การเผากระดาษให้บรรพบุรุษ ได้รับจริงไหมครับ

การเผากระดาษเป็นประเพณี ของเขา แต่ถ้าถามว่าไปถึงมั้ยไม่ถึงหลอก ถ้าถึงงั้นที่บ้านเราเผาขยะกัน มันจะไม่ไปกองอยู่ที่โลกวิญญานหมดเหรอ และถ้าเผอิญขนะเผานึกถึงญาติคนนั้นขึ้นมา ขยะจะไม่กองอยู่กับเหรอ เขาจะยิ่งไม่โกรธเหรอ หะเอ้อ แต่ประเพณีเผากระดาษก็ดี มันเป็นประเพณี อ้ะ เป็นผลประโยชน์ของพ่อค้าขายกระดาษ และผลิตกระดาษขาย

 

วิสัชนา

พระสุปฏิปันโนท่านได้อธิบายว่าการที่เราจะอุทิศให้ผู้ใด ถ้าผู้อุทิศไม่มีบุญวาสนาในตนที่ได้เคยสร้างสมไว้ ก็ไม่สามารถอุทิศให้ผู้อื่นได้ เปรียบเหมือนคนที่อยากจะให้เงินช่วยเหลือผู้อื่น แต่ตัวเองก็มีฐานะยากจน ไม่มีเงินที่จะสามารถให้ใครได้ ดังนั้นในทางพระพุทธศาสนาผู้อุทิศจึงต้องปฏิบัติบูชา หรือต้องมีการทำบุญกับพระสุปฏิปันโนก่อน แล้วจึงกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ ส่วนพระสุปฏิปันโนหรือผู้มีบุญสามารถส่งกระแสความปรารถนาดีไปยังผู้รับได้ทั้งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องจากโดยทั่วไปผู้อุทิศเป็นปุถุชนธรรมดาที่ไม่มีกำลังบุญพอ (เทียบได้กับผู้ไม่มีทรัพย์แต่อยากจะให้) จึงต้องอาศัยการทำบุญตักบาตร หรือถวายสังฆทานต่อพระสุปฏิปันโนก่อน ซึ่งจะเป็นผลทันที
การทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลในพระพุทธศาสนาจึงมีผลแท้ เพราะแม้ผู้อุทิศไม่ได้มีบุญอยู่เดิมหรือกำลังบุญน้อย ก็อุทิศได้ด้วยการทำบุญก่อน ไม่เหมือนการทำพิธีหรือประเพณีการปฏิบัติในศาสนาอื่นๆ
ขอนอบน้อมต่อสหายธรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ

 

เผากระดาษ ก็ได้กระดาษซิ
ไปอ่านคำสอนของหลวงพ่อใหม่ซะ

 

วิธีทำบุญแล้วผู้ล่วงลับได้รับจริงๆ มีอยู่เฉพาะในพุทธศาสนาเท่านั้น
อย่างอืนเป็นเพียงวิธีถือปฏิบัติที่สืบทอดกันมา พระท่านสอนให้เชื่อโดยใช้ปัญญาพิจารณาก่อนถึงเชื่อ

 

ทำตามประเพณีด้วย
เพราะผีเขาไม่รู้หรอก ว่าส่งอะไรจะได้อะไร
เขาก็จะเอาตามประเพณี
เราก็ส่งตามประเพณีเขาด้วย
และทำบุญตามแนวพุทธศาสนาด้วย

 

เห็นด้วยว่าอยู่ที่ความตั้งใจจะให้ ไม่ต้องเผาก็ได้ พอไม่เผานานๆไปก็จะลืมหมดที่จะนึกถึงเพราะไม่มีประเพณีที่เป็นเปลือกหุ้ม เหมือนเคยอ่านเจอความเห็นนึงเวลากราบพระก็ระลึกบุญคุณเป็นลำดับให้ครบไปเลย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดาบรรพบุรุษ พระมหากษัตริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองรักษาประเทศ ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร

 

ตามความเป็นจริงนั้นในพุทธไม่มีเผากระดาษครับ มีแต่พวกบูชาไฟ
เชื่อว่าไฟนี้จะทำให้สะอาดและบริสุทธิ์ เป็นเครื่องส่งผ่านต่อและโลกและวิญญาณ ดังนั้นชาวพุทธต้องแยกให้ออกระหว่างความเชื่อที่งมงายกับศรัทธาที่มีปัญญานะครับ (แต่ยืนยันจริงๆว่าเขาไม่ได้รับครับ ต้องใช้อำนาจพุทธ ธะรม สงฆ์ ส่งบุญไปให้ อันนี้ได้รับเต็มๆครับ) อีกอย่างเราก็ได้ชื่อว่ากตัญญูด้วยนะครับ เพราะเค้าได้จริงๆ ไม่เชื่อใครได้ฌาณกำหนดถามดูดิ่ ท้าเลย 5555

