ก่อนคนจะเสียชีวิต เขา ญาติ หรือคนรู้จักมีลางสังหรณ์อะไรกันบ้างคะ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Jasmin99999, 23 มกราคม 2013.

  1. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    มีญาติของเพื่อนไม่สบายมากก่อนเขาจะเสียชีวิต เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่ญาติคนนั้นไม่สบายหนักก็นอนอยู่ในบ้าน ญาติก็มาเยี่ยมมาดูแลกัน อยู่ๆคนที่ป่วยก็ชี้มือไปที่ขื่อ บอกว่านั่นใครนั่นน่ะไปนั่งอยู่บนนั้น เดี๋ยวก็จะตกลงมาหรอก ทุกคนก็มองหาแต่ไม่เห็นมีใคร เขาก็คะยั้นคะยอบอกให้เรียกเขาลงมาๆเดี๋ยวมันจะตก...ทุกคนก็ผวาไปตามๆกันเพราะที่ขื่อใครมันจะไปนั่งเล่น เขาก็ว่าไม่รู้ใครไปนั่งบนขื่อแล้วมองดูเขา พอไม่นานเขาก็เสีย
     
  2. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    พอดีนึกขึ้นได้ค่ะ มีอีกเรื่องนึง มีญาติห่างๆที่อยู่เชียงใหม่มีศักดิ์เป็นคุณลุงค่ะ

    ป่วยกระเสาะกระแสะมานาน แต่มีวันนั้นจู่ๆคุณลุงก็ตะโกนเสียงดังว่า อยู่ครับ!
    พอตอนเช้าแกก็เสีย ญาติพี่น้องก็วิพากษ์วิจารณ์กันว่าหรือมีใครมาเรียกชื่อคุณลุงก็เป็นได้
     
  3. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    คงจะเหมือนน้าเราเลยที่ก่อนจะเสียชีวิตก็มีคนมาเรียกชื่อแก... ถ้าแกไม่ขานรับก็อาจจะไม่ตายก็ได้
     
  4. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เป็นเรื่องของพ่อเราเอง
    คืนก่อนที่จะมีเรื่อง ช่วง 3 ทุ่ม เราเกิดอาการมึน งง ซึ่งเราคิดว่า อาการป่วยเราเอง (แล้วก็วางหูโทรศัพย์ที่คุยกับแม่) เป็นนานมาก จนเราแปลกใจ ยังว่าจะไปหาหมอ

    เช้า 7 โมง แม่โทรมา บอกว่า พ่อไม่รู้ตัว ล้มไปตั้งแต่ ตี 2 (พร้อมร้องไห้) ตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่า พ่อไม่รอดแน่ ถึงเวลาแล้ว (ตอนนั้นคิดว่า พ่ออายุมากแล้ว คงต้องไป) ใจก็คิดอุทิศส่วนกุศลให้เทวดาประจำตัวพ่อตลอดเวลาขอให้เราทันไปถึง รพ.ดูใจพ่อ

    ไปถึง พ่อไม่ขยับแล้ว เรายังอุทิศส่วนกุศลให้เทวดาพ่อตลอดเวลา หมอเข้ามาบอกว่า ทำใจได้เลย ไม่เกิน 3 วัน ตอนนั้นเราบอกแม่เลย ว่าทำใจนะ เรามีความรู้สึกว่า ไม่รอดจริงๆ

    เราพอรุ้จักคนนึง (ตอนนั้นคิดว่า เป็นที่พึ่งสุดท้าย)โทรไปหา เขาบอกว่า ตกมรณะ ทำใจเสีย เราขอคำแนะนำเขา เขาบอกให้ ขออนุญาตเจ้าที่ แล้วนั่งสมาธิขอผู้ชายคนนั้น แล้ว"สัญญาว่าจะทำบุญกลับไปให้" เรานั่งสมาธิตอนกลางคืน แล้วเรารู้สึกหมุน ๆๆ ก็อ๊วกออกมาก ลุกเดินก็ล้ม แบบเหนื่อยสุดๆ สลยไปเลย แม่ก็เห็น เราไม่ได้เล่าเอง เออเอง

