การปฏิวัต รัฐประหารได้บังเกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศไทยแล้ว ครับ

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Natee, 19 กันยายน 2006.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"ทักษิณ"ยกเลิกฟ้อง"ยูเอ็น" สำนักข่าวเทศตีข่าวปฏิวัติ</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] สำนักข่าวต่างประเทศรายงานทหารปฏิวัติอย่างถี่ยิบโดยเฉพาะสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุนักศึกษาประชาชนเห็นชอบกับทหารเป็นจำนวนมาก รวมถึงการเคลื่อนไหวของ "ทักษิณ" ที่สหรัฐอเมริการอขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ล่าสุดประกาศยกเลิกแล้ว พร้อมกันนี้ยังรายงานนักศึกษาประชาชนเห็นชอบกับทหารเป็นจำนวนมาก ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกโดยสันติ
    "ทักษิณ"นั่งสงบจิตใจในโรงแรม
    หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจ นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากที่ทราบข่าวการปฏิวัติในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยคนหนึ่งที่ติดตามคณะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยังนครนิวยอร์กเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีสงบ และคิดว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ พร้อมขอให้ผู้บัญชาการทหารทุกคนเข้ารายงานตัวต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    เจ้าหน้าที่คนเดิมยังเผยด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีใจเย็นขณะนั่งอยู่ในห้องโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เพื่อชมการถ่ายทอดสดประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวสุนทรพจน์กลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการจะปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ รวมทั้งพยายามควบคุมสถานการณ์
    ด้านเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนหนึ่งเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอธิบายถึงตำแหน่งของตัวเองขณะขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ขณะที่โฆษกสำนักงานสหประชาชาติกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะขึ้นปราศรัยในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
    ซีเอ็นเอ็นรายงาน"ทักษิณ"ยกเลิกพูดแล้ว
    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอยกเลิกการกล่าวปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และกำหนดการทั้งหมดแล้ว
    นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่ามีปฏิวัติ
    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์ และร้านคาบาเรต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน
    นักศึกษาสนับสนุนทหารยึดอำนาจ
    รายงานข่าวเผยอีกว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ อยู่ในความสงบเรียบร้อยดี ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนไปรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปและวิดีโอกับรถถังของทหาร หนึ่งในจำนวนนั้นคือ น.ส.ศศิประภา จันทวงศ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กล่าวว่า ตัวเองไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ แต่ตอนนี้สนับสนุนการปฏิวัตินี้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณบริหารรัฐบาลต่อไปก็จะทำลายประเทศไปมากยิ่งขึ้น และแม้ชื่อเสียงของประเทศอาจจะเสียหายไปบ้างจากการปฏิวัติครั้งนี้ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในอำนาจต่อไป
    ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกสันติในไทย
    ด้านนายเคนเนธ เบลส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่สหรัฐหวังว่า คนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติโดยวิถีทางประชาธิปไตย ขณะที่นายจอห์น โบลตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะออกความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ แต่ขอร้องให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้ครรลองกฎหมาย และสิ่งสำคัญคือการคงกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศ

    -->
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานทหารปฏิวัติอย่างถี่ยิบโดยเฉพาะสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุนักศึกษาประชาชนเห็นชอบกับทหารเป็นจำนวนมาก รวมถึงการเคลื่อนไหวของ "ทักษิณ" ที่สหรัฐอเมริการอขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ล่าสุดประกาศยกเลิกแล้ว พร้อมกันนี้ยังรายงานนักศึกษาประชาชนเห็นชอบกับทหารเป็นจำนวนมาก ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกโดยสันติ


    "ทักษิณ"นั่งสงบจิตใจในโรงแรม
    หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจ นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากที่ทราบข่าวการปฏิวัติในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยคนหนึ่งที่ติดตามคณะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยังนครนิวยอร์กเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีสงบ และคิดว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ พร้อมขอให้ผู้บัญชาการทหารทุกคนเข้ารายงานตัวต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    เจ้าหน้าที่คนเดิมยังเผยด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีใจเย็นขณะนั่งอยู่ในห้องโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เพื่อชมการถ่ายทอดสดประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวสุนทรพจน์กลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการจะปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ รวมทั้งพยายามควบคุมสถานการณ์
    ด้านเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนหนึ่งเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอธิบายถึงตำแหน่งของตัวเองขณะขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ขณะที่โฆษกสำนักงานสหประชาชาติกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะขึ้นปราศรัยในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
    ซีเอ็นเอ็นรายงาน"ทักษิณ"ยกเลิกพูดแล้ว

    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอยกเลิกการกล่าวปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และกำหนดการทั้งหมดแล้ว

    นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่ามีปฏิวัติ
    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์ และร้านคาบาเรต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน

    นักศึกษาสนับสนุนทหารยึดอำนาจ
    รายงานข่าวเผยอีกว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ อยู่ในความสงบเรียบร้อยดี ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนไปรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปและวิดีโอกับรถถังของทหาร หนึ่งในจำนวนนั้นคือ น.ส.ศศิประภา จันทวงศ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กล่าวว่า ตัวเองไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ แต่ตอนนี้สนับสนุนการปฏิวัตินี้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณบริหารรัฐบาลต่อไปก็จะทำลายประเทศไปมากยิ่งขึ้น และแม้ชื่อเสียงของประเทศอาจจะเสียหายไปบ้างจากการปฏิวัติครั้งนี้ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในอำนาจต่อไป

    ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกสันติในไทย ด้านนายเคนเนธ เบลส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่สหรัฐหวังว่า คนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติโดยวิถีทางประชาธิปไตย ขณะที่นายจอห์น โบลตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะออกความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ แต่ขอร้องให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้ครรลองกฎหมาย และสิ่งสำคัญคือการคงกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทหารคณะปฏิรูปฯตรึงกำลัง ภาค3ยก10กองพันเข้ากรุง</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] กำลังทหารของคณะปฏิรูปฯพร้อมรถถังคุมเข้มบก.สส. พร้อมยกกำลังเข้าสกัดเส้นทาง จ.นครนายก อาจจะมีฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ทหารม้ากองทัพภาค 3 ยกพลจาก จ.เพชรบูรณ์กำลังเสริมกทม.10 กองพันหนุนพล.อ.สนธิ
    หลังจาก พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษกช่อง 5 อ่านแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงการยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาหารทหารบก เป็นหัวหน้าคณะ
    เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 20 กันยายน บริเวณทางต่างระดับรังสิต ได้มีรถจีเอ็มซี 2 คัน ขับนำหน้ารถบรรทุกรถยิงจรวจ ขับจาก กทม.มุ่งหน้าไป จ.นครนายก ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักและเป็นการตรึงกำลังเขตปริมณฑล ป้องกันการนำกำลังทหารอีกฝ่ายหนึ่งเข้า กทม. สถานการณ์ถนนพหลโยธิน ทั้งขาเข้าและออกมีจำนวนรถวิ่งน้อยกว่าปกติ
    เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน สถานการณ์การปฏิวัติยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รอบนอกที่ จ.ปทุมธานี ศูนย์วิทยุของ สภ.อ.ธัญบุรี ปทุมธานี รายงานว่ามีขบวนรถทหาร รถจิ๊ป รถบัส จีเอ็มซี และรถถังที่อยู่ด้านหลังรถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมแล้วประมาณ 45 คัน มุ่งหน้าจาก จ.ปราจีนบุรีเข้ากรุงเทพ เพื่อเสริมกำลังทหารคระปฎิรูปฯ
    ทหารม้ากองทัพภาค3ยกพลเข้ากรุง
    ก่อนที่จะมีการประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 2 ในเวลา 00.28 น.ในวันที่ 20 ก.ย. ที่ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหารและให้ทหารทุกนายรายงานตัวต่อหน่วยที่สังกัด ยกเว้นจะเป็นคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูป ปรากฏว่า เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 20 ก.ย. มีรายการการเคลื่อนพลของทหารจาก กองกำลังทหารจากกองพลทหารม้าที่ 1 กองทัพภาค 3 ประมาณ 10 กองพัน ประกอบด้วยรถถัง ประมาณ 20 คัน ที่บรรทุกในรถเทเล่อร์ รถหุ้มเกราะอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยกำลังพลพร้อมอาวุธเต็มอัตราได้เคลื่อนพลออกจากกองพลทหาราม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์ มุ่งหน้าไปตามถนนสายเพชรบูรณ์-ลำนารายณ์ เพื่อเดินทางเข้า กทม.
    ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 19 ก.ย.นั้น ภายในกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมืองได้มีคำสั่งเตรียมพร้อมกำลังพลสนับสนุนมุ่งเข้าสู่ กทม. โดยนายทหารฝ่ายกำลังอาวุธหนัก นายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางชุดการเคลื่อนที่เร็ว ของ กองทัพภาค 3 ได้เรียกกำลังพลทั้งหมดเข้าประจำการเพื่อรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งทำให้ฝ่ายกำลังอาวุธหนักรู้ว่า จะต้องเกิดการยึดอำนาจเพราะทนต่อสภาพการกดดันต่อ ฝ่ายการเมืองเมืองไม่ไหว
    และพวกตนที่เป็นกำลังในสายยุทธการก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายกำลังทั้งหมดที่เตรียมเอาไว้มุ่งหน้าเข้า กทม. เพื่อสนับสนุนในการยึดอำนาจในครั้งนี้อย่างมีความมั่นใจ แต่ กำลังของกองทัพ ภาค 3 จะไม่ทำร้ายประชาชนอย่างเด็ดขาด และจะเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อถูกกลุ่มไม่หวังดีต่อชาติทำร้ายประชาชน ซึ่งเรื่องนี้พวกเรายอมได้ได้อย่างเด็ดขาด
    เมื่อ 22 .00 น.วันที่ 19 ก.ย. กองพลทหารม้าที่ 1 เรียกกำลังเสริมอีกชุดให้อยู่ในที่ตั้งและเตรียมพร้อมส่งกำลังสนับสนุนกองหน้าเพื่อทำงานให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของผู้บังคับบัญชา กำลังทุกนายต่างมีขวัญและกำลังใจเพราะประชาชนต่างให้การสนับสนุนและให้กำลังใจในการยึดอำนาจ ฝ่ายข่าวกรองของ กองทัพภาคที่ 3 ระบุว่า เรื่องการยึดอำนาจมีสิ่งบ่งบอกมาประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วเพราะทางผู้บังคับบัญชาสั่งกำลังผลที่ประจำการทุกส่วนให้ทำความสะอาดและเตรียมพร้อมอยู่หลายด้าน ตั้งแต่ตรวจเช็คเครื่องยนต์ที่จะนำไปใช้งานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและมีความพร้อม
    นอกจากนั้นอาวุธทั้งหมด รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.เป็นต้นมา ได้มีคำสั่งจากหน่วยเหนือในกองทัพภาคที่ 3 ให้กำลังพล ในกองพลทหารม้าที่ 1 ซึ่งมีหน่วยที่ตั้งอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ทำการเช็คความพร้อมยานลำเลียง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ทันที โดยตลอดทั้งวันที่ 18 ก.ย. ยานพาหนะของกองพลทหารม้าที่ 1 ทั้งหมด ถูกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเติมเชื้อเพลิงอยู่ในสภาพพร้อมปฏิบัติงานทุกคัน
    สำหรับกองพลทหารม้าที่ 1 มี พล.ต.วรรณทิศ ว่องไว นายทหารคนสนิทพล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นผู้บัญชาการ และมี พ.อ.วิเชษฐ์ สุขพงษ์พิสิฐ นายทหาร สายพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นรองผู้บัญชาการ
    และมีรายงานอีกว่า ขณะนี้ พล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ที่ปกติจะทำงานที่จ.พิษณุโลก และจ.เชียงใหม่ ได้มาประจำที่กองพลทหารม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์

    -->
    กำลังทหารของคณะปฏิรูปฯพร้อมรถถังคุมเข้มบก.สส. พร้อมยกกำลังเข้าสกัดเส้นทาง จ.นครนายก อาจจะมีฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ทหารม้ากองทัพภาค 3 ยกพลจาก จ.เพชรบูรณ์กำลังเสริมกทม.10 กองพันหนุนพล.อ.สนธิ
    หลังจาก พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษกช่อง 5 อ่านแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงการยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาหารทหารบก เป็นหัวหน้าคณะ
    เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 20 กันยายน บริเวณทางต่างระดับรังสิต ได้มีรถจีเอ็มซี 2 คัน ขับนำหน้ารถบรรทุกรถยิงจรวจ ขับจาก กทม.มุ่งหน้าไป จ.นครนายก ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักและเป็นการตรึงกำลังเขตปริมณฑล ป้องกันการนำกำลังทหารอีกฝ่ายหนึ่งเข้า กทม. สถานการณ์ถนนพหลโยธิน ทั้งขาเข้าและออกมีจำนวนรถวิ่งน้อยกว่าปกติ
    เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน สถานการณ์การปฏิวัติยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รอบนอกที่ จ.ปทุมธานี ศูนย์วิทยุของ สภ.อ.ธัญบุรี ปทุมธานี รายงานว่ามีขบวนรถทหาร รถจิ๊ป รถบัส จีเอ็มซี และรถถังที่อยู่ด้านหลังรถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมแล้วประมาณ 45 คัน มุ่งหน้าจาก จ.ปราจีนบุรีเข้ากรุงเทพ เพื่อเสริมกำลังทหารคระปฎิรูปฯ

