ขอค้าน หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 27 กุมภาพันธ์ 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    นี่แหละครับ ดูกันเอาไว้นะ จะได้ไม่หลงแบบท่าน ขุนพล
    ผมไม่มั่วหรอกครับ ท่านขุนพล สอนคนให้เห็นธรรมมาเยอะแล้ว

    ก็บอกไปแต่ทีแรกแล้วว่า ท่านขุนพลยังข้องอยู่ ให้คอยฟัง ฐานัฎฐ์ และ ท่านเอกวีร์ให้ดีแล้วกัน ไม่ต้องมาเชื่อผม แต่ให้เปิดจิต รับฟัง สองท่านนั้นก่อน
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ผมว่า มันเป็นแค่สภาวะธรรมขั้นนึง
    กำหนดไม่ได้หรอกครับ ว่าต้องเป็นอย่านั้นอย่างนี้ มันไม่แน่นอน
    ความหมายของท่าน เข้าใจว่า ขนลุก หรือ ฯลฯ ก็แล้วแต่
    ท่านไปยึดเป็นเกณฑ์เอง สุดท้ายก็จะไปติดกับสิ่งนั้น
    อย่างนี้ก็เข้าข่าย วิกิจฉานะ ( ไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า)
    ธรรมทุกอย่าง เป็นเรื่องธรรมดามากนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2008
  3. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เอ..ผมชักไม่แน่ใจว่าจำผิดหรือเปล่านะ
    พระพุทธเจ้า ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิ์ฌาน สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแผ่นดินสั่นสะเทือนฟ้าแลบฟ้าร้อง แล้วท่านก็รู้ในจิตว่า กิจเสร็จสิ้นแล้ว ชาติภพขาดแล้ว

    จนท่านเอง บอกปรากฏในพระไตรปิฎกถึงอาการของ ปิติของผู้สำเร็จอริยะ เป็น
    ข้อๆ เหมือนที่ผมพูด เอ..นี่คุณจะบอกว่าผมเข้าไปยึดเอง หรือจะบอกว่า พระพุทธเจ้ามีวิจิกิจฉา

    การบรรลุธรรมใดๆ ไม่ใช่คิดเองว่าปรรลุ จะต้องมีส่วนประกอบ มีเหตุการณ์
    และถ้าถามถึง ธรรมเอก ผมก็หมายถึง สติปัฏฐาน 4 นั่นแหละ ไม่หมายถึง
    ปิติของในการสำเร็จอริยะ

    การที่จิตเกิดการปรุงแต่งจากธรรมโพฌชงค์ จะคิดว่าเราไม่ต้องรู้ธรรมอะไรแล้ว ธรรมมาอยู่ที่ใจแล้ว คิดว่าตัวเองบรรลุขั้นนั้น ขั้นนี้ มันไม่ใช่ รู้แค่นี่จะมาพูดถึง
    ฌานขั้นสูง รู้จิต รู้ความว่าง นั้นมันยังเร็วไปครับ
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เข้าใจกันคนละอย่างแล้ว

    ผมอธิบายเรื่องในตัว ท่านกลับไปยกเรื่องนอกตัว
     
  5. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเองก็อยากรู้ว่ายังติด ขัดตรงไหนจึงไม่เบื่อซะที รบกวนคุณขันธ์บอกให้ละเอียด เพราะเท่าที่บอกมานั้น ผมย้อนไปมาไม่ได้ มันไม่เป็นธรรมที่ต่อเนื่องกัน เพราะผมยึดหลัก ปฏิจสมุปบาท เอาจากฌานผล ลงมาหาวิปัสสนา
    ธรรมเอกที่คุณว่า ผมเรียกว่า ปิติ ถ้าคุณขันธ์ เอาตรงนี้มาตีความว่าผมนั้นไมรู้
    เรื่อง ยังติดขัดอยู่ก็ แสดงว่าคุณธรรมของคุณ ขันธ์นี้ ใครเขียนดี เขียนถูกใจ
    เรียกว่าสำเร็จ ผมก็จะได้ไม่คุยด้วย..
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอนิทาท่านเอกวีร์หน่อย.