    พ่อรอดมา ตอนนั้นมีพยายามหลายทางมาก ทั้งเพื่อนแนะนำ มีธรรมะจัดสรรให้คนอื่นมาช่วย คนที่บ้านไม่สนใจแม้แต่นิด เราถูกว่าหลายครั้งมาก จนเลิกหาคนมาช่วยแล้ว (และก็ไม่มีใครอยากมาด้วยเพราะพอเขาฟังจากคนที่บ้านเป็นแบบนี้ เขาบอกคำเดียวว่า ยาก)

    แม้ทุกวันนี้ พ่อยังเป็นอัมพาต เราก็นั่งสมาธิเพื่อยกบุญนี้ให้พ่อ พ่อพูดไม่ได้ แต่เข้าใจเรา
    ตอนนั้น คนที่บ้าน พยายามหลอกให้เราพูด (เราก็พูดเท่าที่เซนเราบอก ทำไมเรารู้ ไม่รู้สิ)
    เราทวงสัญญาที่คนอื่นให้กับเขา เราโดนด่า โดนว่า โดนหัวเราว่า "กะอีแค่นั่งสมาธิแล้วพ่อรอดได้ มันไม่จริง แล้วก็หัวเราะเยาะ " ไม่มึใครซักคนสนใจทำบุญ (จริงๆ เรื่องทำบุญเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอะไร แต่เราโดนข้อหาเพี้ยนไป หลังจากนั้นหลายอย่างในชีวิตเราเปลี่ยนไปมาก ในเรื่องดี มีโอกาสคุยกะคนๆนึง เขาเดาว่า น่ามาจากเรื่องที่เราไปขอชีวิตพ่อนั่นเอง เพราะพ่อเป็นบุพการี

    บอกตรงๆว่า ถ้าไม่ใช่พ่อ เราคงปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ไม่เล่าอะไร ทุกวันนี้ ยังคงเสียความรู้สึกที่ถูกหลอกถาม ถูกหัวเราะ แต่อีกใจคิดว่า ความดี คนอื่นไม่เห็น ตัวเราเห็น เทวดาเห็น พระพุทธเจ้าเห็น

    เราทำดีที่สุดแล้ว ทุกวันนี้ยังคงนั่งสมาธิให้พ่อ ขอบุญตรงนี้คุ้มครองให้พ่อที่เป็นอัมพาตแต่อยู่สบายไม่มีโรค /ขออำนาจบารมีพระบรมสารีริกธาตุคุ้มครองพ่อ(ไม่รู้ถูกหรือเปล่า บางอย่างเราทำด้วยใจ ไม่มีหลักสูตร) แล้วพ่อเราไม่มีโรคแทรกซ้อนจริงๆนะ พี่เลี้ยงยังบอกดีมากๆ แต่ไม่บอกใคร เราทั้งโดนด่า โดนว่า เรื่องนั่งสมาธิทุกวัน ทั้งจากแม่ จากแฟน บางครั้งเราก็ท้อมาก แต่มีบททดสอบมาให้เราเสมอว่า เลิกนั่งไม่ได้

    เราพูดกับใครไม่ได้ ระบายตรงนี้เลย 55555555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  5. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    ขอเล่าบ้างครับ แต่ต้องย้อนไปนานหน่อย คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ครอบครัวผมจะโดนยึดบ้านเพราะหนี้ค้ำประกัน (คือเพื่อนพ่อเค้าหนีไป) ตอนนั้นแย่มากเหลืออีกเดือนเดียวก็ต้องย้ายของออกจากบ้านแล้ว แต่โชคยังดีพ่อดันถูกรางวัลที่1 เลยรอดตัวหวุดหวิด ก็ดำเนินชีวิตกันต่อมาตามปกติ ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งพ่อเข้าห้องน้ำแล้วตอนส่องกระจกก็ไม่เห็นเงาหัวตัวเองแป๊บนึง เดินมาคุยกะแม่ๆก็เห็นเงาของพ่อแต่ไม่มีหัว พ่อกะแม่ก็เลยคุยกันเพราะเห็นเหมือนกัน ทีนี้แม่ผมก็กังวล เลยโทรไปเล่าให้อาผมฟัง ไม่นานย่าก็มาบ้าน แล้วก็ทำพิธีเอาผ้าถุงของย่าคลุมหัวพ่อ แล้วก็พูดอะไรสักอย่าง

