการที่เพิ่มขึ้น, การบริหารจัดการด้านการคลังที่มีประสิทธิภาพและมีรูปธรรมชัดเจน รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่องนั้นจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    c_oc=AQmdeOQGsFYArUWGF3VBZZ7WShL34jCY6T1bsG7Nx0NmiTKR5_dr5DZNcMtt_V8zVUE&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  6. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    14 นาที

    เช้านี้มีโอกาสต้อนรับ นาง Kristalina Georgieva กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่เข้าเยี่ยมคารวะท่านนายกฯ ณ ทำเนียบรัฐบาลค่ะ

    1.jpg 2.jpg

    3.jpg 4.jpg

    5.jpg 6.jpg

    7.jpg 8.jpg

    9.jpg
    .
     
  7. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
    19 นาที

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินมาส่ง เหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม หลังปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ซึ่งเวียดนามจะรับหน้าที่ประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนในปี 2563


    .
     
  8. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    สมเกียรติ โอสถสภา
    58 นาที

    ขบวนการเสี้ยมสร้างความแตกแยกด้วยศาสนา เผลอไม่ได้ เลว คุกๆๆ

    นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสการส่งต่อข้อมูลทางสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษานั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ

    สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอชี้แจงว่า

    กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เริ่มสอนรายวิชาอิสลามศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีนักเรียนนับถือศาสนาอิสลามเกินร้อยละ 50 มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 โดยจัดให้อิสลามศึกษาอยู่ในกลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและกลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยในหลักสูตรประถมศึกษา และจัดเป็นรายวิชาในหมวดสังคมศึกษาในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งได้พัฒนาหลักสูตรอิสลามศึกษามาเป็นระยะเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรของศธ.

    ปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนสังกัด สพฐ. มี 2 มิติ ได้แก่
    มิติแรก สาระการเรียนรู้อิสลามศึกษา ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551

    มิติที่สอง
    การเรียนการสอนวิชาสามัญควบคู่ศาสนาหรืออิสลามศึกษาแบบเข้ม ตามนโยบายศธ. ปัจจุบันมีโรงเรียนของรัฐที่เปิดสอนวิชาสามัญควบคู่ศาสนา ทั้งสิ้น 350 โรงเรียน โดยการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาทั้ง 2 มิตินั้น มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องเรียนอิสลามศึกษาตามที่มีกระแสการส่งต่อข้อมูลในสังคมออนไลน์แต่อย่างใด

    กระแสข่าวกระทรวงศึกษาธิการ บรรจุหลักสูตรวิชาอิสลามศึกษา โดยบังคับให้เด็กชั้นประถมศึกษา-มัธยมศึกษาทุกคนเรียน สร้างความปั่นป่วนบนโลกออนไลน์ กับข้อกังวลเรื่องความเชื่อที่แตกต่างกันระหว่างศาสนาอิสลาม และพุทธ ข้อเท็จจริง คือ กระทรวงศึกษาธิการ เริ่มสอนรายวิชาอิสลามศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518

    ปัจจุบันหลักสูตรนี้ มุ่งเป้าหมายเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลาม ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องเรียนวิชานี้ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในสังคมออนไลน์

    ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ
    ------------------------------------------

    ไปที่กูเกิล
    สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
    >> https://www.google.com/search?client=firefox-b-d&q=สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน+(สพฐ.)

    เว็บไซต์สำนักฯ ภายใน สพฐ.
    >> https://www.obec.go.th/internalwebsite
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2019
  9. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    "สร้างสรรค์" กับ "ทำลาย" นั้นตรงข้ามกัน อย่าเชื่ออะไรง่ายๆโดยไม่พิจารณา
    ----------------------------------------------------------------------------------------------
    จาก facebook
    Suphanat Aphinyan
    23 นาที

