กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

สำหรับผมเอง จะพอมีของเก่าไหมครับ
ฝึกวิธีไหน ถึงจะได้ดิบ ได้ดี อย่างคนอื่นเขา สอนผมด้วยครับ
พี่ nopphakan

 

มีครับกระแสออก ทางปู่ ท่านหนึ่ง ที่เรารู้จักกันดีว่าท่านเป็นเสมือน
หมอที่รักษาผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพนั่นหละครับ..พอเข้าใจเนาะ...
คือถ้าฝึกได้จะไปทางแนวๆนั้นหละครับ..

 

ถามบ้างสิครับ ผมนี่กระแสออกไปทางไหนครับ...(ping-love(f)

 

โอ้ยยย ป๋าาาาาา มิงค์ ๕๕๕ อำผมเล่นเป่าเนี่ย..:'(
ฐานกำลังจิตใช้งานแบบภายในก็ดี เส้นพลังงานก็นิ่ง เส้นเชื่อมอาจารย์
ก็นิ่งรวมกับเส้นพลังงานกลางศรีษะแล้ว และก็มี
กระแสปัญญาขยายรองรับทั้ง เส้นเชื่อมและเส้นพลังงาน
กระแสภูมิป้องกันตัวก็มี..ตาก็ดีเพราะเชื่อมกับเส้นเชื่อมครูบาร์อาจารย์
อืมๆช่วงนี้เมตตาก็พัฒนา
เริ่มออกไปภายได้บ้าง แม้มีขัดๆเล็กน้อย..โอ้ยย
ประมาณนี้ก็พอตัวแล้วววว คร๊าบบบบบ ๕๕๕๕

 

ใช่ๆๆๆ ... ตั้งกะมาเรียนกะคุณนพเนี่ย ยังไม่เคยถามเลย ขอรู้มั่งๆๆๆ กะแสไหนเอ่ย ....

 

ปรับโหมดกระทู้เย็นๆๆๆๆๆ ....

อ้อ .. คุณนพคะ ไม่ว่าจิตมันไปเชื่อมกับอะไรก็ตาม ให้ อโหสิๆๆๆๆๆ...
ออกจากจิตออกไป แบบนี้จิตจะคลายได้จริงๆเหรอคะ จะได้ผลจริงๆหรือคะเนี่ย
ปล. ยังไม่ได้ลองเลยค่ะ ว่าแต่ทำไมเชื่อมง่ายจังกับกระแสภายนอก

 

5555555555 ........

คุณนพไม่ตอบ แต่ทางนี้มีอยู่กระแสนึงค่ะ กระแสหมั่นไส้ ...
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

 

Jai ray....:'''(

 

ถาม ด้วย ค่ะ

กระแส หนู ไปทางไหนคะ
(นอกจากกระแสขี้อิจฉา นินทาเก่ง ขี้เกียจ แล้ว ยังเพียบพร้อมนานัปประการ ไปทางไหนคะ)

 