    จากนั้นก็อยู่กันปกติ จนวันหนึ่งอาการเบาหวานของพ่อกำเริบ แต่ไม่กำเริบธรรมดา มันมาเป็นชุด ทั้งความดัน เบาหวาน ไต ไขมัน มาพร้อมเพรียง ต้องรีบพาพ่อไปส่งโรงบาล ซึ่งเป็นโรงบาลเอกชน (ชื่อเสียงโรงบาลรัฐฯบางแห่งก็เป้นที่รู้ๆกันอยู่ เลยต้องส่งโรงบาลเอกชนอ่ะครับ) ตอนนั้นนี่บ้านผมไม่มีรายได้เลย เพราะเดิมเปิดร้านอาหารเล็กๆแค่นั้น ถ้าหยุดไปเป็นเดือนๆนี่ก็แย่เหมือนกัน แต่เดชะบุญเงินที่ถูกรางวัลยังเหลืออยู่ เลยใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลได้

    ตั้งแต่เหตุการณ์นี้มาผมก็เชื่อเรื่องบาปบุญอย่างจริงจังเลยครับ เพราะตอนก่อนจะถูกหวยนั้นผมก็เริ่มหันเข้าหาทางพุทธแล้วครับ คือตอนแรกเป็นคริสต์นะครับ แต่ด้วยความอยากรู้อยากลองเรื่องฤทธิ์ เลยมาฝึกสมาธิครับ คงด้วยผลบุญจากการปฎิบัติด้วยมั้งครับเลยทำให้รอดพ้นเรื่องต่างๆมาได้อย่างหวุดหวิดแบบนี้ ทุกวันนี้พ่อผมแม้จะไม่แข็งแรงเหมือนก่อน แต่ก็ยังเดินเหินได้สะดวก จะมีก็แต่โรคคนแก่คือปวดเข่าบ้างอะไรบ้าง

    มีอีกช่วงหนึ่งพ่อกะแม่ไปงานศพคนรู้จักครับ แล้วขากลับบ้านก็เดินกลับ เพราะวัดอยู่ไม่ไกลจากบ้านมาก ตอนกลับแม่ผมรู้สึกเหมือนมีคนมากระตุกชายเสื้อครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ วันรุ่งขึ้นพ่อเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนแม่นอนละเมอร้องว่า "เออ!!" เหมือนมีคนมาเรียกแล้วเราร้องตอบนั้นแหละครับ แล้วแม่ก็ลุกขึ้นเดินละเมอจะลงบันได ปกติแม่ไม่เคยเดินละเมอเลย แต่โชคดีพ่อตื่นมาดูครับ เลยรอดไป แม่ก็เล่าว่าฝันว่ามีคนมาเรียกที่หน้าบ้านครับ ก็เกือบไปครับ
     
  6. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    ยิ่งอ่านเรื่องราวที่เพื่อนๆนำมาเล่านั้น ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าความดีที่เราทำบำเพ็ญมาและการปฏิบัติสมาธิภาวนา จะช่วยให้เราและผู้มีพระคุณที่สุดคือบุพการีเรารอดพ้นจากทุกข์ภัยได้ไม่มากก็น้อย และบุญใดที่เราได้ทำมาดีแล้วก็ขออุทิศบุญนั้นฝากส่งไปกับแสงทิพย์อริยธรรมของพระพุทธเจ้า ขอจงส่งไปถึงเทพเทวดาประจำตัวพ่อของคุณ Thanks-Epi ขอจงส่งผลให้คุณพ่อของคุณ Thanks-Epi ให้หายจากความเจ็บป่วยและมีร่างกายแข็งแรงด้วยเทอญ และขออุทิศบุญนี้ส่งไปถึงครอบครัวของคุณ mozard002 โดยเฉพาะพ่อแม่ของท่านจงประสพแต่ความสุข อย่าได้มีทุกข์ภัยมาเบียดเบียนเลย
     
