ขอค้าน หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล

งั้นหรือ

คุณลองอ่านในส่วนที่เป็น พุทธพจน์ นะ

พระพุทธองค์ ยก กลัยาณมิตร โยนิโสมนสิการ และ ความไม่ประมาท มา
แล้วสำทับในท้ายพระดำรัสทุกประโยคว่า "เพื่อความดำรงมั่นไม่เสื่อมสูญ
ไม่อันตรธานแห่งสัทธรรม" ขอนี้เป็นไฉน

ก็ธรรมทั้งสามนั้น มีส่วนไหนหรือไม่ที่ระบุลงไปแล้วว่า ทั้งสามส่วนนั้นต้อง
มาจากผู้เป็นขีณาสพ จบการศึกษาแล้ว ก็หาไม่ กัลยาณมิตรนั้นชี้นิพพาน
หรือ ก็หาไม่ ท่านต้องพิจารณา กัลยาณมิตรนั้น ก็ชี้ โยนิโสมนัสสิการนั่น
เอง และ ชี้ความไม่ประมาทนั่นเอง การชี้สองส่วนนี้ คือการทึกทักแน่นอน
แต่เหล่านี้ก็เป็นไปเพื่อการไม่สูญสิ้นของ สัทธรรม เราก็ต่างเป็นกัลยาณมิตร
ก็มาชี้กันสิ ว่าเราประมาทข้อไหน เรายังไม่ได้ นมัสสิการ สภาวะธรรมใดไป
ทดลองกัน
...............................................................................
เพื่อความดำรงมั่น.........
............................
อ่านแค่นี้ก็เข้าใจแล้วว่า.....ให้รักษาสภาวะธรรมนั้นๆ จนเป็นธรรมนั้นๆ จนไม่ต้องรักษาธรรมนั้นๆ ............
............................
เพราะธรรมทุกธรรม เกิดจากปัญญา .....รู้ด้วยปัญญา เข้าใจด้วยปัญญา
รักษาได้ด้วยปัญญา ...หรือไม่ต้องรักษา เพราะมีปัญญา ....
............................
สุดท้ายไม่ต้องรักษาธรรม ไม่ต้องรักษาปัญญา เพราะ.
จิตเรา เป็นธรรม จิตเราเป็น ปัญญา ........
...........................
อันนี้ตามภูมิของผมครับ
ขอกัลยาณมิตรทั้งหลาย......แนะนำด้วย ขอบคุณครับ
กรุณาเมตตาผมต่อไปนะครับ.....
ผมเหงา.....................

<!-- / message -->

 

ขออภัยนะคุณขจร ที่ผมอาจทำเหมือนคนจับผิด แต่อาจเป็นเพราะคุณรีบ

ถ้ากล่าวว่า

จิตเรา เป็นธรรม จิตเราเป็น ปัญญา

อันนี้แหละ ที่ผมไม่ขอยินดีในภาษิตนี้ เพราะมันมีคำว่า เรา แต่
คุณอาจจะมีความจงใจในการใช้คำว่า เรา ที่แตกต่างไปจากสัญญา
พื้นๆ ก็ช่วยชี้คำว่า เรา นี้คือ สภาวะการเป็นเจ้าของ หรือ เป็นแค่
บุพบทที่สื่อสารว่าหมายถึง พวกเรา กันแน่หนอ

 

ให้มองโดยไม่ถือสมมุติ จงมองแบบผู้มีวิมุตติ
.................................................
ครับท่านเอกวีร์ ที่นับถือ
เป็นการชี้ให้เข้าใจครับ.........ว่าเรา ก็ จะมีหรือไม่มี ก็ได้ ถือหรือไม่ถือก็ได้
...........................
เพราะผมไม่มี ไม่ถือ ครับ........ไม่อยากมี ไม่อยากถือครับ
...........................
ผมเคยบอกแล้วว่า มันเบื่อ............มาก

 

เอ เบื่อ อีกคนละ

คุณขจร กับ คุณขุนพล น่าจะคุยเรื่องภาวะเบื่อให้ดูกันนะครับ

อย่างเห็นว่า สภาวะธรรม เบื่อ ที่ท่านทั้งสองมี มันเป็นอย่างไร

เพราะเผอิญผมน้อมไปทางดูจิตเสียมาก การเบื่อมันไม่เกิด มัน
มีแต่สุข เห็นเบื่อเกิดก็สุข เพราะจะเห็นมันมามันไป ก็เลยเบื่อ
ไม่เป็นเสียอย่างงั้น มีแต่สุข แต่ถ้ามันยุบยับเยอะความไปก็ค่อยๆ
วันหลังก็ได้

ส่วนจิต หรือ ธรรมเอก ถ้าเขาเกิดเบื่อขึ้นมาวันไหน วันนั้นยุ่งเหมือน
กัน กิเลสมันหนีตาย เรานั่งๆ เดินๆ อยู่ก็อะไรวะ อย่าพึ่งตีกัน มัน
ออกมาชวนผมเหยงๆ ก็แบบนี้ แต่ส่วนใหญ่แพ้มัน เพราะว่าต้อง
ทำงานในชีวิตประจำวันก่อน อันนี้ก็ชี้ๆไว้ เพื่อใครจะเอ๊ะกับเขาบ้าง

