การพบเห็น UFO และอนาคตของมนุษยชาติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mead, 16 เมษายน 2007.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สงสัยใครจะช่วยใคร ****

    มนุษย์ต่างดาว...เขาจะช่วย คนชั่ว คนทำผิด ทำบาป ด้วยไหม????
    แล้ว มนุษย์ต่างดาว....เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า ... คนไหนเคยมี "การกระทำ" สะสมอย่างไร !!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ปรากฏการณ์อุกาบาตตกลงที่เปรูและเกิดควันพิษสารพิษขึ้นทำให้ผู้คนเจ็บป่วยและตายไปจำนวนมากนั้น

    เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ดูท่าหากมหันตภัยทุกอย่างสุมเข้ามา อีกสิ่งที่เป็นความหวังของโลกก็คือ"อภิญญาใหญ่"ครับ
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    เรื่องอภิญญาใหญ่...ก็คือ เรื่องของ "สัจจะปฏิบัติ"
    ที่เรามองข้ามกัน...คิดว่า "สัจจะ" เป็นบารมีเพียงหนึ่ง เป็นสัจจะบารมี

    แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่า... สัจจะ คือ หนทางพ้นทุกข์จาก โลกุตตระธรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คืนนี้ ช่อง 5 เวลา 5ทุ่ม ดร.เทพพนมจะมาเล่าเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวโทรศัพท์เข้ามาเตือนเรื่องภัยพิบัติครับ
     
  5. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ดูท่าจะมา late แฮะ
    ถ้าใครพลาดไป จะดูย้อนหลังก็ดูได้ที่ http://www.tv5.co.th/live/clips.php
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    อดดูครับ สมาชิกท่านใดได้ชมแล้วนำมาบอกเล่าให้ฟังในบอร์ดด้วยนะครับผม อยากทราบมากครับ
     
  7. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ลุกขึ้นมาดูไม่ไหวครับไม่ค่อยสบาย...ท่านใดดูแล้วเล่าให้ฟังมั่งนะครับ
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอให้พี่สนั่นของพวกเราหายป่วยเร็วๆครับ

    ระวังผอมแบบผมนะครับ
     
  9. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอบคุณครับพี่สนั่น
     
  11. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258

    เคยเห็นรูป คุณ kananunแล้วล่ะ ผอมไปหมด (b-smile)
     
  12. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649



    อืม.....เห็นด้วยอย่างแรง (b-smile)(b-smile)(b-smile)
     
  13. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
  14. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    ขอบคุณพี่สนั่นมากๆเลยครับ กอล์ฟได้ดูรายการตอน5ทุ่มแต่มาช้าถึงประมาณ5ทุ่มครึ่ง แต่จำได้ว่ามาหลัง5ทุ่ม40นะ รอดูตั้งแต่5ทุ่มละ มีสาระดีมากๆครับ ข้อมูลก็ถือว่าเยอะใช้ได้ และมีบางข้อมูลตรงกับพวกกลุ่มเราอยู่

    ส่วนผู้ฟังก็ใช้ความเชื่อส่วนบุคคลกันเองนะครับ ส่วนกอล์ฟเชื่อและพยายามหาข้อมูลด้วยเหมือนกัน พร้อมทั้งปฏิบัติธรรมไปควบคู่กัน

    เ้ห็นอาจารย์เทพพนมท่านบอกถึงการปฏิบัติของหลวงพ่อด้วย ที่อาจารย์ท่านบอกว่ามีฤิทธิ์ทางใจก็น่าจะเป็นมโนมยิทธิหรืออาจจะขึ้นไปถึงขั้นอภิญญา
    มีเกี่ยวกับเรื่องของจักระด้วยเห็นท่านบอกว่าส่งผ่านจักระ6

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ติดตามมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ในช่วงที่อาจารย์ เทพพนมท่านมาในวันที่12เลย

    ก็รู้จักรายการเบื้องหลังจากวีดีโอย้อนหลังในอาทิตย์ที่อาจารย์
    อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา มาออกเมื่อ3อาทิตย์ที่แล้วที่มาพูดเรื่องภัยจากโลกร้อนและภัยพิบัติในอนาคตด้วยครับ

    แล้วก็เปิดมาเจอโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่รู้มาก่อนว่ารายการเบื้องหลังมาวันไหน เป็นเรื่องที่แปลกมาก

    *โดยเฉพาเรื่องที่บอกว่าโลกหมุนย้อนกลับ ก็ตรงกับในความฝันที่เคยเล่าไปว่า เห็นดวงอาทิตย์อยู่ในทิศตะวันตกค้างอยู่ที่เดิมตั้งแต่เย็นจนถึงเที่ยงคืน แล้วกอล์ฟก็ไปนอนเมื่อตื่นมาก็อยู่ในความมืด ออกไปนอกบ้านมองออกไปท้องฟ้าก็เจอดวงจันทร์หมุนย้อนกลับแล้วก็เร็วมาก ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วตกที่ทิศตะวันออก แต่การลงไม่ลงที่ตำแหน่งเดิม แล้วก็เห็นดาวอะไรไม่รู้พุ่งเข้ามาหา แบบว่ามองแล้วเห็นดาวดวงนั้นค่อยๆใหญ่ขึ้นจนอยู่ห่างจากโลกไม่มาก เหมือนจะพุ่งเขามาชนโลก ความใหญ่น่าจะครึ่งนึงของโลกได้มั้ง.....
    อาจจะเป็นนิมิตบอกเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็ได้

    ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความฝันอีกนิดหน่อยที่ตอนนี้นึกได้นะครับ ถ้าไปเจอกันเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ เกี่ยวกับดูเหมือนจะเป็นสงคราม มีการต่อสู้ทั้งในโลกและนอกโลก แล้วก็มีเหตุการณ์ในฝันที่เป็นน้ำท่วมประเภทคล้ายๆคลื่นซึนามิคือแบบซัดเข้ามาท่วมไม่ใช่มาแบบไหลมาค่อยๆ