  7. จินตนาธรรม

    จินตนาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +316
    ก่อนคุณพ่อดิฉันจะเสียท่านมีลางของท่านเองแล้วเล่าให้ดิฉันฟัง แต่ดิฉันไม่เชื่อ ซึ่งรู้สึก
    เสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่อย่างนั้นจะดีกับท่านทุกวัน บอกรักท่าน ทำดีที่สุดเท่าที่ลูกคน
    นึงจะทำเพื่อพ่อได้ วันตรุษจีนที่ผ่านมา ดิฉันก็พึ่งนิมนต์พระมาสวดให้ท่านสี่รูปที่ข้่างกำแพงวัด(หลวงพ่อพุธ)เนื่องจากบรรจุอัฐท่านที่นั่น ทำให้ทุกปี
    ก่อนพ่อเสียท่านบอก มียมฑูต มากันสี่ท่าน นุ่งโจงกระเบนแดง บอกชื่อ...ใช่ไหมจะมารับนะ พ่อบอกขออีกเจ็ดวัน รอแม่มาก่อน ตอนนั้นแม่ไป ตจว. ช่วงเจ็ดวันก่อนเสีย พ่อตื่นมา
    ใส่บาตรทุกเช้า และวันที่เจ็ด พ่อก็นอนแน่นิ่งที่เตียงโยกหน้าบ้าน พ่อเส้นเลือดในสมองแตกคงคิดมากที่โดนบริษัท บลิชเชอร์ พวกแชร์ลูกโซ่ หลอกหมดเงินไป หมดบ้านไปหนึ่งหลัง พ่อตายกระทันหันไม่ได้รักษา ดิฉันได้แต่ทำบุญตามให้ คืนก่อนจะเสีย พ่อนอนนอกมุ้ง มียุงกัดท่าน แต่ดิฉันไม่ได้เอามุ้งคลุมให้ รู้สึกผิดมาก แม้เสียไปหลายปีแต่ท่านห่วง
    ดิฉันมาก ยังอยู่ข้างๆตลอด มีอะไรก็มาบอกในฝันตลอด จนเกือบสิบปีดิฉันมีครอบครัว
    ได้พบคนที่ดี ในฝันพ่อยังเดินแห่ขบวนขันหมากมากับแฟนดิฉันเลยค่ะ จากนั้นก็ไม่เคย
    เห็นพ่ออีกแม้ในฝัน พ่อคงหมดห่วง ก่อนหมดห่วงดิฉันมีแฟนคนแรก พ่อมาบอกในฝัน
    อย่าขึ้นเครื่องบินไปกับผู้ชายคนนี้นะ เครื่องบินจะตก รุ่งเช้ามีคนโทรมาบอกมันแอบไปแต่งงานที่เขมรค่ะ ฮามาก ไม่เสียใจค่ะ เลี้ยงตนเองได้ไม่พึ่งใคร เข้มแข็งค่ะ ดีใจที่โดน
    ทิ้งและได้พบคนที่ดีกว่า ขอบใจที่ทิ้งกันไป ทำให้มีภูมิต้านทานเรื่องแย่ๆ
     
  8. oakjarrett

    oakjarrett เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +397
    ขอเเชร์ประสบการณ์