กิเลส เวลามันหนีตาย มันจะมีเหตุตัวเดียวกัน แล้วพลพรรคยุบยับ
ตอแยไม่เลิก เป็นต้น ถ้าไม่สงสัย สิ้นสงสัยในส่วนนี้แล้ว จะสนุกดี

อ้อ ! เหมือนแผ่นดินลั่นสั่นสะท้านของคุณขุนพล มันส์ ประมาณว่า
มรรคมันจะสมังคี

 

เบื่อไม่ใช่ทุกข์นะครับครับคุณเอกวีร์......
ในความคิดของผม ที่เบื่อ คือ กำลังสู้กับกิเลส เห็นกิเลส แต่ยังไม่ชนะกิเลส
เพราะปัญญายังมีน้อย เห็นมัน แต่ไม่ชนะ เลยเบื่อไงครับ
.....................
สุขอย่างเดียวที่คุณว่า ในความเข้าใจของผม มันไม่ดีนะครับ
มันทำให้เอียงซ้าย เอียงขวา ไม่ไช่ทางสายกลางนะ
มันต้องเห็นทั้งสุขทั้งทุกข์นะครับ...ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขออภัย
.....................
เพราะปัญญาผมมีเท่านี้ครับ

 

บางทีจิตบางคนมันหยุดอยากรู้ได้ยาก


จะลัดตัดเข้าธรมบริสุทธิ์เลย มันไม่ยอม มันง่ายเกิน
เจอทรมานด้วยวิพากษ์วิธีก็ไม่อาจรั้งได้
เจอให้ทำกรมฐานเอาเป็นเอาตายยังไม่ยอมหยุด


ก็ถ้าจิตนั้นพร้อมด้วยอินทรีย์ห้าจะบรรลุธรรม ผู้ช่วย ก็ไม่เหนื่อย
แต่ถ้าจิตนั้น พร้อมแก่การบำเพ็ญปัญญาบารมี ท่าทางจะเหนื่อยทั้งคู่


คุณเอกวีร์คิดว่าไงละ?

 

มองให้เป็นงานสิคุณ มะกะโท ถ้าเป็นงาน ก็ไม่เหนื่อย

 

55


เวียนหัวแย่ จิตเป๋ไปเป๋มา ล่อทางนั้น เป๋ทางนี้
ปิดทางโน้น โผล่ทางนี้ ยังกะไล่จับหนูนา

 

เข้าใจครับคุณขจร เอาตรง เพราะปัญญาผมมีเท่านี้ครับ ออกได้เลย

ปล่อยๆตรงนี้ ทั้งคุณ และผม ก็หายวับ

ถ้า คุณ กับ ผม หายวับ ก็ไม่มีใครท้อ

 

อ้าว ว่าผมหรอกเหรอ คุณมะกะโท

 

อาชีพจับหนูนา


1. ต้องมีเครื่องดักหนูก่อน
2. ต้องรู้ทางเดินของหนู
3. รู้เวลาที่หนูจะเดิน
4. เอาเหยื่อล่อใส่ในกับดัก


ถึงเวลาก็เอาไปวางไว้ขวางทางเดินหนู
หนูมากินก็ติดกับดัก ไม่ต้องวิ่งไล่ให้เหนื่อย


ดีกว่ามั้ยอ่ะ

 

ก็ดีครับ

แต่ถ้ามีเครื่องจับหนูก่อน มันจะเอาแต่เพลินใช้เครื่องจับหนู
พอเจอหนูก็ดักวางเลย

ก็เลยขอเป็นหนูให้ครบพันธ์ก่อน จะได้รู้หนูมันเป็นยังไงกันบ้าง

หนู ตัวเดียวกันนี้ ยังวิ่งวุ่น เข้าใจยาก เช่น หนูใบไม้ ในป่านอก
เห็นคุณ มะกะโท ไปจับอยู่ อิอิ เอาให้อยู่หมัดทีเถอะ กุศลหลาย

 

คุณเอกวีร์ ครับ ต้องขอบคุณเขา แต่อย่าไปทำอย่างที่เขาแนะนำนะ.
...................
ต้องรู้ว่าคุณ มะกะโท ต้องการสื่อถึงอะไร
..................
ดูจิตเลยครับ นี่แหล่ะ ที่เขาต้องการให้เราทำ
.................
ขอบคุณคุณมะกะโทครับ ขอบคุณคุณเอกวีร์ครับ
และทุกคน ถกธรรม ได้ธรรมครับ...เป็นความจริง คือเป็นธรรมครับ
.................
ผมรู้สึกว่า ตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณทุกคน
คุณขันธ์ด้วย กลับมาเมตตาเหมือนเดิมเถิดนะ
คุณขุนพลด้วย ...
กัลยาณมิตรทุกคน เคยมีกรรมร่วมกัน เลยมาเจอกัน
.......สาธุ