    เรื่องจะบอกก็มีเท่านี้ละครับ ไว้เจอค่อยคุย ไม่ขอบอกนะครับว่าจะเจอเมื่อไหร่ แต่ไม่เกิน3วันนี้ครับ บอกไม่ได้ บอกทีไรอดไปทุกทีจะมีอะไรมาขวางตลอด คราวนี้ไม่พูดก่อนแล้วว่าจะไปไหน ถึงเวลาออกไปเลย แล้วเจอกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2007
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post723254 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สุดใจเขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_723254", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02-10-2007 09:33 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 49 ปี
    ข้อความ: 126 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,959 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 2,479 ครั้ง ใน 130 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 261 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_723254 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ดังนั้น สิ่งที่พี่สุดใจได้เคยกล่าวไว้แล้วหลายครั้งในกระทู้นี้ ก็คือคำว่า “แจ้งเพื่อทราบ”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เพราะอะไร? เพราะว่า สิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) กำลังดำเนินการอยู่นี้ เป็นการกระทำงาน “เฉพาะกิจ” ในโครงการเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก ซึ่งร่วมกับมนุษย์ต่างดาว ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติบนโลกใบนี้ และจุดมุ่งหมายก็มิได้ต้องการไปเปลี่ยนความเข้าใจ ความเชื่อ หรือสิ่งใด ๆ สำหรับบุคคลอื่น ๆ ที่ได้รับรู้ รับทราบ และมีความเข้าใจในสิ่งนั้น ๆ อยู่แล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - คำว่าโครงการเฉพาะกิจก็คือ การทำงานที่มิได้มีให้เห็นทั่ว ๆ ไป เป็นงานที่เฉพาะเจาะจงสำหรับดำเนินการตามภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำเนินงานในภารกิจนั้นให้สำเร็จลุล่วงไปตามแผนงาน
    <O:p</O:p
    - ดังนั้น เมื่อมีจุดมุ่งหมายของงานแล้ว มีย่อมมีการวางแผน มีการเตรียมการ มีการเลือกทีมผู้ปฏิบัติการ และมีการฝึกซ้อมก่อนถึงการปฏิบัติการจริง ในแต่ละสถานการณ์นั้น ๆ
    <O:p</O:p
    - ดังนั้น งานช่วยเหลือภัยพิบัติ เป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั่วไปที่ดำเนินงานตามโครงการของมนุษย์โลก คือมีการเตรียมการสร้างสถานที่หลบภัย เตรียมการเรื่องอาหาร เรื่องการดำรงชีวิต และการฝึกจิตให้มีความพร้อม ทั้งด้านสมาธิ การปฏิบัติธรรม ก็เป็นการเตรียมการตามโครงการของมนุษย์เป็นเรื่องธรรมดา

    ซึ่งการเตรียมการของมนุษย์ ก็ยังต้องมีสถานที่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และทีมบุคลากร ที่ยอมเสียสละเวลา เสียสละทรัพย์สินเงินทอง เสียสละแรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น นี่คือการเตรียมการเฉพาะกิจของมนุษย์โลก เพราะมิได้มีการเตรียมการอย่างนี้มาทุก ๆปี มาตลอดหลายร้อยปี สมัยปู่ย่าตายาย เราไม่เห็นใครเตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติ ก็ยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติเท่านั้น ดังนั้น เมื่อมาถึง ณ จุดหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่ง ที่จะต้องมีวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่ต้องกระทบไปทั่วโลก จึงต้องมีการทำงาน “เฉพาะกิจ” กันขึ้น แต่ละจุด แต่ละกลุ่ม กระจายไปทั่วโลก
    <O:p</O:p
    - มนุษย์ต่างดาว ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ต้องยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องกับมนุษย์บนโลกนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นครั้งแรกที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วเขาต้องมาช่วยเหลือ แต่เคยมีมาหลายครั้ง หลายหน หลายยุค หลายสมัย ซึ่งแต่ละยุค แต่ละสมัย ก็ต้องมีการเตรียมการทั้งนั้น เพียงแต่ในรูปแบบใด เท่าที่มนุษย์ในแต่ละยุคนั้น พอจะรับได้
    <O:p</O:p
    บางยุค ก็เทวดานั่งลูกไฟมาบอก บางยุค ก็พระเจ้าจากอวกาศมาบอก บางยุคก็ เทพ เทวดามาจากฟากฟ้านั่งยานพาหนะที่เหาะได้มาบอก จึงมีการแกะสลักภาพเทพ เทวดา เหล่านั้น ไว้ตามถ้ำ ซึ่งเมื่อมาค้นพบในสมัยนี้ เราก็จะเห็นว่า เป็นรูปเทวดาใส่ครอบแก้ว ใส่ชุดอวกาศ นั่งจานบิน และมีหลายรูปแบบ ที่แสดงให้เห็นว่า เทวดาจากฟากฟ้าของแต่ละเผ่านั้น ส่วนใหญ่ก็คือการมาช่วยเหลือจากมนุษย์จากดวงดาวอื่น ๆ เกือบทั้งสิ้น
    <O:p</O:p
    ดังนั้น ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละเผ่า แต่ละกลุ่ม ที่ได้รับการช่วยเหลือ ได้รับการชี้แนะ จากผู้ที่มาช่วยเหลือเหล่านั้น จึงได้มีการแกะสลักภาพต่าง ๆ ที่เราพบเจอ ที่ได้มีการพิสูจน์แล้วพบว่า เป็นภาพเขียนในยุคสมัยโบราณ หลายพันปีมาแล้ว และก็มีการพบเจอทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทยก็ยังพบเจอ ซึ่งล่าสุด ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่ง ดร.เทพนม เมืองแมน ได้เดินทางไปดูภาพเขียน รูปวาดคนในชุดอวกาศ รูปจานบิน ภายในถ้ำมาด้วยตัวเองแล้ว และภาพเขียนดังกล่าว ดร.เทพนม ได้เอาผงที่เขียนในถ้ำนั้น ส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จากต่างประเทศพิสูจน์ ก็ปรากฏว่า มีอายุไม่น้อยกว่า 5000 ปี นั่นแสดงว่า เขาก็เคยมาที่ประเทศไทย ตั้งแต่หลายพันปีก่อนมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรก

    - ดังนั้น ครั้งนี้ ก็เป็นโครงการเฉพาะกิจ อีกครั้ง แต่อาจไม่ใช่รูปแบบเดิม คือการลงมาบอกแบบเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้นับถือ ให้บูชา เช่นในยุคก่อน เพราะตอนนั้น ความเจริญด้านเทคโนโลยียังไม่มี จึงไม่อาจบอกเพื่อให้เทียบเคียงได้ จึงต้องทำในรูปแบบนั้น ตามความเข้าใจของคนในยุคนั้นสามารถรับได้
    - แต่ตอนนี้ เทคโนโลยีเจริญมากขึ้น ที่พอสามารถเทียบเคียงได้ ก็มีการเปิดเผยออกมาในรูปแบบวิทยาศาสตร์ สามารถมองเห็น สามารถรับรู้ และไม่จำเป็นต้องมาให้ความนับถือ หรือบูชามนุษย์ต่างดาว เพราะเขาก็คือมนุษย์เหมือน ๆ กับเรา แต่อาจจะแตกต่างกันตรงมีความเจริญทางจิต และเทคโนโลยีมากกว่าเท่านั้น โดยส่วนรวม
    <O:p</O:p
    - แต่สิ่งหนึ่งที่ควรนับถือ และปฏิบัติตาม ก็คือธรรมะ หรือกฏธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้มาสอนมนุษย์บนโลกนี้ นั่นแหละ เป็นสิ่งที่วิเศษสุดแล้ว เมื่อปฏิบัติถูกต้องตรงตามสิ่งที่ท่านสอน ก็จะมีความเจริญทางจิตสูงสุดนั่นเอง
    <O:p</O:p