    อาม่าของผมเป็นคนร่างกายเเข็งเเรง ไม่มีโรคภัยร้ายเเรง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง เบาหวาน ความดัน เเต่ท่านจะเป็นโรคประสาทตาเสื่อมมองไม่เห็นอะไรเลย ค่อย ๆ เสื่อมมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดจะเรียกว่าเหมือนคนตาบอดก็ว่าได้ ท่านทรมานมาหลายปี เเต่ลูกหลานก็ดูเเล take care กตัญญูต่อท่านทุก ๆ คน มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านตกลงไปในห้องน้ำ จนต้องจ้างนางพยาบาลมาช่วยกายภาพบำบัดที่บ้านทุกวันจนดีขึ้น จนกระทั่งมีอยู่ช่วงหนึ่งท่านชอบพูดเเละเล่าเรื่องราวเเปลก ๆ ให้พวกเราฟังทั้ง ๆ ที่ไม่เคยพูดมาก่อน อาทิเช่น มีผู้ชายตัวดำ ๆ ใหญ่ มาให้เห็นตอนนอน (ทั้ง ๆ ที่ตาท่านมองไม่เห็น) อีกเหตุการณ์หนึ่งก็คืออยู่ดี ๆ ร้องไห้ขึ้นมาเเล้วบอกคิคถึงพ่อ คิดถึงเเม่ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยคิด เเละพูดถึง (พ่อกับเเม่ของอาม่าก็คือเหล่ากงเหล่าม่าผม ซึ่งท่านเสียชีวิตไปนานมากเเล้ว) ต่อมาอีกไม่นานท่านก็เสียด้วยเส้นเลือดในสมองตีบครับ

    ส่วนเหตุการณ์ล่าสุด ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านว่าเหล่ากู๋ท่านเสียเเล้ววันนี้ เท่าที่รู้มาช่วงหลังท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ ควบคุมตัวเองไม่ได้ทั้งการพูด การขับถ่าย โวยวาย ลืมลูกหลาน ท่านสูบบุหรี่ เเละดื่มเหล้าจัดมาตลอดทั้งชีวิตไม่รู้เกี่ยวไหม ผมสนิทกับท่านมากตั้งเเต่ผมยังเด็ก เเต่ก็ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยม ด้วยเรื่องของการ
    เดินทาง เเละการงาน เเต่สิ่งที่ผมขนลุกก็คือ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง ป๊าผมได้ไปเยี่ยมท่านล่าสุด เหล่ากู๊บอกมาประโยคหนึ่งว่า "กูอยู่อีกไม่ได้นานหรอก" ป๊าผมตอบกลับไปว่า "ทำไมพูดอย่างนั้น"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2014
  9. design8743

    design8743 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +3,037
    ของพ่ออ้อน ก่อนแกจะเสียได้สามวัน แกมารีบสอนอ้อนทำหมูผัดเค็ม
    แกรุ้ว่าอ้อนชอบกิน อ้อนเรยถามว่า ป๊าไมต้องรีบมาสอนล่ะ เมื่อก่อนไม่เคยพุดถึง
    แกตอบว่าถ้าป๊าไม่อยุ่ใครจะทำให้แกกิน หนุเริ่มอึ้งกะคำนั้น แล้วแกก็รีบเก็บกวาดบ้าน เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมโน้นนี่นั่น อ้อนห้ามก็ไม่ฟังบอกอย่าทำ ป๊าไม่สบายเอาไว้หายค่อยทำก้อได้ แกว่าไม่ได้ถ้าป๊าไม่อยุ่ใครจะทำล่ะ Y_____Y สองวันหลังจากนั้นแกก้อเสียค่ะ
     
  10. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ประสบการณ์ส่วนตัว

    1. มีนิมิตเห็นภาพคนนั้นจะมีเรื่อง เช่น เห็นถูกรถชน เห็นเสียชีวิต เห็นนอนในโลง เห็นเป็นศพมีหนอนขึ้น
    2. องค์ท่านกระซิบบอก คนๆนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน

    ตัวอย่าง มีน้องรู้จักเดินเข้ามาพูดเรื่องพ่อป่วยเข้ารพ. องค์ท่านก็กระซิบบอกว่าจะเสียแล้วให้รีบไปดูใจ เราก็เลยบอกว่าพ่อป่วยรีบไปเฝ้าเถอะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เช้าวันต่อมาข่าวบอกเสียแล้ว