    ทหารม้ากองทัพภาค3ยกพลเข้ากรุง
    ก่อนที่จะมีการประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 2 ในเวลา 00.28 น.ในวันที่ 20 ก.ย. ที่ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหารและให้ทหารทุกนายรายงานตัวต่อหน่วยที่สังกัด ยกเว้นจะเป็นคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูป ปรากฏว่า เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 20 ก.ย. มีรายการการเคลื่อนพลของทหารจาก กองกำลังทหารจากกองพลทหารม้าที่ 1 กองทัพภาค 3 ประมาณ 10 กองพัน ประกอบด้วยรถถัง ประมาณ 20 คัน ที่บรรทุกในรถเทเล่อร์ รถหุ้มเกราะอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยกำลังพลพร้อมอาวุธเต็มอัตราได้เคลื่อนพลออกจากกองพลทหาราม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์ มุ่งหน้าไปตามถนนสายเพชรบูรณ์-ลำนารายณ์ เพื่อเดินทางเข้า กทม.
    ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 19 ก.ย.นั้น ภายในกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมืองได้มีคำสั่งเตรียมพร้อมกำลังพลสนับสนุนมุ่งเข้าสู่ กทม. โดยนายทหารฝ่ายกำลังอาวุธหนัก นายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางชุดการเคลื่อนที่เร็ว ของ กองทัพภาค 3 ได้เรียกกำลังพลทั้งหมดเข้าประจำการเพื่อรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งทำให้ฝ่ายกำลังอาวุธหนักรู้ว่า จะต้องเกิดการยึดอำนาจเพราะทนต่อสภาพการกดดันต่อ ฝ่ายการเมืองเมืองไม่ไหว
    และพวกตนที่เป็นกำลังในสายยุทธการก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายกำลังทั้งหมดที่เตรียมเอาไว้มุ่งหน้าเข้า กทม. เพื่อสนับสนุนในการยึดอำนาจในครั้งนี้อย่างมีความมั่นใจ แต่ กำลังของกองทัพ ภาค 3 จะไม่ทำร้ายประชาชนอย่างเด็ดขาด และจะเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อถูกกลุ่มไม่หวังดีต่อชาติทำร้ายประชาชน ซึ่งเรื่องนี้พวกเรายอมได้ได้อย่างเด็ดขาด
    เมื่อ 22 .00 น.วันที่ 19 ก.ย. กองพลทหารม้าที่ 1 เรียกกำลังเสริมอีกชุดให้อยู่ในที่ตั้งและเตรียมพร้อมส่งกำลังสนับสนุนกองหน้าเพื่อทำงานให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของผู้บังคับบัญชา กำลังทุกนายต่างมีขวัญและกำลังใจเพราะประชาชนต่างให้การสนับสนุนและให้กำลังใจในการยึดอำนาจ ฝ่ายข่าวกรองของ กองทัพภาคที่ 3 ระบุว่า เรื่องการยึดอำนาจมีสิ่งบ่งบอกมาประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วเพราะทางผู้บังคับบัญชาสั่งกำลังผลที่ประจำการทุกส่วนให้ทำความสะอาดและเตรียมพร้อมอยู่หลายด้าน ตั้งแต่ตรวจเช็คเครื่องยนต์ที่จะนำไปใช้งานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและมีความพร้อม
    นอกจากนั้นอาวุธทั้งหมด รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.เป็นต้นมา ได้มีคำสั่งจากหน่วยเหนือในกองทัพภาคที่ 3 ให้กำลังพล ในกองพลทหารม้าที่ 1 ซึ่งมีหน่วยที่ตั้งอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ทำการเช็คความพร้อมยานลำเลียง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ทันที โดยตลอดทั้งวันที่ 18 ก.ย. ยานพาหนะของกองพลทหารม้าที่ 1 ทั้งหมด ถูกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเติมเชื้อเพลิงอยู่ในสภาพพร้อมปฏิบัติงานทุกคัน
    สำหรับกองพลทหารม้าที่ 1 มี พล.ต.วรรณทิศ ว่องไว นายทหารคนสนิทพล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นผู้บัญชาการ และมี พ.อ.วิเชษฐ์ สุขพงษ์พิสิฐ นายทหาร สายพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นรองผู้บัญชาการ และมีรายงานอีกว่า ขณะนี้ พล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ที่ปกติจะทำงานที่จ.พิษณุโลก และจ.เชียงใหม่ ได้มาประจำที่กองพลทหารม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์


    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.komchadluek.net/2006/09/20/a001_49052.php?news_id=49052
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2006
  3. yokeedevil

    yokeedevil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +6,257
    เค้าจะรอมชอมกันด้วยดีมั้ยน่า........
    นอนม่ะหลับเลยค่ะ....สนใจข่าวง่ะ
    จะรอดูข่าว
     
  4. surad

    surad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,287
    ชักง่วงแล้วสิ
    คงต้องขอลาก่อนนะพรุ่งนี้ค่อยเกาะติดไหม
     
  5. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE height=350 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=209 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top background=/images2006/pt_05.jpg><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=186 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=186>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top>สังเกตุการณ์
    ประชาชนเฝ้าสังเกตุการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังทหารคุมสถานการณ์พื้นที่ทั่ว กทม. หลังจากพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาหารทหารบก พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการยึดอำนาจในนามคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549(มีรูปต่อเนื่อง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top background=/images2006/pt_06.jpg>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG]</TD><TD vAlign=top background=/images2006/pt_08.jpg height=14>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เบื้องลึก...ปฏิวัติ!!! "ทักษิณ"เมินไปโดยดี</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] เบื้องลึกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดอำนาจ "ทักษิณ ชินวัตร" เขย่าขวัญตลอดวัน ก่อนยื่นข้อเสนอให้ออกไปโดยดี แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง...ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย จะจบลงอย่างไร อย่ากะพริบตา!!!
    การใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ที่ปรากฏเป็นรูปธรรมในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. วันอังคารที่ 19 กันยายน 2549 มีเค้าลางปรากฏให้เห็นมาตลอดทั้งวัน
    สัญญาณแรกที่ปรากฏให้เห็นเกิดขึ้นในช่วงเช้า เมื่อผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่า ได้รับคำสั่งด่วนจาก พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม.แทน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งติดภารกิจร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติอยู่ที่สหรัฐ
    น่าแปลกใจที่คำสั่งดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนองจาก ผบ.ทุกเหล่าทัพ !!!
    นับจากนั้นข่าวรัฐประหารก็สะพัดขึ้นทันที ก่อนจะชัดเจนขึ้นเมื่อพบความเคลื่อนไหวเป็นพิเศษของกำลังพลสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของ พล.ท.สพรั่ง กัลยานมิตร แม่ทัพภาคที่ 3
    โดยมีรายงานข่าวในช่วงบ่ายว่า พล.ท.สพรั่ง ได้เดินทางไปที่กองพลทหารม้าที่ 1 เพชรบูรณ์ พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบความพร้อมของยานลำเลียง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของ พล.ม.1
    อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่ พล.ม.1 หาได้รอดพ้นสายตาของทหารอีกฝ่ายที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่
    เมื่อความเคลื่อนไหวในส่วนนี้ปรากฏขึ้นมา กำลังอีกด้านจาก พล.ม.2 ซึ่งมี พล.ต.ศานิตย์ พรหมมาศ ตท.10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผบ.พล ก็ได้เคลื่อนเข้าอารักขาทำเนียบรัฐบาลทันที ทำให้ความเคลื่อนไหวที่ พล.ม.1 เงียบลงไป
    กระนั้นข่าวการเตรียมกำลังยึดอำนาจก็ยังสะพัดต่อไปอย่างคึกคัก จนมีข่าวว่ารักษาการรัฐมนตรีบางคนถึงกับเตรียมการหลบหนีแล้ว
    ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกครั้งในเวลา 17.00 น. กลุ่มพลเรือนประมาณ 10 คน นำโดย นางเพ็ญจิต ปัญญวรรณสิริ ข้าราชการบำนาญ ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการกองทัพ ขอยื่นหนังสือให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. นำกองทัพออกมาทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายเข้าสู่การปฏิรูปการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
    ล่วงเข้าช่วงค่ำวันเดียวกัน ข่าวการรัฐประหารยึดอำนาจก็กระหึ่มหนักขึ้น ตามด้วยรายงานว่ามีการเจรจากันระหว่างผู้นำฝ่ายรัฐประหาร กับพ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นข้อเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลีกทางออกไป แต่ฝ่ายหลังไม่สนองตอบ
    ข่าวชิ้นดังกล่าวเสมือนฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่กำลังฝ่ายรัฐประหารจะเคลื่อนออกมาเป็นรูปธรรม !!!
    เวลา 21.00 น. สายข่าวทุกสายยืนยัน มีรัฐประหารแน่นอน และเป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่เวลาดังกล่าว สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ไม่มีการออกอากาศรายการต่างๆ ตามปกติ มีเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ และเสียงเพลงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น
    จากนั้นแค่ไม่กี่นาที รถบัสนับสิบคันจากศูนย์บัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี นำกำลังพลในชุดพราง อาวุธครบมือเดินทางถึงกองบัญชาการทหารบก ถนนราชดำเนิน ติดตามมาด้วยรถถ่ายทอดสดของ ททบ.5
    สถานการณ์บีบคั้นหัวใจผ่านไปเพียงชั่วโมง สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ก็ออกอากาศสดเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมเด้งบิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ โดยต้องไปรายงานตัวกับ พล.ต.อ.ชิดชัย ทันที นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยตาม พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน
    แต่แล้วความหวังครั้งสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต่อสู้รักษาอำนาจต่อไปก็พังทลายลง เมื่อทหารฝ่ายยึดอำนาจสั่งยุติการออกอากาศทันที พร้อมกับที่ขบวนรถถังนับสิบคัน ผสมกับรถฮัมวีติดปืนกลได้เคลื่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนิน ท่ามกลางความแปลกใจของประชาชน
    ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า กำลังพลฝ่ายรัฐประหารอีกส่วนจากกรมทหารราบที่ 31 ลพบุรี ได้เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล นอกเหนือจากนี้ยังมีกำลังไม่ทราบสังกัดเข้ายึดอาคารชินวัตร สถานีโทรทัศน์ไอทีวี และบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ
    จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ความสงสัยข้องใจทั้งหมดก็คลี่คลายลง เมื่อมีการแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า "คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลได้แล้ว
    จากนั้นในเวลา 24.00 น. คณะปฏิรูปฯ พร้อมด้วย พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงานสถานการณ์
    อย่างไรก็ตาม การเข้าควบคุมสถานการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองนับแต่ช่วงดึกวันที่ 19 กันยายนต่อเนื่องไปวันใหม่ ยังเต็มไปด้วยข่าวสะพัด
    ขุมกำลังที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังตั้งหลักตั้งป้อมสู้ !!!
    ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทยจะยุติลงอย่างไร จึงต้องยังติดตามโดยไม่อาจกะพริบตา !!!


    -->[​IMG]
    เบื้องลึกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดอำนาจ "ทักษิณ ชินวัตร" เขย่าขวัญตลอดวัน ก่อนยื่นข้อเสนอให้ออกไปโดยดี แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง...ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย จะจบลงอย่างไร อย่ากะพริบตา!!!

    การใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ที่ปรากฏเป็นรูปธรรมในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. วันอังคารที่ 19 กันยายน 2549 มีเค้าลางปรากฏให้เห็นมาตลอดทั้งวัน [​IMG]
    สัญญาณแรกที่ปรากฏให้เห็นเกิดขึ้นในช่วงเช้า เมื่อผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่า ได้รับคำสั่งด่วนจาก พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม.แทน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งติดภารกิจร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติอยู่ที่สหรัฐ

    น่าแปลกใจที่คำสั่งดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนองจาก ผบ.ทุกเหล่าทัพ !!!
    นับจากนั้นข่าวรัฐประหารก็สะพัดขึ้นทันที ก่อนจะชัดเจนขึ้นเมื่อพบความเคลื่อนไหวเป็นพิเศษของกำลังพลสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของ พล.ท.สพรั่ง กัลยานมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 [​IMG]

    โดยมีรายงานข่าวในช่วงบ่ายว่า พล.ท.สพรั่ง ได้เดินทางไปที่กองพลทหารม้าที่ 1 เพชรบูรณ์ พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบความพร้อมของยานลำเลียง รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของ พล.ม.1
    อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่ พล.ม.1 หาได้รอดพ้นสายตาของทหารอีกฝ่ายที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่

