การมีองค์...ดี..หรือ...ไม่ดีอย่างไร

ดูๆไปมันก็น่าตลก บ้างครั้งก็น่าจริง ที่ว่าตลกเทพอินเดียเข้าทรงแต่ดันพูดอินเดียไม่ได้เรื่องนี้เกิดที่ข้างๆบ้านงานประจำปีร่าทรงมากันมากมีเสียงประกาศว่างพระนารายณ์ประทับทรง แขกฮินดูขายมุ้งกับแว่นตาดีใจมาก วิ่งเข้าไปไหว้พูดภาษาฮินดีใส่พระนารายณ์งงตอบไม่ได้เป็นนานแขกกลับไป เจ้าบอกว่ากูมาอยู่เมืองไทยนานลืมภาษาแขดหมด?บ้างก็อ้างเป็นพระเจ้าอู่ทองเด็กไปถามว่าสร้างกรุงศรีฯพศ.อะไรแกตอบไม่ได้ โถแล้วใครจะรู้ฯลฯเจอมาเยอะ ที่ว่าน่าจริงงานศาลเจ้าลิ่มกอเหนี่ยว ปัตตานี คนไปไหว้กันมากมาย อยู่ๆเด็กหญิงอายุสิบกว่าขวบ วิ่งขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้หน้าที่บูชา พูดภาษาจีนได้หลายอย่างแต้จิ๋ว แคะ กวางต้ง ไหหลำ จีนกลาง ก่อนลาทรงบอกคนหาดใหญ่ให้ระวังไฟ (หลังจากนั้นไม่นานไฟไหม้หาดใหญ่) พอลาทรงพ่อแม่เด็กเข้ามารับลูกเป็นคนไทยไม่มีเชื้อจีนเลย ส่วนตัวเลยสรุปว่ามีการลงมาประทับทรงจริงแต่น้อยมากๆๆๆๆ ที่เข้าทรงหลอกสตางค์คนนั้นมีมากมายมหาศาลครับผม

 

555 อ่านแล้วฮาดีงุงิ

 

ก็ถูกครับ แต่จะรู้ได้ไงว่าคนไหนจริงไม่จริง อันนี้ต้องพิจารณาให้ดี เพราะถ้าเจอคนที่มีจริงแล้วไปพูดไม่ดี คนพูดอาจจะเจอดีแทนเน้อ...(smile)

 

55+ เมื่อวานรถเกือบชน วันนี้รถล้ม พรุ้ง นี้สงสัยจะนอน icu มาเยี่ยมหน่อยนะ

 

เคยเห็นครับ

มีคนทรงแล้วพูดจีนได้จริง
แต่เค้าไม่ยึดติด เค้าก็ดำเนินชีวิตปกติ คนนี้เค้าคนอีสานครับ มีคนเชื้อสายจีนมาพิสูจน์แล้วว่าของจริง

เคยพาแม่ยายที่อ้างตัวเองว่า เจ้าที่คนจีนเข้า ไปคุยด้วย
แม่ยายเอ๋อครับ ฟังจีนไม่รู้เรื่อง แต่พอพูดไทยด้วยจะรู้เรื่อง ผมละฮาจริง
คือตอนนี้แม่ยายผมแกพูดภาษามั่วครับ แกบอกภาษาเทพ แต่ดูแล้วพูดวนแต่คำเดิมๆ
จะแขกก็ไม่ใช่ จีนก็ไม่ใช่ ฟังจีนไม่ได้ แขกไม่รู้เรื่อง
แต่แฟนผมคุยจีนเปร๋อเลย