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    - ดังนั้น โครงการ “เฉพาะกิจ” ของมนุษย์ต่างดาว ก็มีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้

    - มีจุดมุ่งหมาย มีการวางแผนงานตามโครงการ มีการดำเนินงานตามขั้นตอน มีการเตรียมการด้านอุปกรณ์ มีการจัดเตรียมบุคลากร เพื่อพร้อมปฏิบัติการในช่วงเวลาเกิดวิกฤตการณ์นั้น
    <O:p</O:p
    - ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่นี้ เรียกว่า ขั้นตอนการเตรียมบุคลากรให้พร้อมปฏิบัติงาน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่เพราะเทคโนโลยี มันก้าวไปข้างหน้าเกินกว่าที่เราจะคิดว่าทำได้จริง ดังนั้น ก็ต้องมีการฝึกฯ การรับรู้ การสัมผัส การเห็นในอุปกรณ์เหล่านั้นก่อน จึงจะสามารถทำความเข้าใจได้ในเรื่องต่าง ๆ

    - เหมือนคนที่เป็นแพทย์ สมัยก่อนเป็นนิ่ว ต้องทำการผ่าตัดอย่างเดียว เพราะอยู่ในร่างกาย แต่เมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้นมากขึ้น ประเทศที่เจริญด้านเทคโนโลยีมากกว่า สามารถผลิตเครื่องมือสลายนิ่ว โดยใช้แสงสลายก้อนนิ่วได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ก็ถือว่าสะดวก ง่ายดาย ปลอดภัย และลัดขั้นตอน ไม่ต้องใช้เวลามากนัก แพทย์ที่จะใช้เครื่องมือนี้ได้ ก็ต้องไปเรียนรู้การใช้ ไปสัมผัส ไปฝึกการใช้เครื่องมือนั้น และทดสอบ ทดลองมาแล้วหลาย ๆ ครั้ง จึงจะนำมาใช้ได้ และสามารถสอนบุคคลอื่นให้ใช้ตามทฤษฎีที่ได้เรียนมา นี่ก็เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่งของอุปกรณ์ ที่สะดวก สบาย และใช้ได้จริง
    <O:p</O:p
    - ดังนั้น อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว ที่เจริญมากกว่าโลกมนุษย์ เป็นร้อยเท่า มีอะไรบ้างนั้น มนุษย์ไม่อาจทราบได้ ก็จำเป็นต้องให้ทำความรู้จัก ให้รับรู้ว่ามีอะไรบ้าง รับรู้วิธีการใช้ และทำการทดสอบ ทดลอง พบเจอกับอุปกรณ์เหล่านั้น จนรับรู้ว่า อุปกรณ์เหล่านั้นมีจริง สัมผัสได้จริง สามารถใช้งานได้จริงในช่วงเกิดภัยพิบัติ เพราะ “ผู้ปฏิบัติงานในโครงการนี้ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการทำงาน” ซึ่งจะมีประจำของแต่ละงาน ไม่เหมือนกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - คนที่เจอเรื่องของมิติ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คุณก็จะเริ่มจะชิน กับเรื่องที่มันเกิดขึ้นแปลก ๆ และต่อไปหากคุณต้องไปเจอเรื่องแปลก ๆ ในความคิดมนุษย์ทั่วไป เดินอยู่ที่หนึ่ง แต่ไปโผล่อีกที่หนึ่ง หรือขับรถจะไปที่นี่ จะถึงปลายทางไวกว่ามาก หรือช้ากว่ามาก ก็จะไม่ตกใจเท่าใดนัก เพราะฝึกซ้อมมาดีแล้ว

    - คนที่เคยสัมผัสอะไรอย่างหนึ่ง แล้วกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่นถือสิ่งนี้มา พอจะวางก็กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่ง หรือหยิบสิ่งของมาวางไว้ตรงนี้ แต่ของนั้นกลับหายไปจากจุดที่วางไว้ ไปอยู่อีกที่หนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครหยิบไปวาง คือการย้ายมวลสารนั่นเอง เมื่อเจอบ่อย ๆ เข้าก็จะรู้ว่า มันเป็นไปได้ แล้ววันหนึ่ง เขาย้ายตัวเราไปอยู่อีกที่หนึ่ง ก็จะไม่ค่อยตกใจเท่าไร

    - คนที่มองเห็นอะไรหลากหลาย ในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เมื่อถึงเวลาที่เห็นในสิ่งที่ต้องช่วยเหลือส่วนรวม ก็จะไม่ค่อยแปลกใจ เพราะฝึกซ้อมมานานแล้ว

    - คนที่ชอบได้ยินอะไรบ่อย ๆ อาจจะดังอยู่ในหัว หรือได้ยินก้องอยู่ในหูเป็นประจำ หรือมีความคิดแปลก ๆ เข้ามาโดยที่เราไม่เคยคิดมาก่อน เมื่อถึงคราวต้องรับทราบข่าวสารในการช่วยเหลือ ก็ต้องส่งผ่านเข้ามาก้องอยู่ในหู หรือเป็นข้อมูลเข้ามาเต็มสมอง และช่วยเหลือแต่ละจุดถูกต้องตรงตามข้อมูลนั้น ก็ทำได้ไม่เกินความสามารถ เพราะฝึกซ้อมมามากแล้ว เหล่านี้เป็นต้น
    <O:p</O:p
    - จะเห็นได้ว่า การเตรียมบุคลากรในการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวนั้น ต้องใช้เวลาในการเตรียมการ ที่จะไม่ทำให้มนุษย์โดยทั่วไปต้องตกใจ

    - เพราะการเปิดตัวให้มนุษย์โลกได้เห็นอย่างชัดเจน มีแน่นอน ในระยะเวลาข้างหน้า และในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ ดังนั้น ผู้ที่ไม่กลัว หรือไม่ตกใจ ก็คือผู้ที่ได้รับการฝึกฯมาแล้วในแต่ละรูปแบบ นั่นเอง

    - ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างดาวต้องกระทำในขั้นตอนแรก ก็คือ การให้มนุษย์กลุ่มหนึ่ง ต้องรับรู้ ต้องได้เห็น ต้องได้สัมผัส กับเทคโนโลยีนี้ก่อน แล้วไปบอกต่อกับผู้ที่มีเทคโนโลยีเฉพาะงานเหล่านี้อยู่แล้ว ได้รับรู้ และจะได้ไม่แปลกใจหากต้องพบเจอกับอุปกรณ์เหล่านี้ในวันข้างหน้า
    <O:p</O:p
    และนี่ ก็เป็นการ "แจ้งเพื่อทราบ" สำหรับมนุษย์ในส่วนที่ต้องร่วมทำงานในโครงการเดียวกัน แต่จะในรูปแบบไหนก็ตาม ให้มีความเข้าใจ