    ผมรู้ว่าท่านล่องหน

    แต่สังเกตการณ์อยู่ใช่มั๊ย...หุหุ
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ ขุนพล ฟังให้ดีก่อนทบทวนก่อน ว่าผมพูดอะไร
    แล้วผมจะมาบอกให้ ว่าจะต้องทำอย่างไร
    ผมกำลังจะบอกคุณ ให้คุณเข้าใจนั่นแหละ แต่มันบอกทันทีไม่ได้ มันต้องค่อยๆ จูนกันสิ
     
  8. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ก็นี่แหละที่ผมพูดว่าผมยึดเป็นเกณฑ์ตามพระพุทธเจ้า ท่านว่ายังงั้น
    ผมก็ว่ายังงั้น ไม่สงสัยว่าเป็นสภาวะธรรมอะไรหรือเปล่า ถ้าวันหนึ่ง
    ผมนั่งอยู่ดีๆ แผ่นดินสั่นสะเทือน หูอื้อตาลาย แล้วมีเสียงปรากฎในใจ
    จะได้รู้ว่าไม่ใช่อุปทาน มันเป็นเรื่องในตัว ไม่ใช่นอกตัว
    ถ้านอกตัวแผ่นดินไหวด้วย คงต้องเรียกหาพี่สุดใจที่เขากะลาแล้วครับ.
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ผมว่าคุณวางตำราก่อน
    มาคุยสภาวะรรมกัน
    แลกเปลี่ยนกัน
    อย่างนี้ปัญญาเกิดแน่
     
  10. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ก็สภาวะนี้ล่ะที่บอกว่ามันมีอยู่จริง ของพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้มันไกลตัว
    แต่ถ้าว่าของผมคุณฐานัฏฐ์ก็จะหาว่าเป็นวิจิกิจฉาหรือเปล่าอีกนั่นแหละ

    ปิติของฌานขั้นสูงก็มีการสั่นสะเทือน มีเหตุการณ์เมื่อตอนเราได้ใหม่ๆเหมือนกัน เมื่อปิติเกิดแล้ว เหตุการณ์ที่มี ทำให้เรามั่นใจว่าอารมณ์จิต ที่ได้ตอนนั้น
    และทรงใว้นี้มันบริสุทธิ์ ปราศจากอวิชา พอออกมาจากฌานสู่อุปจาระก็พิจารณา ตามธรรมที่ปรากฎในใจ ไม่ได้คิดว่า จะปรุงแต่งให้ดับยังไง ในหมวดไหน มันจึงเป็นการงง กับคุณ ขันธ์และท่านอื่นๆ ที่บอกว่าได้โคตรภูฌาน แล้ว
    ไอ้นั่นดับ ไอ้นี่เกิดขึ้น มันไม่ต่อเนื่อง ออกมาจากผลฌาน เมื่อจากผลมาหาเหตุไม่ได้ ก็จะหาจากปัจจัย จากเหตุไปถึงผล คือตัวรู้กระดาษขาวไม่ได้ มันจะเป็นสีอื่นๆไป ผมจึงไม่เข้าใจในหลักการที่เขาอธิบายครับ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ไม่ต้องเข้าใจหรอก ครับ เพราะผมเข้าใจคุณ
     
  12. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 กุมภาพันธ์ 2008
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    แอบไปงีบมาครับ พึ่งกลับมาดู แต่มาดูแล้วก็แทรกยังไงดีหนอ

    ก็ถือว่าแจ่มทั้งคู่นะครับ แต่ใช่ ธรรมเอก ต้องขอแย็บถามเพิ่ม

    กรณีคุณฐานัฏฐ์ หลังจากได้ความรู้เอนกอนันต์แล้ว รู้สึกว่าจบ
    งานแล้วหรือเปล่า ถ้าบอกว่าให้วางเฉยในการรู้แบบนั้น จะรู้สึก
    สงสัย ขัดเคืองหรือเปล่า

    กรณีคุณขุนพล
    การได้กระดาษขาวมา นั้นมีอารมณ์ใดระหว่าง รู้สึกว่าได้มา หรือ ว่ามันมีอยู่

    ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กุมภาพันธ์ 2008
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ครับ. จะว่าเอนกอนันต์ก็กล่าวเกินจริง เอาแค่ หงายชามที่คว่ำ ก้พอครับ
    ที่พวกท่านอธิบายมา ผมเข้าใจ และแยกแยะได้ แต่อธิบายไม่ได้ก็เท่านั้นครับ

    ภาระกิจต่อไป เหมือนจะวางนะ
    อันก็ไม่ถูกใช่มั๊ย.

    ชี้แนะด้วยครับ.
     