แล้วเรื่องน้องคนนึงที่ต่างจังหวัดที่เป็นญาติ ที่ผมบอกว่ามีอาการเข้าทรง
คนแถวนั้นมาดูกว่าสองร้อยคน ชาวบ้านแถวนั้นก็ทำพิธีไหว้ผีฟ้า ก็ไม่ใช่
แม่ยายรู้ก็ตามไป เข้าทรงที่โน้นอีก แต่อย่างที่บอกครับ ของปลอมก็คือปลอม
คือน้องคนนึงเค้าทรงจะเป็นผีจีนมั้ง(น้องเค้าของจริง)
แม่ยายกะจะไปช่วย เจอคนเยอะแสดงหน่อยละกัน(ใจแกชอบนะ ลงทุนขับรถไป 600 โล) ก็ไปพูดภาษามั่วของแกใส่น้องคนนึง ไม่รู้เรื่องสิครับ ภาษามั่วเจอจีน
ตกเย็นพ่อแม่น้องคนนึง ดูถ้าแม่ยายคงช่วยไรไม่ได้

ก็จะไปเชิญคนจีนจริงๆ พวกพ่อปู่จีนอะไรทำน้องนั้นมาคุยกับน้องคนนึงแทน
แม่ยายพอรู้ว่า คนจีนจะมารีบเผ่นกลับบ้านไม่ทันเลย ฮาๆๆๆๆๆ

ตกลงคนจีนก็มาคุยกับน้องคนนึงรู้เรื่องครับ
ก็เป็นแค่วิญญาณไม่มีศาล

 

วันนี้ไม่ตายหุหุ แต่ยังไม่หมดเวลาอันตราย ก็ว่ากันไป

 

แล้ว ถ้าไม่ใช่ องค์ แต่เป็น อวมงคล ล่ะค๊ะ >_<

ส่วน เพื่อนแฝดนี่ ถือเป็น องค์ หรือ อวมงคลค๊ะ ?? -__-"

 

เอา องค์ มาเทียบกับ อวมงคล ได้ยังไงเหรอครับ

อวมงคลแปลตรงตัวว่าไม่เป็นมงคล ...

หรือว่าเป็นมาร ?!?

 

เทพชั้นสูงที่ลงมาประทับทรง สังเกตุไม่ยาก คือเมตตาสูง เน้นให้คนทำดีให้เชื่อกฏแห่งกรรม ไม่เอาสินบล(ช่วยฟรีไม่มีค่าแรง) มังสวิรัติ ไม่โม้โอ้อวดข่มขู่ ใช้ร่างทรงที่สะอาดเป็นคนดีมีศีลธรรม ถ้าไปเจอข้าเก่งไปหมด ทำเสน่ห์ยาแฝด แช่งคู่แข่ง ค่าครูเท่านั้นเท่านี้ เอาปูนแดงกากบาดหน้าได้เลยพวก๓๘มงกุฎหลอกลวงทั้งนั้น

 

เรื่องจิตใจดีผมไม่เถียงเพราะเขานิสัยดีกันมากๆ
แต่เรื่องค่าครูมันไม่แน่นเสมอไปหรอก เทพเขาเป็นคนตั้งเอง แล้วเขาก็หาเงินเพื่อไป ช่วยร่างเอาไว้ทำบุญ โปรดอย่ามองด้านเดียว
เรื่องร่าง จะดีไม่ดีไม่เกี๋ยวกับเทพ แล้วแต่บุญละกรรมแต่ละคนมากกว่า เพราะร่างบางทีกรรมหนักมาก ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ถ้าว่าเจอว่าเก่งไปหมด นี่สิ คงจะไม่ใช่ละ เพราะ เขาจะไม่คุยกันว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้

 

ที่พูดมาก็ค่อนข้างถูก แต่ว่า อะไร อะไร ไม่เป็นสูตรสำเร็จอย่างนี้หรอกคร๊าบบ

;aa34

 

