ขอเชิญทำบุญแก้วติดฝาผนัง วิหารแก้วจุฬามณีและซื้อที่ถวาย สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ

[FONT=&quot]สำนักสงฆ์ธรรมเจริญขอเชิญร่วมอนุโมทนาสาธุ[/FONT]
21[FONT=&quot]พ.ย [/FONT]2553
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าของเจดีย์และศาลาแก้วจุฬามณีเจดีย์
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำฐานเจดีย์องค์เล้กและฉาบพื้นเพดานศาลาแก้วครับ[/FONT]

 

โอนทำบุญเจ้าภาพช่องที่แปด หกพันบาทเรียบร้อยแล้วครับ ผ่านธนาคารกรุงเทพฯ (แต่ขอติงอย่างหนึ่งครับว่า ชื่อบัญชีไม่ตรงกับที่แจ้งน่ะครับ ที่บอกไว้ในเวปชื่อเป็นพระแต่ในสลิปใบโอนเป็นชื่อ นายมานะ สมตัว และ นาง.... ครับ )ขอให้เช็คด้วย

 

..................................

โมทนาสาธุครับ บัญชีถูกต้องแล้วครับ

เนื่องจากธานาคารกรุงเทพไม่ให้ใช้ชื่อพระ ให้ใช้ชื่อบุคคลครับ อีกหนึ่งท่านเป็นกรรมการถอนเบิกครับ เพราะในการถอนเบิกต้องเซ็นชื่อร่วมกันถึงจะเบิกออกมาซื้อวัสดุได้ครับ สาธุ

 

.......................
โมทนาสาธุครับ

 

[FONT=&quot]สำนักสงฆ์ธรรมเจริญขอเชิญร่วมอนุโมทนาสาธุ[/FONT]
22[FONT=&quot]พ.ย [/FONT]2553
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าของเจดีย์และศาลาแก้วจุฬามณีเจดีย์
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำฐานเจดีย์องค์เล้กและฉาบพื้นเพดานศาลาแก้วครับ[/FONT]

 

.........................
โมทนาสาธุครับ

 

[FONT=&quot]สำนักสงฆ์ธรรมเจริญขอเชิญร่วมอนุโมทนาสาธุ[/FONT]
23[FONT=&quot]พ.ย [/FONT]2553
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าของเจดีย์และศาลาแก้วจุฬามณีเจดีย์
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำฐานเจดีย์องค์เล้กและฉาบพื้นเพดานศาลาแก้วครับ[/FONT]

 

[FONT=&quot]สำนักสงฆ์ธรรมเจริญขอเชิญร่วมอนุโมทนาสาธุ[/FONT]
24[FONT=&quot]พ.ย [/FONT]2553
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าของเจดีย์และศาลาแก้วจุฬามณีเจดีย์
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำฐานเจดีย์องค์เล้กและฉาบพื้นเพดานศาลาแก้วครับ[/FONT]

 

อานิสงส์การสร้างเจดีย์... ( โดยย่อ )


การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชา
ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธ รรม และบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้


พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงใน
ช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ และโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ


และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่ง
มีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถาเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่า งนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ


ต่อมาได้ดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่ อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใ ส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์ว ิมานนี้เอง


ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วลาดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน


นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถี
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาวผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนั ก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิ หาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทรายพระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติ


ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว ์


ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยา ก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาค ตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย ู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้น ก็ได้รับพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า


และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย ์
ของท่านไว้ดังนี้ ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้ว


พระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบ ร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาทห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็น


พระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอานาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดา วดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖<!-- google_ad_section_end --> ​

 

................
เชิญร่วมทำบุญครับ สาธุ

ครูบาร์อาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า

อานิสงค์ผลบุญได้จากการสร้างพระพุทธรูป เป็นทั้งพระประธานและเป็นพระชำระหนี้สงฆ์ในเวลาเดียวกัน บุญจะได้ทุกครั้งเท่ากับจำนวนคนที่เข้ามากราบไหว้บูชา เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน

อานิสงค์จะได้ วิหารท่าน มีบ้านอยู่มีวิมานอยู่ไม่ขัดสนเรื่องที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะอยู่ในโลกมนุษย์หรือสวรรค์ เป็นอนุสสติกรรมฐาน