    #เศรษฐกิจไทยแย่หรือแค่สะกดจิตหมู่

    พอกันทีเถอะครับกับการสะกดจิตหมู่ บิดเบือนข้อมูลทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเกลียดชังใส่ร้ายโยนความผิดทุกอย่างให้กับผีเผด็จการที่ไม่มีตัวตน เพียงเพื่อหวังปลุกระดมมวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงในการล้มล้างการปกครอง

    เพราะความจริงแล้ว เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลของ IMF พบว่า “GDP2019แบบปกติ (Nominal GDP) และแบบกำลังซื้อ (เปรียบเทียบกับอำนาจซื้อโดยดูจากค่าครองชีพ หรือ GDP at Purchasing Power Parity (PPP))”

    ประเทศไทยของเราได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 25 กับ 20 ตามลำดับ จากประเทศทั้งหมดเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก

    ส่วนการดู “อัตราการเจริญเติบโตของGDP”อย่างเดียวโดยไม่เทียบกับ “ขนาดของGDP” มาประกอบนั้น ถือได้ว่าเป็นข้อมูลที่คับแคบและแทบจะไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรเลยในการเปรียบเทียบใดๆ

    เพราะเมื่อเปรียบเทียบประเทศที่มี “GDP2019” สูงสุด 24 ประเทศแรกของโลก กับประเทศไทยที่มี “GDP2019” อยู่ที่อันดับ 25 ของโลกแล้วพบว่า เกือบทุกประเทศที่มี “GDP2019” สูงมากกว่าประเทศไทยนั้นมี “อัตราการเติบโตของGDP” ที่ต่ำ...ต่ำกว่าประเทศไทยเสียอีก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกาอันดับ1, ญี่ปุ่นอันดับ3, เยอรมันอันดับ4, อังกฤษอันดับ6, ฝรั่งเศสอันดับ7, อิตาลีอันดับ8, บราซิลอันดับ9, แคนาดาอันดับ10, เกาหลีใต้อันดับ11, รัสเซียอันดับ12, สเปนอันดับ13, ออสเตรเลียอันดับ14, เม็กซิโกอันดับ15, เนเธอร์แลนด์อันดับ17, ซาอุดิอาระเบียอันดับ18, สวิตเซอร์แลนด์อันดับ19, ตุรกีอันดับ20, ไต้หวันอันดับ21, สวีเดนอันดับ23 และ เบลเยียมอันดับ24

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโดยส่วนมาก ยิ่งมีขนาดของ GDP ใหญ่ขึ้นเพียงใด โอกาสในการเติบโตของ GDP ก็จะยิ่งน้อยลงไปเท่านั้น ยกเว้น เพียงแค่ 4 ประเทศเท่านั้น ที่มีขนาดของ GDP ที่ใหญ่กว่าประเทศไทย แล้วยังมีอัตราการเติบโตของ GDP ที่สูงมากกว่าประเทศไทย คือ จีนอันดับ2, อินเดียอันดับ5, อินโดนีเซียอันดับ16 และ โปแลนด์อันดับ22 นั่นก็อาจจะเป็นด้วยเหตุผลในเรื่องของความได้เปรียบเชิงทรัพยากรในด้านต่างๆที่มีความเฉพาะตัว

    ต่อมาเมื่อดูข้อมูลย้อนหลังของ World Bank ตั้งแต่ ค.ศ.1960-2018
    ประเทศไทยมี GDP ที่เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจจะมีปัญหาจากความขัดแย้งทางการเมืองมากระทบบ้าง ซึ่งเมื่อจากการรัฐประหารครั้งล่าสุดแล้วพบว่าส่งผลกระทบทำให้ GDP2015 กับ GDP2016 ต่ำกว่าGDP2014

    แต่อย่างไรก็ตาม GDP2017, GDP2018 และ GDP2019 ก็เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนปัจจุบัน

    อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบหนี้สาธารณะกับประเทศอื่นๆก็ยังพบว่า ประเทศไทยมีปริมาณหนี้สาธารณะที่ค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ จากชุดข้อมูลภาพที่ได้นำมาเสนอไว้ในที่นี้