  15. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    แจ่มเลย น่ายินดีที่คุณ ฐานัฏฐ์ไม่ประมาท

    ยังต้องเดินต่อครับ แต่ธรรมเอกนั้นผุดแล้ว แต่ต้องเอาไปใช้งานในลักษณะ
    อื่นๆ อย่าหยุดแค่ตรงนี้ ยังไม่ถึงกรุงเทพ ( ใช้สำนวนของหลวงปู่มั่น )
     
  16. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    .......
    เอาเป็นว่า ถ้าเกิดแบบนั้นอีก ลองทำอารมณ์ ความรู้เยอะๆนั้น ก็แค่ของถูกรู้
    แล้วเกิดสภาวะธรรมที่นิ่งขึ้นยิ่งกว่าไหม
     
  17. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    เมื่อเห็นหัวข้อกระทู้ก็เข้ามาอ่านดู

    ขึ้นต้นไว้อย่างหนึ่ง........ลงท้ายดูจะไปอีกทางหนึ่ง

    ขอธรรมะรักษาทุกท่านครับ
     
  18. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คุณขุนพลครับ
    การปฏิบัติของคุณถูกต้องแล้ว ดีแล้ว ทำให้เหมือนเดิม อย่าหลง
    เพราะของคุณ เป็นการ เกิดแล้วดับ กิเลส ที่ละตัว รู้กิเลส เห็นต้นตอกิเลส เข้าใจกิเลส และเห็นวิธีดับกิเลส จะดับไม่ดับอยู่ที่ตัวคุณ อันนี้ถูกครับ
    ...................
    แต่ของท่านอื่นเท่าที่อ่านดู ฟังดู เขา รวบยอด รวบเกิด รวบดับ รวบกิเลส
    ไม่แยกกิเลส เป็นโปรโมชั่น เหมาจ่าย....ฮิฮิ ขำ
    เป็นการปฏิบัติส่วนตัวของเขา เขาทำได้ เราทำไม่ได้....เราไม่เก่งเท่าเขา
    ดังนั้น จะอธิบายยังไง ก็ไม่เหมือนกัน เพราะ มีหลักปฏิบัติไม่เหมือนกัน
    ...................
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ จร รู้เรื่องกับเขาหรือครับ รู้หรือครับว่า อะไรถูกอะไรไม่ถูก
    ตามธรรมดา แล้วผู้รู้ ย่อม รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอะไร
    แต่ถ้าผู้รู้ ไม่รู้ว่าผม กำลังพูดเรื่องอะไร นี่จะเรียกว่า รู้ได้หรือ

    อาจารย์ ย่อมรู้ว่า ศิษย์ไปถึงไหน ถ้าไม่รู้ ก็แสดงว่า ภูมิรู้เรายังน้อยกว่า จึงไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร
    ข้อนี้ พิจารณาด้วย
     
  20. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเอง อ่านแล้ว ก็หัวเราะตัวเองเหมือนกันครับ..ขึ้นต้นเป็นมะเฟืองมะไฟ
    พอแตกใบอ่อนเป็นมะกรูดมะนาว..
    คนที่ ถามเรื่อง ธรรมเอก เป็นคุณเอกวีร์ คนที่มาแปลเป็นคุณ ขันธ์ เลยไม่รู้กันว่าคุณเอกวีร์หมายถึงการรู้ว่าตัวเองบรรลุธรรมขั้นไหน แล้วบอกว่ารู้ธรรมแล้ว
    ธรรมมาอยู่ที่ใจแล้วเหมือนคุณขันธ์หรือเปล่าครับ ?ความหมายเดียวกันหรือเปล่า.
    เช่นว่าคนหนึ่ง ถามว่า ที่บ้านมีลูกกลมๆ สีเขียวบ้าง เหลืองบ้าง ไม่เขียวไม่เหลืองบ้าง มีรสเปรี้ยว เอามาใช้ปรุงอาหารให้เปรี้ยวได้

    คำตอบผม ผมอาจคิดว่าคุณหนึ่ง ถามหา มะกรูด หรือ มะนาว หรืออื่นๆ กำลัง
    จะขยายความ เพื่อสื่อสารว่าตรงกันหรือไม่ ใช่มะนาวหรือมะกรูด ที่กำลังหา

    คนสอง ทุลุกลางปล้องขึ้นมาเลยว่า ไม่ใช่คุณไม่รู้จัก มะนาวหรอก ลงความเห็นเลย แล้วจะมีมะนาวมาใช้มั๊ย

    คนที่อยากข้ามภพข้ามชาติ เขาเป็นอย่างงี้เหรอ รีบร้อนลงความเห็นเลยเหรอ
    หรือว่าธรรมที่มี จะคบหาแต่คนที่มีธรรมเหมือนกัน แล้วมันจะขึ้นสูงได้ยังไง
    ธรรมเล็กธรรมน้อย ขี้หมา ขี้ไก่ ดูถูกได้เหรอ ธรรมทั้งหลายเราจะลงความเห็นเลยนั้นยังทำไม่ได้ ธรรมเล็กน้อยที่คุณมองว่าไม่มีค่า อาจเป็นข้าศึกกับกิเลส
    บางตัวในเหตุการณ์ที่กิเลสเกิดตรงนั้นๆ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...