การตำหนิติเตียนผู้อื่น...ไม่ดีเลยโดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ

พระพุทธองค์ตรัสไว้เรื่องอุเบกขา

เราสมควรติคนที่สมควรติ

เราสมควรชมคนที่ควรชม

นั้นหมายถึง เมื่อมีคนกระทำดี ไม่ใช่วางเฉย แต่ให้แสดงกริยา ชม

และ เมื่อมีคนประพฤติไม่ชอบ ไม่ใช่ให้วางเฉย แต่ให้แสดงกริยาติเตียน

พระพุทธองค์แม้เลือกตรัสธรรมสั่งสอนก็เพราะเห็นประโยชน์ กระนั้นก็ยังต้องดูกาลเทศะ

และเมื่อใครประพฤติไม่ชอบ พระองค์ก็ติเตียน นึกตัวอย่างง่ายๆ คือ ที่มาของศีล 227 ข้อ ล้วนมาจากการติเตียนผู้ประพฤติผิด จะเห็นว่า พุทธะ นั้น ไม่ใช่วางเฉยต่อสิ่งที่เป็นความมัวหมองของพรหมจรรย์(บริษัท)

พฤติกรรมของเดียรถีย์เท่านั้น ที่อ่านเอาแต่คำ ที่เป็นประโยชน์แก่ตัว แล้วยกขึ้นอ้าง โดยไม่รู้รอบ

* * * *

ส่วนคำสอนของหลวงปู่มั่นนั้น กรุณาอ่านและเน้นไปที่ประโยค

"...การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง..."

จะเห็นว่าสอดคล้องกับพุทธะโองการเรื่องข้อวินัยผู้ประพฤติพรหมจรรย์ หากไตร่ตรองสมควรแก่กาลเทศะแล้ว ก็ให้กระทำ อย่าได้ยก อุเบกขา บุญที่ควรทำหากไม่กระทำ ก็คือ บาป เช่นกัน เพราะถือว่าสมยอม หรือ สมรู้ หรือ ร่วมคิด

แต่เนื่องจากมีเงื่อนที่ว่า ต้องไตร่ตรอง ดังนั้น ในการติเตียน ก็ให้ดูผู้ที่ติเตียน แสดงเหตุผลแสดงการไต่ตรองเพื่อการติเตียนหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็แปลว่า เป็นการติเตียนที่ไม่อาจแสดงได้ว่า มาจากบัณฑิต

การติเตียนที่ปราศจากเหตุผลประกอบ จึงไม่สมควร จึงสอดคล้องกับ คำสอนของพระพุทธองค์ และสอดคล้องกับคำสอนของหลวงปู้มั่นข้างต้น การติเตียนเช่นนี้ จึงไม่ควรกระทำ

สำหรับผู้ที่ชอบ หรือ ไม่ชอบการติเตียน โปรดดูหรืออ่านเหตุผลประกอบ เมื่อเหตุผลประกอบเป็นแต่เรื่องข้อเท็จจริงของบุคคลสมมติ ไม่ใช่เรื่องธรรมะ ไม่ใช่สภวะธรรม ไม่ได้มีการอ้างพระไตรปิฏก เช่นนั้น ค่อยติเตียน และหน้าที่ท่านคือ ต้องติเตียนคนที่มากล่าวติเตียนโดยเหตุไม่สมควร หากวางเฉยเสียแล้ว จะมีผลต่อการพิจารณาผลปฏิบัติธรรมทำสมถะ วิปปสสนาของตนด้วย

เป็นพฤติกรรมวางเฉยต่อสิ่งไม่ควรวางเฉย ซึ่งเมื่อเกิดกับตนเองแล้ว ก็จะเผลอวางเฉย ติตัวเองไม่เป็น ทำให้ปฏิบัติไม่สำเร็จลงได้โดยง่าย หลงไปกับพฤติกรรมของตัว โดยไม่อาจรู้เท่าทันได้เลย

 

อนุโมทนาด้วยกับเล่าปัง ธรรมนั้นชอบแล้ว คือ ติผู้ที่ควรติ สรรเสริญผู้ที่ควรสรรเสริญ