    ดังนั้น สังคมไทยควรตระหนักได้แล้วว่า การสะกดจิตหมู่ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนเพียงเพื่อหวังปลุกเร้าความเกลียดชังทางการเมืองนั้นมีอยู่จริง มีการสร้างผีเผด็จการขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนเองในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง

    โดยมีเบื้องหลังคือนักการเมืองกับสื่อชั้นเลวภายใต้การควบคุมของนักการเมืองเลวๆเหล่านั้น ที่เห็นแก่ตัวและได้ใช้เกมการเมืองทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติ ใส่ร้ายประเทศชาติตัวเองอย่างต่อเนื่องผ่านการสะกดจิตหมู่คนภายในประเทศ และความพยามให้ร้ายประเทศชาติของตัวเองในเวทีโลก ทั้งหมดนี้เพื่อหวังแย่งชิงอำนาจทางการเมืองจากฝ่ายรัฐบาลโดยไม่สนต่อผลเสียที่เกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์ประเทศชาติและเศรษฐกิจ

    ตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศชาติก็ไม่ได้แย่อย่างที่พยามปั่นกระแสกัน หากหวังดีกับประเทศชาติจริงๆ ห่วงใยเศรษฐกิจของประเทศชาติจริงๆ

    จงหยุดถ่วงความเจริญ หยุดสะกดจิตหมู่สร้างมวลชนชังชาติ แบ่งแยกประชาชนเป็นฐานเสียงที่ไร้สติ สุดท้ายหวังปลุกระดมล้มล้างการปกครองเสียเถิด

    นี่เวลาก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ภาษีของประชาชนถูกใช้ไปไม่น้อย ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ก็ได้รับภาษีของประชาชนไปแล้วกว่าร้อยล้านบาท นอกจากสร้างภาพ สร้างวาทกรรม สร้างกระแส เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจ ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติ ใช้สื่อในมือล้างสมองปลุกระดมสร้างความแตกแยกไปวันๆ พรรคอนาคตใหม่ภายใต้การนำของสนิม 3 ก้อน มีผลงานอะไรบ้างครับ?

    เคยรู้สึกละอายบ้างหรือไม่?
    ถ้าไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นก็หยุดก่อความไม่สงบและสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติบ้านเมืองเสียทีเถิด
    #หยุดถ่วงความเจริญของประเทศชาติ

    ดร.ศุภณัฐ
    6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
    #ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ
    ----------------------------------------------------------------------------------
    อ้างอิง...
    https://data.worldbank.org/country/thailand
    https://knoema.com/…/world-gdp-ranking-2019-gdp-by-country-…
    https://www.imf.org/…/pubs/ft/weo/2019/02/weodata/index.aspx
    http://worldpopulationreview.com/countries/countries-by-gdp/
    https://www.nextbigfuture.com/…/almost-static-global-econom…
    https://www.bworldonline.com/philippines-moves-to-attrac…/…/
    https://www.bangkokpost.com/…/asean-3-need-to-retool-to-ben…
    lP-iNunkOUwjtawj-00_nMza7zMHthEHhSHzxO90q6FAz_vciIXIyq8xOLCUcU4KR5Yjl7ee&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2019
  10. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook

    Most Dangerous mountain roads In The World, Heavy Equipment Truck Skill Driving
     
  11. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
  12. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
    51 นาที

    คนไทยควรตระหนัก ! แรงงานเมียนมา-กะเหรี่ยง จัดงานบุญกฐินใหญ่สุดประทับใจ ขบวนแห่ถือพระบรมฉายาลักษณ์ สำนึกถึงการได้อยู่ใต้ร่มพระบารมี

    L8twoOd&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fwww.abbaroi.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F11%2F11-14.jpg
    ABBAROI.COM
    เมียนมา-กะเหรี่ยง จัดงานบุญกฐินใหญ่ สุดประทับใจขบวนแห่ถือพระบรมฉายาลักษณ์ .. (อ่านต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2019
  13. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya 15E5QI0D4Of.png กำลังรู้สึกเบิกบานที่ สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
    เมืองพัทยา