    และสิ่งที่พี่สุดใจ ต้องเป็นผู้นำข้อมูลของโครงการนี้มาแจ้งให้ทราบ
    เพราะพี่สุดใจ เป็นผู้รับผิดชอบ “แผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต” จึงต้องมีความเข้าใจในข้อมูลที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารผ่านมา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มนุษย์ผู้ร่วมโครงการเดียวกัน มีความเข้าใจ นั่นเอง
    <O:p</O:p

    - ดังนั้น คำว่า “เฉพาะกิจ” ก็คือสิ่งที่มุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มผู้ปฏิบัติการ ที่เขาวางไว้แล้วทั่วโลก 5,000 คนเท่านั้น มิได้เจาะจงที่จะไปเปลี่ยนความเชื่อ ของบุคคลส่วนรวมของโลกมนุษย์ใบนี้เลย<O:p</O:p
    <O:p</O:p<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นาย Touru [​IMG]
    อยากทราบว่า หากต้องการไปเยี่ยมชม กองบัญชาการ ที่บนเขากะลา จะต้องติดต่อคุณสุดใจก่อนหรือไม่ อย่างไรครับ

    และบนเขากะลามีสิ่งก่อสร้าง หรือสถานที่ /สภาพด้านบนเป็นอย่างไรบ้างครับ

    คือว่า ติดตามอ่านมา จึงอยากไปเยี่ยมชมสักครั้งครับ ไปแบบเงียบ ๆ ไม่รบกวนใครน่ะครับ เผื่อว่าจะได้นั่งสมาธิที่บนเขากะลาได้ด้วยครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ :d
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จริง ๆ แล้ว สถานที่บนเขากะลานั้น เคยเป็นสำนักสงฆ์อยู่ก่อน มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่บนนั้นรูปหนึ่ง ดังนั้น ในช่วงนั้น ก็จะมีผู้เดินทางขึ้นลงเป็นประจำ เพราะหากไม่พบเรา ก็จะพบกับพระภิกษุที่ท่านอยู่ที่ศาลา ณ สำนักสงฆ์แห่งนั้น

    ท่านก็สามารถที่จะปฏิบัติจิต นั่งสมาธิ หรือจะนั่งสนทนากัน พร้อมกับดูสิ่งต่าง ๆ ที่มาปรากฏบริเวณนั้นได้ ถือเป็นการไปเพื่อพักผ่อน เพราะบรรยากาศเงียบดี เหมาะสำหรับนั่งสมาธิมาก ซึ่งตอนนั้น มีการเปิดให้คนทั่วไปสามารถเดินทางไปรับชมอย่างเป็นทางการ ตลอดระยะเวลา ปี ที่เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว จะมีการนัดหมายกันทุกวันเสาร์ เป็นที่ทราบกันดี

    ดังนั้น คนที่เคยมา ก็จะมาเกือบทุกเสาร์ และมาหลายครั้งหลายหน ถือเป็นการมาพักผ่อน และมาร่วมสนทนากันบนเขากะลาอย่างสนุกสนาน และดูสิ่งต่าง ๆ ที่มาปรากฏบริเวณนั้น ซึ่งกางเต๊นท์พักกันบนเขา จนเช้าวันอาทิตย์จึงเดินทางกลับกัน

    จากวันเปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2541 จนถึง 7 กุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งเป็นวันปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว ที่เขากะลาอย่างเป็นทางการ แล้วนั้น ก็ไม่ได้มีการเดินทางมาเขากะลาของบุคคลทั่วไปทุกวันเสาร์เช่นเคย มีเพียงสมาชิกที่จะร่วมฝึกเท่านั้น ที่ยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

    แต่ตอนนี้ พระภิกษุองค์นั้น ได้ลาสิขาบทไปแล้ว เนื่องจากท่านอายุมาก และไม่สามารถเดินขึ้น-ลงเขาเพื่อไปบิณฑบาตได้ และประกอบกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้เดินทางไปฝึกนอกสถานที่ หลังจากกลับจากฝึกเข้มข้น 1 ปี จากหลายสถานที่แล้ว ก็ไม่ได้เดินทางขึ้นไปประจำอยู่บนเขาอีก นอกจากเดินทางไปบางครั้ง ในวาระสำคัญ ๆ หรือพาคณะฯ ถ่ายทำรายการทีวี หรือบุคคลต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นกลุ่ม และประสงค์จะขึ้นไปพักบนสถานที่ดังกล่าวนั้น เราก็จะพาขึ้นไป

    หากคุณประสงค์จะเดินทางไป ขั้นแรก คุณควรจะเดินทางไปกับกลุ่ม หรือคณะฯ ที่เคยไปเขากะลามาแล้วสักครั้งหนึ่งก่อน เพราะทางไปเขาค่อนข้างซับซ้อน คุณจะได้รู้จักสถานที่ รู้บรรยากาศด้านบนว่าเป็นอย่างไร และรู้ว่าควรจะเตรียมอะไรไปบ้างในครั้งต่อไป เมื่อรู้จักแล้ว ครั้งต่อไป คุณจะเดินทางไปพักเป็นการส่วนตัวก็ได้

    เนื่องจากสถานที่นั้น เป็นป่า และค่อนข้างรกมาก เนื่องจากไม่มีใครขึ้นไปบูรณะเลยหลายปี การที่คุณจะขึ้นไปโดยไม่รู้จักสภาพของเขานั้นมาก่อน ก็จะทำให้คุณไม่อาจเดินดูทุกสถานที่ได้โดยรอบ ยกเว้นผู้ที่เคยไปแล้ว จะรู้ว่าจุดไหน มีอะไรสำคัญอยู่บ้าง ก็จะได้ดูให้ครบในครั้งเดียว

    หากต้องการไป ไม่แจ้งมาทางพี่สุดใจก็ได้ เพราะสถานที่นั้นเป็นสถานที่สาธารณะ สามารถขึ้นลงได้ หากคุณรู้จักใครที่เคยไปเขากะลามาบ้างแล้ว คุณก็ให้ผู้นั้นนำทางไปก็ได้ อย่างเช่นทีมของคุณคณานันท์ ที่ครั้งหนึ่ง ก็เคยเดินทางไปกันเอง 4 คน โดยไม่ได้บอกมาทางพี่สุดใจ ซึ่งก็ได้ไปเจออีกมิติหนึ่งที่สะอาดมาก เหมือนเพิ่งสร้างใหม่ ทั้งที่ความจริงหญ้ารกท่วมหัว ก็เลยรีบเดินทางลงมากัน เพราะคิดว่ามีคนอยู่บนนั้น