อานิสงค์ของการสร้างพระเจดีย์ เป็นเช่นเดียวกับพุทธานุสสติกรรมฐาน พระเจดีย์นี้แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระลึกนึกถึงพุทธานุสสติเหมืนกัน ด้านของกำลังบุญในกรรมฐาน ๔๐ จะได้และรวมตัวกันเร็ว

อานิสงค์จะได้ทั้ง ๓ อย่าง ในเวลาเกียวกันในสร้างบุญ ณ ที่แห่งนี้

การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ปิดทองทั้งองค์และเป็นพระ ๔ ศอก หนีนรกชาติบัจจุบันได้

เชิญร่วมทำบุญและโมทนาบุญกันครับ สาธุ

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ
และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ตลอดจนอานิสงส์จากการสร้างฉัตรยอดพระธาตุเจดีย์ในครั้งนี้ จงดลบันดาลให้ทุกท่านประสบความสุขความเจริญ
ตามที่มุ่งหวังจงทุกประการเทอญ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

วันนี้ได้นำเงินเข้าไปถวายหลวงพี่มานะ ได้เก็บภาพบรรยากาสมาให้ชมครับ

ได้ลำดับภาพเหตุการเนื่องด้วยการอัญเชิญพระวิสุทธิเทพ จากโรงงานพระปฐม มายังสำนักสงฆ์ธรรมเจริญ รายละเอียดตามภาพต่าง ๆ ตลอดเส้นทางได้พบกับปาฏิหารหลายอย่าง เช่น ถายภาพติดดวงธรรมยาน , ฉัพพลันรังษี, พระอาทิตย์ทรงกรตเกือบจะตลอดทาง ในการอัญเชิญมายังธรรมเจริญครับ

 

งานทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างพระวิสุทธิเทพพร้อมสร้างวิหารแก้ว ใน ๓๐ ต.ค.๕๓ ที่ผ่่านมา พิธีบวงสรวง, และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม, สมเด็จองค์ปฐมทองคำ บรรจุยอดพระเจดีย์องค์กลาง แจกหนังสือธรรมทางหนีนรก ทางสู่พระนิพพาน ของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
แจกพระบรมสารีริกธาตุ, แจกเหรีญทำน้ำมนต์ของคณะหลวงปู่ศรี ได้รับมอบจากคณะพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ โดยอาจารย์คณานันท์ ทวีโภค ขอโมทนาสาธุกับคณะทุกประการครับ สาธุ

 

บรรยากาศทั่วไป ประธานถวายสังฆทาน ฯลฯ

 

บรรยากาศทั่วไป ในงาน ฯลฯ

 

บรรยากาศช่างกำลังดำเนินการสร้างเจดีย์รอบเจดีย์หลักอีก 4 องค์

 

อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
ขออานิสงส์แห่งบุญนี้จงดลบันดาลให้ทุกท่านสมหวังทุกประการ
ทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ

 

[FONT=&quot]สำนักสงฆ์ธรรมเจริญขอเชิญร่วมอนุโมทนาสาธุ[/FONT]
28 [FONT=&quot]พ.ย [/FONT]2553
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าของเจดีย์และศาลาแก้วจุฬามณีเจดีย์
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำฐานเจดีย์องค์เล้กและฉาบพื้นเพดานศาลาแก้วครับ
[/FONT]

 

ขอเชิญร่วมโมทนาบุญกับคุณโยม โสภา แก้วพลีและคณะ

<hr width="100%" align="center" color="white" noshade="noshade" size="1"> ​

ขอ เชิญร่วมโมทนาบุญกับคุณโยม โสภา แก้วพลีและคณะที่เป็นเจ้าภาพทำที่กั้นตาข่ายยืดที่ห้องสมุดธรรมะ (ณ.สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ) จ.นครศรีธรรมราช
เนื่องจากคุณโยม โสภา แก้วพลี , คุณปราณีต เพชรชูวงศ์ ,คุณคนึงนิจ แซ่หลีและคณะได้เข้ามาปฏิบัติธรรมที่( สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ) แล้วเห็นว่าที่ห้องสมุดหนังสือธรรมะยังไม่ได้มีที่กั้นตาข่ายทาง
คุณโยม โสภา แก้วพลี , คุณปราณีต เพชรชูวงศ์ ,คุณคนึงนิจ แซ่หลีและคณะก็มีจิตศรัทธาขอเป็นเจ้าภาพในการถวายปัจจัย
จำนวน 15,000 บาท ในการทำที่กั้นตาข่าย ที่ห้องสมุดหนังสือธรรมะ
ที่สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ
25 พ.ย 53
ช่าง จา ได้เข้ามาทำที่กั้นตาข่ายเหล็กห้องสมุด (สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ) <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend>