    สวนนงนุช ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 4 พันคน

    นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้จัดงานเทศกาล "วันลอยกระทง" เพื่อสืบสานประเพ ณีอันดีงามของไทย ภายในทะเลสาบสวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกว่า 4,000 คน เช่าเหมาลำเครื่องบิน โดย 3 บริษัททัวร์ ประกอบด้วย Anex Tour , Pegas Touristik และ Odeon Tour เข้าชมความงดงามและร่วมลอยกระทงสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย วันละกว่า 1,300 คน รวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.62 โดยสวนนงนุชพัทยา ได้จัดเตรียมกระทงแบบไร้มลพิษกว่า 4,000 กระทง ให้นักท่องเที่ยวรัสเซียได้ร่วมลอยกระทงพร้อมครอบครัวในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

    ได้จัดให้มีการแสดง แสง สี เสียง อย่างตระการตา อาทิ ชุดระบำชนไก่ การแสดงชุดนพนทีศรีสยาม คาบาเร่ย์โชว์ การแสดงโอเพนนิ่งโชว์ "ยี่เป็ง" ในชุดมนต์เสน่ห์แห่งสายน้ำ ซึ่งเป็นการบอกเล่าถึงความเป็นอยู่ของมวลมนุษยโลกที่มีความผูกพันกับสายน้ำ ตลอดจนเกิดเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการขอขมาพระแม่คงคาหรือสายน้ำที่มีบุญคุณอันยิ่งใหญ่มีคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งปวง โดยถือเอาวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง น้ำขึ้นเต็มฝั่งเป็นวันลอยกระทง จนทำให้ชาวต่างชาติให้ความสนใจเช่าเหมาลำเครื่องบินเข้ามาท่องเที่ยวชมความงดงามและร่วมลอยกระทงสืบสานประเพณีอันดีงามของไทยเป็นประจำทุกปี ในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทงของไทย

    1.jpg 2.jpg

    3.jpg 4.jpg

    5.jpg 6.jpg

    7.jpg
     
  14. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    เดือดทะลักจุดแตก
    6 ชม.

    จิ้งเย่ บริษัทเหล็กกล้าของจีน ทุบกระปุกซื้อ บริติช สตีล ของอังกฤษ มูลค่า 1.2 พันล้านปอนด์!
    “ตีเหล็กต้องตีตอนร่วง”
    ฉวยจังหวะที่ธุรกิจกำลังร่อแร่ จ่อปากเหวทั้งจากพิษเศรษฐกิจ และจากเบร็กซิท ที่อังกฤษร่ำๆจะออกจะยุโรป แต่ดีลการค้ายังไม่ลงตัว ทำเอานักลงทุนหอบเงินหนีไปหมด

    กระโจนมาตอนนี้ นอกจากได้ของถูก แถมยังกลายเป็น ‘ฮีโร่’ ผู้กอบกู้อีกต่างหาก หว่านเงินลงมาครานี้ ช่วยชาวผู้ดีกว่า 4 พันคนให้ไม่ต้องตกงาน

    ซ้ำ จิ้งเย่ ยังประกาศจะ ‘จ้างงาน’ เพิ่มให้เต็มสตรีม โอ้ ไม่รักได้ไงไหว พ่อพระจากแดนมังกร
    -------------
    ฮุบเหล็กกล้าอังกฤษงวดนี้ เป็นเพียงหนึ่งในหนังตัวอย่าง
    เบ็ดเสร็จ สถิติ 8 เดือนแรกของปีนี้ จีนโยนเงินไล่ซื้อกิจการในสหราชอาณาจักร ซัดไปตั้ง 8.3 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับปีก่อน รวมทั้งปีเพิ่งแค่ 6.1 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจากดีลอยท์)

    ไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะตอนไหน! ก็ต้องจังหวะนี้ ที่ธุรกิจเมืองผู้ดีกำลังโซซัดโซเซ ต้องการคนประคับประคอง แต่ผู้คนหนีหน้าไปกันหมด เหลือแต่จีนเท่านั้นที่ยังมีเงินถุงเงินถัง