แค่คิดก็เชื่อมแล้วครับ..
เด่วเล่าให้ฟังอย่างนี้นะครับ..ตัวจิตของเราเกิดมามันก็มีการเชื่อมแล้วครับ
จากตัวสัญญาต่างๆที่อยู่ในจิตนั้นๆ.แล้วก็มาอยู่ในร่างกายนั้นๆ
กลายเป็นขันธ์ ๕ ที่มี กาย ๑ และ สัญญา เวทนา สังขาร วิญญาน อีก ๔
ประกอบรวมกับ ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ..นี่จิตปกติทั่วๆไปนะครับ....
จิตในชีวิตประจำวัน.ถ้าเรารับรู้ผ่านอายตนะทั้ง ๖ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจหรือจิต
หรือแค่คิดมันก็ไปเชื่อมอยู่แล้วปกติ....และถ้าเราอยู่เฉยๆก็มีมาเชื่อมได้อยู่แล้ว
จากกระแสวิบากเรามักเรียกว่า สัญญาคือเป็นเรื่องราวในอดีต
(เป็นกระแสที่จรเข้ามาเรื่อยๆสุดแล้วแต่ใครจะมากหรือน้อย)
ไม่ว่า จะเป็น รัก โลภ โกรธ หลง...เรื่องใดเรื่องหนึ่ง..มาบิดตัวจิตเราตัวหนึ่ง
และจิตปกติ จากการฝึกสติ สมาธิ สร้างปัญญาไม่ว่าทางโลกทางธรรม
ตบะ ฌาน ญาน กำลังจิต ฯลฯ ก็จะมีพวกนี้ขึ้นมาอยู่บิดบังอีกทีหนึ่ง
ที่กล่าวๆมาทั้งหมดนี้ มันก็เพราะว่ามีตัววิญญาน(เครื่องรับรู้ ตัวใดตัวหนึ่ง)
มีผู้รู้ ตัวไปรู้ ที่ไปรับรู้ว่า มันมี มันคงอยู่ มันก็เลยอยู่อย่างนั้น
และถ้ามันเป็นเรื่องที่ดีแล้วโดยปกติเรามักจะไม่ค่อยวางกัน
แต่เป็นเรื่องไม่ดี เรามักใช้สติใช้ปัญญาทางธรรม
ในการแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้...
ที่นี้การอโหสิฯฯ ออกจากกลางจิตนะครับ.ไม่ใช่แค่พูดๆ.
มันก็เป็นตัดตัววิญญานตรงนี้ ไม่ให้มันมาเชื่อมกับจิตเรานั้นเอง...
พอจิตเราไม่มีตัวพวกนี้มาเชื่อม มันก็ไม่มีกำลังในการเกิด
เพราะไม่มีตัวไปรู้ ไม่มีตัววิญญานไปเชื่อม จิตเราก็จะอยู่เฉยๆ
แต่ว่ามันยังไม่พอ แม้ว่ามันจะนิ่งๆ แต่มันยังจะไม่ขยายไปข้างนอก
จึงได้แค่สงบๆ ไม่ละเอียด อยู่อย่างนั้นแต่ก็จำเป็น
จึงต้องมีการพลิกกำลังที่เคยสะสมมา.
แล้วมา อุทิศส่วนกุศลซ้ำออกไปจากกลางจิต
เพื่อให้ตัวจิตมันขยายวงออกไป ด้วยแรงกุศลที่เป็น
กระแสเย็น จะช่วยในการขยายวงกว้างของจิต
ให้มันโปร่ง ให้มันคลาย หรือเรียกง่ายๆว่าให้มัน
เข้าเนื้อหาเดิมๆของจิต เพื่อไม่ให้มีแม้กระทั่งตัวสัญญา(ตัวที่กลับทำให้
ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด) พอตัวจิตเรามันเข้าเนื้อหาเดิมได้
มันก็จะไปค้นหาข้อมูลต่างๆที่เคยมีในจิตดวงนี้ให้ขึ้นมาเองได้..
ไม่ว่าจะ สติ สมาธิ ปัญญา ตบะ ฌาน ฌาณ กำลังจิต ฯลฯ
เพราะเป็นการค้นข้อมูลในอดีตต่างๆที่เราได้ผ่านมาแล้วทั้งสิ้น
ก่อนที่เราจะมาเกิดในชาติปัจจุบันนี้..คือเรามักเข้าใจว่าเราต้อง
ฝึกโน่นฝึกนี้เพื่อให้เกิดขึ้นมา แต่การที่ดีกว่า คือการทำให้จิต
มันโล่ง โปร่ง เพื่อเข้าสู่เนื้อหาของมัน แล้วไปค้นเจอเนื้อหานั้น
มันก็จะขึ้นมาได้เองเช่นกัน และมันจะดีกว่า อัตโนมัติกว่า
เพราะมันเข้าถึงเนื้อหาตรงนั้นจากความว่าง จากตัวจิต
ที่ไม่มีอะไรมาเกาะ ไม่ใช่จากการที่เราสร้างตัวมาเกาะแล้ว
พยายามเข้าไปค้น เข้าไปสร้างให้มีนั่นเอง
พวกนี้มันเสมือนเป็นกำแพงกั้นไม่ให้เราถึงตัวจิตเดิมเราได้
อย่างที่เราไม่รู้ตัว เพราะเรามีตัววิญญาน ตัวที่จะรู้ มันเผลอ
ไปตั้งท่าอยู่อย่างนั้น เพราะฉนั้น อะไรก็ตามที่นึกได้ ระลึกได้
คิดได้ หรือปรุงแต่งได้ ตัดให้หมดเรียกว่าต้ดไฟแต่ต้นลม
ไม่งั้นยังๆไงมันก็จะเหลือตัวรู้นั่นเอง
คุ้นๆไหมครับ
๑.กายกับจิตประสานสัมพันธ์เชื่อมทุกสรรพสิ่ง
๒.กายนิ่งจิตนิ่ง..๓. ไร้ซึงความเคลื่อนไหวใดๆ
๔.จิตสงบหมดนิวรณ์ พร้อมสติทางธรรมคอยกำกับ(กันหลง)..
๕.ยังเหตุภพภูมิแดนไตรภูมิเปิด...
๖.หากดับสัญญาความจำได้แล้วไซร์
๗.ปัญญาพึงบังเกิดขึ้นได้เอง..
นัยยะดับสัญญาคือดับหมดทุกอย่างนั่นหละครับ
เรื่องอื่นๆก็เช่นกัน....
ที่แนะให้คืออยู่ ขั้นที่ ๖ ครับ เพื่อไม่ให้มันเกิดเป็นสัญญา
ขึ้นมาจากตัววิญญานที่ไปเชื่อม จากตัวรู้.
ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ผ่านอะไรมาก่อนเลยแล้วจะมาทำอย่างที่แนะก็ได้อยู่
แต่ว่าต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าที่ผ่านมาตามขั้นตอน
ประมาณนี้...