จะเล่าเรื่องเมี่อ๓๘ปีที่แล้วมา ที่วัดมหาธาตุฯ กทม.นำเด็กอายุ ๘ -๑๒ปีมาถือศีล๘เจ็ดวันแล้วทำพิธีเชิญ มีเทพและพระโพธิสัตว์มาประทับทรงหลายองค์ขอเล่าสัก๒องค์องค์แรกเทพกวนอูประทับเด็ก๙ขวบมั้งพูดจีนที่คนจีนฟังไม่ออก เจ้าเลยเขียนอักษรจีนโบราณมีอาจารย์ด้านภาษาศาสตร์อ่านออก เจ้าบอกให้ไปตามคนมา ไปตามได้มาแก่๙๐ปีได้มาคุยและแปล ภาษาที่ใช้เป็นภาษางั่วกังไม่มีใครใช้แล้ว อีกองค์เป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทรงเด็กอายุ๑๒ปี นี้ทึ่งกว่าพูดได้ทุกภาษาก็ว่าได้ จีนทั้งหมด อังกฤษ ญี่ปุ่น เขมร บาลี สันสกฤต ก่อนกลับยังบอกว่าต่อไปจะมีคนแอบอ้างชื่อทำการหลอกลวงหากินทั่วๆไป แล้วก็จริงไม่กี่ปีต่อมากวนอิมทุกเมือง ตอนหลังนี้ก็สายอินเดียพระ นารายณ์ ศิว อุมา สุรัสวดี พิคเณศวร พรหมา ถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องเข้าทรงหน่อย เทพอินเดียเข้าทรงทำไมพูดแขกไม่ได้ ทำไมไม่มีความรู้ในคัมภีร์พระเวท ทำไมไม่รู้อักขรโบราณฯ ผมไปอีนเดียมาหลายครั้งได้ผ้ายันต์พระพิคเณศวรมา เอาไปให้ทรงพระพิคเณศอ่านแกนั่งเหงื่อแตกตั้งนานโงกเงกๆลาทรงไปเฉยๆ ไม่มาเข้าทรงอีกเลยตลอดงาน จะให้แยกแยะจริงเท็จอย่างไรดีจ๊ะ

 

ตอบแล้วก็ถามเอง งงนะจ๊ะ...
ที่ตอบมาก็ถูกแล้วนี่จ๊ะ แต่ว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียทั้งหมดเท่านั้นล่ะจ๊ะ
คือบางคนอาจทำไม่ครบทุกข้อน่ะจ๊ะ..

 

โอม ไวศเณสาวะ นมัส แก่แล้วก็วกๆวนๆ เผื่อจะมีคนช่วยเสริมบอกพี่น้องให้มีวิธีวิเคราะห์ได้มากกว่าที่บอกไป ช่วยเสริมหน่อยไม่ได้หรือไงจ๊ะ บทสรรเสริญข้างต้นได้มาจากสาธุที่อินเดียใครจะนำไปใช้เชิญเลย โอมให้ตั้งนิมิตเห็นพระพิคเณศลอยอยู่เหนือศรีษะ ไวศเณสาวะให้ท่านลงมาอยู่ที่หน้าผาก นมัสให้ท่าเข้าไปอยู่ที่กลางใจ อานนี้ฉานไม่ได้มาหลอกนะจ๊ะ

 

ผมว่าพวกผีปลอมตัวมาไง
แบบ แม่ยาย ผม
ตอนนี้ยังไม่รู้ ว่าตกลง ผีปลอม หรือ แกอุปทาน
แต่คิดว่าเป็นเทพนะตัดไปได้เลย
เพราะพูดไม่รู้เรื่อง มีแต่คนไปดูกับร่างทึกทักเอาเองว่าเป็นพระพิฆเนศ
แม่ยายก็นึกว่าแกเป็นพระพิคเณศ ซะงั้น

 

พูดเหมือนแขกครับ แต่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ไม่โวยวาย แต่พูดมาก

แต่ถ้าเป็นผีจีนจะโวยวาย กินเหล้า สูบบุหรี่ ดูแล้วหมดศัทธาทันที เหมือนผีบ้าเลย

แต่ถึงอย่างนั้น ชาวบ้านก็ชอบมาถามหวย ถามดวง
ก็ตอบมั่วๆ กันไป

 