    แถมความง่อนแง่นของเบร็กซิท ฉุดให้เงินปอนด์อ่อนค่าบรรลัย ยิ่งทำให้ซื้อถูกเข้าไปอีก
    -------------
    จีนไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าซื้อนะครับท่าน
    อย่างเหล็กกล้านี่น่ะหรือ โปรดดูก่อนว่าปีนี้ทั้งปี จีนใช้มากขึ้น 7.8% ทะลุ 900.1 ล้านตัน
    มันมากขนาดไหนหรือ ก็ต้องบอกว่าเอาที่เหลือทั่วโลกมารวมกันยังสู้จีนประเทศเดียวไม่ได้เลย โตแค่ 0.2% มาอยู่ที่ 874.9 ล้านตัน (ข้อมูลจากสมาคมเหล็กกล้าโลก)

    และที่สำคัญ เหล็กกล้าที่ บริติช สตีล ผลิตได้ ก็แตกไลน์จากของ จิ้งเย่ เพราะไม่เคยผลิตมาก่อน อาทิ รางรถไฟ ลวดในล้อรถยนต์ ฯลฯ ถือเป็นการช่วยสยายปีกแผ่ขยายอาณาจักรธุรกิจ

    ก็ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องกันถ้วนหน้า ยิ่งถ้าเบร็กซิทส่อเค้ารุ่งริ่งลึกลงไป คงเห็นจีนกว้านซื้ออีกบานเบอะ!

    ที่มา: CNN, Deloitte, World Steel Association
    c_oc=AQmUypMpnJiss6ZfGdUnHjiX75V13AetHBgaNvubzuYn8s6mkl5UcODhsPBI_oVdS-0&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2019
  15. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    ไทยคู่ฟ้า
    12 นาที

    #ไทยคู่ฟ้า ครม. อนุมัติโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 3 จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์ โดยครั้งนี้กลับมาพร้อมกับการกันสิทธิ์ 5 แสนสิทธิ์ ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ภายใต้เงื่อนไขเดิม คือ จะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 62 เป็นต้นไป แบ่งเป็นวันละ 2 รอบ คือ 06.00 น. และ 18.00 น.

    ผู้ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 3 นี้ จะได้รับสิทธิ์เฉพาะการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet 2 คือ สามารถเติมเงินในกระเป๋า g-Wallet 2 เพื่อใช้จ่ายและรับสิทธิ์เงินคืน 15% สำหรับยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และรับเงินคืน 20% สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด รวมถึงจังหวัดตามทะเบียนบ้านด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทั้ง 3 เฟส จะสามารถใช้งาน g-Wallet 2 ได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 63

    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ชิม ช้อป ใช้ Call Center by Krungthai โทร.0 2111 1144

    Nk0G2WOpqgr_cM-jvl4EmRrxiWkoRr5jdgHJgRSXklK5K-IZ_CqHNyZCZQDXdg0nKNfTXzFw&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  16. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    Kanok Ratwongsakul Fan Page
    5 ชม.

    ม็อบฮ่องกง..งัดอาวุธ สมัย "สามก๊ก" มารบ คงนึกว่าตัวเองเป็น จูล่ง มั๊ง..

    จากวันที่ 9 มิถุนายน 62 วันแรกที่เริ่มชุมนุมประท้วง ต่อต้านกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนฮ่องกง เพราะเกรงว่า ร่างกฎหมายนี้จะทำให้ฮ่องกงถูกความครอบงำจากกฎหมายของจีนแผ่นดินใหญ่

    แม้มีการเลื่อนพิจารณาร่างกฏหมายออกไป ไม่มีกำหนด แต่ข้อเรียกร้องของม็อบก็เขยิบมากขึ้น จนยากจะหาจุดลงเอย
    ม็อบเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับตัวไป, เรียกร้องการเลือกตั้งผู้บริหารเกาะได้โดยตรง..

