ขอความกรุณาจากผู้รู้ค่ะ ว่า..ดิฉันมาถูกทางแล้วหรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บุญน้อมนำ, 7 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. วัชรพงษศ์

    วัชรพงษศ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +15
    กระผมจะพยายามตอบตามความรู้ที่มีแต่โดยสัมมาทิฏฐินะครับ

    ๑. สิ่งที่สำคัญรากเหง้าของวิปัสนากรรมฐาน มีศีลวิสุทธิ์๑ มีจิตที่บริสุทธิ์๑เป็นปฐม แลมีความเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสามาธิ ในอริยมรรคมีองค์๘ เป็นสำคัญ จึงควรบูชาพระคุณสมเด็จพระรัตนตรัยด้วยใจที่บริสุทธิ์โดยมิหวังสิ่งใดตอบแทนนอกจากละลึกถึงพระคุณขององค์สมเด็จพระรัตนตรัยด้วยใจที่บริสุทธิ์แลเจริญเมตตาจิตอันไม่มีประมาณไม่มีขอบเขตให้สรรพชีวิตเป็นสุข พ้นทุกข์โดยธรรมโดยชอบ แลขอให้การปฏิบัติในลมหายใจนี้เป็นไปโดยสัมมาทิฏฐิ แลสมาทานศีลแลจิตให้บริสุทธิ์ แลตระหนักสำเนียกอยู่ทุกลมหายใจว่าธรรมทั้งปวงเป็นไปเพื่อระงับแลดับกิเลส

    ๒.แลจึงควรพิจารณาว่าเราควรใช้กรรมฐานตัวใดในกองกรรมฐานทั้ง๔0แลสติปัฏฐาน๔ที่องค์พระบรมศาสดาองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงมาใช้ระงับแลดับกิเลสให้ถูกจริตของแต่ละรูปนามและในขณะที่มีกิเลสมากระทบในผัสสะทั้ง๖ อายตนะทั้ง๑๒

    ๓.แลขณะปฏิบัติจักเป็นกองกรรมฐานหรือสติปัฏฐานใด ก็ให้พิจารณาระงับแลดับกิเลสในจิตโดยมีศีลแลสติจิตที่บริสุทธิ์เป็นปฐม ปฏิบัติเพื่อให้จิตวางจากกิเลส ปฏิบัติเพื่อให้จิตสงบจากกิเลส ปฏิบัติเพื่อให้จิตใสจากกิเลส ปฏิบัติเพื่อให้จิตสว่างดับความมืดในกิเลส ปฏิบัติเพื่อให้จิตสอาดเป็นธรรมชาติปราศจากกิเลส โดยขณะปฏิบัติให้ละจากอกุศลาธรรมมา ในขณะปฏิบัตินั่ง นอน เดิน หรือยืน ตาเห็นรูปขณะลืมตาหรือหลับตากิเลสเกิดไหมแลกระทำให้ระงับแลดับลงซึ่งกิเลสโดยสัมมาทิฏฐิแลสัมมาสมาธิ หูได้ยินเสียงกิเลสเกิดไหมแลกระทำให้ระงับแลดับไปซึ่งกิเลสโดยสัมมาทิฏฐิแลสัมมาสมาธิ จมูกได้กลิ่นกิเลสเกิดไหมแลกระให้ระงับแลดับไปซึ่งกิเลสโดยสัมมาทิฏฐิแลสัมมาสมาธิ ลิ้นได้รสกิเลสเกิดไหมแลกระทำให้ระงับแลดับไปซึ่งกิเลสโดยสัมมาทิฏฐิแลโดยสัมมาสมาธิ สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งกิเลสเกิดไหมแลกระทำให้ระงับแลดับไปของกิเลสโดยสัมมาทิฏฐิแลสัมมาสมาธิ สิ่งที่มากระทบกับผัสสะทั้ง๖ อายตนะทั้ง๑๒ ทางตาส่งไปที่ใจ ทางหูส่งไปที่ใจ ทางจมูกส่งไปที่ใจ ทางลิ้นส่งไปที่ใจ ทางกายส่งไปที่ใจ เพราะฉะนั้นการปรุงแต่งจิตต่างๆรวมลงมาอยู่ที่ใจเป็นผู้ตัดสิน ด้วยเหตุนี้แลกิเลสทั้งหลายรวมอยู่ในจิต กิเลสตัวใดเกิดก่อนก็ให้ดับตัวนั้นก่อน

    ๔.การปฏิบัติมิใด้ให้หวังอยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเห็น อยากได้ยิน อยากรู้สึกหรือปรุงแต่งจิตในสิ่งใดใด แต่ปฏิบัติเพื่อให้มีศีลแลสติสัมปปะชัญญะแลจิตที่ปราศจากกิเลสในลมหายใจปัจจุบันนั้นๆที่ปฏิบัติโดยสัมมาสมาธิ

    ๕.แลความเป็นสัมมาทิฏฐิคือ ธรรมทั้งปวงเป็นไปเพื่อระงับแลดับกิเลส ก่อนปฏิบัติมีเจตนาสมาทานที่บริสุทธิ์ว่าจักปฏิบัติเพื่อให้มีศีลแลสติแลพยายามทำให้จิตระงับแลดับกิเลส ขณะปฏิบัติก็เพื่อให้มีศีลแลสติสัมปะชัญญะแลกระทำซึ่งความระงับแลดับของกิเลสเพื่อให้จิตใส สว่าง แลสงบ แลเมื่อปฏิบัติแล้วมาถูกทางแล้วกิเลสความโลภ โกรธ หลง ต้องลดลง สามารถมีความเพียรประครองตั้งจิตไว้เพื่อจะยังอกุศลกรรมอันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น แลมีความเพียรประครองตั้งจิตไว้เพื่อจะกระทำกุศลธรรมอันเป็นบุญให้เกิดขึ้นมา คุณธรรมความดีเป็นสิ่งที่จักต้องกระทำในลมหายใจปัจจุบัน แลเป็นสิ่งที่จักต้องกระทำตลอดชีวิต<!-- google_ad_section_end --> ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สัตว์ล้วนเป็นไปตามกรรม
    สิ่งต่างๆที่สรรพชีวิตได้กระทำไว้ดีหรือชั่วจักต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้นโดยมิต้องสงสัยโดยมิช้าหรือเร็วเท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...