</fieldset>

 

ขออนุโมนาบุญ........
กราบนมัสการ และขอเจริญพร...พระเถรานุเถระ,สหธรรมิกทุกๆท่าน และคุณโยมทั้งหลาย
ตามที่อาตมาได้ส่งข้อความ และ PM ไปบอกบุญนั้น เพราะเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กระทู้ของข้าพเจ้าให้ได้ทราบถึงงานบุญที่ข้าพเจ้าและคณะจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดบางใหญ่ทั้งหมดทั้งวัด เช่น พระอุโบสถ,ศาลาการเปรียญ,ศาลาโรงฉัน,กุฏิใหญ่สร้างด้วยไม้เก่าทั้งหลัง(สมัย พ.ศ.2482),กุฏิอดีตเจ้าอาวาส (ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่รับสังฆทานและพิธีกรรมทางศาสนาเล็กๆ และใช้เป็นกุฏิรับรอง,หมู่กุฏิสงฆ์,ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ (มีเพียง 1 ศาลาเท่านั้นแต่จะทำการปรับปรุงใหม่และขยายเพิ่มเป็น 2 ศาลา),ศาลาริมน้ำ 2 หลัง(สร้างปี พ.ศ.2501)จะปรับปรุงเป็นศูนย์การเรียนรู้หรือห้องหนังสือธรรมะ 1 หลัง และอีก 1 หลัง จะปรับปรุงเป็น"พิพิธภัณฑ์ศิลปะท้องถิ่นคนในบาง"จะเน้นการเปลี่ยนหลังคาทุกหลังทั้งหมด ทาสีใหม่ทั้งหมด ติดฝ้าเพดานใหม่ทั้งหมด ซ่อมแซมส่วนที่ผุพัง และเพิ่มเติมส่วนที่สมควรเพิ่ม เพราะที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้เรี่ยไรปัจจัยทำบุญจากญาติๆของข้าพเจ้าในการปูกระเบื้องกุฏิ 1 หลังและติดฝ้าเพดาน 1 หลังแล้ว ซึ่งทั้งนี้อย่างที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นนำเรียนว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนพื้นเพตำบลลีเล็ดแห่งนี้ เพียงแต่คณะชาวบ้านได้ไปกราบนิมนต์ต่อเจ้าคณะอำเภอพุนพินเพื่อขอพระ 1 รูปมาอยู่ช่วยพัฒนาวัดกับท่านเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอได้นำเรียนท่านเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าก็ได้จำพรรษาอยู่ ณ สำนักวัดเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพระเดชพระคุณท่านจึงได้สอบถามกับข้าพเจ้าว่าจะมาอยู่ช่วย ณ วัดบางใหญ่ได้หรือไม่ ข้าพเจ้าจึงตอบตกลงว่า"ได้ครับ" เพราะข้าพเจ้าเล็งเห็นว่าการที่พระเดชพระคุณท่าน ได้เรียกมาไต่ถามถึงเพียงนี้แสดงว่าพระเดชพระคุณท่านไว้ใจในตัวข้าพเจ้าว่าจะสามารถมาอยู่ช่วยท่านเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่พัฒนาวัดบางใหญ่ได้ไม่มากแต่ก็คงจะไม่น้อยจนเกินไป และพระเดชพระคุณท่านก็เล็งเห็นว่าข้าพเจ้าเรียนจบนักธรรมชั้นเอก,บาลีประโยค 1-2,และปริญญาตรี คณะพุทธศาสตร์ สาขาปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 2) มจร. จึงได้รับการไว้วางใจจากพระเดชพระคุณท่าน เพราะจากที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสด้วยตนเอง จากคณะสงฆ์และชาวบ้านบ้าง ได้ความว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่รุ่งเรืองสมัยอดีตท่านเจ้าอาวาส พระครูชลาทรธำรง และเคยรุ่งเรืองอีกครั้งสมัยที่พระครูวิลาศนวกิจ อดีตเจ้าคณะตำบลศรีวิชัย เป็นเจ้าอาวาส แต่เมื่ออดีตท่านเจ้าอาวาสมรณภาพลง วัดได้ว่างเจ้าอาวาส ทางคณะชาวบ้านจึงนิมนต์เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันมาเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันท่านเน้นของรางของขลัง