    ดังนั้น การจะเดินทางไปควรจะมีคนที่เคยไปแล้ว นำทางไปก็จะเป็นการดี หรืออาจจะไปกับคณะฯ ของคุณคณานันท์ที่จะจัดทริปไปเขากะลา สักครั้งหนึ่งก่อน เพราะไปกันเป็นกลุ่มหลายคน พอรู้จักสถานที่แล้ว คุณจะเดินทางไปเองในครั้งต่อมาก็ได้

    การเตรียมพร้อม ทั้งการเดินทางขึ้นเขา สภาพบนเขาปัจจุบันที่ค่อนข้างรกต้องลุยกันขึ้นไป

    คงต้องขอนำบรรยากาศที่กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ที่คุณคณานันท์ และสมาชิกกลุ่ม 3 ท่าน ได้เดินทางไปเมื่อต้นปีนี้ มกราคม 2550 มาให้ชมกัน เพื่อเตรียมพร้อมอุปกรณ์ดังกล่าวที่จำเป็น

    ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ก็เดินลงจากเขากะลา มาที่หมู่บ้านพุตาฉิ่ง ซึ่งห่างประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในหมู่บ้านนั้น มีก๋วยเตี๋ยวอร่อยอยู่ 1 ร้าน ซึ่งผู้ที่มาเขากะลา จะแวะทานกันประจำ จึงได้พากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านดังกล่าวก่อนเดินทางกลับ

    และกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้เดินทางมาแวะที่บ้านพักของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ซึ่งอยู่ในอำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ


    อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ส่วนใหญ่ก็คงเป็นเต๊นท์ ถุงนอน หรือผ้าห่ม ไฟฉาย และควรใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะทางขึ้นเขาเป็นดินปนหิน และควรนำยาทากันยุงไปด้วย เพราะหน้าฝนจะมียุง แต่หน้าหนาว หน้าร้อนจะไม่ค่อยมี

    มีเก้าอี้ผ้าใบอยู่บนเขาจำนวนมาก สามารถนั่งได้บนลานหน้าพระ หรือใครจะนั่สมาธิก็ได้ เพราะลานกว้างมาก

    หากใครสนใจก็ขอให้ติดต่อกับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัพพิบัตินะคะ เพราะเห็นว่าจะจัดเดินทางไปที่เขากะลากัน ถ้าพร้อมเมื่อไร พี่สุดใจยินดีพาไปค่ะ
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คืนนั้น ก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นบนเขากะลา และมีภาพที่คุณ Falkman บันทึกไว้ได้ เป็นภาพแปลก ๆ มาให้ชมกัน <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สิ่งที่ถ่ายได้ในภาพ อาจไม่ใช่ของแปลกอะไร เหมือนกับการถ่ายภาพที่มีดวงปรากฏอยู่หลายครั้ง จากหลายสถานที่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    แต่ที่ไม่ค่อยธรรมดา ก็คือ เบื้องหลัง ก่อนที่จะมาเป็นภาพเหล่านี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในวันนั้น มีกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจำนวน 4 ท่าน

    คุณคณานันท์ หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
    คุณ mead
    คุณ Falkman
    คุณ ปู่ อิอิ


    จำนวนนี้ มีกล้องดิจิตอลไป 3 กล้อง

    ซึ่งมีของคุณคณานันท์ ของคุณ Falkman และคุณปู่ อิอิ คุณคณานันท์ ก็ถ่ายได้ปกติ ส่วนของคุณ Falkman ก็ถ่ายแล้วมีภาพดวงกลมติดมาอยู่เสมอ แต่ส่วนของคุปู่ อิอิ ถ่ายไม่ติดภาพดวงเลยสักครั้งเดียว มีแต่ภาพปกติทั่วไป <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ทั้งสองท่านถ่ายภาพตั้งแต่ตอนเย็น ซึ่งคุณFalkman ก็ถ่ายได้แต่ภาพดวงกลมอยู่มากมาย ส่วนกล้องคุณปู่อิอิ ก็ถ่ายไม่ได้เลยสักภาพเดียว ซึ่งถ่ายจุดเดียวกัน พร้อมกันด้วย

    จนกระทั่ง ประมาณสองทุ่ม ก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อไปเอาของที่รถที่จอดอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งมีพี่สุดใจ คุณณพงษ์ คุณFalk และคุณปู่ อิอิ เดินไปด้วยกัน 4 คน
    <O:p</O:p
    ในระหว่างเดินอยู่ด้านล่างนั้น ทั้งสองท่านก็ยังคงถ่ายภาพตามความมืดไปเรื่อย เผื่อพบอะไรผิดปกติ จนกระทั่ง ขาเดินกลับมา ถึงกลางทางไร่อ้อย คุณปู่ อิอิ ซึ่งถ่ายมาตลอดตั้งแต่เย็นก็ไม่เคยติดดวงเลยสักที