    1 ตุลาคม 62 วันครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน มีนักศึกษาอายุ 18 ปี ถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนจริง !
    จนถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาเจ็กคิดต่างจากม็อบ ถูกราดน้ำมันจุดไฟเผา !! มันโหดร้ายมาก..เผาคนทั้งเป็นหน้าตาเฉย..

    ฮ่องกงวันนี้..นักท่องเที่ยวลดลงกว่า 40 % ขณะที่ยอดพักของโรงแรมลดลง 50-60 % ธุรกิจบริการต่างๆ..กำลังวิกฤต !
    ร้านอาหารไทยที่มีอยู่กว่า 600 ร้านค้า พากันปิดตัวลง บางรายก็ย้ายไปเปิดสาขานอกเมือง เพื่อลดผลกระทบ

    จากม็อบที่มีเป็นหลักล้านเมื่อ 5 เดือนก่อน กลายเป็นหลักร้อยหลักพัน..และถูกประนามเป็น "พวกชังชาติ"
    ไทยเราก็มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง "ชังชาติพอกัน" ฮึ! ส.ส.สมัยแรก..

    ภาพจาก @ปู ปิยะฉัตร วากายาม่า

    c_oc=AQln9YYbkbh5jH1TCtpEzgg_-IDGl7OyPrDjt546ZIvzG4UsUzoSM1ft3xCZOit0GKk&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  17. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
    7 ชม.
    [ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันติดตามและตรวจสอบข่าวปลอม ]

    แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้แถลงข่าว เพราะอยากให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ วันนี้ผมและศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ขอสรุปการตรวจสอบและรับแจ้งข่าวปลอม พบข่าวปลอมทั้งสิ้น 7,962 ข้อความ ซึ่งต้องตามตรวจสอบเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย 45 ราย มีการทำงานเชิงรุกใช้ Social Listening Tool กวาดหาข้อมูลโดยอัตโนมัติ ทั้งในเว็บไซต์, facebook, twitter, youtube และเชิงรับ มีผู้ที่แจ้งเข้ามาทาง Line Official ของศูนย์ แบ่งเป็น... เรื่องยาเสพติด 7.6% ภัยพิบัติ 13.6% การเงิน หุ้น 13.6% ข่าวอื่น ๆ 13.6% ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 21.2% ความมั่นคง 15.2% นโยบายรัฐบาล 16.7% ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข่าวปลอมไปที่ศูนย์ฯ โดยตรงได้ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทางต่างๆ...

    - ไลน์ http://nav.cx/uyKYnsG
    - เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
    - เฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center
    - ทวิตเตอร์ www.twitter.com/AFNCThailand

    และวันนี้ก็ได้มีการจับกุมคนร้ายที่เขียนโปรแกรม “LINE Group Hacker” หลังมีกระแสร้องเรียนว่ามีผู้เสียหายถูกแฮกไลน์-เฟซบุ๊ก แล้วหลอกยืมเงินเพื่อนหรือคนรู้จัก ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ได้ทำลิงค์เว็บไซต์ลามก หรือลิงค์ใบ้หวยแฝงโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ส่งไปลวงเหยื่อให้กดเข้าเว็บ และดูดข้อมูลส่วนตัว จนเกิดความเสียหายหลายสิบราย มูลค่านับแสนบาท โดยใช้ไลน์ปลอมแฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มขนาดใหญ่เพื่อหลอกให้คนคลิกลิงค์

    #ourBelief #บีพุทธิพงษ์ #fakenews

    1.jpg 2.jpg

    3.jpg 4.jpg
     
  18. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    China Xinhua News
    27 นาที

    สีจิ้นผิงหนุนพัฒนาสัมพันธ์ 'จีน-รัสเซีย' สู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ในประวัติศาสตร์

    สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ณ กรุงบาซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 พ.ย.) พร้อมเรียกร้องทั้งสองฝ่ายคงไว้ซึ่งทิศทางอันดีและเชิงบวกต่อการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียในระดับสูง

    อ่านต่อ https://www.xinhuathai.com/…/สีจิ้นผิงหนุนพัฒนาสัมพ_20191114

    .com%2Fwww.xinhuathai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F11%2FXxjpbeE007182_20191114_PEPFN0A001.jpg
    xinhuathai.com
    สีจิ้นผิงหนุนพัฒนาสัมพันธ์ 'จีน-รัสเซีย' สู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ในประวัติศาสตร์XinhuaThai | XinhuaThai
    .
     