 

ถามด้วยคนครับ...แต่ส่วนตัวคิดว่าของผมเป็นกระแสแบบเป็ดๆ (บินไม่ได้ว่ายน้ำก็ไม่เก่ง)

 

ให้พูดจริงๆหรือ.๕๕
.พวกเกิดมากายทิพย์มีพร้อมปีกที่กลางหลัง.
มีอาวุธทิพย์อย่างใดอย่างหนึ่งติดตัวมาตั้งแต่เกิด
มีฐานสัมผัสพลังงานได้แบบ
มิต้องมาฝึกเหมือนชาวบ้านเค้า..
.ใช้ปีก บินพับๆๆๆ คนอื่นๆเค้าเหาะเอา ๕๕๕
แต่ไม่ใช่กะหิงนะ(กะหัง ญ ) กะหัง กะหิง ใช้กระด้งบิน ๕๕๕
พวกแอตแลนตู๊ดดดดดดดดด ตุ๊ดๆ ๕๕๕๕
มีแบบนี้อีก ๒ ร้อยต้นๆในเมืองไทย..

 

กระแส ๒ สายครับ ๑.สายเชื่อมข้างบนผ่านแนวจักระ
แต่มันหมุนวนเป็นวงกลมแยกเป็นสามส่วน คือช่วงท้องเกี่ยวกับหน้าอก
ช่วงหน้าอกเกี่ยวกับช่วงศรีษะ และช่วงศรีษะที่โดดทำให้กระแส
เชื่อมครูบาร์อาจารย์ขาดๆ..
๒.กระแสพลังงานตามแนวกระดูกสันหลัง แยกเป็นช่วงหลังที่ตรง
กับท้องถ้ารับรูได้จะเริ่มอุ่น
และก็ขึ้นไปช่วงกระโหลกศรีษะหมุนมาถึงต้นคอ ทำให้กระแสพลัง
งานมันโดนปิด ประมาณครับ...
กระแส ๑ จะเกี่ยวกับพวก สัมผัสภายในต่างๆ รวมทั้งพวกนามธรรม
พวกเมตตา พวกการวางใจเป็นกลาง
การตัดความคิด การเชื่อมครูบาร์อาจารย์ หมายถึง
ความเครารพในพระรัตนตรัยร่วมด้วย
กระแส ๒ จะเกี่ยวกับความสามารถต่างๆที่มีฐานจากกำลังจิต..
การรับรู้เรื่อง พลังงานภายนอก พวกคลื่นความถี่ต่างๆ...
ซึ่งทั้ง ๒ กระแสนี้แม้ยังไม่รู้ตัว ก็จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
เวลาดูของเก่าก็ดูกันตรงนี้ได้เช่นกัน หากมาฝึกกระแส
สองสายก็จะนิ่ง หรือมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น
แต่กระแสขาดๆเกิน ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ
และก็จะเป็นไปประมาณตามที่เล่าให้ฟัง...
ประมาณนี้ พอแล้วนะครับ เรื่องกระแส ...
ไว้เข้าถึงโหมดวิญญานธาตุได้ เรื่องพวกนี้
จะเป็นความสามารถปกติที่จะต้องเกิดอยู่แล้ว..
เพียงแต่สังเกตุเล็กน้อยจะจับรายละเอียดได้เองครับ.
ปล.ขำๆนะครับ.ไม่มีอะไร..