    เมื่อมาถึงกลางทางระหว่างเดินกลับเขากะลา บริเวณไร่อ้อย คุณปู่ อิอิ ก็บอกคุณ Falkman ว่า เราลองมาแลกกล้องกันถ่ายภาพไหม เผื่อกล้องเราจะติดภาพดวงบ้าง
    <O:p</O:p
    ในตอนนั้น พี่สุดใจก็อยู่ด้วย ก็เห็นทั้งสองท่านเปลี่ยนกล้องกันถ่ายภาพ เมื่อคุณ Falkman เอากล้องของคุณปู่ อิอิ ไปถ่ายภาพ ภาพแรกที่กดชัตเตอร์ ก็ปรากฏติดภาพดวงกลมมาในภาพนั้น ก็บอกว่า นี่ไง มีดวงเต็มเลย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คุณปู่ อิอิ ก็รีบเดินเข้ามาดูภาพถ่ายนั้น ก็เห็นมีดวงกลมเต็มไปหมด ก็บอกว่า ทำไมจึงมีดวงได้ ทั้ง ๆ ที่เราถ่ายภาพมาตั้งหลายสิบภาพ ไม่เคยมีดวงเลยสักภาพ พอคุณ Falkman จับกล้องเท่านั้นแหละ มีภาพดวงปรากฏขึ้นมาทันทีเลย ซึ่งเจ้าของกล้องเองก็ยังแปลกใจ
    <O:p</O:p
    ก็เลยเปลี่ยนกล้องกลับคืน และเมื่อคุณปู่ อิอิ ถ่ายภาพด้วยกล้องตนเองภาพแรก ก็ติดดวงมาในกล้องด้วย หลังจากนั้น ภาพดวงก็ปรากฏอยู่ในกล้องนั้นมาตลอด ซึ่งก็เป็นที่แปลกใจของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แม้เจ้าของกล้องเองก็ยังกระเซ้าว่า คุณ Falkman เอาภาพดวงมาแพร่เชื้อใส่กล้องเราแล้วนะนี่ ซึ่งจากนั้นมาก็ถ่ายภาพดวงต่าง ๆ ปะปนมาในภาพตลอด<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างที่เคยบอกว่า ภาพดวงที่ถ่ายได้นั้น จะเป็นอะไรก็ตามแต่ จะเป็นฝุ่นละออง หรือจะเป็นอะไรก็ตามแล้วแต่จะคิด และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะที่อื่นก็มีถ่ายติดได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ที่น่าสนใจคือ กล้องเดียวกันนี้ อีกคนถ่ายภาพไม่มีดวงปรากฏเลย แต่พอเปลี่ยนมือคนถ่าย สถานที่เดียวกัน ถ่ายมุมเดียวกัน แต่ภาพกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
    <O:p</O:p
    และภาพกลางลานหน้าพระองค์ใหญ่ ที่มีวงกลมล้อมรอบอยู่นั้น ตอนแรกก็คิดว่าเป็นพระจันทร์ทรงกลด ก็นอนดูกัน แต่สักพักใหญ่ ๆ เมฆสีขาวหนามากลอยมาเต็มไปหมด แต่แทนที่จะลอยบังดวงจันทร์ที่มีวงกว้างนั้น กลับเข้าไปภาพในวงกว้างไม่ได้ จึงอยู่แค่ขอบด้านนอกของวงกลมอย่างเห็นได้ชัด คือเมฆสีขาวที่หนามาก แต่เหมือนถูกอะไรบางอย่างกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถลอยเข้าไปในวงกลมนั้นได้ ซึ่งถ้าเป็นเมฆปกติ ก็จะลอยผ่านไปผ่านมา เหมือนเราเห็นตามธรรมชาติ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    และอีกสิ่งหนึ่งที่แปลกก็คือ พระจันทร์ ที่เห็นอยู่ภายในวงกลมนั้น อยู่ตั้งแต่ประมาณห้าทุ่ม - ตีสอง เป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง ที่คงสภาพอยู่ตรงนั้น โดยพระจันทร์ไม่ได้เคลื่อนที่ไปอย่างเช่นที่เคยเป็น คือเมื่อยิ่งเวลาผ่านไป พระจันทร์ก็ต้องเคลื่อนจากหน้าลานพระใหญ่ออกไปจนเลยหลังองต์พระทุกครั้ง แต่นี่อยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนที่ไปเลย และเราทั้ง 7 คน ก็นั่งเก้าอี้ผ้าใบอยู่บนหน้าพระ นอนมองพระจันทร์ ซึ่งคนที่ทำสมาธิก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่เกิดขึ้นบริเวณภาพใต้วงกลมนี้ ซึ่งคุณคณานันท์เป็นผู้กล่าวว่า ที่จริงไม่ใช่ดวงจันทร์อย่างที่เราเห็นหรอก ดวงจันทร์ลอยเคลื่อนไปแล้ว แต่เป็นยานใหญ่เขามาลอยทับดวงจันทร์ไว้ จึงไม่เคลื่อนที่ และมีขอบกั้นจนเมฆก็ยังผ่านไม่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    และสุดท้าย ประมาณตีสอง คุณคณานันท์ ได้นั่งสมาธิ และถูกดึงขึ้นไปข้างบนยานใหญ่ลำนั้น และบอกว่า เป็นห้องโล่ง ๆ ข้างบนยานนั้น แต่เห็นได้นิดเดียวก็ถูกตัดไป พร้อม ๆ กับที่ทุกคนบนหน้าลานพระก็หลับไปในเวลาใกล้เคียงกันเกือบทุกท่าน และมาตื่นอีกครั้ง ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

    อาจเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับคนที่ฟังพี่สุดใจเล่า แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น ก็จะมีความประทับใจในบรรยากาศ สิ่งที่พบเห็น และสิ่งที่ทับซ้อนมิติ แต่เป็นเรื่องที่ยากจะเล่าให้คนอื่นเข้าใจ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่หลังจากได้ไปเยือนเขากะลามาแล้ว คุณ Falkman ก็จะมีประสบการณ์แปลก ๆ และเป็นผู้ถ่ายภาพจานบินได้ด้วยกล้องถ่ายรูปที่ประเทศมาเลเซีย และลงในหนังสือมาแล้ว ยังได้ข่าวว่า ถ่ายภาพจานบินได้อีกในช่วงต่อมา
    <O:p</O:p

    ก็เป็นเรื่องที่พี่สุดใจนำประสบการณ์ที่ได้ขึ้นไปกับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติในคืนนั้นมาเล่าให้ฟัง พี่สุดใจเพิ่งเคยพบกับคุณ Falkman เป็นครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจในความเป็นกันเอง ความเป็นมิตร ความมีน้ำใจ และการเป็นผู้เสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

    <O:p</O:p
    ส่วนอีก 3 ท่าน พี่สุดใจได้พบ และรู้จักมานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเห็นถึงความจริงใจของทุกท่าน ในการที่จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จนตั้งกลุ่ม “พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ” ขึ้นมา

    <O:p</O:p
    ดังนั้น มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ก็ย่อมเห็นถึงความมีน้ำใจของมนุษย์โลก หลายกลุ่มฯ ที่มีการเสียสละเช่นนี้ ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการมาทักทาย โดยการมากระพริบไฟให้เห็น มาปรากฏให้เห็นในอีกมิติ และส่งคลื่นมาสัมผัสกับผู้ที่มีสมาธิ เป็นการแสดงความยินดีต้อนรับจากมนุษย์ต่างดาวที่ดำเนินโครงการอยู่ ณ เขากะลาจุดนี้

    ซึ่งหลังจากนี้ คุณ Falkman ก็คงเป็นบุคคลหนึ่ง ที่ได้รับอนุญาตจากมนุษย์ต่างดาว ให้บันทึกภาพจานบินของเขาได้ เช่นเดียวกันกับคุณ mead ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้บันทึกภาพจานบินของเขา ก่อนหน้านี้นับ 10 ปีแล้ว

    <O:p</O:p
    ภาพด้านล่าง เป็นภาพที่คุณ Falkman บันทึกไว้ได้ ภาพติดกัน แต่มีความหลากหลายไม่เหมือนกัน
    <O:p</O:p

    าพที่คล้ายพระจันทร์ทรงกลด แต่อยู่นานถึง 3 ชั่วโมง และไม่เคลื่อนไปทางทิศตะวันตกอย่างพระจันทร์ตามปกติ และวงกลมใหญ่ที่ล้อมรอบ จะเห็นเมฆหนาทึบอยู่รอบนอก แต่เข้าในวงกลมไม่ได้
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    บางท่านอาจจะยังไม่เคยได้อ่านหนังสือเล่มนี้ พี่สุดใจ จึงขอนำข้อความที่บรรณาธิการท่านนี้เขียนลงในหนังสือโหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 2 มาให้ท่านที่สนใจ ได้อ่านบทความนี้ด้วย

    และในบทความนี้ ได้นำภาพที่คุณ Falkman บันทึกได้ที่มาเลเซีย มาลงใว้ในฉบับนี้ ซึ่งทางบรรณาธิการ ได้ฝากขอบคุณมายังคุณ Falkman และ คุณ mead ด้วย ที่ให้ภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ในหนังสือเล่มนี้....