 

เล่าปังไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เขียนดีได้เสมอต้นเสมอปลาย แบบนี้สิ ของจริง

เมื่อกี้อ่านกระทู้ของคุณขันธ์อยู่ จู่ๆ โดนลบไปเฉยเลย เพราะเหตุใด ทำไมมีการเลือกปฏิบัติกันเยี่ยงนี้ นี่หรือคือเว็บไซท์ธรรมะ ผิดหวังจริงๆ

ถ้าจะให้ดี ชี้แจงเหตุผลกันบ้างนะ ว่ากระทู้ที่โดนลบ หรือข้อความที่โดนลบ มันมีปัญหาตรงไหน...

 

เกร็ดความรู้เล็กน้อย

เมื่อวานไปวัดสวนแก้ว ขณะที่พระพยอมเทศนาญาติโยม มีบุคคลคณะหนึ่งเดินแจกใบปลิว ข้อความในนั้นเป็นการอ้างหลักการศาสนาพุทธ โดยส่วนใหญ่ยกอภิธรรมมาอ้างอิง เช่น บุคคลคือผู้มีเจตสิก แต่ใช้ไปในทางที่ว่า เจตสิกเสรี เท่ากับ Free will และอ้างพุทธพจน์อีกมากมาย โดยเอาไปโจมตีศาสนาอื่นอย่างฉาบฉวย ก่อนมุ่งเน้นโจมตีคำว่า Democracy หรือ คำว่า ประชาธิปไตย สุดท้ายขมวดลงด้วยการเชิญชวนให้ คว่ำการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม

ข้าศึกนั้น อาศัยกลอุบายที่แยบยล ทำที่เป็นพวกเดียวกัน อ้างว่าเป็นพุทธเหมือนกัน ทำทีเป็นยืนคยละข้างกับส่วนที่ไม่ใช่พุทธ เพื่อตอกย้ำทางจิตวิทยาว่าเป็นพวกเดียวกัน แล้วยกสถานะกาลความวุ่นวายในกาลปัจจุบันเข้าสำทับ ก่อนขมวดด้วย เป้าหมาย ( Goal Of Project ) เมื่อท่านใดพบเห็นการแจกใบปลิว(จำนวนหนึ่งแผ่น A4 สีขาว) ขอให้ระวัง และสร้างหลักฐานนำส่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เป็นการไม่วางเฉย ต่อสิ่งที่ควรกระทำ เพราะเป็นไปได้ว่า ลัทธิคอมมูนิสต์ หรือ กลุ่มการเมืองที่หวังผลคว่ำฟ้าคว่ำแผ่นดิน ยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่ ผู้รัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โปรดเป็นหูเป็นตา

 

อนุโมทนาในการเผยแพร่ด้วยคนค่ะ ก็เคยได้ทราบคำสอนนี้มาแล้ว แต่ก็ยังมีหลุดๆอยู่บ้าง จะพยายามทำตามคำสั่งสอนของหลวงปู่ ก็ยังคงต้องก้าวต่อไปให้พ้นข้อนี้ให้จงได้

 

OO

 

ทุกคนในกระทู้นี้เป็นคนดีจริงๆเลยครับ ขอให้ร่ำให้รวย มีแต่ความเจริญยิ่งๆขี้นไป อายุมั่นขวัญยืน มีแต่ความสุขความหรรษาตลอดชั่วสังสารวัฎนะครับทุกคน

 

OO

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ตายล่ะ ขจรศักดิ์ พร้อมรับคำติของคนอื่น ผมติให้ทีเดียว แกด่าโคตสาปส่งผมเลย นี่แค่ลองภูมิลองขันตินิดหน่อย โทสะระเบิดเลย หึ หึ

 

อ๋อเหรอ เราอยู่เฉยๆท่านยังจะมาแขวะเราอีก คราวนี้คงจะไม่ป๊อดเปิดหนีหางจุกตูดหรอกนะ และอย่าหยุดนะ ไอ้คุณอุปกรณืทำครัวชำรุดฟันแทงใครไม่เข้า ฮ่าฮ่าฮ่า