 

ยังงงๆ อยู่ ครับ ผมความรู้น้อย
แบบ ตรงๆ มาเลยก็ดีครับพี่

 

ทั้งเมืองไทยมี 200 กว่าตัว นับว่าหายากยิ่ง จังนะคะ เนี่ย (สัตว์สงวน)
แล้ว เหมือน กามเทพ ไหมคะ (กามเทพ ชื่อเล่นว่ากาม)

ถ้าเหมือน หรือฝึกกระพือ ปีก ก็พอ
(เคยโดด ลง ยุ้งข้าวนะคะ แต่มันร่วงตามปกติเลย สมัยที่ดูหนังจีนน่ะค่ะ)
อาวุธ อาจเป็น ธนู กะคันศร น้อ

ถ้าเป็นกระหัง อาวุธ น่าจะเป็นสากกะเบือแล้ว

เราควรฝึก กสิญ กองใดคะ

 

พายุ ก็บอก คุณนพฯ ไปเลยตรงๆว่า อยากจะฝึกอะไรที่ทำให้ได้อาวุธพิเศษและมีพลังพิเศษเอาไว้ใช้งานด้วย
จะฝึกยังไงแบบไม่ยาก และได้ผลเร็ว เนื่องจากเป็นมะนาวต่างดุ๊ดมาเกิด...
หรือว่าจะให้โทรไปหาเพื่อขอให้ช่วยเปิดจุดคี้มึ้ง ทะลวงจุดเฮ้ากวง ตังชั้ง เพื่อให้ปลดปล่อยพลังงานพิเศษออกมาได้น่ะ...
แล้วพลังที่ว่านี้จะเอาไปใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง..ที่ไม่ใช่เอาไปคุยเล่นกับแมวแถวบ้าน...

 

ขอบพระคุณ ท่านโดเรม่อน ที่ช่วย แปลให้เป็นภาษามนุษย์ ได้ในที่สุดค่ะ ๕๕๕๕

 

๕๕๕๕ เห็นด้วยกับ ป๋า มิงค์ครับ คาดว่าถ้าคุยไปเรื่อยๆ
ก็อาจจะงงเพิ่มขึ้น..เพราะภาษาต่างดาวส่วนตัวก็แปลไม่ค่อยเป็นด้วยครับ..
ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ เรื่องแบบนี้ เอาไว้วาระมาถึง...
เด่วได้คุยกันหรือเจอกันในอนาคต ให้ส่วนภาคทิพย์เคลียร์กันก่อน
เรื่องที่คุณ พายุ อยากจะทำแค่ไม่ถึงชั่วโมง ก็ทำได้หมดแระครับ
ยกเว้นเสกดินเป็นทองคำนะครับ ๕๕๕๕ .และจะบอกว่า
เอาไปใช้งานอะไรได้บ้าง..ที่ไม่ใช่เอาไว้แกล้งแมว อย่างเดียว ๕๕๕
ปล.ขอเป็นคาปูชิโน่ เย็น ๑ แก้วนะครับค่าวิชา

 

ตกลงค่ะ
ด้วยอานิสงค์ แห่งค่าคาระวะ บูชาครู

เป็น

คาปูชิโน่เย็น ๑ แก้ว
ผ้าขะม้า ๑ สำรับ

จงดลบันดาลให้ สำเร็จประโยชน์ แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญญญญ

 

ขอเป็นเรื่องเป็นราว ได้ไหมครับพี่ อยากรู้จริงๆ