    จากหนังสือ โหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 2

    UFO กับมหันตภัยร้ายของโลก......
    <O:p</O:p

    ปี 2050 วิกฤตน้ำท่วมโลก ?

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อดีต รมต. กลาโหม แคนนาดา ออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ UFO เพื่อกู้วิกฤตโลก
    เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว เอเอฟพี และหนังสือพิมพ์ทั่วโลกได้เสนอข่าวของ พอล เฮลไลยเออร์ (Paul Hellyer) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา ซึ่งได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเปิดเผยและนำเทคโนโลยีเอเลี่ยนที่ปิดบังกันไว้ออกมาใช้ โดยเชื่อว่ามีหลายเหตุการณ์ที่ยานบินของมนุษย์ต่างดาวตกลงบนพื้นโลก และประเทศต่างๆ เก็บข้อมูลไว้ โดยนายพอลเชื่อว่าเทคโนโยลี่ล้ำยุคของมนุษย์ต่างดาวเท่านั้นที่สามารถกู้วิกฤตโลกในครั้งนี้ได้ โดยกล่าวว่า ”ผมต้องการเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ว่าอาจจะช่วยกำจัดการเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิลได้ภายในชั่วอายุคน และนั่นเป็นหนทางที่จะพิทักษ์โลก”ซึ่งเขาเชื่อว่า ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวกว่าจะเดินทางด้วยระยะทางอันแสนไกลมาถึงโลกได้ต้องประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ก้าวล้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบขับดันหรือไม่ก็ต้องใช้พลังงานที่ไม่ธรรมดาเป็นเชื้อเพลิงในการเดินทาง และเขาเชื่อว่ามีหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกามีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับยูเอฟโอและเขาต้องการให้ทุกฝ่ายออกมาเปิดเผยความจริง
    โดยก่อนหน้านั้นไม่นาน อัล กอร์อดีต รองประธานาธิบดีสหรํฐได้ออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกตระหนักถึงมหัตภัยของชาวโลก ซึ่งมาจากภาวะโลกร้อนโดยทำเป็น ภาพยนตร์ สารคดีชื่อ An Inconvenient Truth ฉายทั่วโลกและเพิ่งได้รับรางวับออสการ์ไปเมิ่อไม่นานมานี้

    โดยสารคดีนี้ได้ชี้ให้เห็นชัดเกี่ยวกับอนาคตของมนุษย์ชาติที่จะต้องเผชิญชะตากรรมอันหนักหนาสาหัสอย่างหลี่กเลี่ยงไม่ได้ ภาวะโลกร้อนหรือ"Global Warming"ที่มาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก (CFC)ที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำให้ระบบทางนิเวศวิทยาของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง ภาวะโลกร้อนก็ได้คร่าชีวิตคนเป็นแสนๆคนต่อปี การหมุนเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นในมหาสมุทรเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ ก่อให้เกิดฤดูกาลและอุณหภูมิเปลี่ยนไปอย่างคาดเดาไม่ได้ วาตภัย แผ่นดินไหว เกิดขึ้นถี่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในระยะ10กว่าปีมานี้ และภาวะโลกร้อนนี้ก็มีความเกี่ยวพันกับพายุเฮอริเคนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นหรือกระทั่งคลื่นยักษ์สึนามิอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการสูญพันธ์ของสัตว์นานาชนิดในช่วงไม่ถึงสิบปี ซึ่งใช้เวลานับล้านปีกว่าจะสูญพันธ์ได้ การก่อกำเนิดของโรคใหม่ๆ เช่น ซาร์ส หรือไข้หวัดนก ไวรัสอิโบล่า รวมถึงโรคที่เคยหมดไปแล้วจะกลับมาแพร่ระบาดอีก เช่น ฝีดาษ กาฬโรค และท้ายสุดธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อให้เกิดมหัตภัยร้ายแรงที่สุดคือ “น้ำท่วมโลก”

    และจากสารคดีชุดนี้ได้บอกเราว่า ก๊าซเรือนกระจกที่เราผลิตออกมาจากอุตสาหกรรมและการบริโภคของเราถูกปล่อยไปทำลายบรรยากาศโลกสูงขึ้น หากก๊าซเรือนกระจกทีปลดปล่อยมาจากโลกในอัตราคงที่ของปัจจุบัน(หากในอนาคตไม่เพิ่มขึ้น) ธารน้ำแข็งที่อยู่ขั้วโลกก็จะละลายหมดในปี คศ.2050 หรือประมาณ 40 ปีข้างหน้าเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้และจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีก 6 เมตรโดยเฉลี่ย นั่นก็คือพื้นที่ของโลกจมจะหายไปในทะเลถึง 3ใน 4 ส่วน และยังไม่นับถึงความเสียหายของระบบนิเวศน์วิทยาของโลกโดยรวม

    UFO มีจริงหรือ ?

    จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ได้อธิบายการมีอยู่ของยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวที่ไม่ได้เป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น และคนระดับรมต.กลาโหมของแคนนาดา ก็ไม่ได้ออกมากล่าวเล่นๆอย่างไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน จากบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติต่างก็ได้มีตำนาน เรื่องเล่า และการพบเห็นยูเอฟโอ มาตลอดระยะเวลานับพันปีมาแล้ว จากข้อมูลหลักฐานที่เป็นรูปธรรมและชัดเจนมากที่สุดก็นับตั้งแต่ที่ได้บันทึกภาพของยูเอฟโอด้วยกล้องถ่ายภาพเป็นต้นมา


    ภาพถ่ายจานบินที่ปรากฏเหนือน่านฟ้า ของเมืองซานฟราซิสโก สหรัฐฯ วันที่ 10 ตุลาคม คศ 1956