 

(deejai) (deejai) (deejai)

 

ผมกะจะจุดไฟไล่ทุ่งให้หนูมันตื่นกันทั้งทุ่งสักหน่อย


ปล่อยให้มันวิ่งพล่านสักพัก ทั้งหนู ทั้งคนไล่จับ
พอเหนื่อยกันทั้งคู่ ก็จับทั้งหนูทั้งคนเลยทีเดียว


55555

 

แหมคุณมะกะโท
..................
จะเล่นจับหนูมือเปล่า....จับได้เฉยเลยนะ
เหมือนหลายๆคน
..................
ไม่เกรงใจ ตาอิน กะ ตานา เลยนะ
สาธุ สาธู สาธุ

 

ที่ผมไม่พูดต่อ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะว่า คุณ จร และ คุณ ขุนพล แย้งแบบจะเอาชนะ
และ ไม่ได้ทบทวน ในสิ่งที่ผมพูด ว่าหมายความว่าอะไร ทีนี้ การแย้งแบบนี้ มันก็ดิ้นไปเรื่อยๆ
ผมไม่ได้อยากจะเถียงเพื่อเอาชนะคุณ ที่บอกว่า แนะนำตอนแรก แต่คนฟัง เอาแต่คิดด้วยตรรกะของตนแต่อย่างเดียว ไม่น้อมของผุ้อื่นเข้ามาก่อน มันก็ไม่มีประโยชน์
เขาเรียกว่า น้ำล้นถ้วย คือ เทเข้าไปอย่างไร มันก็ล้นออก
ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมจะพูดแรงๆ ไป แต่ช่วงนี้ พลังจิต มันมีแต่การพูดแรงๆ และ ทะเลาะวิวาท มากเกินไป
ผมก็เลยเงียบดีกว่า

 

อะไรที่เป็นกุศลกรรม ก็ทำกันเถอะค่ะ แผ่เมตตาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ไม่ได้เสียหาย เหมือนเหรียญสองหน้า เรามองเห็นหน้าหนึ่ง อีกคนมองเห็นหน้าหนึ่ง เรามองแบบนี้ เราก็ศึกษาแบบนี้ให้ถ่องแท้ก่อน เขาเห็นแบบนั้น เขาก็ศึกษาของเขาไป เรามาละอกุศลในใจของเราก่อนดีกว่าค่ะ

บางทีเราอาจจะเป็นคนตาบอดคลำช้างกันอยู่ก็ได้ค่ะ คนนึงจับหู คนนึงจับงวง คนนึงจับหาง มันก็ต่างกัน ทั้ง ๆที่ก็คือสิ่งเดียวกัน

ถ้าสิ่งที่เขาทำ (หมายถึงทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ คนในโลกมนุษย์นี้) ไม่ได้ทำลายใคร ไม่ได้เดือดร้อนนำความเดือดร้อนมาให้ ทำแล้วเขาสบายใจ ก็ปล่อยเขาไปค่ะ เราเถียงกันไม่เกิดประโยชน์ มีแต่โทษที่ทำให้ใจหมองมัวเปล่า ๆ

ขอโทษที่บังอาจเสนอแนะความคิดเห็นนี้นะคะ อภัยให้ด้วยค่ะ แต่ไม่อยากเห็นคนมีธรรมะมาประหัดประหารกันด้วยความคิด มันทำให้อีกหลาย ๆ ท่านรู้สึกหม่นหมองค่ะ

มาชนะอกุศลในใจกันดีกว่าค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว มีกุศลเยอะแล้ว มาเป็นกำลังใจให้ momogo ดีกว่า ยังต้องการกำลังใจในการปราบอกุศลในใจอีกเยอะแยะเลยค่ะ หนัก ๆ ทั้งนั้น มาช่วย momogo ดีกว่า ok ไหมคะ ^_^

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

สวัสดี โชคดีมีชัยนะคะ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม สาธุ

 

คุณ หลินจิ่นเฉิงครับ ไปเปรียบกับเศษโต๊ะไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทำลายอะไร
และ ผม ก็ไม่ได้ ไปประมือกับใคร ต้องบอกว่า มันเหมือน เด็กโวยวายแล้วปัดข้าวของเอง
ถ้าอย่างนั้น คุณ หลินจิ่นเฉิง ก็ไปเก็บเศษไม้ตรงนั้นได้ แต่ไม่ได้อะไรนะครับ กับเศษไม้เหล่านั้น
อย่างดีก็ เอาไว้ ล่อหลอก ว่าตนมีอาวุธ

ผมยังไม่ได้ใช้อาวุธเลย

 

เรื่อง ผู้มีธรรม ประหัตประหารกัน นี่มันประหัตประหารตรงไหน
มีใครตายหรือ หรือมีใคร เจ็บปวดหรือยัง