    เมื่อความเคลื่อนไหวในส่วนนี้ปรากฏขึ้นมา กำลังอีกด้านจาก พล.ม.2 ซึ่งมี พล.ต.ศานิตย์ พรหมมาศ ตท.10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผบ.พล ก็ได้เคลื่อนเข้าอารักขาทำเนียบรัฐบาลทันที ทำให้ความเคลื่อนไหวที่ พล.ม.1 เงียบลงไป
    กระนั้นข่าวการเตรียมกำลังยึดอำนาจก็ยังสะพัดต่อไปอย่างคึกคัก จนมีข่าวว่ารักษาการรัฐมนตรีบางคนถึงกับเตรียมการหลบหนีแล้ว
    ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกครั้งในเวลา 17.00 น. กลุ่มพลเรือนประมาณ 10 คน นำโดย นางเพ็ญจิต ปัญญวรรณสิริ ข้าราชการบำนาญ ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการกองทัพ ขอยื่นหนังสือให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. นำกองทัพออกมาทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายเข้าสู่การปฏิรูปการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
    ล่วงเข้าช่วงค่ำวันเดียวกัน ข่าวการรัฐประหารยึดอำนาจก็กระหึ่มหนักขึ้น ตามด้วยรายงานว่ามีการเจรจากันระหว่างผู้นำฝ่ายรัฐประหาร กับพ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นข้อเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลีกทางออกไป แต่ฝ่ายหลังไม่สนองตอบ
    ข่าวชิ้นดังกล่าวเสมือนฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่กำลังฝ่ายรัฐประหารจะเคลื่อนออกมาเป็นรูปธรรม !!!
    เวลา 21.00 น. สายข่าวทุกสายยืนยัน มีรัฐประหารแน่นอน และเป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่เวลาดังกล่าว สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ไม่มีการออกอากาศรายการต่างๆ ตามปกติ มีเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ และเสียงเพลงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น
    จากนั้นแค่ไม่กี่นาที รถบัสนับสิบคันจากศูนย์บัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี นำกำลังพลในชุดพราง อาวุธครบมือเดินทางถึงกองบัญชาการทหารบก ถนนราชดำเนิน ติดตามมาด้วยรถถ่ายทอดสดของ ททบ.5
    สถานการณ์บีบคั้นหัวใจผ่านไปเพียงชั่วโมง สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ก็ออกอากาศสดเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมเด้งบิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ โดยต้องไปรายงานตัวกับ พล.ต.อ.ชิดชัย ทันที นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยตาม พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน
    แต่แล้วความหวังครั้งสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต่อสู้รักษาอำนาจต่อไปก็พังทลายลง เมื่อทหารฝ่ายยึดอำนาจสั่งยุติการออกอากาศทันที พร้อมกับที่ขบวนรถถังนับสิบคัน ผสมกับรถฮัมวีติดปืนกลได้เคลื่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนิน ท่ามกลางความแปลกใจของประชาชน
    ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า กำลังพลฝ่ายรัฐประหารอีกส่วนจากกรมทหารราบที่ 31 ลพบุรี ได้เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล นอกเหนือจากนี้ยังมีกำลังไม่ทราบสังกัดเข้ายึดอาคารชินวัตร สถานีโทรทัศน์ไอทีวี และบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ
    จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ความสงสัยข้องใจทั้งหมดก็คลี่คลายลง เมื่อมีการแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า "คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลได้แล้ว
    จากนั้นในเวลา 24.00 น. คณะปฏิรูปฯ พร้อมด้วย พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงานสถานการณ์
    อย่างไรก็ตาม การเข้าควบคุมสถานการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองนับแต่ช่วงดึกวันที่ 19 กันยายนต่อเนื่องไปวันใหม่ ยังเต็มไปด้วยข่าวสะพัด
    ขุมกำลังที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังตั้งหลักตั้งป้อมสู้ !!! ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทยจะยุติลงอย่างไร จึงต้องยังติดตามโดยไม่อาจกะพริบตา !!!
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลำดับนาทีต่อนาที รัฐประหารทักษิณ </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] ลำดับเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 "วันวิกฤติ" ก่อนที่คณะ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.จะเข้ายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี

    เวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 19 กันยายน มีคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เรียกผู้นำทุกเหล่าทัพเข้าประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่มีผู้นำเหล่าทัพคนใดเข้าร่วม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. อ้างว่ากระชั้นชิดเกินไป ทำให้ต่อมามีกระแสข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหาร แพร่สะพัดไปทั่วทำเนียบรัฐบาล และเริ่มกระจายสู่ภายนอก โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์
    เวลาประมาณ 12.00 น. หลังการประชุม ครม. โดยผ่านระบบเวบแคมเมอรา รัฐมนตรีหลายรายได้สอบถามผู้สื่อข่าวถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างตื่นเต้น
    เวลา 18.30 น. มีข่าวกำลังทหารหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี เคลื่อนกำลังเข้ากรุงเทพฯ มีข่าวว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ข่าวระบุว่า เป็นเรื่องการทำบุญ หม่อมหลวงบัว
    เวลา 18.55 น. สำนักข่าวไทยรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศเลื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเร็วขึ้นจากวันที่ 22 กันยายน เป็น 05.00 น. วันที่ 21 กันยายนแทน
    ช่วงค่ำ รัฐมนตรีหลายรายต่างโทรเช็คข่าว
    เวลา 20.00 น. ตำรวจ 191 เบิกอาวุธเอ็ม 16 ไปรอเตรียมพร้อมที่กองกำกับการ 2 (ป้องกันและปราบปรามจลาจล) ถ.วิภาวดีรังสิต
    เวลาประมาณ 21.00 น. กำลังทหารจากพลร่มป่าหวาย หน่วยสงครามพิเศษลพบุรี เข้ามาประจำการที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) มีผู้โพสต์ข้อความถามถึงข่าวลือปฏิวัติในเวบพันทิป
    เวลา 21.10 น. รถถ่ายทอดสด (โอบี) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) เข้า บก.ทบ.
    เวลาประมาณ 21.30 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ตัดรายการปกติ เปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี
    เวลาประมาณ 21.30 น. กลุ่มผู้สื่อข่าวได้เข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ตำรวจยังคงรักษาทำเนียบรัฐบาลเป็นปกติ ท่ามกลางข่าวลือว่ามีการนำกำลังเข้าควบคุมตัว พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการ รมว.กลาโหม ขณะที่มีอีกกระแสข่าวว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเนียบรัฐบาลมีคำสั่งห้ามคนนอกเข้าไปเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้สื่อข่าวบางส่วนออกมา ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องไปรอจับกลุ่มออกันอยู่บริเวณหน้าทำเนียบเป็นจำนวนมาก
    เวลา 21.30 น. น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาลด้านหลังตึกไทย ไล่เลี่ยกัน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางตามเข้ามาแต่ไม่ได้ลงจากรถ ก่อนที่ น.พ.พรหมินทร์ จะหอบเอกสารปึกใหญ่เดินขึ้นรถ พล.ต.อ.ชิดชัย และเคลื่อนออกไปจากทำเนียบด้วยกัน
    เวลาประมาณ 21.30 น. กำลังคอมมานโดตำรวจกองปราบปรามได้เดินทางไปรักษาความปลอดภัยที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
    เวลา 22.00 น. ขบวนรถถังเคลื่อนเข้าคุมเชิงที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และ ถ.ราชดำเนิน
    เวลาประมาณ 22.00 น. สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานสด (เบรกกิ่งนิวส์) สถานการณ์ในเมืองไทย หลังมีผู้เห็นกองกำลังทหารออกคุมกำลังตามสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ
    เวลา 22.15 น. ทหารจำนวนมาก ออกมาตรึงกำลังตามถนนต่างๆ ตั้งแต่แยกเกียกกาย ผ่านมาถึง ถ.ราชสีมา บริเวณสวนรื่นฤดี สี่แยกราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) โดยมีทหารแต่งกายลายพรางเต็มยศเป็นผู้ควบคุมกำลัง
    เวลาประมาณ 22.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ รักษาการนายกฯ ได้โทรศัพท์สั่งการไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เตรียมการถ่ายทอดสดเสียงตนเองผ่านทางโทรศัพท์จากนิวยอร์ก แต่ขณะที่กำลังรอสาย ทหารได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในช่อง 11 ได้ก่อน โดยได้นำเจ้าหน้าที่ช่อง 11 ทั้งหมดไปควบคุมไว้ยังห้องโถง ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงเวลา 00.30 น. จึงปล่อยตัวออกจากสถานี
    เวลา 22.13 น. สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท พ.ต.ท.ทักษิณ ออกประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควบคุมพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุอยู่ในขั้นรุนแรง และให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย และตั้ง พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. คุมอำนาจแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน
    เวลา 22.17 น. สัญญาณช่อง 9 อสมท ถูกตัดลง หน้าจอโทรทัศน์ดับสนิทชั่วครู่ โดยมีรายงานว่า เพราะทหารตัดไฟสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนจะตัดเข้าโฆษณาสินค้าประมาณ 2 ตัว ก่อนจะตัดเข้าสู่รายการปกติ โดยมีรายงานข่าวว่ากำลังทหารบุกเข้าควบคุมที่ห้องส่งสัญญาณออกอากาศ พร้อมควบคุมตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท
    เวลา 22.25 น. สถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่องตัดเข้ารายการเพลง เปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี ยกเว้นช่อง 9 และช่อง 3 ที่นำเสนอรายการปกติ โดยมีรายงานข่าวว่า มีกำลังทหารเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยเฉพาะช่อง 9 อสมท และไอทีวี
    เวลา 22.30 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเริ่มเชื่อมสัญญาณกับ ททบ.5 และเปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี แม้แต่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอย่างเอเอสทีวี ยกเว้นเนชั่นแชนนัล ทางสถานีโทรทัศน์ไททีวี ช่อง 1 ที่ยังคงรายงานสถานการณ์ได้ตามปกติ
    เวลา 22.35 น. เนชั่นแชนนัล ถูกเชื่อมสัญญาณเหมือนทุกช่อง
    เวลา 22.30 น. มีรายงานข่าวว่า มีรถถ่ายทอดสดไปที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์เพื่อเตรียมถ่ายทอดสด
    เวลา 22.30 น. มีรายงานข่าวว่า กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เข้าควบคุมตัว พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.กองปราบปรามและ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต (เสธ.ไอซ์) ที่ปรึกษากองทัพบก
    เวลา 22.54 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องได้ขึ้นโลโก้สถานีรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย พร้อมขึ้นคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมขออภัยในความไม่สะดวก พร้อมเปิดเพลง "ความฝันอันสูงสุด"
    เวลา 22.57 น. สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นแพร่รถถังและกำลังทหารควบคุมสถานการณ์ภายใน กทม. ช่วงหนึ่งได้แพร่ภาพกลุ่มชาวบ้านใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกำลังทหารเหล่านั้น โดยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
    เวลา 23.15 น. พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษก ททบ.5 อ่านแถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่แสดงไว้ในหน้าจอก่อนหน้านี้ซ้ำถึงสองครั้ง
    เวลา 23.30 น. เอเอสทีวีออกอากาศได้ตามปกติอีกครั้ง ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องยังคงเชื่อมสัญญาณกับ ททบ. 5 ขณะเดียวกันทหารจาก ป.พัน 21 สังกัด ร.21 ประมาณ 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือเดินทางมายังอาคารเนชั่นทาวเวอร์ ที่สถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนนัล โดยยืนยันว่า มาดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วไป ขณะที่เนชั่นแชนนัล เริ่มออกอากาศได้อีกครั้งในเวลา 23.44 น. เวลา 23.59 น. ผู้บัญชาทหารทุกเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชวังดุสิต
    -->

    ลำดับเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 "วันวิกฤติ" ก่อนที่คณะ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.จะเข้ายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี

    เวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 19 กันยายน มีคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เรียกผู้นำทุกเหล่าทัพเข้าประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่มีผู้นำเหล่าทัพคนใดเข้าร่วม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. อ้างว่ากระชั้นชิดเกินไป ทำให้ต่อมามีกระแสข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหาร แพร่สะพัดไปทั่วทำเนียบรัฐบาล และเริ่มกระจายสู่ภายนอก โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์

    เวลาประมาณ 12.00 น. หลังการประชุม ครม. โดยผ่านระบบเวบแคมเมอรา รัฐมนตรีหลายรายได้สอบถามผู้สื่อข่าวถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างตื่นเต้น

    วลา 18.30 น. มีข่าวกำลังทหารหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี เคลื่อนกำลังเข้ากรุงเทพฯ มีข่าวว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ข่าวระบุว่า เป็นเรื่องการทำบุญ หม่อมหลวงบัว

    เวลา 18.55 น. สำนักข่าวไทยรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศเลื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเร็วขึ้นจากวันที่ 22 กันยายน เป็น 05.00 น. วันที่ 21 กันยายนแทน
    ช่วงค่ำ รัฐมนตรีหลายรายต่างโทรเช็คข่าว

    เวลา 20.00 น. ตำรวจ 191 เบิกอาวุธเอ็ม 16 ไปรอเตรียมพร้อมที่กองกำกับการ 2 (ป้องกันและปราบปรามจลาจล) ถ.วิภาวดีรังสิต
    เวลาประมาณ 21.00 น. กำลังทหารจากพลร่มป่าหวาย หน่วยสงครามพิเศษลพบุรี เข้ามาประจำการที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) มีผู้โพสต์ข้อความถามถึงข่าวลือปฏิวัติในเวบพันทิป

    เวลา 21.10 น. รถถ่ายทอดสด (โอบี) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) เข้า บก.ทบ.
    เวลาประมาณ 21.30 น. สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ตัดรายการปกติ เปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี
    เวลาประมาณ 21.30 น. กลุ่มผู้สื่อข่าวได้เข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ตำรวจยังคงรักษาทำเนียบรัฐบาลเป็นปกติ ท่ามกลางข่าวลือว่ามีการนำกำลังเข้าควบคุมตัว พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการ รมว.กลาโหม ขณะที่มีอีกกระแสข่าวว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเนียบรัฐบาลมีคำสั่งห้ามคนนอกเข้าไปเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้สื่อข่าวบางส่วนออกมา ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องไปรอจับกลุ่มออกันอยู่บริเวณหน้าทำเนียบเป็นจำนวนมาก

    เวลา 21.30 น. น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาลด้านหลังตึกไทย ไล่เลี่ยกัน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางตามเข้ามาแต่ไม่ได้ลงจากรถ ก่อนที่ น.พ.พรหมินทร์ จะหอบเอกสารปึกใหญ่เดินขึ้นรถ พล.ต.อ.ชิดชัย และเคลื่อนออกไปจากทำเนียบด้วยกัน

    เวลาประมาณ 21.30 น. กำลังคอมมานโดตำรวจกองปราบปรามได้เดินทางไปรักษาความปลอดภัยที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

    เวลา 22.00 น. ขบวนรถถังเคลื่อนเข้าคุมเชิงที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และ ถ.ราชดำเนิน

    เวลาประมาณ 22.00 น. สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานสด (เบรกกิ่งนิวส์) สถานการณ์ในเมืองไทย หลังมีผู้เห็นกองกำลังทหารออกคุมกำลังตามสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ

    เวลา 22.15 น. ทหารจำนวนมาก ออกมาตรึงกำลังตามถนนต่างๆ ตั้งแต่แยกเกียกกาย ผ่านมาถึง ถ.ราชสีมา บริเวณสวนรื่นฤดี สี่แยกราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) โดยมีทหารแต่งกายลายพรางเต็มยศเป็นผู้ควบคุมกำลัง

    เวลาประมาณ 22.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ รักษาการนายกฯ ได้โทรศัพท์สั่งการไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เตรียมการถ่ายทอดสดเสียงตนเองผ่านทางโทรศัพท์จากนิวยอร์ก แต่ขณะที่กำลังรอสาย ทหารได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในช่อง 11 ได้ก่อน โดยได้นำเจ้าหน้าที่ช่อง 11 ทั้งหมดไปควบคุมไว้ยังห้องโถง ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงเวลา 00.30 น. จึงปล่อยตัวออกจากสถานี

    เวลา 22.13 น. สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท พ.ต.ท.ทักษิณ ออกประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควบคุมพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุอยู่ในขั้นรุนแรง และให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย และตั้ง พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. คุมอำนาจแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน

    เวลา 22.17 น. สัญญาณช่อง 9 อสมท ถูกตัดลง หน้าจอโทรทัศน์ดับสนิทชั่วครู่ โดยมีรายงานว่า เพราะทหารตัดไฟสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนจะตัดเข้าโฆษณาสินค้าประมาณ 2 ตัว ก่อนจะตัดเข้าสู่รายการปกติ โดยมีรายงานข่าวว่ากำลังทหารบุกเข้าควบคุมที่ห้องส่งสัญญาณออกอากาศ พร้อมควบคุมตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท

    เวลา 22.25 น. สถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่องตัดเข้ารายการเพลง เปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี ยกเว้นช่อง 9 และช่อง 3 ที่นำเสนอรายการปกติ โดยมีรายงานข่าวว่า มีกำลังทหารเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยเฉพาะช่อง 9 อสมท และไอทีวี

    เวลา 22.30 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเริ่มเชื่อมสัญญาณกับ ททบ.5 และเปิดเพลงที่มีเนื้อหาสรรเสริญพระบารมี แม้แต่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอย่างเอเอสทีวี ยกเว้นเนชั่นแชนนัล ทางสถานีโทรทัศน์ไททีวี ช่อง 1 ที่ยังคงรายงานสถานการณ์ได้ตามปกติ

    เวลา 22.35 น. เนชั่นแชนนัล ถูกเชื่อมสัญญาณเหมือนทุกช่อง

    เวลา 22.30 น. มีรายงานข่าวว่า มีรถถ่ายทอดสดไปที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์เพื่อเตรียมถ่ายทอดสด

    เวลา 22.30 น. มีรายงานข่าวว่า กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เข้าควบคุมตัว พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.กองปราบปรามและ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต (เสธ.ไอซ์) ที่ปรึกษากองทัพบก

    เวลา 22.54 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องได้ขึ้นโลโก้สถานีรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย พร้อมขึ้นคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมขออภัยในความไม่สะดวก พร้อมเปิดเพลง "ความฝันอันสูงสุด"

    เวลา 22.57 น. สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นแพร่รถถังและกำลังทหารควบคุมสถานการณ์ภายใน กทม. ช่วงหนึ่งได้แพร่ภาพกลุ่มชาวบ้านใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกำลังทหารเหล่านั้น โดยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

    เวลา 23.15 น. พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษก ททบ.5 อ่านแถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่แสดงไว้ในหน้าจอก่อนหน้านี้ซ้ำถึงสองครั้ง

    เวลา 23.30 น. เอเอสทีวีออกอากาศได้ตามปกติอีกครั้ง ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องยังคงเชื่อมสัญญาณกับ ททบ. 5 ขณะเดียวกันทหารจาก ป.พัน 21 สังกัด ร.21 ประมาณ 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือเดินทางมายังอาคารเนชั่นทาวเวอร์ ที่สถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนนัล โดยยืนยันว่า มาดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วไป ขณะที่เนชั่นแชนนัล เริ่มออกอากาศได้อีกครั้งในเวลา 23.44 น. เวลา 23.59 น. ผู้บัญชาทหารทุกเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชวังดุสิต

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.komchadluek.net/2006/09/20/a001_49076.php?news_id=49076
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2006
  8. yokeedevil

    yokeedevil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +6,257
    เค้าจะรอมชอมกันด้วยดีมั้ยน่า........
    นอนม่ะหลับเลยค่ะ....สนใจข่าวง่ะ
    จะรอดูข่าว ไม่เห็นแบบนี้มานานแล้ว
    ตอนพฤษภา ตอนนั้นยังเด็กๆมากเลย
    จำได้ว่าย่าดูข่าวตลอด
    เพราะอาก็ไปเดินกะเค้าด้วย
     
  9. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน" ก่อนเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูป</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] หลังจากข่าวลือสะพัดไม่ทันข้ามคืน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ก็กลายมาเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนำกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ ยืนยันมาตลอดว่ากองทัพจะต้องวางตัวเป็นกลาง และจะไม่มีทางออกมาปราบปรามประชาชนอย่างเด็ดขาด
    ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ต่อกระแสการเมืองอันเชี่ยวกรากนั้น เป็นไปด้วยความพยายามที่จะทำให้ความแตกแยกทางความคิด ความเชื่อ ไม่ขยายตัวบานปลายจนกลายเป็การเผชิญหามาโดยตลอด
    แม้เขาจะยอมรับว่า ช่วงจังหวะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวปิดถนนราชดำเนินตั้งเวทีขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ และเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า จะได้รับจดหมายจากประชาชนให้ทหารออกมาจัดการปัญหาการเมืองจนเกือบล้นลิ้นชัก
    รวมทั้งมีเสียงเรียกร้องจากทำเนียบรัฐบาลให้ทหารออกมารักษาความสงบเรียบร้อย
    แต่พล.อ.สนธิ ก็พยายามยืนในจุดที่กองทัพควรจะยืน
    รวมทั้งยืนยันกับฝ่ายรัฐบาลไปว่า หากทหารออกมาเมื่อใด ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ใด จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทันที
    ออกมาเมื่อไร รัฐบาลก็ไปเมื่อนั้น
    นั่นอาจเป็นจุดสำคัญที่สร้างความหวาดระแวงต่อฝ่ายทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ
    13 กันยายน 2549 ไม่เพียงยืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติ แต่ พล.อ.สนธิ ชี้ว่า ข่าวที่ออกมาเพื่อเร่งเร้าให้ทหารออกมาเคลื่อนไหว เพราะสุดท้ายหวังให้รับผิดชอบแทนการเมือง
    17 พฤษภาคม 2549 เป็นอีกครั้งที่ พล.อ.สนธิ ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีทางทหารเข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง
    "ทหารอาชีพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองก็อย่าเข้ามายุ่งกับทหาร"
    19 กรกฎาคม ที่คำสั่งโยกย้ายนายทหารระดับกองพันนอกฤดูกาล อาจเรียกได้ว่า นี่คือการเตือน
    เพราะเป็นการย้าย ผบ.พัน ที่คุมกำลังทหารในเมืองหลวงจากทั้ง พล.1 รอ. พล.ม.2 และพล.ปตอ. ซึ่งล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายทหารที่จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
    ในการเดินทางเยือนพม่าอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พล.อ.สนธิ ก็ถูกเรียกตัวอย่างกะทันหันเพื่อให้ร่วมเดินทางไปด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวความบาดหมางไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ซึ่งช่วงนี้มีเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเข้ามาเป็นตัวประกัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
    เพราะช่วงนั้นมีข่าวสะพัดเช่นกันว่า จะมีการปลด พล.อ.สนธิ ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.
    ตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุหลักของคำสั่งให้ ผบ.ทบ.ร่วมคณะไปพม่า
    แต่ร้อยถี่มีห่างอยู่หนึ่ง การเดินทางไปต่างประเทศหนนี้ แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพยายามสร้างภาพให้เห็นก่อนที่จะเดินทาง ด้วยการไปพบกับ ผบ.พล.ม. 2 ซึ่งเป็นเพื่อนรัก ราวกับจะฝากฝังให้ดูแล
    แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะการยึดอำนาจนั้น ผบ.พล.ม.2 ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่จะต้องถูกควบคุมตัว
    ถามว่าอะไรที่ทำให้ พล.อ.สนธิ นายทหารม้าที่เคร่งในศาสนา ไม่นิยมความรุนแรง สายตรง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี "ลูกป๋า" ถึงนำกำลังออกมาจัดการปัญหาการเมือง
    คำตอบที่ว่าเพราะ "ชะตาลิขิต" อาจจะง่ายเกินไป
    หากดูความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ต่อกรณีการเมืองในระยะหลัง แล้วจะเห็นสัญญาณบางอย่าง
    ครั้งการปะทะกันที่ สยามพารากอน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์แสดงถึงความไม่สบายใจอย่างชัดเจน
    "ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไร ในฐานะที่ผมเป็นทหารในกองทัพจึงอยากเห็นประชาชนในชาติมีความรักมีความสามัคคีกัน ไม่อยากให้แบ่งฝ่ายแบ่งกลุ่ม"
    ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ก็สอดรับการเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่เดินสายปลุกสำนึกทหารให้รับใช้ชาติและพระมหากษัตริย์
    ความสำเร็จในการยึดอำนาจครั้งนี้ ส่วนสำคัญนั้นมาจากความเป็นเอกภาพของ เตรียมทหารรุ่น 6 ที่ล้วนอยู่ส่วนยอดของกองทัพ ทั้งบก เรือ อากาศ แม้กระทั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ขุมกำลังที่ใช้จาก 3 หน่วยหลัก
    1.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.)
    2.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)
    3.กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.)
    ประวัติโดยย่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2489 สำเร็จการศึกษาจาก ร.ร.วัดพระศรีมหาธาตุ กทม., ร.ร.ตท.รุ่นที่ 6, ร.ร.นายร้อยจปร.รุ่นที่ 17 ผ่านหลักสูตรด้านการทหารหลายหลักสูตร เริ่มรับราชการเมื่อ พ.ศ.2512 ตำแหน่ง ผบ.มว.ปล.ร้อย.อวบ.พัน.ร.ศร. เป็น ผบ.นสศ.เมื่อปี 2545 และได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็น ผบ.ทบ.เมื่อปี 2548
    -->[​IMG]
    หลังจากข่าวลือสะพัดไม่ทันข้ามคืน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ก็กลายมาเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนำกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ ยืนยันมาตลอดว่ากองทัพจะต้องวางตัวเป็นกลาง และจะไม่มีทางออกมาปราบปรามประชาชนอย่างเด็ดขาด
    ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ต่อกระแสการเมืองอันเชี่ยวกรากนั้น เป็นไปด้วยความพยายามที่จะทำให้ความแตกแยกทางความคิด ความเชื่อ ไม่ขยายตัวบานปลายจนกลายเป็การเผชิญหามาโดยตลอด [​IMG]
    แม้เขาจะยอมรับว่า ช่วงจังหวะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวปิดถนนราชดำเนินตั้งเวทีขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ และเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า จะได้รับจดหมายจากประชาชนให้ทหารออกมาจัดการปัญหาการเมืองจนเกือบล้นลิ้นชัก
    รวมทั้งมีเสียงเรียกร้องจากทำเนียบรัฐบาลให้ทหารออกมารักษาความสงบเรียบร้อย
    แต่พล.อ.สนธิ ก็พยายามยืนในจุดที่กองทัพควรจะยืน [​IMG]
    รวมทั้งยืนยันกับฝ่ายรัฐบาลไปว่า หากทหารออกมาเมื่อใด ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ใด จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทันที
    ออกมาเมื่อไร รัฐบาลก็ไปเมื่อนั้น
    นั่นอาจเป็นจุดสำคัญที่สร้างความหวาดระแวงต่อฝ่ายทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ [​IMG]
    13 กันยายน 2549 ไม่เพียงยืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติ แต่ พล.อ.สนธิ ชี้ว่า ข่าวที่ออกมาเพื่อเร่งเร้าให้ทหารออกมาเคลื่อนไหว เพราะสุดท้ายหวังให้รับผิดชอบแทนการเมือง
    17 พฤษภาคม 2549 เป็นอีกครั้งที่ พล.อ.สนธิ ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีทางทหารเข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง
    "ทหารอาชีพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองก็อย่าเข้ามายุ่งกับทหาร" [​IMG]
    19 กรกฎาคม ที่คำสั่งโยกย้ายนายทหารระดับกองพันนอกฤดูกาล อาจเรียกได้ว่า นี่คือการเตือน
    เพราะเป็นการย้าย ผบ.พัน ที่คุมกำลังทหารในเมืองหลวงจากทั้ง พล.1 รอ. พล.ม.2 และพล.ปตอ. ซึ่งล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายทหารที่จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
    ในการเดินทางเยือนพม่าอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พล.อ.สนธิ ก็ถูกเรียกตัวอย่างกะทันหันเพื่อให้ร่วมเดินทางไปด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวความบาดหมางไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ซึ่งช่วงนี้มีเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเข้ามาเป็นตัวประกัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา [​IMG]
    เพราะช่วงนั้นมีข่าวสะพัดเช่นกันว่า จะมีการปลด พล.อ.สนธิ ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.
    ตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุหลักของคำสั่งให้ ผบ.ทบ.ร่วมคณะไปพม่า
    แต่ร้อยถี่มีห่างอยู่หนึ่ง การเดินทางไปต่างประเทศหนนี้ แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพยายามสร้างภาพให้เห็นก่อนที่จะเดินทาง ด้วยการไปพบกับ ผบ.พล.ม. 2 ซึ่งเป็นเพื่อนรัก ราวกับจะฝากฝังให้ดูแล
    แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะการยึดอำนาจนั้น ผบ.พล.ม.2 ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่จะต้องถูกควบคุมตัว
    ถามว่าอะไรที่ทำให้ พล.อ.สนธิ นายทหารม้าที่เคร่งในศาสนา ไม่นิยมความรุนแรง สายตรง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี "ลูกป๋า" ถึงนำกำลังออกมาจัดการปัญหาการเมือง
    คำตอบที่ว่าเพราะ "ชะตาลิขิต" อาจจะง่ายเกินไป
    หากดูความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ต่อกรณีการเมืองในระยะหลัง แล้วจะเห็นสัญญาณบางอย่าง
    ครั้งการปะทะกันที่ สยามพารากอน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์แสดงถึงความไม่สบายใจอย่างชัดเจน
    "ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไร ในฐานะที่ผมเป็นทหารในกองทัพจึงอยากเห็นประชาชนในชาติมีความรักมีความสามัคคีกัน ไม่อยากให้แบ่งฝ่ายแบ่งกลุ่ม"
    ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ ก็สอดรับการเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่เดินสายปลุกสำนึกทหารให้รับใช้ชาติและพระมหากษัตริย์
    ความสำเร็จในการยึดอำนาจครั้งนี้ ส่วนสำคัญนั้นมาจากความเป็นเอกภาพของ เตรียมทหารรุ่น 6 ที่ล้วนอยู่ส่วนยอดของกองทัพ ทั้งบก เรือ อากาศ แม้กระทั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ขุมกำลังที่ใช้จาก 3 หน่วยหลัก
    1.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.)
    2.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)
    3.กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.)
    ประวัติโดยย่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2489 สำเร็จการศึกษาจาก ร.ร.วัดพระศรีมหาธาตุ กทม., ร.ร.ตท.รุ่นที่ 6, ร.ร.นายร้อยจปร.รุ่นที่ 17 ผ่านหลักสูตรด้านการทหารหลายหลักสูตร เริ่มรับราชการเมื่อ พ.ศ.2512 ตำแหน่ง ผบ.มว.ปล.ร้อย.อวบ.พัน.ร.ศร. เป็น ผบ.นสศ.เมื่อปี 2545 และได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็น ผบ.ทบ.เมื่อปี 2548