    อย่างไรก็ตามการบันทึกการพบเห็นยูเอฟโอ ก็ได้กระทำต่อเนื่องมาตลอดนับตั้งแต่ปี คศ 1860 เป็นต้นมา โดยปัจจุบันเราสามารถเข้าไปให้ข้อมูลกับ UFO Map ของ Google ซึ่งได้มีการบันทึกการพบเห็น ยูเอฟโอ นับพันครั้งต่อปี ในหลายๆประเทศทั่วโลก และมีพยานบุคคล พยานเอกสาร และหลักฐานภาพถ่ายรองรับทุกชิ้น ซึ่งการพบเห็นพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป


    โปรแกรม Google Earth แสดงรายงานการพบเห็น ยูเอฟโอ ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1860 ถึงปัจุบันโดยใช้`Map ของ Google


    เว็บไซด์ UFO Map ของ Google และเว็บไซด์ของTHE NATIONAL UFO REPORTING CENTER ` ซึ่งเป็นเว็บไซด์ขององค์กรที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรายงานการพบเห็นยูเอฟโอที่ส่งมาจากทั่วโลกและท่านผู้อ่านสามารถเข้าไปส่งรายงานและแจ้งข่าวการพบเห็นยูเอฟโอได้โดยตรง


    การพบเห็นและการติดต่อมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย
    สำหรับในประเทศไทย ได้มีการพบเห็นลำแสงประหลาดในท้องฟ้า หรือวัตถุลึกลับบินอยู่เหนือฟ้าอยู่เสมอๆ แต่บางครั้งสำหรับคนไทยเราอาจจะมองเป็นปาฎิหารย์ของเทพ เทวดา หรือพระธาตุเสด็จ หรืออะไรก็ตามที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่ามันคืออะไรกันแน่

    แต่ปัจจุบันมีหลายกลุ่มในประเทศไทยที่ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องมนุษย์ต่างดาวอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะกลุ่มของ ศจ.นพ.ดร.เทพพนม เมืองแมน นับว่าเป็นผู้ที่เด่นที่สุดในเการเป็นนักค้นคว้าเรื่องยูเอฟโอในเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังมีอีกหลายๆกลุ่มที่ทำการค้นคว้าจนกระทั่งสามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้และมีหลักฐานยืนยัน และวีธีติดต่อของกลุ่มเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใช้วิทยาศาสตร์หรืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ในแบบที่เรารู้จักกันทั่วไป แต่พวกเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวโดย”วิทยาศาสตร์ทางจิต” !!! ซึ่งนั่นก็คือการโทรจิตหรือTelephatyเพื่อติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งทางองค์การนาซา(NASA)เองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาพิสูจน์ความจริงหลายต่อหลายครั้งและยอมรับว่าประเทศไทยมีการพัฒนาวิชาการและมีบุคคลากรทางโทรจิตหรือเรียกอีกอย่างว่า“การติดต่อสื่อสารทางชีวภาค” (biocommunication) สูงกว่าประเทศแถบตะวันตกเป็นอย่างมาก และทางสหรัฐฯและรัสเซียได้พยามค้นคว้าทดลองการติดต่อสื่อสารชนิดนี้มามากว่า 50 ปีมาแล้ว โดยเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าเทคโนโลยีโทรจิตนี้จะสามารถนำมาทดแทนการสื่อสารแบบธรรมดาได้โดยไร้ข้อจำกัดทางด้านภาษา ความหมาย กลุ่มผู้รับ และระยะทางได้ ซึ่งแต่เดิมมีวัตถุประสงค์เพื่อสำหรับการติดต่อระหว่างมนุษย์อวกาศ ยานอวกาศ และพื้นโลก ในกรณีฉุกเฉินในกรณีเครื่องมือสื่อสารขัดข้อง และอาจจะประยุกต์ใช้ในกรณีเกิดวิบัติภัย สงคราม จารจลในพื้นโลกอีกด้วย ดังจะเห็นได้ชัดเจนจากกรณีคลื่นซึนามิที่ผ่านมา

    กลุ่มของเขากะลา จ.นครสวรรค์ซึ่งเรียกกลุ่มพวกเขาเองว่า กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) นับว่าโดดเด่นที่สุด โดยกลุ่มนี้ได้ทำการติดต่อมนุษย์ต่างดาวทางโทรจิตได้เป็นครั้งแรกในปี พศ 2540 โดยท่าน จสอ. เชิด ชื่นสำนวน และกลุ่มลูกๆ ได้เป็นแกนนำ และได้ทำการเชิญจานบินมาปรากฏต่อสาธารณชนนับหมื่นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ท่ามกลางสักขีพยานอย่างมากมาย ซึ่งรวมทั้งนักข่าว และรายการโทรทัศน์ ต่างก็ได้เชิญกลุ่มเขากะลานำมาออกอากาศและผลิตรายการสารคดีนับสิบรายการ จนถึงปัจุบัน ทางกลุ่มเขากระลาก็ได้ทำการประสานงานด้านข่าวสารอย่างต่อเนื่องและกำลังเริ่มที่จะประสานกับผู้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวกลุ่มอื่นๆที่มีอยู่ทั่วโลก
    มนุษย์ต่างดาว พวกเขามายังโลกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เกี่ยวพันอะไรกับมหัตภัยครั้งร้ายแรงของโลก และอนาคตของมนุษย์ชาติภายใน10ปีข้างหน้านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจริงหรือไม่ ?

    และในครั้งหน้าท่านจะได้พบกับหลวงพ่อใหญ่ แห่งกบิลบุรี ซึ่งท่านได้มีเพื่อนเป็นมนุษย์ต่างดาว และคบหากันมานับ 10 ปีแล้ว และข่าวสารอัพเดทเกี่ยวกับยูเอฟโอทั่วโลก............


    ภาพถ่ายล่าสุดของยูเอฟโอ

    (จากข้อมูลของคุณ Mead `จากเว็บพลังจิต.คอมส่งมาให้)
    คุณ Falkman ถ่ายไปเจออะไรบนฟ้า?สถานที่: เมืองอีโป้ Ipoh เมืองที่หลวงปู่ทวดท่านได้ละขันธ์ มาเลเซียเมื่อช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา คุณ Falkman บันทึกไว้ได้ขณะกำลังขับรถกลับจากการปฏิบัติธรรมที่ปีนัง กับหลวงปู่มีชัย
    นำภาพมา zoom ดูใกล้ๆก็ยิ่งชัด..เหมือนเป็นโลหะสีเงินยวง เห็นเงาที่ขอบชัดมาก มีจุดรอบๆยานด้วย<!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
    <!-- / attachments --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    มีข่าวล่าสุดครับ ไม่กี่วันนี้มียานอวกาศลงจอดที่วัดพระอาจารย์ใหญ่ 2 ลำครับ
    กำลังติดตามความคืบหน้าอยู่ครับ เย็นนี้คงจะได้รายละเอียด
     

แชร์หน้านี้

Loading...