 

พุทธองค์ทรงเมตตา.....เหตุทั้งหลายที่กล่าวมาในกระทู้ก็มีข้อน่าคิดทั้งสิ้นแต่ถ้าว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราพ้นทุกข์หรือไม่ บางสิ่งก็เป็นสิ่งที่เกินวิสัยของมนุษย์สามัญที่จะเข้าใจได้ที่ทางพุทธเรียกว่า"อจินไตย"ไม่พึงมีประโยชน์ที่จะเถียงกัน เหมือนมีคนต่างศาสนาต่างความเชื่อที่ชอบถามจุดประเด็นกับผมว่า"ใครเป็นคนสร้างโลก" "พระพุทธเจ้าไม่เห็นแสดงธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแต่ของเขามีกล่าวถึงนะ"อะไรทำนองนี้ ซึ่งล่าสุดชักจะทนไม่ได้เพราะรู้สึกว่ายิ่งนิ่งยิ่งเอาใหญ่พูดล้ำเส้นถึงพระรัตนตรัยแล้วผมก็เลยตอบกับไปนิ่มว่า"รู้แล้วมีประโยชน์อะไร รู้แล้วทุกข์หมดไปหรือ รู้แล้วใจก็ไม่เกิดความสงบผ่องใสไม่เกิดปัญญาจะรู้ไปทำไม" ในทำนองเดียวกันคงเป็นการยากที่จะตอบว่าการเผากระดาษให้กับญาติที่ล่วงไปแล้วจะได้รับหรือไม่ก็เป็นเรื่องเกินวิสัยที่จะทราบได้ แต่สำหรับผมการเผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นประเพณีที่งดงามของอารยธรรมเป็นการแสดงความกตัญญู(ที่จะเห็นได้ชัดในสังคมเอเซีย) โดยกระดาษเงินกระดาษทองเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชา เหมือนเราใช้ดอกไม้ เครื่องสูงบายศรีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติที่ผนวกเกร็ดความเชื่อเอาไว้ เราในฐานะคนที่มีอารยธรรมมิควรไปกล่าวปรามาสผู้อื่น ส่วนที่ว่าเป็นบุญหรือไม่ถ้าเราศึกษาพระศาสนาดีๆแล้วจะกล่าวถึงจิตเป็นสำคัญ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต บุญก็คือจิตที่เกิดปิติที่คิดว่าจะทำ ในระหว่างทำก็เกิดปิติ และเมื่อทำเสร็จแล้วพอหวนระลึกก็เกิดปิติ แต่คงไม่ใช้ไปเผาขยะแล้วระลึกถึงบรรพชนพลันเกิดปิตินะครับจิตคงจะต้องได้รับการบำปัดอย่างรุนแรง ท้ายที่สุดสำหรับท่านที่เป็น"ตึ่งหนั่งเกีย"ก็ขอให้คิดเสมอว่ากระดาษเงินกระดาษทองเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาเป็นการให้เกียรติ์แด่บรรพชนที่มีคุณ(ถ้าไม่มีท่านในวันนั้นก็ไม่มีเราในวันนี้).....นโมพระโพธิสัตว์กวนอิม... "ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี...หากท่านปราศจากความกตัญญูแล้วไซร้ กล่าวบูชาเรา(พระโพธิสัตว์)ก็ไม่บังเกิดประโยชน์อันใด"

 

ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีน(แม่เป็นจีน) แต่ผมมีความเห็นว่าการเผากระดาษเงินทอง บ้านรถ เป็นการแสดงความกตัญญู ต่อบรรพบุรุษ แต่เขาจะได้รับหรือเปล่า ไม่ทราบ แต่ผมเลือกวิธี ตักบาตร ถวายสังฆทาน นั่งสมาธิแล้วอุทิศบุญกุศลให้ เพราะแน่ใจบรรพบุรุษ มารดาและบิดา จะได้ผลบุญแน่นอน เพราะเคยขอดูเหล่าวิญญาณบรรพบุรุษ ตอนไปฝึกสมาธิที่วัดอัมพวัน มีแต่วิญญาณญาติคนอื่นที่ไม่ค่อยได้ทำบุญ แต่พ่อผมได้จับผ้าจีวร ตอนผมบวช ไม่ได้อยู่ในกลุ่มวิญญาณของบรรพบุรุษที่เห็น

 

การที่ชาวจีนเผากระดาษเงินกระดาดทองให้บรรพบุรุษนั้น ก็เหมือนพี่ไทยกรวดน้ำ ยถาวารี....ดีๆนี่เองครับ ส่วนจะได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ามีความตั้งใจแค่ไหนครับ โมทนาคับ

 

(verygood)

 