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.komchadluek.net/2006/09/20/a001_49074.php?news_id=49074</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><!-- open banner center 1 --><!-- <OBJECT classid="clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000" codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,0,0" WIDTH="468" HEIGHT="60" id="perfect.swf" ALIGN="">


    <EMBED src="/imgs/ads/propertyperfect/perfect.swf" quality=high bgcolor=#FFFFFF WIDTH="468" HEIGHT="60" NAME="propertyperfect" ALIGN="" TYPE="application/x-shockwave-flash" PLUGINSPAGE="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"></EMBED> </OBJECT> --><!-- open banner center 2 --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2006
  10. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พล.อ.สนธินำเหล่าทัพ ยึดอำนาจโค่น"ทักษิณ"</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] คณะปฏิรูปการปกครองฯ ประกาศกฎอัยการศึก ล้มรัฐบาล ส.ว.-ศาลรธน. สั่งห้ามทหาร-ตร.เคลื่อนย้ายกำลังพล ด้าน "คุณหญิงอ้อ" หอบลูกหนีไปสิงคโปร์ ขณะที่ "สุดารัตน์" เผ่นไปฝรั่งเศส ส่วน "ทักษิณ" นั่งสงบสติอารมณ์ในโรงแรมยกเลิกกล่าวบนเวทียูเอ็น "ป๋าเปรม" นำ ผบ.เหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ ในหลวงรายงานสถานการณ์ พันธมิตรประกาศยกเลิกเวทีลานพระรูป ประชาชนแห่ออกจากบ้านกลางดึก ถ่ายรูปรถถัง-จับมือทหาร
    กองทัพทุกเหล่าทัพได้นำกำลังเข้ายึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 กันยายน
    เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรถถังนับสิบคัน และรถจี๊ปติดปืนกล เคลื่อนขบวนวิ่งผ่านถนนราชดำเนิน โดยมีทหารแต่งกายในชุดลายพรางเป็นผู้ควบคุม และปิดบริเวณถนนราชดำเนิน และเร่งระบายรถของประชาชนให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว เมื่อเข้าไปสอบถามข้อมูล ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่ามีคำสั่งห้ามให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน ได้สังเกตรถบัสทหารและยีเอ็มซีหลายคัน บรรทุกทหารเต็มคันรถวิ่งผ่านไปมา
    ก่อนหน้านี้เวลา 21.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบัสนับสิบคันขนกำลังพลจากศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ประมาณ 3 กองร้อย สวมชุดพรางพร้อมอาวุธ เข้ามายังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน จากนั้นเวลา 21.10 น.มีรถถ่ายทอดสดของ ททบ.5 วิ่งเข้ามาที่ บก.ทบ.1 คัน เพื่อเตรียมพร้อมในการแถลงข่าว
    ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 23.00 น. มีกำลังทหารจากค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี ประมาณ 40 นาย เดินทางมายังอาคารเนชั่น ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนนัล เพื่ออารักขาและขอร้องให้เชื่อมสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
    ขณะที่ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐและสถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ ได้รายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานครทันที หลังจากที่มีผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวด่วนเข้าไปว่า พบเห็นรถถังวิ่งอยู่บนถนนใจกลางกรุงเทพมหานคร
    ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีผู้พบเห็นรถถังอย่างน้อย 10 คัน ล้อมอาคารรัฐสภา
    ขณะที่สื่อต่างประเทศหลายแห่ง ได้รายงานว่า การยึดอำนาจครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากการนองเลือด
    เวลา 22.20 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แถลงข่าวข้ามประเทศผ่านทางสถานีโมเดิร์นไนน์ ทีวี ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ปลด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พ้นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก โดยให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบมอบอำนาจ ตามที่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน
    อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ทันจบ สัญญาณช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี ก็ถูกตัดขาดหายไปและมีภาพข่าวพระราชกรณียกิจขึ้นมาแทน โดยทุกสถานีแพร่ภาพพระราชกรณียกิจเหมือนกันในเวลาประมาณ 22.40 น. เหมือนที่เคยใช้เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารในอดีต
    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ได้มีการควบคุม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท
    ยึดทำเนียบ-บ้านจันทร์ส่องหล้า
    ขณะที่กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เข้ายึดพื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมีผ้าพันคอสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ทหารเหล่านี้ทราบว่ามาจากกรมทหารราบที่ 31 ลพบุรี มีผ้าพันคอสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ กระจายกำลังไปควบคุมตัวตำรวจสันติบาล และขอร้องผู้สื่อข่าวที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลให้มารวมกลุ่มกันที่บริเวณด้านตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นได้แยกผู้สื่อข่าวกับตำรวจออกจากกัน โดยถือปืนคุมอยู่และขอร้องให้นักข่าวทุกคนอกจากทำเนียบ ส่วนตำรวจให้ไปรวมกลุ่มอยู่ทำเนียบรัฐบาล
    เวลา 23.00 น. กำลังทหารจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ายึดอาคารชินวัตร เนื่องจากเป็นจุดสำคัญในการส่งสัญญาณสื่อสาร รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
    "สุดารัตน์" เผ่นหนีไปฝรั่งเศส
    มีรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสพร้อมกับครอบครัว
    เวลาประมาณ 23.00 น.โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ทุกช่องว่า เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้แก่ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลได้แล้ว โดยไม่มีการขัดขวาง เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงขอความร่วมมือประชาชนในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย
    เวลา 23.45 น.พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษก ททบ.5 ในนามคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า หน่วยงานอิสระได้ถูกครอบงำทางการเมือง ทำให้กิจการทางการเมืองเกิดปัญหา แม้ว่าภาคสังคมจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ แต่ก็ไม่สามารถยุติปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่ประกอบด้วย ผบ.ทั้งสามเหล่าทัพ จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอยืนยันว่า ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเอง แต่จะคืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม
    "สุรเกียรติ์" บอกทักษิณจะรีบกลับ
    นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ตามที่มีข่าวมาตลอดว่า มีกลุ่มคนพยายามปฏิวัติ ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเฉพาะในวันอังคารที่มีการเคลื่อนไหวของทหาร ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้โทรศัพท์กลับมาสอบถามถึงสถานการณ์ในประเทศจากเจ้าหน้าที่ในไทย ก่อนจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินข้ามประเทศ
    นายสุรเกียรติ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะรีบเดินทางกลับประเทศเร็วที่สุด พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาปกติเรียบร้อยโดยเร็ว
    ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามต่อว่า จะเดินทางกลับประเทศอย่างไรเมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น จะกลับทางปกติเลยหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะไม่เดินทางกลับประเทศ และว่าหากเกิดการรัฐประหารขึ้นจริง รัฐบาลที่จะขึ้นมาหลังเหตุการณ์นี้เป็นรัฐบาลผิดกฎหมาย เป็นการเลือกตั้งผิดกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องทำทุกวิถีทางให้เกิดการเลือกตั้งที่ถูกต้อง
    นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังถามถึงการตัดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ ว่าเป็นเช่นไร นายสุรเกียรติ์ ยอมรับว่า มีการตัดสัญญาณที่สถานีโทรทัศน์จริง แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ก่อนจะถูกผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามย้ำว่า เห็นภาพที่มีรถถังของทหารปิดถนนหรือไม่ ยังคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้เป็นสถานการณ์ปกติหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ ตอบแต่เพียงว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงดูแลสถานการณ์ในประเทศแล้ว
    "คุณหญิงอ้อ" เผ่นไปสิงคโปร์
    มีรายงานข่าวเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ว่า คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ควบคุมตัว พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ ได้แล้ว ขณะที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการ รมว.กลาโหม มีรายงานว่าได้หลบหนีจากบ้านพักเมืองย่านทองธานี ไปต่างจังหวัดได้
    โดยก่อนหน้านี้เวลา 21.00 น. มีรายงานว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้เรียกนายทหารเตรียม 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าหารือที่บ้านพักย่านเมืองทอง เป็นการด่วน เพื่อรับมือกับแผนการยึดอำนาจครั้งนี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยารักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หลบหนีออกจากประเทศไทย ไปประเทศสิงคโปร์พร้อมครอบครัว
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้มีการสั่งกักตัวของ พล.ต.พฤณท์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1รอ. พล.ต.ศานิตย์ พรหมาศ ผบ.พล.ม.2 และพล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี ผบ.พล.ปตอ พร้อมด้วย พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ไว้ในเขตพื้นที่ทหาร
    ทหารบล็อกทักษิณออกอากาศช่อง 11
    รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงดึกนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความพยายามที่จะโทรศัพท์เพื่อเข้าไปออกอากาศสด อ่านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ แต่ขณะที่กำลังรอสายอยู่นั้นเอง เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในช่อง 11 ได้เสียก่อน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของช่อง 11 ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ยังห้องโถง ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.00 น. จนถึง 00.30 น. จึงได้รับการปล่อยตัวกลับออกจากสถานี
    ส่วนที่ช่อง 9 อสมท มีการแพร่ภาพและเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้บางส่วนก่อนที่กำลังทหารจะเข้าควบคุมสถานการณ์และตัดการเชื่อมสัญญาณจากต่างประเทศ และให้สถานีรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากทางช่อง 5
    ผบ.เหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ ในหลวง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นำผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ รอง ผบ.สส. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เดินทางเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เพื่อถวายรายงานถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
    เวลา 24.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้ ผบ.ทบ.และ ผบ.หล่าทัพ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลถวายรายงานถึงสถานการณ์บ้านเมือง และการเข้ามาปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
    หลังจากนั้น ผบ.เหล่าทัพ ได้เดินทางกลับมารวมตัวกันที่กองบัญชาการกองทัพบก ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มารอทำข่าวอย่างเนืองแน่น โดยเหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย ปราศจากกระทบกระทั่ง หรือเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ
    ประกาศกฎอัยการศึกล้มพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
    เวลา 23.55 น. ได้มีการออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ฉบับที่ 2 ห้ามการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร โดยให้ทหารและตำรวจทุกนายรายงานตัวต่อต้นสังกัดและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน 2549 ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ
    จากนั้นเวลา 00.15 น. วันที่ 20 กันยายน พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ออกประกาศว่า เนื่องด้วยคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้เข้ายึดอำนาจเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อรักษาความสงบสุข จึงขอประกาศกฎอัยการศึก ทับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศไว้เมื่อเวลา 21.05 น.ที่ผ่านมา ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ
    ประกาศฉบับ3ล้ม รธน.-ส.ว.-ศาลรธน.
    เวลา 00.35 น. คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 ระบุว่า เพื่อความสงบสุขในการปกครองประเทศ จึงให้ 1.รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 สิ้นสุดลง 2.วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ส่วนองคมนตรีดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป 3.ศาลทั้งหลายยกเว้นศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีอำนาจในการพิจารณาอรรถคดีตามกฎหมาย และตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ
    ประกาศฉบับ4 "สนธิ"คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
    เมื่อเวลา 01.24 น. คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ได้มีประกาศฉบับที่ 4 ว่า
    ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 4 เรื่องอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน
    โดยที่ได้มีกฎหมายบางฉบับกำหนดถึงอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในอันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายได้ และเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
    ข้อ 1 ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายได้บัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือผู้ซึ่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มอบหมาย
    ข้อ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงใด ก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงนั้น เว้นแต่หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
    ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549
    ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    รายงานข่าวระบุว่า จะยังไม่มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีในทันที โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ จะเป็นผู้คุมอำนาจการปกครองในประเทศไปก่อน
    สั่งปิดราชการ-ตลาดหุ้น
    เวลา 02.25 น. คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกประกาศอีกครั้ง ระบุว่า ให้ผู้เกี่ยวข้อง ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมทุกกรม หัวหน้าระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐ อธิบการบดีมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในกทม.และจังหวัดใกล้เคียง ไปรายงานตัวต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่กองบัญชาการกองทัพบก ในเวลา 09.00 น. วันที่ 20 กันยายน
    ขณะเดียวกัน ได้ประกาศให้วันที่ 20 กันยายน เป็นวันหยุดราชการ และให้สำนักงานตลาดหลักทรัพย์ฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย หยุดทำการ เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยกลับมาโดยเร็วที่สุด
    พันธมิตรล้มการชุมนุมลานพระบรมรูปฯ
    นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยืนยันว่า การเข้ามาครั้งนี้เป็นการเข้ามาชั่วคราวเพื่อสร้างความสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรได้พยายามต่อสู้มาตลอด สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ประกาศจะชุมนุมวันที่ 20 กันยายน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จำเป็นต้องยกเลิกชั่วคราว เพราะได้มีการประกาศกฎอัยการศึก อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าภาคประชาชนได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถและสมศักดิ์ศรี สมกับเป็นคนไทยที่รู้ซึ้งบุญคุณแผ่นดิน
    นายสนธิ กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันขอบคุณ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และขอให้พระอัลเลาะฮ์ คุ้มครองตลอดจนขอบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปกป้อง พล.อ.สนธิ ให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนเองและกลุ่มพันธมิตรไม่ได้มีความปรารถนาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เราไม่ได้อาฆาตเคียดแค้น พ.ต.ท.ทักษิณ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันนี้ เราก็ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน
    หลายเวปไซต์ล่มหลังรัฐประหาร
    ภายหลังจากเมื่อเวลา 21.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน กทม. ปรากฏว่า เว็บไซต์ต่างๆ ที่ปกติมีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปติดตามอ่านข่าวสารเป็นประจำ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกลับไม่สามารถให้บริการได้ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th. ซึ่งมีปัญหาในช่วงแรกๆ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงใน กทม. ส่วนเวบไซต์ผู้จัดการ www.manager.co.th เวบไซต์กรมประชาสัมพันธ์ http://thainews.prd.go.th สำนักข่าวไทย http://tnanews.mcot.net , รีพอตเตอร์ http://www.reporter.co.th/ ไม่สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
    ประชาชนแห่ถ่ายรูป-จับมือทหาร
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 00.35 น. ประชาชนประมาณ 100 คน ที่ทราบถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจของกลุ่มคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกมาดูสถานการณ์ ทำให้หน้าทำเนียบรัฐบาลมีความคึกคักขึ้นทันตา บางคนมาด้วยชุดนอน บ้างก็มาด้วยชุดนักศึกษา ต่างมาถ่ายรูปรถถังที่ประจำการอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาล บางคนถึงกับถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ท่ามกลางทหารกลุ่มคณะปฏิรูปฯ ที่รายล้อมทั้งด้านนอกและในทำเนียบรัฐบาล
    นอกจากนั้น มีประชาชนมาถ่ายภาพรถถังที่จอดอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน และมีประชาชนบางส่วนแสดงความดีใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอจับมือ-ถ่ายรูปคู่กับทหารที่ยืนประจำการ
    ขณะเดียวกัน มีนายเล็ก ไม่ทราบนามสกุล ที่เป็นกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้ามาต่อว่าประชาชนที่มาแสดงความยินดี จนเกิดการตะโกนโห่ไล่กันขึ้นแต่ไม่มีเหตุรุนแรง
    คนไทยในเยอรมนีไม่เห็นด้วยยึดอำนาจ
    นายยุทธพล พจนเสนี อายุ 28 ปี ชาวไทยที่อาศัยอยู่ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศเยอรมนี โดยแสดงความคิดเห็นต่อการยึดอำนาจในครั้งนี้ว่าเร็วเกินไป เนื่องจากสถานการณ์ในประทศไทยขณะนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นหลายประการ ทั้งสถานการณ์ในภาคใต้และความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่สำคัญขณะนี้ใกล้จะถึงการเลือกตั้งทั่วไป จึงไม่ควรที่จะมีการยึดอำนาจเกิดขึ้น แม้การปฏิวัติอาจส่งผลดีต่อประเทศในระยะยาวก็ตาม ทั้งนี้ การยึดอำนาจได้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ โดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักได้เผยแพร่ข่าวและภาพรถถังที่เข้าตรึงกำลังที่ทำเนียบรัฐบาลอันส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานานาประเทศเป็นอย่างมาก
    ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์และร้านคาบาเร่ต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน
    "ทักษิณ"นั่งสงบจิตใจในโรงแรม
    หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจ นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากที่ทราบข่าวการปฏิวัติในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยคนหนึ่งที่ติดตามคณะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยังนครนิวยอร์กเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีสงบ และคิดว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ พร้อมขอให้ผู้บัญชาการทหารทุกคนเข้ารายงานตัวต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    เจ้าหน้าที่คนเดิมยังเผยด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีใจเย็นขณะนั่งอยู่ในห้องโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เพื่อชมการถ่ายทอดสดประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวสุนทรพจน์กลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการจะปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ รวมทั้งพยายามควบคุมสถานการณ์
    ด้านเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนหนึ่งเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอธิบายถึงตำแหน่งของตัวเองขณะขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ขณะที่โฆษกสำนักงานสหประชาชาติกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะขึ้นปราศรัยในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
    ซีเอ็นเอ็นรายงาน"ทักษิณ"ยกเลิกพูดแล้ว
    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอยกเลิกการกล่าวปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และกำหนดการทั้งหมดแล้ว
    นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่ามีปฏิวัติ
    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์ และร้านคาบาเรต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน
    นักศึกษาสนับสนุนทหารยึดอำนาจ
    รายงานข่าวเผยอีกว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ อยู่ในความสงบเรียบร้อยดี ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนไปรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปและวิดีโอกับรถถังของทหาร หนึ่งในจำนวนนั้นคือ น.ส.ศศิประภา จันทวงศ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กล่าวว่า ตัวเองไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ แต่ตอนนี้สนับสนุนการปฏิวัตินี้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณบริหารรัฐบาลต่อไปก็จะทำลายประเทศไปมากยิ่งขึ้น และแม้ชื่อเสียงของประเทศอาจจะเสียหายไปบ้างจากการปฏิวัติครั้งนี้ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในอำนาจต่อไป
    ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกสันติในไทย
    ด้านนายเคนเนธ เบลส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่สหรัฐหวังว่า คนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติโดยวิถีทางประชาธิปไตย ขณะที่นายจอห์น โบลตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะออกความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ แต่ขอร้องให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้ครรลองกฎหมาย และสิ่งสำคัญคือการคงกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศ
    ดิ้นตั้ง ครม.พลัดถิ่นที่สิงคโปร์
    รายงานข่าวแจ้งว่า อดีตรัฐมนตรีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หลายคน ได้เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อรวมตัวกันและอาจมีการตั้ง ครม.พลัดถิ่น ณ ประเทศดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็มีความพยายามให้องค์การสหประชาชาติให้การรับรองสถานะ ครม.พลัดถิ่นดังกล่าว
    อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ได้ถูกรายงานไปยัง พล.อ.สนธิ จึงได้มีคำสั่งว่า ในวันที่ 20 กันยายน ให้เชิญบรรดาทูตานุทูตของทุกประเทศประจำประเทศไทย ให้มาฟังคำชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สโมสรกองทัพบก ในเวลา 09.00 น. ซึ่งก็รวมทั้งข้าราชการระดับสูงของทุกกระทรวงด้วย
    เมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาในเมืองไทย สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า การปฏิวัติไม่สำเร็จ เพราะมีทหารแค่บางส่วนที่พยายามทำ ตอนนี้รัฐบาลสามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้แล้ว
    "เรารู้เรื่องสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อเวลาเช้าของนิวยอร์ก และเราคิดว่าในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถยอมรับความพยามปฏิวัตินี้ได้ เนื่องจากประชาธิปไตยในไทยได้พัฒนาแล้ว" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
    นอกจากนี้ น.ส.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเอง ก็ได้ติดต่อกันนายราร์ฟบอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพื่อสอบถามประเมินสถานการณ์แล้ว