การเป็นร่างทรงที่ดี...จิตของร่างทรงจะต้องนิ่ง...ว่างเปล่า...ไร้ความรู้สึกนึกคิด...เหมือนขณะทำสมาธิ...เพราะหากเมื่อไร...ร่างทรงจิตไม่นิ่ง...จิตวอกแวก...จิตของร่างก็จะส่งกระแสเข้ามารบกวน...องค์เทพที่ประทับทรงเราอยู่...ทำให้สิ่งที่สื่อออกมาไม่เต็ม 100% อาจมีความคิดของร่างทรงเองเข้าแทรกระหว่างสนทนาได้...นั้นสำหรับร่างทรงที่ถูกสอนในการปฏิบัติสมาธิมาแล้ว...เหตุที่เป็นเช่นนั้น...เนื่องจากเมื่อเราเข้าสมาธิจิตเราจะเข้มแข็งขึ้น....
ส่วนร่างที่ยังไม่เคยปฏิบัติแล้วถูกประทับทรง...จิตจะถูกกระแสที่มีพลังมากกว่ากระแทกให้ออกจากร่าง...หรือถูกดันไปรวมกันเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ...ในร่างกายจุดที่ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้...บางร่างอาจไม่รู้สึกตัวเลยแต่บางร่างอาจรู้สึกตัวแต่ควบคุมร่างกายไม่ได้...
นั่นแสดงว่าเมื่อฝึกหัดตนเองด้วยการปฏิบัติสมาธิให้กล้าแกร่งมากๆ...เราสามารถควบคุมตนเองได้มากขึ้น...จิตเรามีพลังมากขึ้น...การประทับทรงก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นลำดับขั้นด้วย...และเราจะมีปัญญารู้เหตุและผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราได้มากขึ้น...รวมถึงรู้วิถีทางแก้ไขและดำรงอยู่ของเราได้โดยอัตโนมัติ...
นั่นจึงไม่แปลกที่คนเป็นร่างทรงจึงไม่ต้องประทับทรงไปทั้งชีวิต...หากเขาสามารถหาคำตอบให้กับตนเองได้...

 

สำหรับตัวเราได้รับการฝึกฝนตั้งแต่ควบคุมตนเองไม่ได้...จนขณะนี้ปล่อยวางทุกอย่างลงได้แล้ว...เราจึงเข้าใจและไม่เป็นทุกข์ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง...และอยากให้ประสบการณ์ของเราสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้บ้าง...
พระอาจารย์ที่มาประทับเราท่านลงมาสอนเรา...เนื่องจากเราชอบการปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่เด็กๆ...แต่ตอนเด็กๆเรายังไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก...ฝึกจิตอย่างเดียว...เพิ่งเริ่มตอนอายุประมาณ 22 ช่วงเริ่มทำงานใหม่นั่นแหละ...แต่เวลาที่ท่านจะลงประทับท่านบอกเราว่าให้เราสวดอัญเชิญท่านก่อนเสมอ...ท่านจะมาช่วยเหลือเราในการปฏิบัติและการดำรงชีวิต...รวมถึงช่วยเหลือสรรพสัตว์ตามสมควรแก่โอกาส...แต่มีข้อแม้ในการช่วยเหลือผู้อื่นคือห้ามเรียกร้องเงินทองแม้สักบาทเดียวหรือรับเป็นสิ่งของก็ไม่ได้...ให้รับแต่น้ำใจเท่านั้น...

 

อนุโมทนาครับ

ดูแล้ว แม่ยายผมเค้าไม่มีทางจะนิ่งได้เลย

 

ข้าพเจ้าได้อ่านรายละเอียดแล้ว ดีมากครับ ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณพนมกุเลนด้วยนะครับ.