    *เป็นความเชื่อส่วนบุคคลและมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
     
  11. lovekling

    lovekling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +135
    ผมก็เป็นเบาหวานมาสิบกว่าปีแล้วครับ มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตลอดครับ เป็นจนเครียดจนทุกวันนี้เริ่มปลงแล้วครับ ^_^
     
  12. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    มันเป็นกระแสพลังงานครับ สำหรับญาติหรือคนใกล้ชิด จะมีการรับรู้หรือสัมผัสพลังงานของคนนั้นๆบ่อยอยู่แล้ว แต่เมื่อพลังงานมันเปลี่ยน มันเปลี่ยนไปได้ 2 ทาง คือ ทางที่ดี กลับทางที่ไม่ดี เมื่อมันเป็นทางที่ดี บางครั้งคนใกล้ตัวก็จะรู้สึกว่า เอทำไมมันเปลี่ยนไปบอกไม่ถูกแต่รู้ว่ามันดีกว่าก่อน กับในทางไม่ดี คือ เอ ทำไมมันดูแปลกๆบอกไม่ถูก มันแย่ลงนะ

    คนที่กำลังจะตาย พลังงานของร่างกายจะเสื่อมไป เริ่มจะอ่อนลง จนบางครั้งเราเห็นได้ชัดเจน สำหรับคนที่ฝึกจิตมาระดับนึง เค้าสามารถมองออกได้ทันที เพราะบางครั้งพลังงานร่างกายอ่อนลงมาก จนทำยังงัยก็ไม่สามารถทำให้กลับมามีพลังอีกได้ เค้าก็จะรู้แล้วล่ะว่า คนนี้ต้องตายในไม่ช้าไม่เร็วแน่ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะบอกว่าเป็นลางสังหรน์ แต่ถ้าเป็นคนที่ดูพลังงานได้ เค้าก็จะรู้ว่า ซี้แหง๋แก๋ แน่นอน เค้าก็จะบอกให้ไปทำบุญ ภาวนาไว้ (จุดประสงค์คือ ให้มันตายแล้วไปดีนั่นแหละ)

    ตัวผมก็คิดเสมอว่าตัวเองจะตาย ยิ่งคิดว่าตัวเองจะตาย มันยิ่งทำให้เราหันความสนใจเรื่องโลกมาเป็นเรื่องธรรมะตลอด มันเป็นเรื่องดีมาก ผมก็บอกคนอื่นว่าผมจะตาย ถ้าเป็นคนอื่นฟังคงบอกว่า "อย่าพูด มันเป็นลาง" ผมก็มีคำถาม ถามกลับเหมือนกัน คนเราไม่ตายเหรอ มันก็ต้องตายอยู่ดี ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ ยิ่งคิดว่าเราจะตายเร็วเมื่อไหร่ เรายิ่งทำความดีมากขึ้นเท่านั้น ผมยังเตรียมพร้อมจะเผาร่างไร้วิญญาณเองแล้ว ผมไม่ยากให้จัดงานศพไร้สาระ อวัยวะที่ใช้ได้ ให้เอาไปบริจาคให้หมด(ผมหวังว่าจะใช้ได้นะ) ร่างกายหลังจากบริจาคอวัยวะแล้ว คณะแพทย์ยังจะเอาอยู่ก็เอาไปเป็นอาจารย์ใหญ่เลย แต่ถ้าไม่มีใครเอา ร่างไม่เหมาะที่จะใช้ประโยชน์อย่างอื่น ก็เผากันวันนั้นเลย ใส่กองฟอน เผา ไม่ต้องเสียตังค์ เสียเวลา หาคนมาช่วยสวดส่งวิญญาณให้ผมเสีย แค่นี้แหละ ส่วนวิญญาณผม เลือกเกิดไว้แล้ว ว่าจะไปไหน ตอนนี้รีบเร่งสร้างกำลังให้ตัวเองก่อน เดี๋ยวเลือกเกิดไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...