    -->
    คณะปฏิรูปการปกครองฯ ประกาศกฎอัยการศึก ล้มรัฐบาล ส.ว.-ศาลรธน. สั่งห้ามทหาร-ตร.เคลื่อนย้ายกำลังพล ด้าน "คุณหญิงอ้อ" หอบลูกหนีไปสิงคโปร์ ขณะที่ "สุดารัตน์" เผ่นไปฝรั่งเศส ส่วน "ทักษิณ" นั่งสงบสติอารมณ์ในโรงแรมยกเลิกกล่าวบนเวทียูเอ็น "ป๋าเปรม" นำ ผบ.เหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ ในหลวงรายงานสถานการณ์ พันธมิตรประกาศยกเลิกเวทีลานพระรูป ประชาชนแห่ออกจากบ้านกลางดึก ถ่ายรูปรถถัง-จับมือทหาร
    กองทัพทุกเหล่าทัพได้นำกำลังเข้ายึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 กันยายน
    เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรถถังนับสิบคัน และรถจี๊ปติดปืนกล เคลื่อนขบวนวิ่งผ่านถนนราชดำเนิน โดยมีทหารแต่งกายในชุดลายพรางเป็นผู้ควบคุม และปิดบริเวณถนนราชดำเนิน และเร่งระบายรถของประชาชนให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว เมื่อเข้าไปสอบถามข้อมูล ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่ามีคำสั่งห้ามให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน ได้สังเกตรถบัสทหารและยีเอ็มซีหลายคัน บรรทุกทหารเต็มคันรถวิ่งผ่านไปมา
    ก่อนหน้านี้เวลา 21.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบัสนับสิบคันขนกำลังพลจากศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ประมาณ 3 กองร้อย สวมชุดพรางพร้อมอาวุธ เข้ามายังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน จากนั้นเวลา 21.10 น.มีรถถ่ายทอดสดของ ททบ.5 วิ่งเข้ามาที่ บก.ทบ.1 คัน เพื่อเตรียมพร้อมในการแถลงข่าว
    ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 23.00 น. มีกำลังทหารจากค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี ประมาณ 40 นาย เดินทางมายังอาคารเนชั่น ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนนัล เพื่ออารักขาและขอร้องให้เชื่อมสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
    ขณะที่ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐและสถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ ได้รายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานครทันที หลังจากที่มีผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวด่วนเข้าไปว่า พบเห็นรถถังวิ่งอยู่บนถนนใจกลางกรุงเทพมหานคร
    ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีผู้พบเห็นรถถังอย่างน้อย 10 คัน ล้อมอาคารรัฐสภา
    ขณะที่สื่อต่างประเทศหลายแห่ง ได้รายงานว่า การยึดอำนาจครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากการนองเลือด
    เวลา 22.20 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แถลงข่าวข้ามประเทศผ่านทางสถานีโมเดิร์นไนน์ ทีวี ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ปลด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พ้นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก โดยให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบมอบอำนาจ ตามที่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน
    อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ทันจบ สัญญาณช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี ก็ถูกตัดขาดหายไปและมีภาพข่าวพระราชกรณียกิจขึ้นมาแทน โดยทุกสถานีแพร่ภาพพระราชกรณียกิจเหมือนกันในเวลาประมาณ 22.40 น. เหมือนที่เคยใช้เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารในอดีต
    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ได้มีการควบคุม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท
    ยึดทำเนียบ-บ้านจันทร์ส่องหล้า

    ขณะที่กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เข้ายึดพื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมีผ้าพันคอสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ทหารเหล่านี้ทราบว่ามาจากกรมทหารราบที่ 31 ลพบุรี มีผ้าพันคอสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ กระจายกำลังไปควบคุมตัวตำรวจสันติบาล และขอร้องผู้สื่อข่าวที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลให้มารวมกลุ่มกันที่บริเวณด้านตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นได้แยกผู้สื่อข่าวกับตำรวจออกจากกัน โดยถือปืนคุมอยู่และขอร้องให้นักข่าวทุกคนอกจากทำเนียบ ส่วนตำรวจให้ไปรวมกลุ่มอยู่ทำเนียบรัฐบาล
    เวลา 23.00 น. กำลังทหารจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ายึดอาคารชินวัตร เนื่องจากเป็นจุดสำคัญในการส่งสัญญาณสื่อสาร รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
    "สุดารัตน์" เผ่นหนีไปฝรั่งเศส
    มีรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสพร้อมกับครอบครัว
    เวลาประมาณ 23.00 น.โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ทุกช่องว่า เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้แก่ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลได้แล้ว โดยไม่มีการขัดขวาง เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงขอความร่วมมือประชาชนในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย
    เวลา 23.45 น.พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ อดีตโฆษก ททบ.5 ในนามคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า หน่วยงานอิสระได้ถูกครอบงำทางการเมือง ทำให้กิจการทางการเมืองเกิดปัญหา แม้ว่าภาคสังคมจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ แต่ก็ไม่สามารถยุติปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่ประกอบด้วย ผบ.ทั้งสามเหล่าทัพ จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอยืนยันว่า ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเอง แต่จะคืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม
    "สุรเกียรติ์" บอกทักษิณจะรีบกลับ

    นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ตามที่มีข่าวมาตลอดว่า มีกลุ่มคนพยายามปฏิวัติ ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเฉพาะในวันอังคารที่มีการเคลื่อนไหวของทหาร ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้โทรศัพท์กลับมาสอบถามถึงสถานการณ์ในประเทศจากเจ้าหน้าที่ในไทย ก่อนจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินข้ามประเทศ
    นายสุรเกียรติ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะรีบเดินทางกลับประเทศเร็วที่สุด พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาปกติเรียบร้อยโดยเร็ว
    ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามต่อว่า จะเดินทางกลับประเทศอย่างไรเมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น จะกลับทางปกติเลยหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะไม่เดินทางกลับประเทศ และว่าหากเกิดการรัฐประหารขึ้นจริง รัฐบาลที่จะขึ้นมาหลังเหตุการณ์นี้เป็นรัฐบาลผิดกฎหมาย เป็นการเลือกตั้งผิดกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องทำทุกวิถีทางให้เกิดการเลือกตั้งที่ถูกต้อง
    นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังถามถึงการตัดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ ว่าเป็นเช่นไร นายสุรเกียรติ์ ยอมรับว่า มีการตัดสัญญาณที่สถานีโทรทัศน์จริง แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย ก่อนจะถูกผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามย้ำว่า เห็นภาพที่มีรถถังของทหารปิดถนนหรือไม่ ยังคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้เป็นสถานการณ์ปกติหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ ตอบแต่เพียงว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงดูแลสถานการณ์ในประเทศแล้ว
    "คุณหญิงอ้อ" เผ่นไปสิงคโปร์
    มีรายงานข่าวเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ว่า คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ควบคุมตัว พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ ได้แล้ว ขณะที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการ รมว.กลาโหม มีรายงานว่าได้หลบหนีจากบ้านพักเมืองย่านทองธานี ไปต่างจังหวัดได้
    โดยก่อนหน้านี้เวลา 21.00 น. มีรายงานว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้เรียกนายทหารเตรียม 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าหารือที่บ้านพักย่านเมืองทอง เป็นการด่วน เพื่อรับมือกับแผนการยึดอำนาจครั้งนี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยารักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หลบหนีออกจากประเทศไทย ไปประเทศสิงคโปร์พร้อมครอบครัว
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้มีการสั่งกักตัวของ พล.ต.พฤณท์ สุวรรณทัต ผบ.พล.1รอ. พล.ต.ศานิตย์ พรหมาศ ผบ.พล.ม.2 และพล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี ผบ.พล.ปตอ พร้อมด้วย พล.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ไว้ในเขตพื้นที่ทหาร
    ทหารบล็อกทักษิณออกอากาศช่อง 11

    รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงดึกนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความพยายามที่จะโทรศัพท์เพื่อเข้าไปออกอากาศสด อ่านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ แต่ขณะที่กำลังรอสายอยู่นั้นเอง เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในช่อง 11 ได้เสียก่อน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของช่อง 11 ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ยังห้องโถง ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.00 น. จนถึง 00.30 น. จึงได้รับการปล่อยตัวกลับออกจากสถานี
    ส่วนที่ช่อง 9 อสมท มีการแพร่ภาพและเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้บางส่วนก่อนที่กำลังทหารจะเข้าควบคุมสถานการณ์และตัดการเชื่อมสัญญาณจากต่างประเทศ และให้สถานีรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากทางช่อง 5
    ผบ.เหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ ในหลวง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นำผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ รอง ผบ.สส. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เดินทางเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เพื่อถวายรายงานถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
    เวลา 24.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้ ผบ.ทบ.และ ผบ.หล่าทัพ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลถวายรายงานถึงสถานการณ์บ้านเมือง และการเข้ามาปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
    หลังจากนั้น ผบ.เหล่าทัพ ได้เดินทางกลับมารวมตัวกันที่กองบัญชาการกองทัพบก ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มารอทำข่าวอย่างเนืองแน่น โดยเหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย ปราศจากกระทบกระทั่ง หรือเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ
    ประกาศกฎอัยการศึกล้มพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
    เวลา 23.55 น. ได้มีการออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ฉบับที่ 2 ห้ามการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร โดยให้ทหารและตำรวจทุกนายรายงานตัวต่อต้นสังกัดและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน 2549 ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ
    จากนั้นเวลา 00.15 น. วันที่ 20 กันยายน พล.ต.ประพาส ศกุนตนาถ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ออกประกาศว่า เนื่องด้วยคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้เข้ายึดอำนาจเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อรักษาความสงบสุข จึงขอประกาศกฎอัยการศึก ทับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศไว้เมื่อเวลา 21.05 น.ที่ผ่านมา ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ
    ประกาศฉบับ3ล้ม รธน.-ส.ว.-ศาลรธน.

    เวลา 00.35 น. คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 ระบุว่า เพื่อความสงบสุขในการปกครองประเทศ จึงให้ 1.รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 สิ้นสุดลง 2.วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ส่วนองคมนตรีดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป 3.ศาลทั้งหลายยกเว้นศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีอำนาจในการพิจารณาอรรถคดีตามกฎหมาย และตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ
    ประกาศฉบับ4 "สนธิ"คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ

    เมื่อเวลา 01.24 น. คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ได้มีประกาศฉบับที่ 4 ว่า
    ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 4 เรื่องอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน
    โดยที่ได้มีกฎหมายบางฉบับกำหนดถึงอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในอันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายได้ และเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
    ข้อ 1 ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายได้บัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือผู้ซึ่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มอบหมาย
    ข้อ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงใด ก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงนั้น เว้นแต่หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
    ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549
    ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    รายงานข่าวระบุว่า จะยังไม่มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีในทันที โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ จะเป็นผู้คุมอำนาจการปกครองในประเทศไปก่อน
    สั่งปิดราชการ-ตลาดหุ้น
    เวลา 02.25 น. คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกประกาศอีกครั้ง ระบุว่า ให้ผู้เกี่ยวข้อง ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมทุกกรม หัวหน้าระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐ อธิบการบดีมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในกทม.และจังหวัดใกล้เคียง ไปรายงานตัวต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่กองบัญชาการกองทัพบก ในเวลา 09.00 น. วันที่ 20 กันยายน
    ขณะเดียวกัน ได้ประกาศให้วันที่ 20 กันยายน เป็นวันหยุดราชการ และให้สำนักงานตลาดหลักทรัพย์ฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย หยุดทำการ เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยกลับมาโดยเร็วที่สุด
    พันธมิตรล้มการชุมนุมลานพระบรมรูปฯ

    นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยืนยันว่า การเข้ามาครั้งนี้เป็นการเข้ามาชั่วคราวเพื่อสร้างความสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรได้พยายามต่อสู้มาตลอด สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ประกาศจะชุมนุมวันที่ 20 กันยายน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จำเป็นต้องยกเลิกชั่วคราว เพราะได้มีการประกาศกฎอัยการศึก อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าภาคประชาชนได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถและสมศักดิ์ศรี สมกับเป็นคนไทยที่รู้ซึ้งบุญคุณแผ่นดิน
    นายสนธิ กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันขอบคุณ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และขอให้พระอัลเลาะฮ์ คุ้มครองตลอดจนขอบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปกป้อง พล.อ.สนธิ ให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนเองและกลุ่มพันธมิตรไม่ได้มีความปรารถนาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เราไม่ได้อาฆาตเคียดแค้น พ.ต.ท.ทักษิณ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันนี้ เราก็ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน
    หลายเวปไซต์ล่มหลังรัฐประหาร

    ภายหลังจากเมื่อเวลา 21.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน กทม. ปรากฏว่า เว็บไซต์ต่างๆ ที่ปกติมีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปติดตามอ่านข่าวสารเป็นประจำ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกลับไม่สามารถให้บริการได้ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th. ซึ่งมีปัญหาในช่วงแรกๆ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงใน กทม. ส่วนเวบไซต์ผู้จัดการ www.manager.co.th เวบไซต์กรมประชาสัมพันธ์ http://thainews.prd.go.th สำนักข่าวไทย http://tnanews.mcot.net , รีพอตเตอร์ http://www.reporter.co.th/ ไม่สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
    ประชาชนแห่ถ่ายรูป-จับมือทหาร

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 00.35 น. ประชาชนประมาณ 100 คน ที่ทราบถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจของกลุ่มคณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกมาดูสถานการณ์ ทำให้หน้าทำเนียบรัฐบาลมีความคึกคักขึ้นทันตา บางคนมาด้วยชุดนอน บ้างก็มาด้วยชุดนักศึกษา ต่างมาถ่ายรูปรถถังที่ประจำการอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาล บางคนถึงกับถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ท่ามกลางทหารกลุ่มคณะปฏิรูปฯ ที่รายล้อมทั้งด้านนอกและในทำเนียบรัฐบาล
    นอกจากนั้น มีประชาชนมาถ่ายภาพรถถังที่จอดอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน และมีประชาชนบางส่วนแสดงความดีใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอจับมือ-ถ่ายรูปคู่กับทหารที่ยืนประจำการ
    ขณะเดียวกัน มีนายเล็ก ไม่ทราบนามสกุล ที่เป็นกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้ามาต่อว่าประชาชนที่มาแสดงความยินดี จนเกิดการตะโกนโห่ไล่กันขึ้นแต่ไม่มีเหตุรุนแรง
    คนไทยในเยอรมนีไม่เห็นด้วยยึดอำนาจ

    นายยุทธพล พจนเสนี อายุ 28 ปี ชาวไทยที่อาศัยอยู่ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศเยอรมนี โดยแสดงความคิดเห็นต่อการยึดอำนาจในครั้งนี้ว่าเร็วเกินไป เนื่องจากสถานการณ์ในประทศไทยขณะนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นหลายประการ ทั้งสถานการณ์ในภาคใต้และความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่สำคัญขณะนี้ใกล้จะถึงการเลือกตั้งทั่วไป จึงไม่ควรที่จะมีการยึดอำนาจเกิดขึ้น แม้การปฏิวัติอาจส่งผลดีต่อประเทศในระยะยาวก็ตาม ทั้งนี้ การยึดอำนาจได้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ โดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักได้เผยแพร่ข่าวและภาพรถถังที่เข้าตรึงกำลังที่ทำเนียบรัฐบาลอันส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานานาประเทศเป็นอย่างมาก
    ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์และร้านคาบาเร่ต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน
    "ทักษิณ"นั่งสงบจิตใจในโรงแรม

    หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจ นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากที่ทราบข่าวการปฏิวัติในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยคนหนึ่งที่ติดตามคณะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยังนครนิวยอร์กเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีสงบ และคิดว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ พร้อมขอให้ผู้บัญชาการทหารทุกคนเข้ารายงานตัวต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    เจ้าหน้าที่คนเดิมยังเผยด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีท่าทีใจเย็นขณะนั่งอยู่ในห้องโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เพื่อชมการถ่ายทอดสดประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวสุนทรพจน์กลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกว่าตัวเองยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการจะปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ รวมทั้งพยายามควบคุมสถานการณ์
    ด้านเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนหนึ่งเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอธิบายถึงตำแหน่งของตัวเองขณะขึ้นปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ขณะที่โฆษกสำนักงานสหประชาชาติกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะขึ้นปราศรัยในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
    ซีเอ็นเอ็นรายงาน"ทักษิณ"ยกเลิกพูดแล้ว

    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอยกเลิกการกล่าวปราศรัยที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และกำหนดการทั้งหมดแล้ว
    นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่ามีปฏิวัติ
    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่กองทัพยึดอำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีการปฏิวัติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงนั่งตามบาร์เบียร์ และร้านคาบาเรต์ทั่วไป ทั้งๆ ที่เกิดการปฏิวัติห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนต่างรีบเก็บของและมุ่งหน้ากลับบ้าน
    นักศึกษาสนับสนุนทหารยึดอำนาจ
    รายงานข่าวเผยอีกว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ อยู่ในความสงบเรียบร้อยดี ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนไปรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปและวิดีโอกับรถถังของทหาร หนึ่งในจำนวนนั้นคือ น.ส.ศศิประภา จันทวงศ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กล่าวว่า ตัวเองไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ แต่ตอนนี้สนับสนุนการปฏิวัตินี้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณบริหารรัฐบาลต่อไปก็จะทำลายประเทศไปมากยิ่งขึ้น และแม้ชื่อเสียงของประเทศอาจจะเสียหายไปบ้างจากการปฏิวัติครั้งนี้ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในอำนาจต่อไป
    ทำเนียบขาวร้องให้มีทางออกสันติในไทย
    ด้านนายเคนเนธ เบลส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่สหรัฐหวังว่า คนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติโดยวิถีทางประชาธิปไตย ขณะที่นายจอห์น โบลตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะออกความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ แต่ขอร้องให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้ครรลองกฎหมาย และสิ่งสำคัญคือการคงกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศ
    ดิ้นตั้ง ครม.พลัดถิ่นที่สิงคโปร์
    รายงานข่าวแจ้งว่า อดีตรัฐมนตรีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หลายคน ได้เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อรวมตัวกันและอาจมีการตั้ง ครม.พลัดถิ่น ณ ประเทศดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็มีความพยายามให้องค์การสหประชาชาติให้การรับรองสถานะ ครม.พลัดถิ่นดังกล่าว
    อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ได้ถูกรายงานไปยัง พล.อ.สนธิ จึงได้มีคำสั่งว่า ในวันที่ 20 กันยายน ให้เชิญบรรดาทูตานุทูตของทุกประเทศประจำประเทศไทย ให้มาฟังคำชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สโมสรกองทัพบก ในเวลา 09.00 น. ซึ่งก็รวมทั้งข้าราชการระดับสูงของทุกกระทรวงด้วย
    เมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาในเมืองไทย สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า การปฏิวัติไม่สำเร็จ เพราะมีทหารแค่บางส่วนที่พยายามทำ ตอนนี้รัฐบาลสามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้แล้ว
    "เรารู้เรื่องสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อเวลาเช้าของนิวยอร์ก และเราคิดว่าในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถยอมรับความพยามปฏิวัตินี้ได้ เนื่องจากประชาธิปไตยในไทยได้พัฒนาแล้ว" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
    นอกจากนี้ น.ส.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเอง ก็ได้ติดต่อกันนายราร์ฟบอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพื่อสอบถามประเมินสถานการณ์แล้ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.komchadluek.net/2006/09/20/a001_49073.php?news_id=49073
     