ผม ว่า มานก้เป็น สิ่งนึงที่ ทำให้ลูกหลาน มีความสุข และรู้สึก ดี กับคนที่ล่วงลับไปเเล้ว

 

ไฟ น้ำ ต่างกันตรงไหน จิตที่ให้เหมือนกันก็พอ

 

ผมคิดว่าไม่ได้รับครับ....ผมเคยอ่านในตำราจีนที่แปลเป็นไทย....ชื่อเรื่องว่าไปเที่ยวเมืองนรก...จุดประสงค์เพื่อเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในขุมนรก ต่าง ๆ ประสบการณ์ที่ได้เจอสัตว์นรกโดนทำโทษที่เคยก่อกรรมเอาไว้....นำมาถ่ายทอดบนตำรานี้ เพื่อให้มนุษย์เราไม่ทำบาปกันมากขึ้น....ถ้าตกนรกไปแล้วไม่ว่าจะอยู่ขุมนรกไหน ก็จะไม่ได้รับผลบุญนี้...เพราะสัตว์นรกจะโดนลงโทษโดยไม่มีเวลาหยุดพัก (เพราะว่าไม่จำเป็นแล้ว) ยกเว้นใช้เวรกรรมในนรกจนหมด หรือพระโพธิสัตวลงมาโปรด แต่มีบางครั้งอาจจะได้รับผลบุญแผ่ลงมาก็ต่อเมื่อบุญนั้นมีพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ เช่น พ่อแม่ตกนรกลงกระทะทองแดง แต่ลูกบวชให้พ่อแม่ด้วยจิตที่สะอาด ตรงนี้ก็ได้อะนิสงค์เหมือนกัน คือว่าจีวรจะมาห่อพ่อแม่ป้องกันความร้อนจากไฟนรกเอาไว้จนกว่าจะใช้กรรมในกระทะทองแดงนั้น ๆ จนหมด สรุปเลยว่า การที่เผาอะไรต่ออะไรนี้ ผู้ที่ได้รับจริงคือ ผี หรือ สัปปเวสี ที่เป็นญาติพี่น้องของเรา คนที่เรารู้จัก หรือ ไม่รู้จัก จะได้รับผลบุญนี้ เพราะสัปปเวสี ยังมีกิเลสอยู่เหมือนที่ใช้ชีวิตในมนุษย์ ผู้ที่ยังรอคอยการถูกลงโทษ สววรค์ไปก็ไม่ได้ นรกไปก็ไม่ได้

 

ทำอะไรคิดว่าดีและสบายใจก็ทำไป ระวังไฟก็แล้วกัน น่ากลัวเจ้าค่ะ(f)

 

ทำบุญให้กับผู้ล่วงลับนั้น ผู้ที่ได้รับตรงๆคืออบายภูมิเฉพาะในส่วนที่เป็นเปรตภูมิเท่านั้น ส่วนที่นอกเหนือจากอบายภูมิที่กล่าวนี้ รวมถึง สุขคติภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ นั้นเขาจะมีผลบุญหรือกรรมแยกออกไปต่างหาก ซึ่งแล้วแต่ภูมินั้นๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิ ...

 

เสียเงินเปล่าๆ

ของแพงๆทั้งนั้น

ความดีงามในจิตใจ

สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

 

คิดง่ายๆ ไม่ต้องขวนขวายหาเหตุผลมาพิสูจน์

เผากระดาษบ้าน แล้วจะแปรเปลี่ยนบ้านเผาให้เป็นบ้านจริง

ให้กับคนที่ตายไปแล้ว

เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ให้กับคนที่ตายไปแล้ว

กระดาษเงินถูกเผาเป็นขี้เถ้า ลอยเป็นควันดำโขมง

แล้วจะแปรเปลี่ยนมวลสารเป็นเงินจริงๆให้กับคนตายได้หรือ

แต่ว่าเงินจริงๆที่มีอยู่ กลับลอยออกจากกระเป๋า

ไปอยู่ในกระเป๋าคนขายเงินกระดาษ

แค่นี้ เอง จบ

 

ถึงคุณstefa ที่น่าสงสาร

มีแต่เปรตเท่านั้นที่ขอส่วนบุญ นอกนั้นไม่มี หากไม่เชื่อไปศึกษาตอนที่เกิดตำนานกรวดน้ำในครั้งแรก พระไตรปิฎกมีไว้ให้ศึกษา ทำไมไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ ก่อนที่จะตอบมั่วๆอย่างนี้

ปล. อันไหนที่ทำแล้วสบายใจ จงทำไปเถิดนะ stefa ผู้ที่ไม่เคยรู้ โปรดจงรู้เถิด เราให้อภัย แล้วทีหลังก่อนตอบควรตรวจจิตให้ดีก่อนนะจ๊ะ

 

สนิทกับเปรตมากนะ