จึงไม่นิยมการบูรณะพัฒนาวัด ระยะหลังๆ5-6 ปีที่ผ่านมาจึงมีพระจำพรรษาเพียง 1-2 รูปเท่านั้น แต่เมื่อปี 2552 ที่อาตมาได้รับนิมนต์ให้เข้ามาจำพรรษามีพระภิกษุ-สามเณร ถึง 8 รูป และข้าพเจ้าได้ทำโครงการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน ปี 2552 ข้าพเจ้าได้ขอแรงผู้ใจบุญสนับสนุนจากคณะพระเถรานุเถระและญาติโยมจากเว็บพลังจิต จนได้รับการช่วยเหลือบริจาคสิ่งของต่างๆเข้าโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จนสำเร็จลุล่วงด้วยดีซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ขอรับเป็นปัจจัยเพราะเกรงจะเป็นการไม่สมควร และในปี พ.ศ.2553 ได้มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษา 12 รูป ข้าพเจ้าจึงได้ทำการปรับปรุงทัศนียภาพและบูรณะเสนาสนะตามอัตภาพไปแล้วบางส่วน ถ้าหากโครงการบูรณะเสนาสนะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ต่อไปที่จำเป็นจะต้องทำอย่างเร่งด่วนมากๆ คือ การซ่อมแซมเพิ่มเติมตลิ่ง เพราะวัดบางใหญ่อยู่ติดกับแม่น้ำตาปี และคลองบางใหญ่ดังนั้นน้ำจะกัดเซาะตลิ่งอย่างเนืองๆ ทั้ง 2 ฝากฝั่งซึ่งการนี้จะต้องใช้กำลังกาย กำลังทรัพย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะบอกบุญในโอกาสต่อไป...และที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นมาซะยาวยืดเพราะอยากจะเล่าและอธิบายให้พระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลายได้รับทราบว่าอันที่จริงวัดบางใหญ่แห่งนี้มีความลำบากมาก เพราะเสนาสนะมีอยู่ไม่กี่หลัง แต่ก็ผุพังเป็นอย่างมากแล้วตามกาลเวลาที่ใช้งานและไม่ไดรับการบูรณะมาก่อนเลย ถ้าหากไม่รีบเร่งในการบูรณะปรับปรุงเกรงว่าจะไม่ทันการณ์ ศาสนสถานคงจะผุพังไปตามกาลเวลาอันรวดเร็ว และที่ข้าพเจ้าได้ส่งข้อความ และ PM ไปนั้นข้าพเจ้าก็คิดว่าคงจะเป็นการรบกวนพระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลาย แต่ข้าพเจ้ามีคิดเห็นส่วนตัวว่าหากไม่ทำเช่นนี้แล้ว ทางพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลายคงจะไม่ทราบว่ามีวัดบางใหญ่แห่งนี้ที่รอการบูรณะปรับปรุง ศาสนสถานเก่าๆ ให้กลับมาใหม่เช่นเดิม เพราะวัดแห่งนี้ไม่มีศาสนสถานที่ปลูกสร้างมาใหม่เลย มีแต่ของเก่าๆผุพังทั้งนั้น และด้วยยิ่งข้าพเจ้าเป็นพระที่มีอายุน้อย (26ปี) พรรษาน้อย (พรรษา5) จึงทำให้โดนเพ็งเล็งว่าจะสามารถทำการบูรณะเสนาสนะและทำโครงการฯใหญ่ได้สำเร็จลุล่วงหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงขอฝากประชาสัมพันธ์และบอกบุญพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลาย มาด้วยประการฉะนี้.........

ข้าพเจ้าขอฝากกระทู้..."ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า1,000กองกองละ500บาทเพื่อบูรณะเสนาสนะ วัดบางใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี"

ตาม link : http://palungjit.org/threads/ร�...��.268183/

ขอขอบพระคุณ และขอเจริญพร พร้อมกับอนุโมทนาทุกๆท่าน
พระปลัดวิษณุ ฐานธมฺโม
เลขานุการ เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่
ผู้ดำเนินงานโครงการฯ<!-- google_ad_section_end -->