  11. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    ประมวลภาพหลังประกาศภาวะฉุกเฉิน!!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]



    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า รถถังจำนวนอย่างน้อย 6 คัน รวมทั้งรถหุ้มเกราะอีกจำนวนหนึ่งได้ถวายการอารักขาอยู่บริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นอกจากนี้ กำลังทหารยังได้ปิดถนน ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย


    ภาำพจาก เดลินีวส์ ออนไลน์
    ข่าวจาก ไทยรัฐ


     
  12. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    สรุปเหตุการณ์โดยรวม

    เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์เป็นประมุขซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลไว้ได้แล้วและไม่มีการขัดขวางเพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
    จึงขอความร่วมมือประชาชนในการให้ความร่วมมือและขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ ด้วย


    # ปลุกใจกระหึ่มวิทยุ-ทีวีทหาร สั่งถอดรายการปกติ
    # ประกาศภาวะฉุกเฉิน เด้ง'สนธิ'-'เรืองโรจน์'คุม
    # ประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 1 ยึดอำนาจการปกครอง
    # ประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 2 ยกเลิกคำสั่ง "ทักษิณ" ภาวะฉุกเฉิน ห้ามทหารเคลื่อนย้ายกำลังพล
    # เว็บดังย้ายหนี ลือการสื่อสารตัดสัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตจะโดนตัดด้วย
    # ประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 3 ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ปี2540 สิ้นสุดวุฒิสภา ,ผู้แทนฯและศาลรัฐธรรมนูญ
    # ทหารควบคุมตัวมิ่งขวัญ ข่าวลือสับสน "ทักษิณ" จะกลับมาพร้อมคอมมานโดอเมริกา พลิกสถานการณ์
    # ประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 4 ให้ พล.อ สนธิ ทำหน้าที่แทนนายกฯ-ครม. ปลัดกระทรวงแทนรมต.ประจำกระทรวง
    # ทหารคุมเข้ม ทางเข้าออกบ้าน "จันทร์ส่องหล้า" ตั้งจุดตรวจ มีตำรวจร่วมด้วย
    # คนไทยในเยอรมันติง ยึดอำนาจเร็วไป
    # ประกาศคณะปฏิรูปฯ ให้ปลัดและอธิบดี และอธิการบดีมหาวิทยาลัย กรุงเทพฯปริมณฑล เข้ารายงานตัว 9 โมงเช้า
    # และประกาศให้วันนี้ (พุธ 20 กย.) ให้เป็นวันหยุดราชการ ธนาคาร รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์

    ** ถอดบีบีซี-ซีเอ็นเอ็นพ้นยูบีซี ชี้ทักษิณสร้างเงื่อนไขเอง [20 ก.ย. 49 - 03:52]

    ที่มา http://www.thairath.co.th/thairathonline.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2006
  13. yut_sss

    yut_sss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +15,187
    เข้าเวบได้เล้วครับ ตอนนี้เวลา 06.32 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2549 ครับ
    ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกทุกท่านครับ
    ขอบคุณวิศวกร และเวบสโนว์
    ขอวิษณุกรรมปกปักษ์รักษา เซิร์ฟเวอร์ให้ปลอดภัยครับ
     
  14. yut_sss

    yut_sss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +15,187
    อังคารนี้ พวกเราก็จะได้รับข่าวภายในจากหัวหินครับว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีท่านต่อไป
     
  15. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    <CENTER>
    [​IMG]
    ICTสั่งงด "เอสเอ็มเอส-โฟนอิน" เว็บมาสเตอร์คุมเข้ม "เว็บบอร์ด"
    ไอซีทีเรียกประชุมผู้ให้บริการเว็บไซต์ สื่อมวลชน สั่งงดเอสเอ็มเอสแสดงความเห็นผ่านรายการทีวี ส่วนวิทยุห้ามโฟนอิน จนกว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติ เว็บมาสเตอร์ดูแล กลั่นกรองข้อความที่แสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์ เว็บไซต์ท้องถิ่นคึกคัก นักท่องเน็ตแห่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง
    เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 21 กันยายน นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงไอซีที ได้เรียกผู้แทนรัฐวิสาหกิจ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อมวลชนทั้งวิทยุและโทรทัศน์ เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มอบหมายให้กระทรวงไอซีที ดำเนินการควบคุมยับยั้ง สกัดกั้น และทำลายการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในระบบสารสนเทศผ่านระบบเครือข่ายการสื่อสาร อันอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปการปกครอง
    นายไกรสร กล่าวว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และมีการเปิดให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและตั้งกระทู้ต่อข่าวต่างๆ ทั้งนี้ กระทรวงไอซีทีไม่ได้ห้ามการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องการขอความร่วมมือให้เว็บมาสเตอร์ดูแลและกลั่นกรองข้อความที่แสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์
    กระทรวงไอซีทียอมรับว่าไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะเข้าไปกลั่นกรองทุกเว็บไซต์ การตรวจสอบจะพบต่อเมื่อมีข้อความโพสต์ขึ้นมาบนเว็บไซต์แล้ว และเมื่อตรวจพบก็ต้องดำเนินการปิดเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงไอซีทีไม่มีคำสั่งให้ปิดห้องแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ แต่ขอให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ช่วยกันตรวจสอบ แต่สำหรับเว็บไซต์ที่กลั่นกรองข้อความแสดงความคิดเห็นไม่ได้จะปิดไม่ให้แสดงความคิดเห็นก็ได้ โดยในเบื้องต้นคณะปฏิรูปฯขอความร่วมมือให้สกัดกั้นข่าวสารที่สร้างความแตกแยกไว้ 12 วัน
    นายไกรสร กล่าวว่า สำหรับเว็บไซต์ที่จะเปิดให้บริการแสดงความคิดเห็น ตนขอให้แนวทางการใช้วิจารณญาณดังนี้
    1. ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเหมือนเดิม เพียงแต่ผู้แสดงความคิดเห็นและเว็บมาสเตอร์ ต้องรับผิดชอบต่อการแสดงความเห็นที่สร้างความแตกแยกในสังคม
    2. หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็น ต่อสถาบันอันเป็นที่เทิดทูนของปวงชนชาวไทย
    3. ไม่แสดงความเห็นพาดพิงหรือ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยในสังคม
    ปลัดไอซีที กล่าวอีกว่า ส่วนของสถานีโทรทัศน์ พบว่า บางรายการเปิดให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งบางข้อความไม่เหมาะสม คณะปฏิรูปฯ จึงมีคำสั่งให้งดเผยแพร่ข้อความเอสเอ็มเอส ส่วนการจัดรายการของสถานีวิทยุกระจายเสียง ขอให้งดการโทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็น
    ทั้งนี้เพื่อให้สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว สำหรับวิทยุชุมชนขอให้นายสถานีตรวจสอบข้อความที่ไม่เหมาะสม ด้านผู้ให้บริการข่าวสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือ ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวกับกระทรวงไอซีทีก่อนเผยแพร่ข่าว โดยข้อความข่าวที่เป็นข่าวลืออันอาจจะสร้างความสับสนให้กับสังคมถือเป็นข้อความที่ไม่ควรนำเสนอ ในส่วนข้อความข่าวที่เป็นความคิดเห็นของผู้นำประเทศต่างๆ ที่มีต่อประเทศไทย สามารถนำเสนอได้ตามปกติ
    ประเด็นคำสั่งห้ามเอสเอ็มเอส เข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านสถานีโทรทัศน์ ผู้แทนจากสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี และไอทีวี ได้แสดงความเห็นโต้แย้งว่า สถานีมีขีดความสามารถในการกลั่นกรองข้อความแสดงความคิดเห็นของประชาชนได้มากกว่าเว็บไซต์ต่างๆ ตรงกันข้ามคำสั่งให้งดเอสเอ็มเอสอาจจะส่งผลกระทบในภาพลบต่อคณะปฏิรูปฯได้
    ทางด้านผู้แทนสถานีวิทยุ จส.100 ซึ่งต้องเปิดรับข้อมูลจราจรและอุบัติเหตุจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ได้โต้แย้งว่า การห้ามโทรศัพท์เข้ารายการจะส่งผลกระทบต่อรายการ นายไกรสรรับจะนำความเห็นดังกล่าวไปเสนอต่อคณะปฏิรูปฯ เพื่อหาทางผ่อนคลายแนวทางปฏิบัติ
    สำหรับคำถามที่ว่า จะสามารถเผยแพร่ข่าวของอดีตรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น นายไกรสรชี้แจงว่า ยังไม่มีการหารือในประเด็น ดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะนำไปหารือให้เกิดความชัดเจนต่อไป
    เว็บไซน์ท้องถิ่นคึกคักนักท่องเน็ตแห่แชท
    นายชุมพร พารา เจ้าของเวปไซน์ขอนแก่นลิงค์ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้ามาใช้บริการเว็บไซน์ www.khonkaenlink.com จำนวนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.จนถึงวันที่ 20 ก.ย. มีสถิติผู้เข้าใช้บริการสูงสุดในรอบปี โดยมีจำนวนสูงถึง 2,000-3,000 ไอพีต่อชั่วโมง ปกติจะมีผู้เข้ามาใช้บริการเพียง 200-300 ไอพีเท่านั้น ทำให้มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการสูงกว่า 100,000 คนภายในวันเดียวเท่านั้น จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 70 ของผู้เข้ามาภายในเว็บไซน์จะเข้าไปใช้บริการหน้าทีวีออนไลน์ แสดงว่ามีการติดตามชมความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ปฏิวัติที่เกิดขึ้น
    ส่วนการเข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นนั้น ได้มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ ออกมายึดอำนาจจากรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยมีทั้งที่แสดงความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ กระทั่งได้รับประสานขอความร่วมมือในการยุติการแสดงความคิดเห็น จึงประกาศขอความร่วมมือจากสมาชิกไม่ให้โพสต์พาดพิงทางการเมือง พร้อมทั้งมีการลบข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งภายในเว็บไซน์ทั้งหมด แต่ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแสดงความคิดเห็นตามปกติแล้ว
    "ก่อนหน้านี้เปิดให้แสดงความคิดเห็นตามปกติ แต่หลังจากได้รับการประสานขอความร่วมมือ จึงประกาศให้หยุดการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไว้ก่อน ตอนนี้ทางเว็บไซน์เปิดรับความคิดตามปกติแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ของเว็บไซน์คอยตรวจสอบและกลั่นกรองข้อความอีกครั้ง หากพบว่าเป็นข้อความที่หมิ่นเหม่ ใช้ถ้อยคำรุนแรง หรืออาจทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นจะลบออกจากเว็บบอร์ดทันที ขณะนี้ยังไม่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด " นายชุมพร กล่าว
    สำหรับการที่ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในเว็บไซน์จำนวนมากนั้น คาดว่าสาเหตุมาจากเป็นช่องทางหนึ่งไม่สามารถปิดกั้นได้ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันในกลุ่มของนักท่องเว็บ บางครั้งข่าวสารที่ลงทางเว็บไซน์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถถ่ายทอดทางสื่ออื่นได้ อีกทั้งยังสามารถเข้าไปตรวจสอบจากสื่อต่างประเทศ เช่น บีบีซี หรือ เอเอฟพีได้ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียตรงที่อาจมีการนำเสนอข้อมูลเท็จผ่านการโพสต์ข้อความต่างๆ ซึ่งผู้ใช้บริการต้องใช้วิจารณญาณในการติดตามข่าวสารดังกล่าวด้วย
    ส่วนเว็บไซน์ท้องถิ่นอื่น เช่น www.udondee.com ของ จ.อุดรธานีได้เปิดให้มีการตั้งกระทู้ตามปกติ โดยมีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เข้ามาตั้งกระทู้เพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องการเมืองเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ โดยทั้งสองความคิดเห็นมีปริมาณพอ ๆ กัน เช่น คิดอย่างไรกับการปฏิวัติ ซึ่งกระทู้ทั้งหมดได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง
    เจ้าของเว็บไซน์ดังกล่าว บอกว่า ช่วงระยะที่ผ่านมามีการเข้ามาโพสต์ข้อความเพื่อแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก จนเต็มกระดานสนทนาวันละไม่ต่ำกว่า 50 หัวข้อ ซึ่งทางผู้ให้บริการเว็บไซน์ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบข้อความที่โพสต์เข้ามาอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงของการปฏิวัติได้แจ้งให้มีการตรวจสอบเนื้อหาและถ้อยคำที่ใช้เป็นพิเศษ หากข้อความใดสร้างให้เกิดการโต้แย้งกันเกิดขึ้น จะลบออกจากกระดานทันที
    "ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาข้อความและข่าวสารทางเว็บไซน์ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่อย่างมาก โดยมีชาวอุดรธานีเข้ามาตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าสื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นการสื่อสารสองทาง ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกันได้ และสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันที จึงได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมือง " เจ้าของเว็บไซน์อุดรดีกล่าว

    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    </CENTER>
     
  16. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    ขอปิดการโพสในกระทู้นี้
    และกระทู้การเมืองต่างๆในwebboard

    เพื่อให้ความร่วมมือกับคณะปฎิวัติ ทั้งนี่เพื่อความสงบสุขของชาติ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...