  19. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
    จาก facebook
    พรรคพลังประชารัฐ
    18 นาที

    #ข่าวดีบัณฑิตใหม่ ช่วยแชร์บอกต่อกันด้วยจ้า

    นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวงได้จัดทำโครงการยุวชนสร้างชาติ เพื่อลดหรือชะลออัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศและการมีงานทำของประชาชน

    ผ่าน 3 โครงการย่อย ภายใต้งบประมาณ จำนวน 8,600 ล้านบาท ประกอบด้วย

    1. โครงการ บัณฑิตอาสา เพื่อช่วยบัณฑิตตกงาน ใช้งบประมาณ จำนวน 8 พันล้านบาท รับจำนวนกว่า 50,000 คน เพื่อให้ลงไปพัฒนาพื้นที่ในชุมชนร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยจะรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้เงินเดือน 10,000 - 15,000 บาท สามารถสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งนี้ โครงการ บัณฑิตอาสา จะมีหลักการคล้ายๆ กับโครงการบัณฑิตอาสาของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ส่งนักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยไปทำงานพัฒนาชนบท

    2. โครงการอาสาประชารัฐ งบประมาณ จำนวน 500 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักศึกษา ปี 3 – 4 จำนวน 10,000 คน ใช้ระยะเวลาทำงาน 4 – 5 เดือนหรือ 1 ภาคเรียน ให้ไปโครงงานร่วมกับชาวบ้านและสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ทั้งหมด โดยจะมีค่าเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 5 พันบาท

    3. โครงการกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น งบประมาณ จำนวน 100 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนิสิตนักศึกษาร่วมกับบุคลากรมหาวิทยาลัย ใช้ระยะเวลา 3 – 5 ปี เพื่อให้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทดลองจัดตั้งสตาร์ทอัพ พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดเป็นนวัตกรรมทางธุรกิจ นวัตกรรมสังคมและนวัตกรรมสร้างสรรค์

    โดยโครงการยุวชนสร้างชาติ จะสามารถช่วยลดจำนวนบัณฑิตตกงานได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเริ่ม โครงการอาสาประชารัฐ ก่อนในเดือน ธ.ค.นี้ นำร่องในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยให้นักศึกษา 500 คน จัดกลุ่มทำงานเป็นทีม 8-10 คน มาจากการรวมตัวของหลากหลายคณะ นำความรู้ที่เรียนมาไปทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาคุณภาพชีวิต

    โดยนักศึกษาเหล่านี้ จะต้องพักอาศัยในชุมชนที่ทำโครงการ เป็นเวลา 4-5 เดือน คิดเป็น 1 ภาคเรียน เรียนรู้ร่วมกับชุมชน มีการทำงานกับชุมชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามหลักวิชาการ มีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวง อว. รวมถึงหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ซึ่งนักศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตการลงพื้นที่ได้เทียบเท่ากับที่เข้าเรียนในชั้นเรียนทั้งหมด

    จากนั้น จะเริ่มโครงการ บัณฑิตอาสา ในทั่วประเทศซึ่งจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 8 – 10 คน แต่ละกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ชุมชน 1 ชุมชนและต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขสำคัญคือสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะต้องพำนักอาศัยในชุมชนนั้นเป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้านและทำโครงงานตามที่ได้รับมอบหมาย

    สามารถสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

    c_oc=AQkLnH2pv3zwbU4FeSG0pkUJT_2_fXpolGjG8o0_UQXTH5sa9DPFz5wrUhWAeyoGFQQ&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    .
     
  20. รูปสร้าง

    รูปสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +657
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...